"คุณจะซื้ออะไรเยอะแยะค่ะ...หนูก็อยู่คนเดียวนะค่ะ ตัวก็เล็กแค่เนี่ย...ทานเป็นเดือน ก็ไม่หมดหรอกค่ะ" พระพายเอ่ยถาม เมื่อเห็นคิมหันต์หยิบจับนั่นตับนี้ใส่รถเข็นไม่หยุด จนเกือบล้น
"ใครบอกว่าทานคนเดียว!" เสียงเข้มเอ่ยตอบ พร้อมกับเข็นรถไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจพระพาย
"ก็...นี่คุณหมายความว่ายังไง?" พระพายยืนนึกตามที่คิมหันต์พูด เเล้วก็รีบสาวท้าวตามทันที
"หึ...ตามที่ได้ยินนั้นแหล่ะ"
"อะไรค่ะ...ตามที่ได้ยินหมายความว่า...คุณ ไหนบอกว่าคุณจะ..." พระพายคิ้วขมวดขึ้นทันที
"ที่นั้นมันคอนโดฉันน่ะ และฉันจะเข้าออกตอนไหนก็ได้ ลืมแล้วเหรอ" คิมหันต์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"..." พระพายหุบปากเงียบทันที แล้วก้มหน้าลง เดินตามคิมหันต์ไปอย่างเงียบๆ ไม่เอ่ยอะไรขึ้นมาอีกเลย
"เป็นไร?...เห็นเงียบมาตั้งแต่อยู่ห้างแล้ว" คิมหันต์เอ่ยถามพระพาย เมื่อเข้ามาภายในคอนโด
"เปล่าค่ะ" เสียงเล็กเอ่ยตอบ พร้อมสาวท้าวเข้าไปในห้องนอนทันที
"..." คิมหันต์ชายตามอง โดยไม่ได้เอ่ยตอบอะไรพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ อย่างเอ็นดูในความเป็นงอนเป็นเด็กของเธอ
สักพักคิมหันต์ เดินไปเคาะประตูห้องของพระพาย เพราะเห็นว่าหญิงสาว เจ้าไปในห้องนานแล้ว และก็ใกล้จะถึงเวลาที่ต้องไปทำงานแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เธอ...พระพาย!" เป็นครั้งแรกที่คิมหันต์เอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาว และเมื่อ ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนด้านใจ
คิมหันต์จึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ และชะเง้อดูก่อนกลับพบเพียงความมืด
"พระพาย...หลับหรือเปล่า" และเป็นครั้งที่สองที่เขาเอ่ยชื่อของเธอขึ้น
เมื่อเรียกแล้วไม่มีเสียงตอบรับใดๆ คิมหันต์จึงกดเปิดสวิตช์ไฟ แล้วกวาดสายตามองดูรอบไปห้อง กลับไม่พบพระพาย จึงต้องสาวท้าวไปที่ระเบียงข้างนอก ก็ไม่พบอีกเช่นเคย
ท้าวยาวก้าวไปยังห้องน้ำกลับได้ยินแต่เสียงน้ำไหลนิ่ง แต่ไม่ได้ยินเสียงน้ำกระทบกระพื้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"พระพาย...อาบน้ำหรือเปล่า?" แต่ก็ยังพบความเงียบอยู่เช่นเคย
เมื่อเคาะประตูแล้วยังไม่ทีเสียงตอบรับ คิมหันต์จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไปทันที และเมื่อประตูเปิด ภาพที่เห็น ทำให้ชายหนุ่มอ้าปากค้างทันที
"กรี๊ดดดดด....ไอ้บ้า! โรคจิต" เสียงพระพายกรีดร้อง พร้อมรีบเอามือปิดทุกส่วนของร่างกาย แต่กลับปิดแทบไม่มิด
"เอ่อ..." เมื่อนึกขึ้นได้คิมหันต์รีบหันหลังให้ทันที "ขะ ขอโทษ"
"ไอ้บ้า!...ไอ้โรคจิต นี้จะมาแอบดูกันอาบน้ำเหรอ...นี่แหน่ะ" เมื่อตั้งสติได้ พระพายรีบคว้าผ้าขนหนูมานุ่ง และใช้ฝ่าฟาดใส่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ยั้งทันที
"โอะ...โอ้ยยยย...นี้เธอกะจะฆ่าฉันเลยเหรอ?" คิมหันต์ร้องโอดโอย เมื่อโดนฝ่ามือฟาดเข้ามาไม่ยั้ง แถมยังโดนของแข็งฟาดเข้าที่หน้าผากอีก จนเลือดไหลซึมออกมา เพราะเธอคว้าแจกันฟาดไปโดน แต่ไม่ได้แรงมากนัก
เมื่อนึกขึ้นได้ พระพายยืนนิ่งทันที เมื่อเห็นที่หน้าของคิมหันต์มีเลือดออก
"โอ้ย..."มือหนากุมที่หน้าผากของตนเอง พร้อมกับจ้องหน้าพระพายนิ่ง แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
พระพายรีบวิ่งตามหลังของคิมหันต์
"นั่งลงก่อนค่ะ...หนูทำแผลให้" พระพายรีบดึงตัวคิมหันต์ไว้ แล้วบอกให้ร่างสูงนั่งลงบนที่นอนก่อน และเธอจึงรีบเดินไปเอาอุปกรณ์ทำแผลมา
"..." คิมหันต์ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร เพียงแค่ชายตามองพร้อมกับทำตามอย่างง่าย
"แสบนิดหนึ่งนะค่ะ" พระพายเอ่ยบอก พร้อมชุ่มยาล้างแผลที่บริเวณรอบๆหน้าผากของคิมหันต์
"ซีด...เบาหน่อยสิ!"
"ขอโทษค่ะ" เสียงหวานเอ่ยขอโทษ และทำแผลให้คนตรงหน้าต่อไป โดยไม่ได้คิดอะไรเลยว่าตอนนี้ตัวเองนั้นนุ่งแค่ผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวยืนประจันหน้ากับชายหนุ่มอยู่
คิมหันต์ได้แต่แอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะกลิ่นคลีมอาบน้ำในตัวของหญิงสาวลอยมาแต่จมูก แถมผิวขาวนวลเนียนนั้นอีก ทำให้ตอนนี้ ลูกชายของเขากลับลุกตื่นขึ้นมาทันที
"เสร็จแล้วค่ะ" พระพายเอ่ยบอก พร้อมกำลังเก็บอุปกรณ์เข้าคืน และกำลังจะเดินหมุนตัว
"เดี๋ยว!" แต่มือหนาดึงเอวคอดของเธอลงมานั่งที่ตักแกร่งของเขาเสียก่อน
"คะ คุณ จะทำอะไรค่ะ" พระพายตกใจในการกระทำของเขา และเอ่ยปากถามขึ้น
"ทำ...ฉันเลือดออกแล้ว...คิดว่าแค่คำขอโทษอย่างเดียวจะพอแค่นั้นเหรอ"
"แล้วหนู...ต้องทำยังไงค่ะ และอีกอย่างคุณเองก็ผิดที่พังประตูเข้ามา แถมยังถือวิสาสะเข้ามาในห้องของหนูอีก"
"โอเคเรื่องที่เข้ามาในห้องนี้ฉันผิด...แล้วใครบอก เวลาเข้าห้องน้ำเเล้วเปิดเพลงเสียงดังขนาดนั้น จนคนข้างนอกเรียกก็ไม่ได้ยิน ฉันคิดว่าเธอเป็นลมเป็นแล้ง ล้มตายในห้องน้ำเสียแล้ว"
"..." พระพายนิ่ง แล้วจ้องหน้าของคิมหันต์ทันที
สองสายตาสบตากันนิ่ง มือหนาเลื่อนขึ้นมาที่ท้ายทอยของหญิงสาวแล้วกดลงโน้มลงมาเล็กน้อย ปากหยักฉกจูบทันที โดยที่พระพายไม่ทันได้ตั้งแต่ มือหนาอีกข้างก็ล็อคเอวเธอไว้นิ่ง กันไม่ให้เธอตก แล้วพลิกร่างบางให้นอนหงายลงบนที่นอนนุ่มนั้นทันที
เมื่อร่างบางไม่ยอมเปิดปากให้เขาได้ล่วงล้ำ มือหนาจึงเลื่อนมากอบกุม ที่อกของหญิงสาวทันที เต็มแรง
"อ๊ะ..."
"อย่าร้องแบบนี้" เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมก้มลงฉกชิมความหวานจากปากบางอีกครั้ง และคราวนี้พระพายยอมเผยอปากรับจูบอย่างง่ายดาย
มือหนาปลกปมผ้าขนหนูของพระพายออก แล้วโยนลงไปที่ข้างเตียง
"อื้อ..." พระพายรีบดันอกแกร่งออก เพราะรู้สึกถึงความเย็นของร่างกายตัวเอง ที่ตอนนี้นอนเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างคนร่างสูง
"ปิดทำไม!...เห็นมาหมดแล้ว ไม่ต้องอายหรอก" คิมหันต์เอ่ยบอก เมื่อคนร่างบางเลื่อนมือมาปิดที่จุดสงวนของตัวเอง
"..." พระพายที่ไม่เอ่ยอะไรออกมา ได้แต่เอามือขึ้นมาปิดหน้า แล้วหลับตาปี๋ เพราะอายและไม่กล้าสู้หน้าคนด้านบน
"เรามาทำความรู้จักกันหน่อยน่ะ...พระพาย" เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับเลื่อนมือของพระพายออกจากใบหน้าจองเธอ
"ลืมตาขึ้นมา...แล้วมองหน้าฉัน" เสียงนุ่มเอ่ยสั่ง
"..." พระพายลืมตาขึ้นมา แล้วสายตาจ้องไปที่ร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง
มือหนาจึงตวัดผ้าห่มคลุมร่างกายเธอไว้ให้แล้วจ้องมองสบตากับเธอนิ่ง
10 ปีต่อมาตอนนี้ลูกๆของทุกคนโตกันหมดแล้ว ทีม ทินกร หนุ่มมหาลัย ในวัย 19 ปี สูงหล่อ นิสัยถอดแบบคุณพ่อหมอของเขามาแป๊ะ จนทุกคนที่ไม่รู้จัก จะคิดว่าทั้งคู่นั้นเป็นพ่อลูกกันจริงๆ"ไอ้ทีม! วันนี้เลิกคลาสเร็ว ไปยืดเส้นยืดสายที่สนามกันหน่อยไหมเพื่อน" คามิน เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งมัธยม เอ่ยถามขึ้น ทั้งคู่ชอบเล่นฟุตบอล และเป็นตัวแทนนักกีฬาของโรงเรียน แต่ตอนนี้พวกเขาหันกลับมาชอบกับความเร็ว หลังเลิกเรียนจะแวะไปแข่งรถที่สนามของพ่อเพื่อนอยู่เป็นประจำ"ไม่อ่ะ...วันนี้แม่ปิ่นโทรมาบอก ให้แวะไปรับน้องๆ ไปส่งไว้ที่บ้านปู่เหมกับย่านิจให้หน่อย เพราะอาคิมกับอาพายติดธุระ" ทีมเอ่ยบอกเพื่อนไป"น้องพิพิมกับภาคินลูกเพื่อนพ่อมึงอ่ะน่ะ" คามินเอ่ยถาม เพราะรู้จัก และเรียนโรงเรียนเดียวกัน เพราะเขาสนิทกับทีม"อื้ม" ทีมพยักหน้ารับ"ถามจริงเถอะไอ้ทีม...มึงไม่คิดอะไรกับน้องมันจริงๆหรือว่ะ" คามินถามขึ้นมา"มึงจะพูดอะไรไอ้มิน...น้องยังเด็ก นั้นมันคุกเลยน่ะเว้ย" ทีมต่อว่าคามินทันที"กูเห็นมึงดูแลน้องเขามาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้น้องพิพิมก็...." คามินกำลังจะเอ่ยต่อ แต่ถูกทีมสวนขึ้นมาก่อน"มึงหยุดคิดอะไรเลยน่ะเว้ย นั้นมั
3 ปีผ่านไปพระพายได้ให้กำเนิดลูกชาย โดยมีนามว่า "ภาคิน ฤทธิไพศาล" ซึ่งสมใจคิมหันต์ เพราะเจ้าตัวอยากได้ลูกชาย และตอนนี้ มีอายุ 2 ขวบกว่าๆแล้ว"ว่าไง...คุณพ่อลูกสอง" หมอโปรดเดินเข้ามาทักทาย คิมหันต์"เป็นไงวันนี้ หอบลูกหอบหลานมาเยอะเชียว พ่อแม่เขาไปไหนกันเหรอ" คิมหันต์ถามหมอโปรดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับหลานทั้งสามคน และลูกสาว กับลูกชายของเขาอีก"อ๋อ...พอดีไอ้ไปร์ พาเมียขึ้นมาทำธุระที่กรุงเทพฯ เลยฝากลูกไว้ ส่วนไอ้ธันกับยัยปริม ก็หนีไปฮันนีมูนกัน""พ่อโปรดครับ น้องทีมไปหาพิพิมน่ะครับ" น้องทีมตอนนี้ วัย 9 ขวบ ลูกบุญธรรมของหมอโปรดและปิ่นลดาเอ่ยบอกพ่อ"พิพิมเล่นอยู่ที่บ้านคุณย่าครับน้องทีม" คิมหันต์เอ่ยบอกหลาน"ขอบคุณมากครับอาคิม น้องทีมไปหาพิพิมน่ะครับ" เสียงเล็กเอ่ยบอกพร้อมกับวิ่งไปที่บ้านหลังใหญ่ทันที"ไอ้หมอ!...กูว่าลูกชายมึงคิดอะไรกับลูกสาวกูหรือเปล่าว่ะ" คิมหันต์เอ่ยถามอย่างหยอกล้อ"พี่คิมค่ะ ลูกยังเด็กน่ะค่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้" พระพายต่อว่าทัน ที่เดินนำน้ำมาเสริฟให้แก่หมอโปรดและปิ่นลดา"เด็กๆ สวัสดีคุณอากันก่อนสิครับ" หมอโปรดเอ่ยบอกหลานๆ และลูกสาว"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" เสียงเล็กเ
แต่งงานหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งของคิมหันต์และพระพายถูกจัดขึ้นในเวลาอันเร่งด่วน ตามความต้องการของชายหนุ่ม"เป็นยังไงไอ้เจ้าบ่าว ไหวไหมว่ะ" หมอโปรดเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเดินมาหาชายหนุ่มที่ห้องแต่งตัว เเละทราบถึงอาการแพ้ท้องแทนเมียของคิมหันต์ดี "แทนที่จะรอให้อาการของตัวเองดีขึ้นก่อนค่อยจัดงานแต่งก็ไม่ช้าไปหรอก""ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเมียกูใส่ชุดไม่สวย" คิมหันต์เอ่ยบอก พร้อมกับจัดแจงชุดให้เรียบร้อย"เป็นไงล่ะอาการหลังมีเมียเด็กรู้สึกยังไงบ้างครับเพื่อน" ธันวาถามขึ้นเมื่อเข้ามาภายในห้อง"แมร่งเอ้ย...เล่นกูเข่าอ่อนทุกคืนเลยหว่ะ ปกติกูก็ว่ากูหื่นอยู่น่ะ แต่พอเมียกูท้อง เล่นเอากูสะขาสั่นหมดแรงทุกคืน" คิมหันต์เอ่ยบอกแถมติดตลกไปด้วย"โอ้....ไอ้นี้ กูว่ามันเจอของจริงแล้วหว่ะไอ้หมอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ธันวาเอ๋ยแซว"สมน้ำหน้า...ใครหว่าที่บอกว่าไม่ชอบกินเด็ก มึงจำได้ไหมไอ้ธัน" หมอโปรดเเซวขึ้นบ้าง"เออ...กูนี้แหล่ะ สุดท้ายเหมือนกูโดนเด็กกินเสียเอง""หรือไม่ชอบ?" ธันวาเลิกคิ้วถาม"ใครบอกว่ะ โคตรถูกใจกูเลย ถ้ารู้ว่ามีเมียเด็ก แถมเด็ดขนาดนี้ กูจะไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานขนาดนี้เลย" คิมหันต์ตอบออกมาอย่างสายตาเจ
แพ้ท้องแทนเมีย"คุณค่ะ!...ทำไมตาคิมกับหนูพายถึงยังไม่ลงมาทานข้าวกันอีกล่ะค่ะ ทะเลาะกันหรือเปล่า เมื่อตอนกลางวันเห็นงอนๆกันด้วย" คนึงนิจเอ่ยถามสามีเมื่อนั่งรอทานข้าวที่โต๊ะอาหาร โดยมีพิมนั่งอยู่ใกล้ๆ"ป่ะป๊า ม่ะม๊า..." เสียงเล็กของพิพิมเอ่ยเรียกเมื่อเห็นพระพาย และคิมหันต์เดินเข้ามา"ทำไมลงมาช้ากันจังเลยลูก" คนึงนิจเอ่ยถามเมื่อพึ่งเห็นคนทั้งคู่ลงมา"อ่อ...พอดีหลับเพลินกันไปหน่อยครับ" คิมหันต์เอ่ยตอบ พร้อมกับลูบศรีษะทุยเบาไปของลูกสาวอย่างเอ็นดู"หนูพายเห็นตาคิมบอกว่าหนูกำลังจะ... ข่าวดีใช่ไหมลูก" คนึงนิจเอ่ยถามพระพาย เมื่อทั้งสองมานั่งลงที่เก้าอี้"ค่ะคุณแม่" พระพายตอบกลับ พร้อมกับพยักหน้ารับอีกที"จริงเหรอลูก! เเม่ดีใจสุดๆเลย" คนึงนิจเอ่ยขึ้นมาอย่างดีใจ พร้อมกับรอยยิ้มยินดีผุดขึ้นมา"คราวนี้ ก็สมใจคุณแม่แล้วสิน่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยถามมารดา"รู้ทันแม่ตลอดเลย ลูกคนนี้ แล้วนี่ตาคิมทำอะไรน้องหรือเปล่า" คนึงนิจถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของพระพายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก"โถ่วคุณแม่ครับ...ผมจะทำอะไรล่ะครับ มีแต่ลูกสาวของคุณแม่นี้แหล่ะครับที่จัดการผม" คิมหันต์เอ่ยตอบมารดา แล้วหันหน้าไปยักคิ้วใส่พระพาย"นี้
ครั่งรัก"อะไรน่ะค่ะ!" พระพายเอ่ยถามย้ำขึ้นอีกรอบทันที เพื่อความแน่ใจ ในคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า"แต่งงานกันน่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างจริงจัง"ตะ แต่งทำไมล่ะค่ะ เราก็จดทะเบียนสมรส เป็นสามีภรรยากันแล้วหนิ่ค่ะ และอีกอย่าง พายว่าพายอยู่แบบนี้ก็โอเคอยู่แล้วนี้ค่ะพี่คิม ตะจัดให้เปลืองทำไหมค่ะ" พระพายเอ่ยบอกออกไป"แต่พี่อยากจัดงานน่ะครับ พี่อยากประกาศให้โลกรู้ไปเล้ย ว่าพระพายและพิพิม คือภรรยาและลูกของพี่ครับ" คิมหันต์เอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ"อยากประกาศให้คนอื่นรู้ หรืออยากบอกสาวๆ ของพี่คิมกันแน่ค่ะ" พระพายพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ"โถ่ว...เมียจ๋า คิดอะไรอีกแล้วครับ พี่บอกกับเมียจ๋าไปตรงๆ และสัญญาตรงนี้เลยครับว่าตั้งแต่ที่พี่มีเมียจ๋าคนนี้ พี่ก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับใครเลยนะ ทั้งๆที่พี่เคยพยายามจะลืมเมียจ๋า แต่พี่ก็ทำไม่ได้สักครั้งเลย จนพี่ต้องทิ้งงานที่ผับ แล้วมาช่วยทำงานที่บริษัทกับคุณพ่อไงครับ พี่ใช้งานมาอ้าง ทำงานหนักขึ้น เพื่อไม่ให้คิดอะไรพุ่งซ่าน แต่เมื่อพี่กลับมาอยู่กับตัวเองตามลำพัง พี่ก็จะคิดถึงผู้หญิงคนนี้" มือหนาลูบศรีษะทุยเบาๆ พร้อมโยกไปมาเบาๆ "เป็นผู้หญิงธรรมดาที่สามรถโ
ครอบครัวอบอุ่นบ้านฤทธิไพศาล"ไงลูก! กลับมากันแล้วเหรอ!" คนึงนิจเอ่ยถามเมื่อเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาในบ้าน "เอ้า...หนูพาย เป็นอะไรไป ตาคิม ทำอะไรน้อง" คนึงนิจหันมาต่อว่าลูกชายทันที เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้างอเดินขึ้นไปชั้นบน"ผมเปล่าน่ะครับคุณแม่" คิมหันต์รีบปฏิเสธทันที"เปล่า...แล้วทำไม น้องทำหน้าแบบนั้นล่ะ""แค่คิดมากนิดหน่อยครับ""คิดมากเรื่องอะไร นี่ลูกแอบไปทำเรื่องอะไรลับหลังหนูพายมาเหรอ...ตาคิม" คนึงนิจต่อว่าลูกชายทันที และฟาดฝามือลงที่แขนของลูกชายอย่างแรง"โอ้ย...คุณแม่ครับ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหล่ะครับ พายเครียดที่จะไม่ได้เรียนต่อน่ะครับ" คิมหันต์บอกมารดาออกไป แต่ยังอธิบายไม่ชัดเจน"ไม่ได้เรียน!...ลูกทำไมถึงไม่ให้น้องเรียน ไหนตอนแรกลูกบอกจะให้น้องมาเรียนเอกชนแถวนี้ไงตาคิม" คนึงนิจเอ่ยถามลูกชายอย่างไม่เข้าใจ ในคำพูดที่คิมหันต์บอก"จะเรียนได้ยังไงล่ะครับ...ก็ในเมื่อพายกำลังจะมีน้อง ผมไม่ยอมให้พายแบกท้องไปเรียนหรอกนะครับคุณแม่""ท้อง!...นี่หมายความว่า..." คนึงนิจเบิกตากว้างขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำว่าท้อง"ผมว่าพายท้องแน่นอนครับคุณแม่ เพียงแต่พายยังไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้นเองครับ""แล้วย