แชร์

บทที่5

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-16 02:23:31

บทที่5 

“น้องหญิง” อู่ไท่จงรีบวิ่งมาประคองน้องสาวลงจากรถม้า

เหมยตาฮวยยกยิ้มรับ พี่ชายนางแสดงออกอย่างเปิดเผยว่ารักน้องสาวขนาดนี้ ไม่มีที่ใดอยู่แล้วสุขใจเท่าที่บ้านอีกแล้ว

“คนสกุลจางดูแลเจ้าไม่ดีหรือเจ้าถึงอยากกลับ แล้วอาการป่วยเป็นอย่างไรบ้าง หายแล้วใช่หรือไม”

“ทีละคำถาม” เหมยตาฮวยรีบยกมือห้ามก่อนจะมีคำถามเพิ่ม

“ตอนรู้ว่าเจ้าพลัดตกน้ำ ข้ากับท่านพ่อร้อนใจแวะไปเยี่ยมเจ้าวันแรก แต่ท่านป้าจางก็บอกวว่าเจ้าไม่เป็นไร หมอหลวงดูอาการอย่างใกล้ชิด ข้ากับท่านพ่อเลยรอฟังข่าวอยู่ที่จวน”

ร่างบางเดินเข้าไปในเรือนรับรอง ส่งยิ้มกว้างอย่างสดใสให้พี่ชาย ในอีกภพนางไม่มีพี่น้อง เป็นลูกสาวคนเดียว พอมีพี่ชายเดินตามประกบเป็นห่วงเป็นใย นางรู้สึกดีอย่างประหลาด

“หมอหลวงที่เสด็จป้าส่งไปจัดเทียบยาให้ข้าทุกวัน จนข้าทนไม่ไหวเลยต้องหนีกลับบ้านนี่ไงเล่า”

อู่ไท่จงมองรอยยิ้มของเหมยตาฮวยจนตาค้าง น้องสาวของเขานางไม่ยิ้มแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว 

“เจ้าเป็นใคร คนสกุลจางทำอะไรเจ้า” 

หาเพิ่งมาถึงพี่ชายอู่เหมยตาฮวยก็จับได้แล้วเหรอว่านางไม่ใช่ตัวจริง เหมยตาฮวยถึงกับหยุดซะงัก

“ขะ..ข้า” 

“เจ้ายิ้ม” อู่ไท่จงเห็นสีหน้าอึกอักของนางจึงรีบบอก

“ข้ายิ้มไม่ได้เหรอ” ยิ้มแล้วทำไม ร่างบางขมวดปมคิ้ว

“คุณหนูใหญ่สกุลอู่ผู้แสนเย็นชายยิ้ม พระอาทิตย์ตกผิดทิศแน่วันนี้” พูดจบอู่ไท่จงก็หัวเราะลั่น ดันแผ่นหลังบางให้เดินเข้าไปในห้องรับรองที่บิดาและท่านอาสะใภ้รออยู่

“ลูกรัก” อู่หยงหนิง รีบเดินเข้ามาจูงมือบุตรสาวให้มานั่งข้างๆ

“ท่านพ่อ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

“พ่อตกใจแทบแย่ที่เจ้าเขียนจดหมายมาให้ส่งคนไปรับ” 

“ข้าแค่คิดถึงบ้าน” เหมยตาฮวยโน้มตัวตามแรงกอดของบิดา ศีรษะเล็กๆแนบลงบนท่อนแขนแข็งแรง แม้อู่หยงหนิงจะลาออกจากกองทัพหลายปีแล้ว แต่ร่างกายยังคงแข็งแรง

“นึกอยากจะไปก็ไป นึกอยากจะมาก็มา”  อู่ฮูหยินกลอกตาไปมาหลายสิบตลบ ก็ตามใจกันแบบนี้ นางถึงได้เอาแต่ใจตน อยากทำอะไรก็ทำ จองหองพองขนเย่อหยิ่งทำตัวราวกับเป็นองค์หญิงของแคว้น

“แล้วเมื่อไรท่านจะกลับสกุลเดิมท่านสักที่เล่าท่านอา” เหมยตาฮวยหันไปถามสตรีที่แขวะนางเมื่อครู่ นางสอบถามสมาชิกในจวนแห่งนี้มาจากชิงชิงหมดแล้ว อู่ฮูหยิน หรือหูปิงชิง เป็นภรรยาของน้องชายบิดาของเหมยตาฮวย สามีของนางเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มีบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ อู่เม่ยเหนียง แต่ยังอาศัยอยู่ในจวนสกุลอู่ เนื่องจากบิดาเหมยตาฮวยไม่ได้แต่งฮูหยิน หูปิงชิงจึงดูแลจวนทั้งหมดแทน ทำหน้าที่นายหญิงของจวน

“เอาล่ะๆ อย่ามีเรื่องกันเลย นานๆจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน อีกไม่นานจางซานฟงก็จะกลับมาแล้ว เห็นว่าศึกสงครามสงบลงแล้ว เดี๋ยวเหมยตาฮวยก็จะต้องแต่งออกไป” อู่หยงหนิงรีบปรามก่อนที่น้องสะใภ้กับบุตรสาวจะปะทะคารมกันอีก  ไม่อยากให้บรรยากาศดีๆขุ่นมัว

“ข้าคงได้อยู่จวนสกุลอู่อีกนานเลยละเจ้าคะ” เหมยตาฮวยรีบบอก

“ไม่นานหรอก ปีนี้เจ้าได้แต่งแน่ๆ” อู่หยงหนิงรีบให้คำมั่นกับบุตรสาว เหมยตาฮวยรอจางซานฟงมาเกือบห้าปีแล้ว นางคงนับวันรอให้คู่หมั้นรับกลับมาใจแทบขาด

“ข้าจะถอนหมั้น”

“ห๊า!”

ทุกคนในห้องร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ไม่เว้นแต่แต่ชิงชิงสาวใช้คนสนิทที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“ข้าไม่แต่กับท่านแม่ทัพแล้ว”

“ตะ..แต่เจ้าเป็นคนขอฮองเฮาให้บีบบังคับจางซานฟงส่งหนังสือหมั้นหมายมาเองนะ” อู่ฮูหยินร้องถามด้วยความแปลกใจ เหมยตาฮวยจะเป็นจะตายให้ได้ ถ้าไม่ได้แต่งงานกับบุรุษที่นางปักใจตั้งแต่เด็ก ถึงกับร้องไห้บอกฮองเฮาว่าจะไม่แต่งงานชั่วชีวิตหากบุรุษผู้นั้นไม่ใช่จางซานฟง ร้อนจนฮองเฮาต้องเรียกแม่ทัพไปคุยถึงในวังหลวง

“หมั้นได้ก็ถอนหมั้นได้ ท่านแม่ทัพมีสตรีในดวงใจอยู่แล้ว แต่งไปข้าก็หาความสุขไม่ได้ ไม่ช้าเขาต้องรับฮูหยินรองเข้ามาในจวนอีกคน” เหมยตาฮวยขยายความทุกคนในห้อง ยกชาขึ้นจิบด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไร

“ทำไมเจ้าไม่คิดได้ตั้งแต่วันนั้น บีบบังคับท่านแม่ทัพไปเพื่อสิ่งใดกัน แล้ววันนี้บอกไม่อยากแต่งแล้ว” อู่เม่ยเหนียงถามขึ้นมาอีกคน นางก็อยากแต่งกับแม่ทัพเช่นเดียวกัน แต่เป็นเหมยตาฮวยที่เดินหมากก่อนให้ฮองเฮาลงมือ นางจึงทำได้เพียงอยู่เงียบๆรอเวลา

เหมยตาฮวยถอนหายใจ ยังไม่ได้แต่งงานกันเสียหน่อย เป็นเพียงคู่หมั้น คนอื่นยกเลิกหมั้นหมายมีออกถมไป ทำไมพอนางทำกลายเป็นเรื่องประหลาด

“เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหมลูกรัก” 

“ข้าคิดดีแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ”

“ถ้าเจ้าคิดดีแล้วพ่อก็ไม่ยุ่ง แต่เจ้าอย่าลืมเรียนเรื่องนี้กับฮองเฮา หากพระองค์ไม่อนุญาตเจ้าก็ถอนหมั้นไม่ได้ เพราะการหมั้นหมายครั้งนี้ฮองเฮาเป็นผู้จัดการ” อู่หยงหนิงแม้เขาจะเป็นบิดาของเหมยตาฮวย แต่ก่อนสิ้นใจฮูหยินของเขาได้ยกลูกสาวให้ฮองเฮาไปแล้ว เขาจึงไม่อาจไปก้าวก่ายการเลือกคู่ครองของนางได้

“ข้าจะรีบเข้าเฝ้าเสด็จป้าเพื่อกราบทูลเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ข้าขอกลับเรือนนอนเพื่อพักผ่อนก่อนได้ไหมเจ้าคะ”

ตั้งแต่ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อผ่ารถติดออกไปทำงาน นางรู้สึกว่ากลายเป็นคนขี้เกียจอย่างไรไม่รู้ พอเดินทางเหนื่อยก็อยากล้มตัวลงนอนพักร่าง

“เดี๋ยวข้าเดินเป็นเพื่อนเจ้าไปที่เรือนนอนเอง” อู่ไท่จงที่นั่งเงียบฟังอยู่นาน ขันรับอาสา เขามีเรื่องที่ต้องคุยกับน้องสาวเพียงลำพัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดอกมู่ตานขี้เซา ผ่ามิติข้ามภพมาเพื่อนิทรา   พิเศษใส่ใจ 2

    พิเศษใส่ใจ 2“ฟอด ทำอะไรอยู่” ชางเจี้ยเดินเข้ามาโอบกอดฮูหยินจากด้านหลัง หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ ยิ่งนางนี้ครรภ์เบายิ่งเสพติดกลิ่นกายของนาง แทบอยากจะขอลาออกจากหน้าที่องครักษ์มาอยู่บ้านเฝ้านาง เพราะห่างนางเมื่อไรเขาต้องเวียนหัวจนบ้านหมุน ถูกรัชทายาทล้อเลียนมาหลงฮูหยินจนแพ้ท้องแทน พระชายามาได้ยินก็ถามว่า แล้วที่จ้าวหยุ่นหลงไม่ได้แพ้ท้องแทนนางเพราะไม่ได้รักนางใช่หรือไม่ จ้าวหลุ่นหลงถึงได้เงียบปากเรื่องนี้“ข้ากำลังเตรียมเขียนสูตรยาแก้ปรสิตของสัตว์เลี้ยง พวกเห็บหมัด ไรเรื้อนต่างๆ” เหมวยตาฮวยพออาสาไปดูแลพระชายาได้เพียงเดือนเดียว ก็พบว่าตนตั้งครรภ์ โชคดีที่นางไม่แพ้ท้องเลย สามีของนางเหมาอาการทั้งหมดไปหมดแล้ว อีกทั้งตอนนี้นางก็ไม่อย่าทำงานหนัก อยากดูแลเด็กในท้องให้ได้มากที่สุด เพราะรู้ความเสี่ยงมากมานที่จะเกิดขึ้นอการแพทย์ในยุคนี้ทันสมัยที่ไหนกัน จึงทำได้แค่เขียนสูตรยาต่างๆ และคัดลอกตำราที่เขียนเอาไว้ให้แพทย์รักษา หนึ่งฉบับส่งไปที่แคว้นหยางมอบให้ไท่จื่อ ส่งนอีกฉบับมอบให้รัชทายาทแคว้นจ้าว เหมยตาฮวยเพิ่งค้นพบว่า ข่าวลือเรื่องรัชทายาทความเหี้ยมโหดของพระองค์นั้นไม่เป็นความจริง พระองค์ทำทุกอย่างเพื่อสร้

  • ดอกมู่ตานขี้เซา ผ่ามิติข้ามภพมาเพื่อนิทรา   พิเศษใส่ใจ 1

    พิเศษใส่ใจ 1ขบวนรถม้าเกือบร้อยคันขนสินเดิมของเจ้าสาวและสินสอดที่เจ้าบ่าวมอบคืนให้บุตรสาว บิดาของอู่เหมยตตาฮวยไม่เก็บเอาไว้แม้แต่ชิ้นเดียว แม้เขาจะเป็นบิดาของนาง แต่เป็นฮองเฮาที่เลี้ยงดูและอบรมนางมา ขบวนรถขององครักษ์ชาวและฮูหยินเดินทางมาถึงเมืองหลวงของแคว้นฉู่ในที่สุด ชาวเมืองออกมายืนขนาบสองข้างถนนจนแน่นขนัด อยากรู้อยากเห็นว่าองครักษ์ข้างกายของรัชทายาทผู้เหี้ยมโหดแต่งสตรีเช่นใดเข้าจวน จะโหดร้ายอย่างพระชายาของรัชทายาทหรือไม่ขบวนรถขับเคลื่อนไปถึงประตูของจวนสกุลชาง ราชครูออกมายืนรอบุตรชายและลูกสะใภ้ ในที่สุดบุตรก็คิดแต่งงานเขานึกว่าชาตินี้คงไม่มีลูกหลานสืบสกุล วันๆ บุตรชายเขาก็ตาสอารักขารัชทายาทไปทั่ว พอชาวเจี้ยส่งม้าเร็วมาว่าจะแต่งงานให้ส่งสินสอดไปขอบุตรสาวจากสกุลอู่ ราชครูแทบจะขนสมบัติขึ้นรถม้าจนเกือบหมดคลัง ก่อนไปยังสั่งให้รถม้าเร่งฝีเท้าให้ไวที่สุดอเกรงว่าเจ้าสาวจะเปลี่ยนใจ ราชครูเตรียมงานเลี้ยงรอไว้ต้อนรับอย่างดี ชะเง้อคอแล้วชะเง้อคอเล่า เมื่อไหร่ลูกสะใภ้จะมาถึงสักที บ่าวรับใช้วิ่งมาบอกว่าขบวนรถม้าของบุตรชายเขาผ่านประตูเมืองเข้ามานานแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นหัวขบวนเมื่อขบวนรถท้

  • ดอกมู่ตานขี้เซา ผ่ามิติข้ามภพมาเพื่อนิทรา   บทที่25 จบบริบูรณ์

    บทที่25 จบบริบูรณ์ ขบวนสินสอดทองหมั้นยาวจนสุดถนน กองทัพของรัชทายาทแคว้นจ้าวร่วมอารักขาปลอดภัยของขบวนสินมาตั้งแต่ออกจากแคว้น โดยจะมีการคัดเลือกทหารที่มีความสามารถและเป็นผู้ได้รับการฝึกฝนอย่างดีเพื่อให้เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในงานนี้ ด้วยความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ของขบวนสินสอดทองหมั้น ทำให้เป็นที่น่าสนใจจนชาวเมืองต่างพากันมายืนออดูเต็มสองข้างทาง งานแต่งระหว่างราชทูจากแคว้นจ้าวกับคุณหนูใหญ่สกุลอู่ ช่างแต่แตกต่างจากงานแต่งของท่านแม่ทัพจางอดีตคู่หมั้นของนางเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ก็เป็นพระราชทานสมรสเช่นเดียวกัน นอกจากในขบวนจะมีสินสอดของเจ้าบ่าวแล้ว ยังมีสินเดิมของเจ้าสาวที่ฮองเฮาขนออกมาเกทับเจ้าบ่าวอีกด้วย ขบวนจึงยิ่งอลังการเทียบเคียงงานแต่งงานเชื้อพระวงค์คนนึงเลยทีเดียว ในรอบเกือบห้าสิบปีเพื่งจะมีงานแบบนี้หลังจากงานอภิเษกของฮองเต้และฮองเฮาจ้าวหยุ่นหลงไม่ได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วยเพราะพระชายากำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ซึ่งชางเจี้ยก็เข้าใจสหายในเรื่องนี้ดี แค่เขาส่งกองทัพมาดูแลเขาก็รู้สึกดีแล้วเสียงจุดประทัดดังสนั่น เหมยตาฮวยรีบวิ่งไปดู แต่ออกไปได้ไม่ไกลก็ถูกแม่สื่อลากกลับเข้ามาในเรือน ริม

  • ดอกมู่ตานขี้เซา ผ่ามิติข้ามภพมาเพื่อนิทรา   บทที่24

    บทที่24“หาววววว” ร่างบางลุกจากที่นอนบิดขีเกียจ จนกระดูกลั้นกรั๊บ หลังจากให้ชิงชิงไปอยู่กับเม่ยเหนียงแล้ว นางก็ไม่ให้ใครมาเป็สาวใช้คนสนิทอีก ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป ส่วนตัวนางนั้นดูแลตัวเองได้ “มาแต่เช้าเลย ว่าไงเจ้าตัวเล็กวันนี้มีอะไรมาเล่า” พอพวกมันรู้ว่าเหมยตาฮวยกำลังจะแต่งงานกับราชทูตที่มาจากแคว้นจ้าว ก็พาวกันบินวนเวียนไปที่วังของไท่จื่เพื่อสืบข่าวเรื่องของว่าที่สามีของคุณหนู ‘ก็เหมือนทุกวัน ตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นมาฝึกวรยุทธ พอตกบ่ายก็คงจะเดินทางมาหาคุณที่จวน’ นกน้อยรายงาน ‘ข้าๆ ข้ามีข่าวใหม่’ นกน้อยอีกตัวร้องบอก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโอ้อวดที่ไปรู้เรื่องใหม่ๆ ที่นกตัวอื่นไม่รู้ “ข่าวใหม่” เหมยตาฮวยเอียงคอ คุณชายชางเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเป็นด้วยงั้นเหรอ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมานางเห็นเขาทำอะไรเดิมๆ ซ้ำอยู่แค่นี้ จนข้าแทบจะเดาได้ว่า ตกบ่ายวันนี้เขาต้องโผล่หน้ามาหานางที่จวน‘ไม่ใช่ข่าวจากวังไท่จื่อ แต่เป็นข่าวจากจวนท่านแม่ทัพ’ร่างบางพิงกายแนบหน้าต่าง เขี่ยถ่านในเตาแล้วยกกาน้ำชาขึ้นวาง เช้าๆ เช่นนี้ดื่มอะไร อุ่นๆ ดีกับร่างกาย นางใส่ใจกับตัวเองมากขึ้น หวังให้วิญญาณทั้งสองผสาน

  • ดอกมู่ตานขี้เซา ผ่ามิติข้ามภพมาเพื่อนิทรา   บทที่23

    บทที่23“ท่านป้ายินดีด้วย” งานสมรสพระราชทานของแม่ทัพจาง แน่นอนว่าเหมยตาฮวยย่อมต้องมาร่วมงาน เพราะเจ้าสาวอย่างไรนางก็คือญาติผู้น้องของตน อีกทั้งนางอยากมาดูป้าจางด้วยตาของตนเองว่าจะยินดีกับงานแต่งครั้งนี้มากขนาดไหน“ตามสบาย ข้าต้องดูแลแขกคนอื่นๆ ในงาน คงดูแลเจ้าได้ไม่มาก” ป้าจางยิ้มขื่นรับ สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรสะใภ้ของนางก้ไม่พ้นคนสกุลอู่ หากต้องเลือกระหว่างอู่เหมยตาฮวยกับอู่เม่ยเหนียง แม้อู่เหมยตาฮวยจะทำตัวราวกับเป็นเจ้าของจวน แต่นางก็สามารถเชิดชูวงค์ตระกูลจางให้กก้าวหน้าได้ ผิดกับเม่ยเหนียง เป็นเพียงคุณหนูสกุลอู่ บิดาก็ไม่มี อำนาจในวังหลวงก็แทบจะไร้หนทา“ไม่ต้องห่วงข้า ท่านดูแลแขกคนอื่นเถิด คนกันเอง จากนี้ไปก็ฝากญาติผู้น้องของข้าด้วย” เหมยตาฮวยหยอบกาย ก่อนจะหันไปมองเจ้าบ่าวที่ยืนต้อนรับแขก “ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ หวังว่าท่านจะมีชีวิตคู่ที่สุขสมหวัง มีบุตรให้ท่านป้าอุ้มไวๆ “นางไม่ลืมที่จะมองสตรีอีกนางหนึ่งที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกล ไม่เพียงเหมยตาฮวยที่มองสตรีนางนั้น แขกคนอื่นๆที่มาร่วมงาน พอแสดงความยินดีกับจางฮูหยินแล้ว ก็ต้องนึกส่งสารไป๋ซานกันทุกคน เป็นถึงคนรักที่รอคอท่านแม่ทัพมานาน คอยดูแ

  • ดอกมู่ตานขี้เซา ผ่ามิติข้ามภพมาเพื่อนิทรา   บทที่22

    บทที่22เรื่องวุ่นวายหน้าประตูจวน ปล่อยให้พี่ชายของนางจัดการ นางมีเรื่องที่ต้องตกลงกับคุณชายชางเพียงลำพัง เมื่อมาถึงเรือนนอนก็รีบเชิญให้เขานั่งที่โต๊ะข้างหน้าต่าง“พี่ชางเจี้ยนั่งตรงนี้ก่อน ข้าจะไปหยิบกระดาษกับชุดเครื่องเขียนหนังสือมาให้ ท่านรอครู่เดียว” ร่างหนาชุดทรุดลงนั่ง ทำตัวตามสบายราวกับว่าเรือนนอนแห่งนี้เป็นของตน จนเหมยตาฮวยอดจะนึกหมั่นไส้ไม่ได้ มือบางกวักเรียกนกน้อยสองสามตัวที่อยผู้บริเวณนั้น “ตัวเล็กมานี่หน่อย พวกเจ้าช่วยไปดูต้นทางให้ข้าที หากมีคนเข้ามาใกล้เรือนนอนของข้าให้รีบร้องบอก” ไม่ใช้งานเปล่า นางหันไปเปิดกล่องเมล็ดของต้นปอป่าน หรือในยุคปัจจุบันเรียกว่า เมล็ดแฟลกซ์ สามารถป้องกัน และต่อต้านโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคระบบย่อยอาหาร โรคความดันโลหิตสูง สัตว์ทานได้มนุษย์ทานดีมีประโยชน์ เมื่อได้รับรางวัลแล้ว นกน้อยทั้งสามก็บินไปประจำการคนล่ะทิศ เพื่อเฝ้าระวัง“นึกว่าราวสับจะเป็นเมล็ดทานตะวันหรือผลไม้เสียอีก” ชางเจี้ยมองเมล็ดพันธุ์อะไรสักอย่างในกล่อง มันเล็กมาจนแมบจะปลิวตามลมได้เลย“ท่านอย่าดูถูกพวกสัตว์ พวกมันหากินเก่งนัก เมล็ดทานตะวัน ผัก ผลไม้ พวกมันหากินของพวกนั้นได้เองอย่างง่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status