เมื่อทั้งคู่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของพระพาย ที่ต้องเก็บถ้วยชามไปล้าง และก็ทำความสะอาดต่อ
"เก็บกวาดที่ครัวเสร็จแล้ว...ก็เข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนอนฉันด้วย" เสียงเข้มเอ่ยบอก พร้อมลุกออกจากเก้าอี้
"ค่ะ"
ร่างสูงลุกขึ้นยืน แล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที ปล่อยให้พระพายทำความสะอาดตรงนั้นต่อ
พระพายทำความสะอาดจนเกือบถึงเย็น จนคิมหันต์ต้องเดินออกมาบอก
"พอได้แล้ว...รีบไปอาบน้ำแต่งตัว ฉันจะพาออกไปข้างนอก" เสียงเข้มของคิมหันต์เอ่ยบอก
"ไปข้างนอก!...จะไปไหนค่ะ" พระพายถามขึ้น อย่างสงสัย เมื่อคิมหันต์บอกจะพาเธอไปข้างนอก เพราะนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ต้องเตรียมตัวไปทำงานที่ผับต่อ
"รีบไปอาบน้ำเถอะ ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองแหล่ะ ฉันไม่พาเธอไปขายหรอกน่า" เสียงเข้มเอ่ยสั่ง
พระพายรีบสาวท้าวเข้าไปในห้องทันที โดยที่ใช้เวลาไม่นานนักก็ออกมาจากห้องด้วยชุดใหม่
"เป็นผู้หญิงประสาอะไร อาบน้ำแต่งตัวไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ"
"คุณพาหนูมาที่นี่ทำไมค่ะ" พระพายถามขึ้นเมื่อรถเข้ามาจอดภายใต้ห้างสรรพสินค้า
"แล้วมาห้างเขามาทำอะไรกันล่ะ...ฉันไม่ได้พาเธอมาปล้นจี้หรอก" เสียงเข้มยังคงเอ่ยตอบกวนๆ
"คุณนี้เป็นผู้ชายแบบไหนกัน พูดมาก! ตอบกลับได้ทุกคำจริงๆ ปากแจ๋วขนาดนี้ ถึงว่าอายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีเมียสักที" พระพายเอ่ยขึ้นสวนกลับมาทันที
"เธอว่าฉันแก่เหรอห้ะ...แล้วอยากโดนคนแก่กระแทกดูบ้างไหมล่ะ" คิมหันต์จ้องหน้า พร้อมกัดฟันพูดใส่ต่อหน้าพระพาย
"ทะลึ่ง!" พระพายต่อว่า และรีบเปิดประตูลงจากรถทันที
"เห้อะ...นึกว่าจะแน่!"
"อยากได้อะไร...ก็ไปหยิบได้เลย เสร็จแล้วค่อยไปซื้อของสด" คิมหันต์เอ่ยบอกเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงแผนกเสื้อผ้า และของใช้ต่างไป
"ไม่ดีกว่าค่ะ...มันแพงเกินไป ไว้หนูจะไปซื้อตามตลาดนัดเอานะค่ะ" พระพายเอ่ยบอก พร้อมกำลังจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น
แต่ถูกมือหนาคว้าเอาไว้เสียก่อน
"ฉันบอกให้ไปเลือกก็ไป"
"แต่...ว้ายคุณ" พระพายร้องขึ้นทันที เมื่อมือหนาลากเธอเข้าไปยังแผนกเสื้อผ้า
"เอาเสื้อผ้าไซส์ผู้หญิงคนนี้มาสักสิบชุดครับ"
"สิบชุด!" พระพายตาโตขึ้นในทันที
"รีบไปลองจะได้ไปที่อื่นต่อ" เสียงเข้มเอ่ยบอกร่างบางอีกครั้ง
"แก...นั่นมันคุณคิม คู่ขาแกนี่ วันนี้ลมอะไรพัดมา ถึงมาเดินที่ห้างได้ แถมพาผู้หญิงมาด้วย" เจน เพื่อนซี้ของหญิงสาวอดีตคู่นอนของคิมหันต์เอ่ยขึ้น เมื่อพวกเธอนั่งรับประทานอาหารอีกอีกฟากของห้างฯ แต่สายตากลับบังเอิญไปเห็นคิมหันต์เดินมากับหญิงสาวคนหนึ่ง
"ก็คงจะเป็นเด็กในสต็อกอีกตามเคยนั้นแหล่ะ...ที่แท้ก็มีเด็กใหม่นี้เอง ช่วงนี้เลยไม่มาหากันเลยนะค่ะคิม" ชะเอม อดีตคู่นอนคนล่าสุดของคิมหันต์
"แก...จะทำอะไร เอม" เจนถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้
"ทักทายคู่ขาเก่าเฉยๆ" ชะเอมเอ่ยตอบ พร้อมกับเดินออกจากร้านไป
"ไม่เจอกันนานเลยน่ะค่ะคิม" ชะเอมเดินเข้ามาภายในร้านที่คิมหันต์นั่งรอพระพายลองชุดอยู่
"..." คิมหันต์ หันหน้าไปตามเสียง แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรตอบ
"ทำไมค่ะ...จำเอมไม่ได้แล้วเหรอ? แหม่....น่าน้อยใจจัง" ชะเอมเอ่ยเสียงหวานใส่
พระพายลองชุดเสร็จแล้วเดินออกมา พร้อมกับชุดใหม่
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณผู้ชาย...น้องผู้หญิงหุ่นดีมากเลยค่ะ ใส่ชุดไหนสวยหมดทุกชุดเลยน่ะ น้องน่ารักสมวัยมากเลยค่ะ" พนักงานในร้านเอ่ยบอกคิมหันต์ ที่ตอนนี้มองพระพายตาไม่กระพริบเลย
"คิม...คิมค่ะ" ชะเอมสะกิดเรียกเมื่อเห็นคิมหันต์มองหญิงสาวตาไม่กระพริบเลย รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา
"อ๋อ...ครับ คิดเงินได้เลยครับ เอาทั้งหมดนี้ล่ะครับ นี้ครับบัตร" คิมหันต์เอ่ยบอกพนักงานพร้อมกับยื่นแบล็คการ์ดให้
"ใช้บัตรนี้ดีกว่าค่ะ..." พระพายเอ่ยพร้อมกับยื่นบัตรอีกใบของเธอที่คิมหันต์ให้แทน
"ใช้อันนี้แหล่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยกับพนักงานอีกครั้ง ที่ตอนนี้ยืนงงเพราะไม่รู้จะรับบ้ตรจากใคร
"ส่วนเธอก็เก็บไว้เถอะ...บัตรใบไหนมันก็เงินฉันอยู่ดี" แล้วหันมาพูดกับพระพาย
พระพายจึงต้องเก็บบัตรใบนั้นเข้าคืน แล้วเดินตามพนักงานไปที่เคาเตอร์ และคิมหันต์ก็หมุนตัวตาม โดยไม่ได้สนใจชะเอมเลย
"มาค่ะ...เดี๋ยวหนูถือดีกว่าค่ะ" พระพายเอ่ยบอก พร้อมกำลังจะยื่นมือไปถือของ แต่กลับโดนคนตัวสูงจ้องตาเขม็ง จนพระพายไม่กล้าโต้ตอบอะไรอีก ได้แต่เดินตามชายหนุ่มไปเงียบๆ
ส่วนชะเอมที่ยื่นมองปฏิกิริยาของคนทั้งสอง พร้อมกับกำมือแน่น อย่างเคียดแค้น
"ที่กับเอมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้เลยน่ะค่ะคิม คิดว่าเอมจะยอมปล่อยคุณไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอค่ะ ...ไม่มีทาง คุณต้องเป็นของเอมแค่คนเดียวเท่านั้น" ชะเอมเอ๋ยออกมาอย่างแค้น พร้อมกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา
ชะเอมจึงเดินกลับมายังร้านที่เพื่อนสาวยังคงนั่นอยู่
"เป็นยังไงบ้างล่ะ" เจนเอ่ยถามเพื่อนสาวเมื่อหล่อนเดินมานั่งอย่างหน้าไม่รับแขก
"เด็กนั่น...มีดีอะไร หน้าตาก็งั้นๆ จืดชืด ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย สู้ฉันก็ไม่ได้" ชะเอมเอ่ยขึ้นพูดระบายกับเจนทันที
"แล้วแกจะทำยังไงต่อล่ะเอม...นั้นมันบ่อเงินบ่อทองแกเลยน่ะเว้ย แกจะยอมปล่อยให้หลุดมือไปเหรอ?" เจนถามชะเอมขึ้น
"ฉันไม่ยอมหรอก...ยังไงฉันก็จะเอาคิมกลับมาเป็นของฉันอีกครั้งจนได้..."
"แล้วแกจะทำไงต่อ ดูเหมือนเขาจะหลงเด็กคนนั้นมากเลยน่ะ" เจนเลิกคิ้วถาม
"ก็แค่หลง...คนอย่างคิมเหรอจะรักใครเป็น ตอนนี้ก็แค่หลงของใหม่นั้นแหล่ะ พอเบื่อก็คงจะเขี่ยทิ้งนั้นแหล่ะ" ชะเอมเอ่ยออกมา พร้อมกับนึกอะไรบางอย่างออกได้ "ฉันคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงต่อ?"
"ยังไง?"
"ถ้าเกิดว่าฉันท้องล่ะ!!" ชะเอมตอบ พร้อมยิ้มอย่างมีแผนการ
"เขาจะยอมปล่อยให้แกท้องกับเขาง่ายๆเหรอ"
"คราวนี้แหล่ะ...คิมไม่รอดแน่"
"แล้วเขาจะยอมมานอนกันแกอีกเหรอ?"
"อ๋อยไง...คนอย่างคิม ติดง่ายจะตาย อ่อยนิดอ่อยหน่อยก็ยอมแล้ว" ชะเอมเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจในความคิดของตัวเอง
10 ปีต่อมาตอนนี้ลูกๆของทุกคนโตกันหมดแล้ว ทีม ทินกร หนุ่มมหาลัย ในวัย 19 ปี สูงหล่อ นิสัยถอดแบบคุณพ่อหมอของเขามาแป๊ะ จนทุกคนที่ไม่รู้จัก จะคิดว่าทั้งคู่นั้นเป็นพ่อลูกกันจริงๆ"ไอ้ทีม! วันนี้เลิกคลาสเร็ว ไปยืดเส้นยืดสายที่สนามกันหน่อยไหมเพื่อน" คามิน เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งมัธยม เอ่ยถามขึ้น ทั้งคู่ชอบเล่นฟุตบอล และเป็นตัวแทนนักกีฬาของโรงเรียน แต่ตอนนี้พวกเขาหันกลับมาชอบกับความเร็ว หลังเลิกเรียนจะแวะไปแข่งรถที่สนามของพ่อเพื่อนอยู่เป็นประจำ"ไม่อ่ะ...วันนี้แม่ปิ่นโทรมาบอก ให้แวะไปรับน้องๆ ไปส่งไว้ที่บ้านปู่เหมกับย่านิจให้หน่อย เพราะอาคิมกับอาพายติดธุระ" ทีมเอ่ยบอกเพื่อนไป"น้องพิพิมกับภาคินลูกเพื่อนพ่อมึงอ่ะน่ะ" คามินเอ่ยถาม เพราะรู้จัก และเรียนโรงเรียนเดียวกัน เพราะเขาสนิทกับทีม"อื้ม" ทีมพยักหน้ารับ"ถามจริงเถอะไอ้ทีม...มึงไม่คิดอะไรกับน้องมันจริงๆหรือว่ะ" คามินถามขึ้นมา"มึงจะพูดอะไรไอ้มิน...น้องยังเด็ก นั้นมันคุกเลยน่ะเว้ย" ทีมต่อว่าคามินทันที"กูเห็นมึงดูแลน้องเขามาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้น้องพิพิมก็...." คามินกำลังจะเอ่ยต่อ แต่ถูกทีมสวนขึ้นมาก่อน"มึงหยุดคิดอะไรเลยน่ะเว้ย นั้นมั
3 ปีผ่านไปพระพายได้ให้กำเนิดลูกชาย โดยมีนามว่า "ภาคิน ฤทธิไพศาล" ซึ่งสมใจคิมหันต์ เพราะเจ้าตัวอยากได้ลูกชาย และตอนนี้ มีอายุ 2 ขวบกว่าๆแล้ว"ว่าไง...คุณพ่อลูกสอง" หมอโปรดเดินเข้ามาทักทาย คิมหันต์"เป็นไงวันนี้ หอบลูกหอบหลานมาเยอะเชียว พ่อแม่เขาไปไหนกันเหรอ" คิมหันต์ถามหมอโปรดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับหลานทั้งสามคน และลูกสาว กับลูกชายของเขาอีก"อ๋อ...พอดีไอ้ไปร์ พาเมียขึ้นมาทำธุระที่กรุงเทพฯ เลยฝากลูกไว้ ส่วนไอ้ธันกับยัยปริม ก็หนีไปฮันนีมูนกัน""พ่อโปรดครับ น้องทีมไปหาพิพิมน่ะครับ" น้องทีมตอนนี้ วัย 9 ขวบ ลูกบุญธรรมของหมอโปรดและปิ่นลดาเอ่ยบอกพ่อ"พิพิมเล่นอยู่ที่บ้านคุณย่าครับน้องทีม" คิมหันต์เอ่ยบอกหลาน"ขอบคุณมากครับอาคิม น้องทีมไปหาพิพิมน่ะครับ" เสียงเล็กเอ่ยบอกพร้อมกับวิ่งไปที่บ้านหลังใหญ่ทันที"ไอ้หมอ!...กูว่าลูกชายมึงคิดอะไรกับลูกสาวกูหรือเปล่าว่ะ" คิมหันต์เอ่ยถามอย่างหยอกล้อ"พี่คิมค่ะ ลูกยังเด็กน่ะค่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้" พระพายต่อว่าทัน ที่เดินนำน้ำมาเสริฟให้แก่หมอโปรดและปิ่นลดา"เด็กๆ สวัสดีคุณอากันก่อนสิครับ" หมอโปรดเอ่ยบอกหลานๆ และลูกสาว"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" เสียงเล็กเ
แต่งงานหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งของคิมหันต์และพระพายถูกจัดขึ้นในเวลาอันเร่งด่วน ตามความต้องการของชายหนุ่ม"เป็นยังไงไอ้เจ้าบ่าว ไหวไหมว่ะ" หมอโปรดเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเดินมาหาชายหนุ่มที่ห้องแต่งตัว เเละทราบถึงอาการแพ้ท้องแทนเมียของคิมหันต์ดี "แทนที่จะรอให้อาการของตัวเองดีขึ้นก่อนค่อยจัดงานแต่งก็ไม่ช้าไปหรอก""ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเมียกูใส่ชุดไม่สวย" คิมหันต์เอ่ยบอก พร้อมกับจัดแจงชุดให้เรียบร้อย"เป็นไงล่ะอาการหลังมีเมียเด็กรู้สึกยังไงบ้างครับเพื่อน" ธันวาถามขึ้นเมื่อเข้ามาภายในห้อง"แมร่งเอ้ย...เล่นกูเข่าอ่อนทุกคืนเลยหว่ะ ปกติกูก็ว่ากูหื่นอยู่น่ะ แต่พอเมียกูท้อง เล่นเอากูสะขาสั่นหมดแรงทุกคืน" คิมหันต์เอ่ยบอกแถมติดตลกไปด้วย"โอ้....ไอ้นี้ กูว่ามันเจอของจริงแล้วหว่ะไอ้หมอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ธันวาเอ๋ยแซว"สมน้ำหน้า...ใครหว่าที่บอกว่าไม่ชอบกินเด็ก มึงจำได้ไหมไอ้ธัน" หมอโปรดเเซวขึ้นบ้าง"เออ...กูนี้แหล่ะ สุดท้ายเหมือนกูโดนเด็กกินเสียเอง""หรือไม่ชอบ?" ธันวาเลิกคิ้วถาม"ใครบอกว่ะ โคตรถูกใจกูเลย ถ้ารู้ว่ามีเมียเด็ก แถมเด็ดขนาดนี้ กูจะไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานขนาดนี้เลย" คิมหันต์ตอบออกมาอย่างสายตาเจ
แพ้ท้องแทนเมีย"คุณค่ะ!...ทำไมตาคิมกับหนูพายถึงยังไม่ลงมาทานข้าวกันอีกล่ะค่ะ ทะเลาะกันหรือเปล่า เมื่อตอนกลางวันเห็นงอนๆกันด้วย" คนึงนิจเอ่ยถามสามีเมื่อนั่งรอทานข้าวที่โต๊ะอาหาร โดยมีพิมนั่งอยู่ใกล้ๆ"ป่ะป๊า ม่ะม๊า..." เสียงเล็กของพิพิมเอ่ยเรียกเมื่อเห็นพระพาย และคิมหันต์เดินเข้ามา"ทำไมลงมาช้ากันจังเลยลูก" คนึงนิจเอ่ยถามเมื่อพึ่งเห็นคนทั้งคู่ลงมา"อ่อ...พอดีหลับเพลินกันไปหน่อยครับ" คิมหันต์เอ่ยตอบ พร้อมกับลูบศรีษะทุยเบาไปของลูกสาวอย่างเอ็นดู"หนูพายเห็นตาคิมบอกว่าหนูกำลังจะ... ข่าวดีใช่ไหมลูก" คนึงนิจเอ่ยถามพระพาย เมื่อทั้งสองมานั่งลงที่เก้าอี้"ค่ะคุณแม่" พระพายตอบกลับ พร้อมกับพยักหน้ารับอีกที"จริงเหรอลูก! เเม่ดีใจสุดๆเลย" คนึงนิจเอ่ยขึ้นมาอย่างดีใจ พร้อมกับรอยยิ้มยินดีผุดขึ้นมา"คราวนี้ ก็สมใจคุณแม่แล้วสิน่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยถามมารดา"รู้ทันแม่ตลอดเลย ลูกคนนี้ แล้วนี่ตาคิมทำอะไรน้องหรือเปล่า" คนึงนิจถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของพระพายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก"โถ่วคุณแม่ครับ...ผมจะทำอะไรล่ะครับ มีแต่ลูกสาวของคุณแม่นี้แหล่ะครับที่จัดการผม" คิมหันต์เอ่ยตอบมารดา แล้วหันหน้าไปยักคิ้วใส่พระพาย"นี้
ครั่งรัก"อะไรน่ะค่ะ!" พระพายเอ่ยถามย้ำขึ้นอีกรอบทันที เพื่อความแน่ใจ ในคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า"แต่งงานกันน่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างจริงจัง"ตะ แต่งทำไมล่ะค่ะ เราก็จดทะเบียนสมรส เป็นสามีภรรยากันแล้วหนิ่ค่ะ และอีกอย่าง พายว่าพายอยู่แบบนี้ก็โอเคอยู่แล้วนี้ค่ะพี่คิม ตะจัดให้เปลืองทำไหมค่ะ" พระพายเอ่ยบอกออกไป"แต่พี่อยากจัดงานน่ะครับ พี่อยากประกาศให้โลกรู้ไปเล้ย ว่าพระพายและพิพิม คือภรรยาและลูกของพี่ครับ" คิมหันต์เอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ"อยากประกาศให้คนอื่นรู้ หรืออยากบอกสาวๆ ของพี่คิมกันแน่ค่ะ" พระพายพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ"โถ่ว...เมียจ๋า คิดอะไรอีกแล้วครับ พี่บอกกับเมียจ๋าไปตรงๆ และสัญญาตรงนี้เลยครับว่าตั้งแต่ที่พี่มีเมียจ๋าคนนี้ พี่ก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับใครเลยนะ ทั้งๆที่พี่เคยพยายามจะลืมเมียจ๋า แต่พี่ก็ทำไม่ได้สักครั้งเลย จนพี่ต้องทิ้งงานที่ผับ แล้วมาช่วยทำงานที่บริษัทกับคุณพ่อไงครับ พี่ใช้งานมาอ้าง ทำงานหนักขึ้น เพื่อไม่ให้คิดอะไรพุ่งซ่าน แต่เมื่อพี่กลับมาอยู่กับตัวเองตามลำพัง พี่ก็จะคิดถึงผู้หญิงคนนี้" มือหนาลูบศรีษะทุยเบาๆ พร้อมโยกไปมาเบาๆ "เป็นผู้หญิงธรรมดาที่สามรถโ
ครอบครัวอบอุ่นบ้านฤทธิไพศาล"ไงลูก! กลับมากันแล้วเหรอ!" คนึงนิจเอ่ยถามเมื่อเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาในบ้าน "เอ้า...หนูพาย เป็นอะไรไป ตาคิม ทำอะไรน้อง" คนึงนิจหันมาต่อว่าลูกชายทันที เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้างอเดินขึ้นไปชั้นบน"ผมเปล่าน่ะครับคุณแม่" คิมหันต์รีบปฏิเสธทันที"เปล่า...แล้วทำไม น้องทำหน้าแบบนั้นล่ะ""แค่คิดมากนิดหน่อยครับ""คิดมากเรื่องอะไร นี่ลูกแอบไปทำเรื่องอะไรลับหลังหนูพายมาเหรอ...ตาคิม" คนึงนิจต่อว่าลูกชายทันที และฟาดฝามือลงที่แขนของลูกชายอย่างแรง"โอ้ย...คุณแม่ครับ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหล่ะครับ พายเครียดที่จะไม่ได้เรียนต่อน่ะครับ" คิมหันต์บอกมารดาออกไป แต่ยังอธิบายไม่ชัดเจน"ไม่ได้เรียน!...ลูกทำไมถึงไม่ให้น้องเรียน ไหนตอนแรกลูกบอกจะให้น้องมาเรียนเอกชนแถวนี้ไงตาคิม" คนึงนิจเอ่ยถามลูกชายอย่างไม่เข้าใจ ในคำพูดที่คิมหันต์บอก"จะเรียนได้ยังไงล่ะครับ...ก็ในเมื่อพายกำลังจะมีน้อง ผมไม่ยอมให้พายแบกท้องไปเรียนหรอกนะครับคุณแม่""ท้อง!...นี่หมายความว่า..." คนึงนิจเบิกตากว้างขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำว่าท้อง"ผมว่าพายท้องแน่นอนครับคุณแม่ เพียงแต่พายยังไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้นเองครับ""แล้วย