หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร
“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”
เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ
“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”
“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”
เจฟฟ์ก้มหน้า
“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”
“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”
“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”
“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย”
เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์เดนค่อยมาวันหลังดีกว่า วันนี้ยายแป้งน่าจะกลับค่ำ”
“พี่แป้งไปข้างนอกกลับค่ำแบบนี้บ่อยหรือครับ”“นั่นไง ยังไม่ทันไร ก็เริ่มระแวงอีกแล้ว”
ปิ่นมณียิ้มพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ เจฟฟ์ยิ้มออกด้วยเก้อเขิน
“คือผมไม่ได้ระแวงนะครับคุณน้า แต่ผมกลัว ผมกลัวว่าจากเหตุการณ์นี้พี่แป้งจะไม่ยกโทษให้ผม พี่แป้งจะทิ้งผม”
“มันก็อาจจะเป็นช่วงที่โดนเอาคืนก็ได้นะ แค่นี้ก็จะท้อจะถอยแล้วหรือ”
“ไม่ครับ ผมไม่ถอยแน่นอน ผมจะพยายามตามง้อพี่แป้งให้ได้”
“งั้นเดี๋ยวรอน้าแป๊บนึง เมื่อเช้ายายแป้งเขาทดลองอบคุกกี้สูตรใหม่เขาบอกว่าเตรียมหาอาชีพเสริมไว้รองรับตอนตกงาน”
“ผมให้พี่แป้งแค่พักร้อน ไม่ได้ให้ออกเสียหน่อย แต่ก็มีคนโมโหเขียนใบลาออกมาเฉยเลย”
“เดี๋ยวน้ามานะ”
ปิ่นมณีเดินไปเอาถุงกระดาษในห้องแล้วหายไปในครัวแล้วเดินยิ้มออกมา
“อ่ะ .. เจย์เดนลองเอาไปชิมดู ให้ไปถึงห้องก่อนนะ แล้วค่อยแกะชิมจะได้มีเวลาค่อยๆลิ้มรสครั้งต่อไปตอนคุยกับยายแป้งจะได้บอกถูก เอ๊ะ.. เขาเรียกว่าอะไรนะ นึกออกแล้ว จะได้รีวิวให้ยายแป้งฟังได้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร นี่น้าช่วยเต็มที่แล้วนะ ถ้ายายแป้งรู้มีหวังงอนน้าแน่ๆ เลย”
“ขอบคุณครับคุณน้า”
ปิ่นมณียื่นถุงกระดาษที่บรรจุกล่องคุกกี้ไปให้แล้วคว้าตัวเจย์เดนมากอดพร้อมกับลูบหลังด้วยความอบอุ่น เจฟฟ์ไหว้ร่ำลากับหญิงวัยกลางคนอนาคตที่จะมาเป็นคนในครอบครัวของเขาอีกคน
ปิ่นมณีมองชายหนุ่มถือถุงกระดาษเดินออกไปแล้วพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า
“แม่ก็ช่วยเต็มที่แล้วนะ หวังว่าทั้งคู่จะเข้าใจกันเสียที”
เจฟฟ์หลังจากขับรถออกจากบ้านปวริศา เขาก็มุ่งตรงกลับคอนโด เขาเอาไอแพดขึ้นมาดูงาน เคลียร์อีเมลทำงานไปเรื่อยๆ จนค่ำ ก็เริ่มรู้สึกหิวแต่ก็ไม่อยากออกไปข้างนอก เขาจึงเดินไปโซนห้องครัวเพื่อที่จะทำอะไรง่ายๆ กิน แล้วเขาก็เห็นถุงกระดาษที่ใส่กระปุกคุกกี้ตั้งอยู่ เขาเดินไปเปิดตู้เย็นเทนมใส่แก้วแล้วมาหยิบกระปุกคุกกี้ออกจากถุง แล้วเขาก็เห็นเหมือนมีสมุดอะไรบางอย่างวางอยู่ที่ก้นถุง เขาจึงหยิบมันขึ้นมาดู
“นี่คืออะไร.. ไดอารี่ของพี่แป้งหรือ มาอยู่ในนี้ได้อย่างไรนะ”
เจฟฟ์มานั่งที่โชฟาดื่มนมกับเปิดกระปุกหยิบคุกกี้ชิ้นพอดีคำขึ้นมากิน แค่เปิดกระปุกกลิ่นหอมก็วิ่งมาแตะที่จมูกแล้ว เขากินไปยิ้มไปนึกถึงหน้าคนทำก็ยิ้มกว้างไปอีก แล้วเขาก็เริ่มเปิดไดอารี่เล่มเก่าที่ตอนนี้เนื้อกระดาษค่อนข้างจะเหลืองตามขอบ รายมือเขียนตัวอักษรน่ารักบางหน้ามีตกแต่งด้วยปากกาหลากสี บางหน้ามีตกแต่งด้วยการวาดตัวการ์ตูน เขาเปิดอ่านไปทีละหน้าด้วยความเพลิดเพลิน บางตอนที่ปวริศาเขียนถึงเขาเจฟฟ์ก็จะยิ้มกว้างออกมา
“นี่พี่แป้งก็แอบชอบเราด้วยหรือนี่”
“เคสที่สนามบอลกับพี่หวานตอนนั้น นั่นพี่แป้งหึงเหรอ มิน่าละงอนได้น่ารักเชียว”
เจฟฟ์อ่านไปยิ้มไปแล้วเขาก็ตรงมาหยุดนิ่งเมื่อถึงหน้าที่ปวริศาเขียนบันทึกถึงเขาช่วงที่เขาไปอเมริกา
‘คิดถึง พี่แป้งคิดถึงเจย์เดนจัง ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเลย วันนี้พี่แอบร้องไห้ด้วยนะหลังจากที่คอลคุยกับเจย์เดนแล้ว เพราะครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกัน พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้บอกลาเจย์เดน’
“คืออะไรกันพี่แป้ง”
เจฟฟ์พูดกับตัวเองแล้วก็อ่านต่อ
‘น้าเดือนพูดถูกว่า เจย์เดนกำลังจะไปมีอนาคตที่ดี สังคมใหม่ที่ดี ถ้าพี่ยังคบยังคุยกับเจย์เดนอยู่นั่นก็เท่ากับพี่ไปขวางทางอนาคตที่สดใสของเจย์เดน แต่พี่ก็อยากจะยื้อเวลาไว้สักวันก็ยังดี ให้พี่ได้เห็นหน้าได้พูดคุยกับคนที่พี่รักสุดหัวใจ ทำไมโลกใบนี้ใจร้ายกับพี่จัง พี่รู้ว่าสิ่งที่น้าเดือนพยายามจะบอกพี่กับแม่คือ พี่ไม่คู่ควรไม่เหมาะสมกับเจย์เดน ถึงไม่ได้พูดตรงๆ แต่พี่ก็เข้าใจ และได้แต่หวังว่าถ้าเราเป็นคู่กันจริง เราคงได้มาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอีก รักเจย์เดนที่สุด พี่แป้ง’
สีหน้าและแววตาของเจฟฟ์เปลี่ยนไป ใบหน้านิ่ง ขบกรามเบาๆ ดวงตาฉายแววตาที่โกรธและขุ่นเคือง
“ทั้งหมดเป็นเพราะแม่งั้นหรือ”
‘คิดถึงจังไม่ได้คุยกันมา 8 วันแล้ว มันเป็น 8 วันที่แสนทรมานมากเลยรู้ไหม เจย์เดนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ คิดถึงพี่หรือเปล่า จะโกรธพี่ไหม แต่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอนาคตของเจย์เดนนะ น้าเดือนบอกว่าอยากให้เจย์เดนโฟกัสเรื่องการเรียน ถ้าไม่ได้คุยกับพี่เจย์เดนก็น่าจะมีเวลาทุ่มเทกับการเรียนมากขึ้น ตั้งใจเรียนนะคะคนเก่งของพี่ พี่ยังรักและจะรอเจย์เดนอยู่ตรงนี้นะคะ ถ้าฟ้าเป็นใจสักวันเราต้องได้เจอกัน’
“พี่แป้งผมขอโทษที่ผมเข้าใจพี่ผิดมาตลอด จากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่มีวันปล่อยมือพี่แน่นอน”
เจฟฟ์กดวิดีโอคอลไปที่อเมริกาซึ่งที่โน่นคงเป็นเวลาเช้ามืด แต่เขาร้อนใจอยากจะเคลียร์ทุกสิ่งอย่างให้จบ
“เจฟฟ์ลูก..วันนี้คอลหาแม่แต่เช้า เอ.. วันนี้ลูกไม่มีปาร์ตี้ที่ไหนหรือจ๊ะ”
“ไม่มีครับ แล้วแด๊ดกับคุณย่าละครับทำอะไรอยู่”
“พ่อของลูกออกไปเดินดูต้นไม้หน้าบ้านอ่ะ คุณย่าก็มาพอดีเลย”
หญิงสูงวัยสัญชาติอเมริกา หน้าตาใจดี ผมหยักศกสีขาว เดินด้วยท่วงทีที่คล่องแคล่วแข็งแรงเข้ามาโบกมือทักทาย
“ไฮ..เจฟฟ์หลานรักของย่า เป็นอย่างไรบ้าง ย่าคิดถึงจังเลย”
“สวัสดีครับคุณย่า ผมก็คิดถึงคุณย่านะครับ”
“เห็นไหมลูกคุณย่าก็คิดถึงกลับมาย่ากับแม่นะ เดี๋ยวแม่เคลียร์เรื่องตั๋วให้”
ผู้เป็นแม่เห็นจังหวะดี ก็เลยจะใช้จังหวะนี้ที่จะล็อบบี้ให้ลูกชายตนตอบรับและกลับมาที่อเมริกา เพราะเธอรู้ดีกว่า ลูกชายของเธอรักและเกรงใจย่ามาก“แม่ครับผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะครับเรื่องนี้”
“นี่เดือนถ้าเราคิดถึงเจฟฟ์ก็ไม่เห็นต้องให้หลานกลับมาหาเราเลย เราก็บินไปหาหลานเองสิ”
เดือนหรือแม่ของเจฟฟ์ทำหน้าเลิ่กลั่ก เมื่อคุณย่าไม่เข้าทางเธอ เธอควรจะหว่านล้อมอย่างไรดี แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร เจ้าลูกชายของเธอก็ชิงพูดเสียก่อน
“ใช่ครับ ถ้าแม่กับย่าคิดถึงเจฟฟ์ก็บินมาหาเจฟฟ์ที่เมืองไทยนะครับ เดี๋ยวเจฟฟ์พาเที่ยว พากินอาหารไทยอร่อยๆ”
“จริงด้วย ย่านะ ไม่ได้ไปเมืองไทยนานมากแล้ว เดี๋ยววางแผนไปหาหลานดีกว่า นะแม่เดือน”เจฟฟ์ยิ้มเมื่อคุณย่าคล้อยตามเขา แล้วเขาก็อยากจะเคลียร์กับคุณย่าให้รู้เรื่องไปเลย คนเป็นแม่จะได้ไม่มายุ่มย่ามจับคู่ให้เขาอีก
“ถ้าคุณย่ามาเมืองไทย ผมจะแนะนำหลานสะใภ้ให้คุณย่ารู้จักนะครับ”
“เจฟฟ์ นี่หลานไปเมืองไทยแค่ไม่มีเดือน หลานมีแฟนแล้วหรือ ใครกันนะเป็นผู้โชคดีคนนั้น”
“คนที่ผมเคยเล่าให้ย่าฟังนะครับ”
“อ๋อ.. หนูคนนั้นหรือ ที่บอกว่าเคยอยู่บ้านติดกัน ไหนเจฟฟ์บอกว่าเขาทิ้งเจฟฟ์ไปไงล่ะ”“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับคุณย่า เพราะมีใครบางคนอยากให้เราแยกกัน แต่เราสองคนรักกันนะครับคุณย่า ผมขออนุญาตคุณย่านะครับ เรื่องแฟนคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตผม ผมขอเลือกเองนะครับ สำหรับผู้หญิงคนนี้ผมรักของผมมาตั้งแต่ผมจำความได้ จะให้ผมลืมง่ายๆ คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ หวังว่าคุณแม่คงเข้าใจผมและไม่บังคับผมนะครับ เรื่องที่ผ่านมาผมจะไม่รื้อฟื้น แต่จากนี้ไปขอให้ผมเลือกและตัดสินใจเอง”
ผู้เป็นแม่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วคนเป็นย่าก็หันมาคุยด้วย
“เจฟฟ์เนี่ยได้เลือดพ่อมาเยอะจริง เดือน.. แม่ก็ไม่อยากให้ประวัติมันซ้ำรอยอีก ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เขาโตแล้ว อย่าไปกำหนดชีวิตลูกเลย ให้เขาเลือกทางเดินของเขาเองดีกว่า”
“เอ่อ.. แต่ว่า”
คนเป็นแม่ยังพยายามจะหาเหตุผลมาคัดค้านแต่ก็ถูกคนเป็นย่าตัดบทเสียก่อน
“เดือนพวกเราก็แก่ตัวกันแล้วจะอยู่กันได้อีกกี่ปีก็ไม่รู้ อย่าไปกำหนดชีวิตลูกเลยปล่อยให้เขาเลือกทางเดินของเขาเอาตามนี้นั่นแหละ”
เจฟฟ์ยิ้มกว้างออกมา
“ขอบคุณครับคุณย่า”
“เอาเป็นว่า ย่าตามใจเจฟฟ์ เดี๋ยวย่าจะบินไปดูหน้าหลานสะใภ้ด้วยตัวเอง ส่วนแม่ของหลานจะไปหรือไม่ไปก็เรื่องของเขา โอ๊ย..ย่าตื่นเต้น ย่าต้องไปเตรียมหาของไปรับหลานสะใภ้แล้ว”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์