Share

บทที่ 1 ตระกูลโจว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-21 15:28:04

รัชศกหลิงไท่ปีที่ 25

"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ รอสักครู่บ่าวจะนำของว่างมาให้ท่านนะเจ้าคะ"

สายลมต้นฤดูหนาวพัดผ่านเข้ามาปะทะกับแก้มขาวผ่องของโจวหว่านหรู จนนางรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วทั้งใบหน้า กลีบดอกเหมยปลิดปลิวตามสายลมมาตกลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมของมันทำให้นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองอย่างช้า ๆ ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ปรโลกเย็นเยียบถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

โจวหว่านหรูถอนหายใจพลางยกยิ้มออกมาคราหนึ่ง นางจำได้ว่านางเผาตนเองไปพร้อมกับตำหนักบูรพา เพลิงไหม้ลุกโหมทุกอย่างจนไม่เหลือซาก รอบ ๆ ตัวนางค่อย ๆ ดำมืด ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนราวกับร่างกายจะแหลกสลายนั้นมันช่างทรมานเหลือเกิน

โจวหว่านหรูหันมองซ้ายขวาด้วยความมึนงงสับสน นางยื่นมือไปหยิบกลีบดอกเหมยขึ้นมามองดู ก่อนจะค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้นางถึงกับตื่นตระหนก

นี่มัน!!!

จวนตระกูลโจวของนางมิใช่หรือ?

โจวหว่านหรูลนลานมองไปโดยรอบอีกครา เพื่อต้องการแน่ใจว่าตนไม่ได้เลอะเลือน

ยามนี้นางกำลังนั่งอยู่ที่ศาลาริมสระบัว บนโต๊ะมีตำราการต่อสู้ที่นางชอบอ่านเป็นประจำก่อนหลังจากที่กลับมาถึงเมืองหลวง ยามนี้หิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ดอกเหมยบานสะพรั่งชูช่อท้าสายลมหนาวคล้ายกับช่วงเวลานั้น

ช่วงเวลาที่ท่านพ่อและท่านแม่เพิ่งจะพานางเดินทางกลับมาจากชายแดน!!!

ยามนั้นนางมีอายุเพียงสิบสามปี

นี่มันเรื่องใดกัน?

"คุณหนู ของว่างมาแล้วเจ้าค่ะ หิมะเริ่มตกหนักแล้ว บ่าวเตรียมร่มและเตาอุ่นมือมาให้คุณหนูด้วย อีกสักครู่เรากลับเข้าเรือนใหญ่กันเถิดเจ้าค่ะ ที่เมืองหลวงอากาศหนาวกว่าชายแดนมากนัก บ่าวเกรงว่าคุณหนูจะไม่สบายเอาได้"

โจวหว่านหรูค่อย ๆ หันไปมองสตรีน้อยตรงหน้า ก่อนที่นางจะยกมือขึ้นปิดปากตน

เย่หยวน!!!

ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาในความคิดของโจวหว่านหรู นางรู้สึกว่ารอบตัวหมุนเคว้ง รู้สึกเวียนหัวร่างกายซวนเซจนเกินจะควบคุม

"คุณหนู!!!"

เสียงเรียกของเย่หยวนทำให้นางมีสติ โจวหว่านหรูรีบเอ่ยถามเย่หยวนทันที

"เย่หยวน เจ้าไม่ได้หนีไปตามที่ข้าบอกหรือ หรือว่าเจ้าถูกกบฏฆ่าตายแล้วเดินทางมาปรโลกพร้อมกับข้า!!! เย่หยวน เจ้าตอบข้ามาสิ!!!"

เย่หยวนที่ถูกโจวหว่านหรูโผเข้ามาจับร่างตนแล้วเขย่าก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด ก่อนจะรีบเอ่ยอย่างขลาดกลัว

"คุณหนู ท่านเอ่ยวาจาใดกัน กบฏอันใดเจ้าคะ นี่คือจวนตระกูลโจวไม่ใช่ปรโลกนะเจ้าคะ เราเพิ่งจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง คุณหนูท่านเอ่ยวาจาแปลกประหลาดเช่นนี้ บ่าวกลัวแล้วนะเจ้าคะ"

เย่หยวนลนลานพลางจ้องมองโจวหว่านหรูด้วยความขลาดกลัว โจวหว่านหรูพยายามตั้งสติ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

"เดินทางกลับเมืองหลวงหรือ?"

"เจ้าค่ะ คุณหนู ท่านนอนหลับมากไปจนฝันแล้วละเจ้าค่ะ โอะ หรือว่าท่านไม่สบายเจ้าคะ"

"เย่หยวน เจ้าช่วยตบข้าที"

"คุณหนู!!"

"ตบข้า"

"บ่าวไม่กล้า"

โจวหว่านหรูที่เห็นท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นของเย่หยวนก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง นางตัดสินใจยกมือขึ้นตบหน้าตนเองอย่างเต็มแรง ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ใบหน้าทำให้นางฉุกคิดขึ้นมาได้

"คุณหนู!!!"

เย่หยวนที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก โจวหว่านหรูสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มแรง ก่อนจะครุ่นคิดด้วยความตื่นตระหนก

สวรรค์ ข้าย้อนเวลากลับมาเช่นนั้นหรือ!!

ย้อนเวลากลับมาในรัชสมัยของฮ่องเต้หลิงไท่ปีที่ยี่สิบห้า ยามนี้นางยังไม่ได้เข้าวังไปแต่งงานกับหยางจิ่ง นางยังคงเป็นเพียงสาวน้อยอายุสิบสามปีเท่านั้น

ราวกับฝันไป แต่นี่ไม่ใช่ความฝัน!!!

นี่คือความจริง!!!

โจวหว่านหรูไม่สนใจว่าอากาศจะเหน็บหนาวเพียงใด นางไม่แม้แต่จะใช้ร่มและเตาอุ่นมือเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่ากลับวิ่งฝ่าหิมะไปเช่นนั้น ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา

ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่!!! ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ ข้ากลับมาแล้ว!!!

ลูกสาวผู้โง่เขลาและน้องสาวแสนดื้อรั้นของพวกท่านกลับมาแล้ว!!!

โจวหว่านหรูวิ่งมาถึงที่เรือนใหญ่ ก่อนจะพบว่ายามนี้ท่านพ่อและพี่ชายของนางกำลังนั่งสนทนาพลางดื่มสุราด้วยกันอยู่ ส่วนท่านแม่ก็กำลังนั่งเย็บซ่อมเสื้อผ้าของท่านพ่อที่ขาดอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง ซึ่งท่านแม่ชอบนั่งเป็นประจำ

เมื่อได้ยินเสียงวิ่ง ทุกคนจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะพบกับโจวหว่านหรูที่ยามนี้บนศีรษะมีแต่หิมะเกาะเต็มไปหมด

"หวานหว่าน!!! นี่เจ้าไปแอบเล่นหิมะมาเช่นนั้นหรือ ช่างซุกซนยิ่งนัก หากไม่สบายจะทำเช่นไร เร็วเข้ารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”

โจวฮูหยินเอ่ยด้วยความตื่นตระหนก นางรีบเข้าไปหาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดตามใบหน้าของโจวหว่านหรู พร้อมกับปัดหิมะบนศีรษะของบุตรสาวออกอย่างทะนุถนอม

โจวหว่านหรูดวงตาแดงก่ำ นางโผเข้ากอดมารดาของตนพร้อมกับร้องไห้โฮ แม่ทัพใหญ่โจวผู้เป็นบิดาและโจวอวี้หานพี่ชายของนางที่เห็นเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้นมาหานางทันที

"หวานหว่าน ผู้ใดรังแกเจ้า บอกพี่มา พี่จะไปจัดการมัน"

"ฮือ!!!"

"หวานหว่าน บอกพ่อมาเร็วเข้า ผู้ใดรังแกเจ้า"

"ท่านพ่อท่านแม่ท่านพี่ ข้าฝัน ข้าฝันว่าพวกท่านตายไปหมด เหลือข้าเพียงคนเดียว ข้ากลัวมาก ข้ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ"

แม่ทัพใหญ่โจวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยื่นมือมาลูบศีรษะบุตรสาวตนด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอ่ย

"เหลวไหล ยังไม่มีผู้ใดตายเสียหน่อย เจ้านี่กินมากนอนมากจนเพ้อเจ้อแล้ว ไป ๆ รีบไปอาบน้ำเร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะพยักหน้ารับ

"เจ้าค่ะ"

"นี่น้องเล็ก หากเจ้าจัดการตนเองเสร็จแล้วก็ไปที่ห้องตำราของพี่ เราจะไปแข่งปาลูกดอกกัน"

โจวหว่านหรูจ้องมองโจวอวี้หานทั้งน้ำตา ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

นางกับโจวอวี้หานเป็นพี่น้องที่รักใคร่กันอย่างมาก เขาสอนนางทุกอย่างทั้งขี่ม้า ยิงธนู ฟันดาบ และเป็นเพื่อนเล่นกับนางได้ในยามที่นางเหงา จวนตระกูลโจวไม่ได้เคร่งครัดธรรมเนียมและกฎระเบียบระหว่างชายหญิงมากนัก อีกทั้งพวกนางก็มีกันเพียงสองคนพี่น้อง จึงรักใคร่ปรองดองกันเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนจวนอื่น ๆ ที่พี่น้องชายหญิงไม่อาจสนิทสนมกันได้มากนัก

น่าเสียดายที่ชาติที่แล้วพี่ใหญ่กลับถูกกบฏหลอกล่อไปฆ่าจนตายในสนามรบ ตระกูลโจวที่เก่งกาจในการรบกลับตายยกตระกูลในชาติที่แล้ว 

ชาตินี้นางจะไม่ยอมให้ตระกูลโจวเดินซ้ำรอยเดิมอีกแล้ว ไม่มีทาง!!!

หลังจากที่อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เรียบร้อยแล้ว โจวหว่านหรูก็มาพบกับโจวอวี้หานที่ห้องตำราตามที่นัดหมายกันเอาไว้ 

"พี่ใหญ่"

“น้องเล็ก เจ้ามาแล้วหรือ?"

"ไหนเล่า ปาลูกดอกที่ท่านว่า"

โจวอวี้หานยิ้มตาหยี ก่อนจะชี้มือไปยังด้านข้างไม่ไกลกันนัก โจวหว่านหรูมองตามมือของโจวอวี้หานไป ก่อนจะเห็นลูกดอกที่นางและพี่ชายผู้นี้ชอบเล่นด้วยกันเป็นประจำ

ขอบตาของโจวหว่านหรูเริ่มร้อนผ่าว นางจ้องมองลูกดอกเหล่านั้นอีกคราและไม่กล้ากะพริบตา ด้วยเกรงว่าหากนางกะพริบตาไปเพียงชั่วขณะ ภาพเหล่านี้จะหายไป

"น้องเล็ก"

โจวอวี้หานที่เห็นว่าน้องสาวตนดูนิ่งงันไปก็รีบเอ่ยถามด้วยความห่วงใย โจวหว่านหรูรีบปรับสีหน้าตนให้เป็นปกติ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับโจวอวี้หาน

"วันนี้พนันอันใด?"

โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ยตอบ

"หากเจ้าแพ้ต้องอ่านตำรา หากเจ้าชนะ วันนี้พี่จะให้เจ้าติดตามพี่ไปเที่ยวนอกจวนได้"

โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าก็ขรึมลงไปชั่วขณะ

นางจำได้ดีวันนี้ในชาติที่แล้ว นางกับโจวอวี้หานเล่นปาลูกดอกและพนันกัน ผลปรากฏว่านางชนะ จึงได้ชวนโจวอวี้หานออกไปเที่ยวเล่นนอกจวนโดยไม่ให้ท่านพ่อท่านแม่รู้ และวันนี้นางก็ได้พบกับหยางจิ่งที่หอสุราในเมืองหลวง

หยางจิ่งกำลังจะเดินออกมาจากโรงสุรา เขาแต่งกายคล้ายคุณชายมีฐานะทั่ว ๆ ไป นางจำเขาได้ในทันที เขาเติบโตเป็นบุรุษที่รูปงามยิ่งนัก นับตั้งแต่วันนั้นนางก็ทำทุกทางเพื่อให้เขายอมรับ ทั้งที่นางไม่มีทักษะด้านการเล่นหมาก ดีดพิณ หรือแม้แต่ร่ายรำ แต่นางกลับพยายาม นางเปลี่ยนตนเองให้เป็นสตรีที่เพียบพร้อม สงบเรียบร้อยงดงามน่ามอง หวังเพียงให้เขามองเห็นในสิ่งที่นางทำ แต่เขากลับมองนางราวกับคนไร้ค่า ไม่ควรค่าแก่การได้รับความรักจากเขา

และจุดจบในชาติที่แล้วของนางก็ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน

"น้องเล็ก เจ้าคิดสิ่งใดอยู่หรือ?"

เสียงเรียกของโจวอวี้หานทำให้โจวหว่านหรูพลันได้สติ นางหันไปยิ้มให้โจวอวี้หานคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"อากาศหนาว ข้าไม่อยากออกไปนอกจวน หากข้าชนะ ท่านพี่ต้องสอนข้าขี่ม้ายิงธนู ข้าอยากเรียนกับท่านพี่อีก

โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ค่อนข้างแปลกใจไม่น้อย น้องสาวที่แสนซุกซน วัน ๆ ชอบชวนเขาไปที่นั่นที่นี่อยู่เสมอ แต่ทว่าวันนี้นางกลับไม่อยากไปที่ใด

"น้องเล็ก เจ้าป่วยหรือ?"

"ไม่ได้ป่วยนี่เจ้าคะ"

"เจ้าป่วยแน่ ๆ ทุกคราเจ้าวุ่นวายซุกซนราวกับลูกลิง ก่อนกลับเมืองหลวงเจ้ายังบอกกับพี่อยู่เลยว่าให้พี่พาออกไปเที่ยวชมตลาดในเมืองหลวง"

โจวหว่านหรูเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ย

"ก็ข้าไม่อยากไปแล้วนี่ ถามมากจริง ไม่ดีหรือที่ข้าไม่รบเร้าท่าน ตกลงตามนี้นะ ถ้าข้าชนะ ท่านต้องทำตามสัญญา"

"อืม เช่นนั้นก็ได้"

โจวหว่านหรูยิ้มตาหยี ก่อนจะเล่นปาลูกดอกกับโจวอวี้หานอย่างมีความสุข ไม่นานนักโจวอวี้หานก็ขอตัวออกไปที่นอกจวน บอกว่านัดหมายสหายผู้หนึ่งเอาไว้ น่าเสียดายที่นางไม่ได้ติดตามไปด้วย

โจวหว่านหรูยิ้มให้พี่ชายตนคราหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับห้องนอนของตนเอง ระหว่างทางนางยื่นมือไปรองรับหิมะสีขาวบริสุทธิ์ ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ชีวิตนางชาติที่แล้วก็เปรียบเสมือนหิมะบริสุทธิ์เหล่านี้ แรกเริ่มก็งดงามขาวสะอาด พอผ่านวันเวลาที่แสนเจ็บปวด มันก็ถูกอาบย้อมด้วยหยาดน้ำตา จนสุดท้ายก็ละลายหายไปไม่เหลือแม้กระทั่งร่องรอยให้ผู้คนนึกถึง

โจวหว่านหรูจ้องมองหิมะในมือของตน ดวงตาคู่งามมีความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวฉายชัดในแววตา

ชาตินี้นางจะต้องปกป้องคนในตระกูลโจวให้อยู่รอดปลอดภัยให้ได้

นับแต่นี้นางจะไม่ขอผูกมัดและทุ่มเทเพื่อบุรุษใดให้เจ็บช้ำใจอีกแล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   ตอนพิเศษ

    ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 66

    ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 65

    โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 64

    เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 63

    ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย

  • ดั่งบุปผา ดุจจันทรา   บทที่ 62

    หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status