หลายวันมานี้ดอกไม้หลากหลายสไตล์จากร้านดังต่างๆ ถูกส่งมาให้ปวริศาทุกวัน ทำให้เป็นที่ฮือฮาพูดถึงกันอย่างมากในออฟฟิศชั้นที่สิบห้า ทุกคนมีความอยากรู้อยากเห็นหน้าตาเจ้าของดอกไม้เพราะดูทรงแล้วน่าจะเป็นสายเปย์ตัวพ่อมือหนักเสียด้วยสิ
“เป็นอะไรวิษณุหน้าตาไม่หล่ออยู่แล้วยังทำหน้างอเป็นตูดลิงอีก”
ปวีนาทักเมื่อเห็นวิษณุเอาแต่ทำหน้างอ เขี่ยข้าวในจานไปมาไม่ยอมกินสักที
“ใช่สิเรามันไม่ใช่คนหล่อ ไม่ใช่คนรวย ไม่มีเงินมาเปย์สาวใครเขาจะมามองจะมาสนใจล่ะ”
วิษณุตัดพ้อ
“คนมองอาจจะมีแต่นายไม่เห็นเองหรือเปล่าวิษณุ”
ปรียาพรพูดหน้านิ่งพร้อมตักข้าวใส่ปาก
“นี่ใบหม่อนกำลังจะบอกเราว่าหม่อนมองเราอยู่หรือ”
ปรียาพรนิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรแล้วกินข้าวไปเรื่อยๆ
“นี่ไง เห็นไหมใบหม่อนยังไม่มองเราเลยใครจะมองเราล่ะ”
ปวริศาเห็นอาการคนงอนก็ถามไปบ้าง
“เป็นอะไรคะคุณวิษณุวันนี้กับข้าวป้าติ๋มไม่อร่อยหรือคะเขี่ยเล่นอยู่นั่นแหละ เอาแต่พูดไม่ยอมกินเดี๋ยวบ่ายนี้ก็ไม่มีแรงหรอกนะ”
วิษณุทำเป็นไม่สนใจในคำพูดของปวริศา ตักเข้าปากไปหนึ่งคำแล้วก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจว่า
“ไอ้เรามันก็แค่พนักงานไอทีตัวเล็กตัวน้อย เงินเดือนก็จิ๊บจ้อยจะมีปัญญาหาอะไรไปเปย์สาวล่ะ เป็นแบบนี้ถึงจีบใครก็ไม่ติดสักที”
“นี่นายจะโอดครวญอีกนานไหม น่ารำคาญจริง”
ปวีณาพูดโพล่งมาบ้าง วิษณุก็ทำหน้างอไม่พูดไม่จานั่งกินข้าว ปวริศาทำการรวบช้อนแล้วก็นั่งมองหน้าวิษณุ
“ฟังนะทุกคนเรื่องดอกไม้เนี่ยมันไม่มีอะไรจริงๆ แป้งไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย แป้งกับคุณแพทริกอ่ะเจอกันแค่ครั้งเดียวไม่สิสองครั้งเอง ตอนที่เจอกันครั้งแรกอ่ะแป้งจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ครั้งที่สองก็มาเจอพร้อมกับใบหม่อนวันที่ไปสัมมนา แล้วทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทุกคนเห็นเขาส่งมาเองแล้วให้แป้งทำยังไง เลิกงอแงได้แล้ววิษณุ ถ้าไม่เลิกงอแง ก็แยกย้าย”
“เดี๋ยวสิแป้ง นุขอโทษ”
“อ้อ แล้วถ้าเราจะชอบใครมันก็ไม่ได้เกี่ยวว่าเขาจะเปย์เรามากแค่ไหนมันอยู่ที่ว่าถ้าเราชอบก็คือชอบ ถ้าใช่ก็คือใช่ แต่ถ้าไม่ใช่พยายามยังไงมันก็ไม่ใช่เข้าใจนะ แล้วก็เลิกทำตัวงอแงเป็นเด็กได้แล้วมันไม่น่ารักรู้ไหม”
“ไม่งอแงแล้ว แป้งอย่าโกรธนุสิ”
“ดุเป็นแม่ดุลูกเลยนะยายแป้ง สมน้ำหน้าวิษณุที่ฉันบอกให้หยุดไม่หยุดเป็นไงล่ะ โดนแม่ดุเลย ซวยแล้วไง ปกติแม่แป้งเคยดุใครที่ไหน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“วีณาอย่าทับถมเพื่อนได้เปล่าล่ะ”
“เอ.. แป้งเธอไปว่าวิษณุงอแงเป็นเด็กไม่น่ารัก ได้ข่าวมาว่าเธอก็เคยกินเด็กมาก่อนไม่ใช่หรือ”
ปรียาพรพูดแล้วอมยิ้ม ส่วนปวริศาได้ยินเช่นนั้นก็หน้าสลดหดเหลือสองนิ้ว จนปวีณาตีแขนปรียาพรไปหนึ่งที ซึ่งเพื่อนๆ ในกลุ่มก็พอจะรู้สาเหตุที่ปวริศาไม่ยอมมีใครก็เพราะน่าจะมีอดีตเรื่องความรักที่ไม่ดี ที่สำคัญคนรักเก่าของปวริศาน่าจะเด็กกว่า
“เอ่อ.. เราพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าแป้ง เงียบเชียว มีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้พวกเราฟังได้นะ”
“ไม่มีอะไรหรอก ไปกินกันเสร็จแล้ว แยกย้ายดีกว่า”
ปวริศาเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ไม่นานก็มีเสียงข้อความจากแอบพลิเคชั่นสีเขียวก็ดังขึ้น
ตึ๊ง ตึ๊ง
ปวริศามองข้อความที่เด้งขึ้นโชว์ขึ้นมา ตอนแรกก็คิดไว้ว่าจะไม่กดเข้าไปอ่าน เพราะไม่อยากสานความสัมพันธ์หรือให้ความหวังอีกฝ่าย แต่พอเห็นข้อความว่าฝั่งนั้นมีงานโปรเจคใหม่จึงตัดสินใจเปิดอ่าน
แพทริก : สวัสดีครับคุณแป้ง ผมมีโปรเจคใหม่อยากให้คุณแป้งช่วยพิจารณาคุณแป้งพอมีเวลาคุยกับผมไหมครับ
ปวริศา : ได้ค่ะ คุณแพทริกส่งข้อมูลมาทางเมล์ให้แป้งก่อนได้เลยค่ะ เดี๋ยวแป้งดูให้
แพทริก : งานนี้เป็นงานใหม่ ข้อมูลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ครับ
ปวริศา : อ้าวแล้วแบบนี้แป้งจะทำราคาให้ได้อย่างไรละคะ
แพทริก : แต่ผมสามารถเอามาอธิบายให้คุณแป้งทราบได้ก่อน วันนี้คุณแป้งพอมีเวลาบ้างไหมครับ
ปวริศา : คุณแพทริกจะมาที่ออฟฟิศแป้งหรือคะ แป้งเช็คห้องประชุมแป๊บนะคะ
ปวริศาเช็คห้องประชุมในระบบการจองออนไลน์ ก็พอว่าตารางประชุมเต็มแน่นทุกห้อง
ปวริศา : ห้องประชุมเต็มค่ะ เป็นวันพรุ่งนี้คุณแพทริกสะดวกไหมคะ
แพทริก : ถ้าอย่างนั้นเรามาคุยกันข้างนอกได้ไหมครับ ให้ผมไปรับไหมนะครับ
ปวริศา : วันนี้หรือคะ เอ่อ..
ปวริศาดูเวลาเป็นช่วงบ่ายกว่า งานในมือก็ไม่มีอะไรเร่งด่วน รีบไปคุยแล้วจะได้ขอให้เขาหยุดส่งดอกไม้ด้วย
ปวริศา : ได้ค่ะ ที่ไหนคะ กี่โมง
แพทริก : บ่ายสาม เดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นไปให้นะครับ
แพทริก : “แชร์โลเคชั่น”
ปวริศา : โอเคค่ะ
ปวริศาเคลียร์งานและเช็คอีเมล์ตรงหน้า แล้วปิดโน้ตบุ๊คเก็บของใส่กระเป๋า ปวีณาเดินไปเอาเอกสารที่เครื่องถ่ายเอกสารกลับมาเห็นเพื่อนร่วมงานเก็บของก็เข้าไปทัก
“อ้าวจะไปไหนหรือแป้ง”
“มีลูกค้าใหม่นัดบอกว่ามีโปรเจคใหม่อยากคุยด้วย”
ปวริศาเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อคนที่นัดเธอ แต่ก็ไม่อาจต้านความสงสัยของเพื่อนร่วมงานได้
“ลูกค้าใหม่ใครที่ไหนเหรอ”
“ก็คุณแพทริกน่ะ”
“คุณแพทริกหรือว้าว คืบหน้านะเนี่ย”
ปรียาพรที่นั่งอยู่โต๊ะติดกัน ได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมามองอย่างสนใจ
“จะเสียงดังทำไมวีณา ไปคุยงาน นี่เอาหลักฐานไปดู”
“ไม่ดูหรอก ไปทำงาน ก็ไปทำงานจ้ะ คุณแพทริกนี่ก็ร้ายไม่เบานะ ได้ทั้งงาน ได้ทั้งจีบสาว”
“วีณา”
ปวริศาทำเสียงดุใส่ไปหนึ่งที
“จ๋า แม่ดุเสียจริง แต่แป้งนี่เพื่อนพูดจริงนะ ฟังจากที่เธอเราคุณแพทริกเขาก็โปรไฟล์ดีนะ รับมาพิจารณาก็ไม่เลว เดี๋ยวนี้จะหาผู้ชายหน้าที่งานการดี หล่อ รวย สายเปย์หายากนะเธอ ไม่ต้องห่วงเพื่อนเชิญลงจากคานไปก่อนได้เลย เดี๋ยวฉันจะตามลงไปติดๆ นะ รอบอสเปิดใจก่อน อิอิ ส่วนยายหม่อนปล่อยให้ทึนทึกอยู่เฝ้าคานทองนิเวศน์ต่อไปแหละดีแล้ว”
“นี่วีณาทำไมต้องแวะ มาแขวะฉันด้วยละ ฉันนั่งของฉันอยู่เฉยๆ นะ”
ปรียาพรทำเสียงเข้มใส่
“นี่ฉันรักและห่วงเพื่อนนะ อยากให้เธอเปลี่ยนแปลงตัว เลิกทำตัวเชยๆ ได้แล้วจะได้มีแฟนสักที เอางี้ไหม เดี๋ยวพวกเราสนับสนุนจับยายแป้งใส่พานถวายคุณแพทริก แล้วก็จับวิษณุใส่ตะกร้าล้างน้ำส่งใบหม่อนดีไหม จะได้ไม่ต้องมีคนอกหัก แถมยังทำให้คนมีความรักเพิ่มขึ้นด้วย”
“ทำไมต้องจับวิษณุใส่ตะกร้าล้างน้ำให้ฉันด้วยล่ะ”
“เอาจริงนะ นี่ถ้าไม่ติดว่าตานุเปิดตัวจีบยายแป้งนะ ฉันว่า เธอสองคนเหมาะสมกันดีนะใบหม่อน”
“ไม่เอา ฉันไม่อยากเป็นตัวสำรองใคร”
“มีคนคุยด้วยมันดีกว่านอนเหงาอยู่คานนะหม่อน”
ปวริศาเก็บของเสร็จก็หันมาบอกเพื่อนร่วมงาน
“แป้งไปก่อนนะ เดี๋ยวแคปให้ดูว่าไปทำงานจ้ะ”
“ถ่ายเซลฟี่กับคุณลูกค้าใหม่ส่งมาให้เป็นหลักฐานด้วยนะจ๊ะ”
ปวริศาหันมาย่นจมูกแล้วชี้นิ้วคาดโทษเพื่อนสาวก่อนที่จะเดินลงลิฟต์ไป และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับเจฟฟ์ที่เดินออกจากห้องมา เขามองตามคนตัวเล็กที่เดินสะพายกระเป๋าออกไป
“อ้าว คุณปวริศาเขาไปไหนหรือครับ”
“อ๋อ.. แป้งออกไปพบลูกค้าค่ะบอส” ปวีณาตอบ แล้วปรียาพรก็พูดต่อ“ไปหาคุณแพทริกค่ะ”
“คนที่ส่งดอกไม้มาให้งั้นหรือ”
เจฟฟ์ได้ยินชื่อ “แพทริก” ก็ทำหน้านิ่ง แล้วจ้องมองไปทางลิฟต์แม้ว่าเธอคนนั้นจะลงลิฟต์ไปแล้ว
“คือคุณแพทริกเขาบอกแป้งว่ามีโปรเจคใหม่ อยากให้บริษัทเราดูค่ะ แต่ยังส่งเมล์ไม่ได้เป็นความลับ ตอนแรกเขาจะเข้ามาประชุมที่นี่แต่ห้องประชุมแน่นทุกห้องค่ะ เลยนัดให้ออกไปข้างนอกค่ะ นี่ค่ะ”
ปวีณาเปิดรูปที่แป้งแคปส่งมาให้ดู เจฟฟ์ไล่อ่านแล้วก็ไปหยุดกับชื่อสถานที่ แล้วก็พยักหน้ารับ พรางคิดในใจ
‘นี่นายจะไม่หยุดใช่ไหม ลูกไม้ตื้นๆ อีกแล้ว’
ทางด้านแพทริกหลังจากคุยแชทกับปวริศาจบ เขาใช้มือเคาะโต๊ะเบาๆ ยิ้มที่มุมปาก
“อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องได้ ไม่มีครั้งไหนที่ฉันไม่เคยได้ หึหึ”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์