Share

สามสิบตำลึง!

last update Last Updated: 2025-08-31 11:53:22

"เมื่อก่อนข้ายังโง่งมหลงเชื่อคำพูดของพวกเขา ในบ้านมีอะไรข้าก็เอาไปให้พวกเขาหมด แต่พวกเขาก็ไม่ได้มองข้ากับลูก ๆ เป็นคน ตอนนี้ข้าคิดได้แล้วว่าข้าแต่งออกจากบ้านหวังแล้ว ถึงตายตอนนี้ข้าก็เป็นคนของบ้านหลี่! ชีวิตที่เหลือข้าจะทำเพื่อลูกหลานของข้าเท่านั้น"

"..."

"ส่วนสิ่งที่พวกเขาทำวันนี้คือการปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทำร้ายร่างกายของลูกสาวข้าจนสลบไป ทำร้ายลูกสะใภ้ที่ท้องแก่ของข้าจนตกเลือด ไม่รู้ว่าจะรักษาชีวิตของแม่ลูกไว้ได้หรือไม่ ข้าจะขอแจ้งความกับทางการเจ้าค่ะ!"

พอคนบ้านหวังได้ยินอย่างนั้นก็หน้าซีดเผือด แม่เฒ่าหวังจึงรีบพูดขึ้นว่า...

"ลูกไม่สามารถแจ้งเอาผิดกับบุพการีได้!"

เมื่อพ่อเฒ่าหลี่ได้ยินแบบนั้นจึงพูดขึ้นว่า...

"เช่นนั้นข้าจะแจ้งเอง! บ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินของลูกชายข้า พวกนางที่ถูกทำร้ายก็เป็นหลานข้า! ไปกันอาเฉียง! ไปเรียกชาวบ้านมาจับตัวคนบ้านหวังไปส่งทางการ! วันนี้ข้าจะแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น!"

หลี่เฉียงจึงรีบรับคำ

"ขอรับท่านพ่อ!"

พ่อเฒ่าหวังกับคนบ้านหวังได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดเผือด

"ช้าก่อน! พวกเราคุยกันก่อนดีหรือไม่! มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด! อาเหมย ลู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   จบบริบูรณ์

    การสูญเสียที่ไม่อาจยอมรับได้ทำให้หลี่เหมยเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลงด้วยอาการตรอมใจ แต่ในห้วงเวลาสุดท้ายของการจากไป จิตใจของเธอกลับสงบและเต็มไปด้วยความรักที่บริสุทธิ์ การยอมสละทุกสิ่งในชีวิตเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า ทำให้เธอได้สร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ที่ได้กลายเป็นสะพานเชื่อมให้เธอกลับไปสู่จุดจุดเดิมที่ห้วงคะนึงโหยหาอีกครั้งประตูสู่โลกใบเก่าในห้วงเวลาที่ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะสิ้นสุดลง วิญญาณของหลี่เหมยพลันหลุดลอยออกมาจากร่างที่ผ่ายผอม เธอพบว่าตัวเองยืนอยู่ในสถานที่อันว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยหมอกควันสีขาวเย็นยะเยือก รอบกายไม่มีสิ่งใด นอกจากความเงียบงันและอุณหภูมิที่หนาวเหน็บ ทันใดนั้นเอง เสียงลึกลับที่เคยพาเธอมายังโลกแห่งนิยายในครั้งแรก ก็ดังขึ้นอีกครั้ง"หลี่เหมย... เจ้าได้สร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ด้วยการสละทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าได้นับร้อยชีวิต ความดีงามของเจ้าได้กลายเป็นแสงสว่างนำทางให้แก่ดวงวิญญาณของเจ้า และด้วยความรักที่บริสุทธิ์ที่เจ้ามีต่อครอบครัว บุญกุศลนี้จึงได้ตอบแทนเจ้า"หลี่เหมยเงียบฟังอย่างตั้งใจ หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวังที่ริบหรี่"เราจะให้โอกาสเจ้าอี

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   ความคิดถึง

    เสียงเครื่องวัดชีพจรในห้องคนป่วยดัง "ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด…" เนิ่นนานกว่าหนึ่งปีเต็ม ที่ร่างของหลี่เหมยนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแห่งนี้ สีหน้าของเธอนั้นสงบราวกับคนที่หลับใหลไปในห้วงนิทราอันยาวนานข้างกายของหลี่เหมย มีเพียงป้าหลัว หญิงวัยกลางคนที่จงรักภักดี คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดไม่เคยห่างกาย ถึงจะมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลเรื่องต่าง ๆ แต่ป้าหลัวก็จะคอยพูดคุยกับร่างที่ไร้การตอบสนองนั้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง ราวกับเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเจ้านายของตนจะกลับมากระทั่งเช้าวันหนึ่ง แสงตะวันสีทองอ่อน ๆ สาดส่องลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ เข้ามาในห้อง ดวงตาที่ปิดสนิทของหลี่เหมยค่อย ๆ กะพริบขึ้นอย่างเชื่องช้า นิ้วมือเรียวเล็กขยับสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับกำลังไขว่คว้าจับต้องบางสิ่ง ป้าหลัวที่นั่งหลับอยู่ข้างเตียงสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความยินดี ก่อนจะรีบคว้ามือของเจ้านายเอาไว้แน่น"คุณหลี่! คุณหลี่ฟื้นแล้วหรือคะ!" เสียงของป้าหลัวสั่นเครือด้วยความตื้นตันใจและดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ทันทีที่ได้รับแจ้งผ่านสัญญาณ พยาบาลและแพทย์ก็รีบเข้ามาตรวจ

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   คำอำลา

    เสียงสะอื้นแผ่วเบาของเด็ก ๆ ทั้งสามดังลอดออกมาจากเรือนนอนที่เงียบสงัด ราวกับสายลมเศร้าที่กำลังร่ำร้องปลุกปลอบวิญญาณของผู้เป็นย่าให้ตื่นขึ้นมา ทว่า...ความเงียบวังเวงกลับเป็นสิ่งเดียวที่โอบล้อมอยู่เซียวติ้งเซิงก้าวเข้ามาด้วยฝีเท้าหนักอึ้ง ใจที่เคยแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผากำลังแหลกสลายอย่างไม่อาจต้าน ดวงตาคมของเขาเบิกกว้าง ก่อนจะพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตาเมื่อเห็นภาพตรงหน้าหลี่เหมยนอนนิ่งบนเตียง ผิวซีดขาวเย็นชืดประหนึ่งหยกที่ไร้ชีวิตชีวา มีร่างเล็กจ้อยของซางหนิงอิงซบอยู่กลางอก มือเล็ก ๆ ตบเบา ๆ ราวกับจะปลุกให้ท่านย่าลืมตา ซางจื้อคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กอบกุมมือที่เย็นเฉียบไว้แน่น ดวงตาบวมช้ำด้วยน้ำตา ซางหยวนนอนข้างน้องสาวสะอื้นจนตัวสั่นไม่ยอมห่างไปไหน"ท่านย่า...ตื่นเถอะขอรับ...อาจื้ออยู่ตรงนี้แล้ว...ได้โปรดอย่าทิ้งพวกเราไป...""ต้านย่า...ต้านย่ากลับมาก่อน...ฮึก...อย่าไปนะ..."หัวใจของเซียวติ้งเซิงแทบแตกสลาย เขาก้าวเข้าไปอย่างโซซัดโซเซ ก่อนทรุดนั่งลงข้างเตียง มือใหญ่สั่นเทาขณะประคองร่างบอบบางของหลี่เหมยขึ้นมากอดแนบอก ความเย็นชืดนั้นแทงทะลุเข้าถึงกระดูก"อาเหมย...เหตุใดเจ้าจึงจากไปเช่นนี้ ข้าตั้งใ

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   ท่านย่าไม่รักหยวนหยวนแล้วหรือขอรับ!

    ยามเย็นของวันนั้น แสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลาลับทิวเขา สาดทาบเป็นสีทองเรื่อไปทั่วทุ่งนา เสียงจิ้งหรีดเริ่มขับขานทำนองแห่งรัตติกาล กลิ่นหอมจากครัวเล็ก ๆ ของจวนสกุลหลี่ก็ลอยอบอวลไปทั่วทุกห้องบนโต๊ะไม้เรียบง่ายกลางเรือน มีอาหารเรียงรายครบครัน ทั้ง ปลาช่อนทอดสามรส ผัดหน่อไม้ น้ำแกงรากบัวตุ๋นกระดูกหมู กลิ่นหอมอบอวล ชวนให้น้ำลายสอ ทั้งหมดนั้นคืออาหารที่ครั้งหนึ่งหลี่เหมยเคยทำให้ลูก ๆ ลิ้มรส และบัดนี้ถูกถ่ายทอดไปสู่มือหลี่หลินกับเสี่ยวม่าย ที่ตั้งใจปรุงรสราวกับได้รำลึกความหลัง นางทอดสายตามองอาหารตรงหน้าแล้วหัวใจสั่นสะท้าน เหมือนทุกอย่างย้อนคืนกลับสู่วันเก่า ช่วงเวลาแรกที่นางเข้ามาอยู่ในร่างนี้"โอ้โห กับข้าวพวกนี้ทำให้ลูกคิดถึงบ้านหลังเก่าของเรานะขอรับท่านแม่ ลูกยังจำวันที่เราไปสับหน่อไผ่แล้วก็จับงูมาขายได้ขึ้นใจเลย" หลี่ซุนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาหารตรงหน้า"จริงด้วย วันที่พวกเราขึ้นเขาไปเก็บรากบัว ไปจับปลาช่อนตัวใหญ่ ก็เหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นาน แม้กระทั่งวันที่พวกเราวิ่งหนีเสือครั้งนั้นลูกก็ยังจำได้ขึ้นใจ" หลี่ซานเอ่ยขึ้นบ้างเมื่อนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ"แม่ก็คิดถึง ช่วงเวลานั้นแม่มีความสุขมากเลยนะ"ห

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   ลูกจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง

    หลายเดือนต่อมา หลังจากที่หลี่เหมยและครอบครัวได้ตั้งรกรากในเมืองเทียนฉางอย่างมั่นคง นางก็เริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างจริงจังตั้งแต่แรกนางหมายใจว่าจะซื้อบ้านที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เมื่อดูอยู่หลายแห่งก็ยังไม่ถูกใจ บ้างก็แคบเกินไป บ้างก็ทรุดโทรมเสียจนต้องซ่อมใหม่หมดสิ้น ใช้เงินมากกว่าที่นางตั้งใจไว้เสียอีกพอฮูหยินผู้เฒ่าเซียวรู้จึงได้บอกให้นางมาดูจวนที่อยู่ติดกัน จวนนี้มีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน จวนประเภทนี้สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมและความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ โดยมีรูปแบบจตุรนิเวศ ซึ่งเป็นการสร้างอาคารสี่หลังล้อมรอบลานกว้างไว้ตรงกลาง จวนประเภทนี้เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองรอง ไม่ใช่เมืองหลวง ราคาจึงอยู่ที่ 2000 ตำลึง เท่าที่หลี่เหมยหาข้อมูลมา ทว่าจวนหลังนี้นางกลับซื้อได้เพียง 1000 ตำลึงเท่านั้น ช่างโชคดียิ่งนักแต่สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือเซียวติ้งเซิงคือผู้อยู่เบื้องหลัง หลายเดือนมานี้เขาไม่ยอมไปทำการค้าต่างแคว้นนาน ๆ เหมือนเคย ไปก็เพียงใกล้ ๆ 1 สัปดาห์ก็รีบกลับมา แถมยังชอบหาของฝากมาให้ลูกหลานของนางอยู่ตลอดบ

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   จุดจบของสกุลหวัง

    ณ ตรอกเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเต้าหู้สกุลหลี่ บรรยากาศอับชื้นและเย็นยะเยือก หวังเฟยฮวา สตรีผู้ซึ่งมีใบหน้าเต็มไปด้วยความริษยา พูดคุยอย่างออกรสกับญาติผู้น้อง ที่นางจ้างมาเพื่อแสดงละคร "พวกเจ้าสองคนต้องแสดงให้แนบเนียน อย่าให้พวกมันจับพิรุธได้รู้หรือไม่""ข้ารู้แล้วน่าพี่หญิง ว่าแต่ถ้าข้าทำสำเร็จ เมื่อได้เงินมาแล้ว 100 ตำลึงต้องเป็นของข้าตามที่ตกลงกันไว้นะ" เจิ้งฉือญาติห่าง ๆ ของนางกล่าวย้ำชัดถึงข้อตกลงอีกครั้ง"ข้ารู้แล้ว หากทำสำเร็จ เงินก็อยู่ในมือพวกเจ้ามิใช่หรือ พวกเจ้าก็หักไว้เลย 100 ตำลึง ส่วนที่เหลือค่อยเอามาให้ข้า ขอเพียงได้มาจ่ายหนี้พนันให้อาจงก็พอ เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่ากันอีกทีหลังจากนี้"หวังเฟยฮวาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ พูดจบสองสามีภรรยา เจิ้งฉือและเจิ้งหว่านหรู ก็เริ่มการแสดงที่ซักซ้อมกันมาอย่างดี เจิ้งฉือล้มตัวลงนอนในเปลหาม ส่วนเจิ้งหว่านหรูก็รีบเอาผ้าคลุมสีขาวปิดหน้าสามีเอาไว้ แล้วสั่งให้ลูกชายทั้งสองของพวกเขาหามผู้เป็นพ่อเดินตรงไปที่หน้าร้านเต้าหู้สกุลหลี่"ช่วยด้วย...ช่วยด้วยเจ้าค่ะ" เจิ้งหว่านหรูร้องห่มร้องไห้ "...""มาดูความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status