 Masuk
Masukหลินเข่อซิงเดินตามอวิ๋นเฟยหลงมาจนถึงศาลาริมน้ำอันเงียบสงบภายในจวน เมื่ออวิ๋นเฟยหลงหยุดเดิน เธอก็หันไปมองเขาอย่างสงสัย "ตกลงท่านมีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ?"
อวิ๋นเฟยหลงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ข้าต้องการให้เจ้าปรุงยาสมุนไพรให้ข้าอีก" ห๊ะ!? อะไรนะ เธอเบิกตากว้าง "เอ่อ…คือว่า ตำรับยานั้น…” หญิงสาวถึงกับพูดติด ๆ ขัด ๆ ขึ้นมาทันที "ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ว่ากำลังทำอะไร" โอ๊ย! นายกำลังเข้าใจผิดอย่างแรงเลยนะ! ฉันไม่ใช่หมอยาจริง ๆ สักหน่อย! "หรือเจ้าจะบอกว่าตำรับยาของตระกูลเจ้ามีแค่ถ้วยเดียว?" "...!!!" หลินเข่อซิงสะอึก โอ๊ย! นี่ฉันเผลอขุดหลุมฝังตัวเองอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย!? คำพูดของอวิ๋นเฟยหลงยังคงดังก้องอยู่ในหัวของหลินเข่อซิง เธอกะพริบตาปริบ ๆ มองชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตาคมของเขาจ้องเธออย่างเงียบขรึม ราวกับจะท้าทายให้เธอปฏิเสธ โอ๊ย! ฉันเผลอโม้ไว้ว่ามันเป็น ‘สูตรลับของตระกูล’ ไปแล้วนี่นา จะถอยกลับตอนนี้ก็ไม่ได้แล้วสิ! เธอสูดหายใจลึก ๆ พยายามเรียกสติกลับมา "เอ่อ... แน่นอนว่ามีมากกว่านั้นเจ้าค่ะ" เธอแสร้งยิ้มบาง ๆ "แต่ตำรับยาของตระกูลข้าใช้วัตถุดิบหายากมากซึ่งครั้งล่าสุดที่ทำให้ท่านไปคือชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่..." ถ่วงเวลาไว้ก่อนดีกว่า! เผื่อจะหาทางออกได้! อวิ๋นเฟยหลงพยักหน้าเล็กน้อย "เช่นนั้นเจ้าก็แค่บอกข้าว่าต้องใช้สมุนไพรอะไร ข้าจะให้คนไปหามาให้" เธอหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะเหลือบมองหลิงเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ สาวใช้ตัวน้อยก็รีบกระซิบแผ่วเบา "คุณหนู พูดไปแล้วต้องไปต่อให้จบนะเจ้าคะ!" โธ่! ข้ารู้แล้วน่า! เธอหันกลับไปหาอวิ๋นเฟยหลง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง "ข้าต้องการ ไป๋เหอเซิน และ หลงจู๋ เจ้าค่ะ!" ‘แน่นอนว่าทั้งสองอย่างนี้ฉันแต่งขึ้นมาเองล้วน ๆ!’ อวิ๋นเฟยหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย "ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เหมือนครั้งที่แล้วเจ้าไม่ได้พูดชื่อพวกนี้นี่" ก็แหงล่ะ! เพราะเธอด้นสด คิดขึ้นมาเมื่อตะกี้นี้เอง และมันไม่มีอยู่จริง! "มันเป็นสมุนไพรลับของตระกูลข้าเจ้าค่ะ ท่านจะรู้ดีกว่าข้าได้อย่างไร" เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาจ้องเธอเงียบ ๆ ราวกับกำลังชั่งใจ "เช่นนั้นข้าจะให้คนไปหาให้" เขาตอบเรียบ ๆ ‘เฮ้ย! นี่นายจริงจังถึงขั้นจะส่งคนไปตามหาของที่ไม่มีอยู่จริงเลยเหรอ!?’ หลังจากที่เธอรอดตัวจากสถานการณ์คับขันมาได้ (ชั่วคราว) หลินเข่อซิงก็เดินออกจากศาลาพร้อมกับหลิงเฉิน โดยทิ้งอวิ๋นเฟยหลงไว้เบื้องหลัง แต่เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง...สายตาของอวิ๋นเฟยหลงยังคงมองตามเธออยู่! เธอเหลือบหางตามองเล็กน้อย และพบว่าชายหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่เดิม สายตาเรียบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความครุ่นคิด "คุณหนู..." หลิงเฉินกระซิบเบา ๆ ขณะเดินเคียงข้างเธอ "ท่านอวิ๋นดูสนใจท่านมาก ๆ เลยนะเจ้าคะ" "สนใจแบบจับผิดน่ะสิ!" เธอพึมพำ พลางยกมือขึ้นกุมขมับ "แล้วแบบนี้ฉันควรทำยังไงต่อดีเนี่ย?” เธอเพิ่งทะลุมิติมาได้ไม่นาน แต่ดันโดนพระเอกจับตามอง นางร้ายประกาศสงคราม และที่แย่ที่สุดคือ... เธอเป็นหมอยาปลอม ๆ ที่ถูกบังคับให้ปรุงยาที่ไม่มีอยู่จริง! ชีวิตฉันจะรอดไปได้อีกกี่วันกันนะ? หลินเข่อซิงหันไปมองหลิงเฉินที่เดินอยู่ข้าง ๆ "หลิงเฉิน ข้าควรทำยังไงต่อดี?" สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ยิ้มแหย ๆ "เอ่อ... บางทีท่านอาจต้องคิดหาทางทำให้คุณชายอวิ๋นเชื่อว่าท่านมีความรู้ด้านสมุนไพรจริง ๆ ก่อนเจ้าค่ะ" อย่างนั้นเหรอ "แล้วฉันจะไปหาความรู้นั่นมาจากไหนล่ะ?" "เอ่อ..." หลิงเฉินทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพูดเบา ๆ "ข้าได้ยินมาว่าในป่าด้านนอกเมือง มีหมอยาลึกลับที่เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรมากเจ้าค่ะ บางทีเราอาจจะไปขอคำแนะนำจากเขาได้..." ‘หืม!? หมอยาลึกลับ!? ฟังดูเหมือนเควสต์ในเกมเลยนะเนี่ย’ ข้อมูลที่ได้รับมาใหม่จากสาวใช้คนสนิทดึงดูดความสนใจของหญิงสาวทันที ในชีวิตจริงของหลินเข่อซิงนอกจากจะติดนิยายจีนโบราณแล้ว เธอยังชอบเล่นเกมแนววังหลัง จีบหนุ่มอีกด้วย หลินเข่อซิงคิดไปคิดมา ‘เอาวะ! ไม่มีทางเลือกแล้ว! ถ้าฉันจะเป็นหมอยากำมะลอ ฉันก็ควรต้องไปเรียนพื้นฐานจริง ๆ สักหน่อย!’ "ตกลง! เราจะไปหาหมอยาลึกลับกัน!" …….. วันรุ่งขึ้น หลินเข่อซิงและหลิงเฉินแอบออกจากจวนอย่างระมัดระวัง เธอไม่ได้บอกอวิ๋นเฟยหลง เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าเขารู้ว่าเธอกำลังจะไป ‘เรียนรู้เรื่องสมุนไพร’ จริง ๆ ล่ะก็... เธอมีหวังโดนจับได้แน่นอน! ตึก ตึก ตึก... สองสาวเดินออกจากจวนอวิ๋นอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังป่าทางทิศตะวันออกของเมือง หลินเข่อซิงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกไปสำรวจนอกจวนด้วยตัวเองตั้งแต่ทะลุมิติมาเลยนะ "ป่าที่ว่าอยู่ไกลแค่ไหนเหรอ?" เธอถามหลิงเฉินขณะเดินไปตามทาง "ข้าได้ยินมาว่าอยู่ห่างจากตัวเมืองราวหนึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ ถ้าเราเร่งฝีเท้า ก็น่าจะไปถึงก่อนเที่ยง" หลินเข่อซิงเดินไปพลางคิดแค้นใจไปพลาง พวกเธอสองนายบ่าวตามจริงสามารถใช้รถม้าของจวนอวิ๋นได้ แต่เช้าวันนี้อวิ๋นเฟยหลงที่ปกติขี่ม้าของตนเอง กลับมาใช้รถม้าวันนี้เสียได้ หนำซ้ำพวกเธอจะเรียกหารถม้ารับจ้างก็ไม่ได้อีก เพราะเงินติดตัวที่มีนั้นเหลือน้อยนิดแล้ว สองนายบ่าวจึงจำต้องเดินทางโดยพึ่งสองขาของตนเอง "เฮ้! พวกเจ้าดูสิ! นั่นมันคุณหนูผู้สูงศักดิ์จากจวนไหนกัน?" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้าง หลินเข่อซิงชะงัก รีบหันไปมอง... และพบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดดำยืนอยู่ไม่ไกล! "เดี๋ยวนะ... นี่ฉันเพิ่งออกจากจวนแป๊บเดียว ทำไมปัญหาวิ่งเข้ามาอีกแล้วล่ะ!?" เธอรีบคว้าแขนหลิงเฉินแล้วกระซิบ "ใครกัน!?" สาวใช้ของเธอหน้าซีด "ข้า... ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ! แต่พวกนั้นดูไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่!" ไม่ต้องบอกก็รู้! ดูจากท่าทางโหด ๆ นั่น ฉันเดาว่าน่าจะเป็นโจร หรือไม่ก็พวกนักฆ่าแน่ ๆ! ชายชุดดำคนหนึ่งยิ้มเหี้ยม "คุณหนูหลิน... ท่านกำลังจะไปไหนหรือ?" พวกมันรู้จักเธอได้ยังไง? "เอ่อ... ไปเดินเล่นเจ้าค่ะ!" เธอรีบตอบยิ้ม ๆ "เดินเล่น?" ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ "กลางป่าลึกแบบนี้น่ะหรือ?" โอ๊ย! ยัยสมองหมูเอ๊ย! "พวกเจ้าต้องการอะไร?" เธอถามเสียงแข็งขึ้น ทำใจดีสู้เสือ ชายชุดดำหัวเราะ "ก็แค่... ท่านเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ ถ้าพวกเราจับตัวท่านไปเรียกค่าไถ่ ก็คงได้ทองไม่น้อยเลยล่ะ!" หา!? นี่ฉันกำลังจะโดนลักพาตัวเรอะ!? หลินเข่อซิงคิดอย่างรวดเร็ว โอเค! ฉันไม่ใช่นางเอกสายบู๊ แต่ฉันต้องหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้! เธอแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาข่มเหล่าโจรชั่ว "ฮึ! พวกเจ้าคิดผิดแล้ว! ท่านอวิ๋นเฟยหลงกำลังตามข้ามาอยู่นะ! ถ้าพวกเจ้าจับข้าไป หรือข้ามีรอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียว พวกเจ้าไม่รอดแน่!" อ้างพระเอกไว้ก่อน! อย่างน้อยก็อาจขู่พวกมันได้บ้างน่ะนะ! ชายชุดดำชะงักไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็หัวเราะเสียงดัง "ฮ่า ๆๆๆ ท่านอวิ๋น? ท่านอวิ๋นจะมาทำไมในป่าลึกเช่นนี้? แต่ถ้าเป็นแบบที่เจ้าว่าจริงก็ดียิ่งนัก เพราะนั่นหมายความว่า ข้าจะเรียกร้องเงินได้มหาศาลเพื่อแลกกับตัวเจ้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ" เออว่ะ... ข้อนี้เถียงไม่ออก! เธอรีบคิดแผนใหม่ โอเค! ถ้าขู่ไม่ได้ งั้นแกล้งทำเป็นบ้าก็แล้วกัน! เธอหันไปคว้าก้อนหินข้าง ๆ ขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่ชายชุดดำแล้วพูดเสียงดัง "ข้าคือยอดฝีมือจากตระกูลหลิน! หากพวกเจ้ากล้าทำอะไรข้า ข้าจะใช้วิชาลับสะท้านยุทธภพกำจัดพวกเจ้าทันที!" แผนโม้ขั้นสุด! ถ้าพวกมันเชื่อก็ดี แต่ถ้าไม่เชื่อ... ก็ต้องหนีให้เร็วที่สุด! ชายชุดดำขมวดคิ้ว "วิชาลับสะท้านยุทธภพเรอะ?" "ใช่! มันเป็นวิชาลับที่ใช้ได้แค่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน! หากข้าปลดปล่อยพลังออกมา พวกเจ้าจะไม่มีทางรอด!" เธอทำสีหน้าจริงจังที่สุดเท่าที่ทำได้ โอ๊ย! ขอให้พวกมันเชื่อเถอะ! ชายชุดดำมองเธออย่างไม่ไว้ใจ แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้พูดอะไร เสียงกีบเท้าของสัตว์สี่ขาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง! กุบกับ! กุบกับ! กุบกับ! "พวกเจ้ากำลังทำอะไร?" เสียงทุ้มต่ำเย็นชาดังขึ้น หลินเข่อซิงเบิกตากว้าง เสียงนี้...เธอรีบหันไปมอง และพบกับร่างสูงสง่าของ อวิ๋นเฟยหลง ที่ยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาเย็นชาและเปล่งประกายอันตราย โอ๊ย! พระเอกโผล่มาได้ถูกจังหวะสุด ๆ! ชายชุดดำทุกคนตัวแข็งทื่อ ราวกับรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว อวิ๋นเฟยหลงจ้องพวกมันนิ่ง ๆ ก่อนจะพูดเพียงสั้น ๆ "พวกเจ้าอยากตายหรือ?" โอ๊ย! ฉันรอดแล้ว! แต่เดี๋ยวนะ... นายมาได้ยังไง!?
“เฮือก…” เสียงสูดลมหายใจเข้าลึกดังขึ้น ทำเอาทรวงอกของหญิงสาวยกขึ้นสูง ขนตางอนยาวเรียงตัวสวยเริ่มขยับไหว ในที่สุดเปลือกตาก็คอยๆเลิกขึ้น ปรากฎดวงตากลมโตสดใสที่มองไปมารอบๆ แสงไฟสีขาวนวลสว่างขึ้นในห้องเล็กๆ ของเธอมาจากหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานห้องสี่เหลี่ยมที่คุ้นเคย เมื่อมองไปตรงมุมห้องขวามือ ก็มีโต๊ะเขียนหนังสือรกๆ ที่มีหนังสือและแก้วน้ำวางอยู่ โทรศัพท์มือถือวางแน่นิ่งบนหัวเตียง สายชาร์จรวมถึงสายสมอลทอร์คพันกันยุ่งเหยิงเป็นก้อนกลม หลินเข่อซิงค่อยๆลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง“เรากลับมาแล้วเหรอ…” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ราวกับไม่แน่ใจว่านี่คือความจริงหรือเพียงอีกหนึ่งความฝันอันยาวนานนางลูบอกตัวเองเบาๆ เพื่อปลอบใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเผชิญมา เป็นเพียงฝันร้ายยาวนานเท่านั้น แต่มันช่างสมจริงเหลือเกิน ความรู้สึกของสายลมในป่าลึก กลิ่นดินหลังฝนตก เสียงหัวเราะของหลิงเฉิน หรือแม้แต่สัมผัสอันอบอุ่นของอวิ๋นเฟยหลง...“เฟยหลง…”เพียงเอ่ยชื่อเขา น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้า ราวกับหัวใจถูกบีบรัด เธอรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก พยายา
นับจากโศกนาฏกรรมนองเลือดวันนั้น ก็ผ่านมาได้หนึ่งปีแล้ว อวิ๋นเฟยหลงไม่ยอมรับตำแหน่ง เขาทำเพียงรักษาการณ์แทน และให้เหล่าเสนาบดีเป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะแก่เขาย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน หลังได้รับชัยชนะ เข้ากอบกู้วังหลวงจากคนชั่ว และทวงแค้นจากหานเจี๋ย เขากลับไม่รู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย อวิ๋นเฟยหลงประกาศต่อหน้าที่ประชุมขุนนางและแม่ทัพนายกองทั้งหลาย“ข้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้”คำพูดนั้นสร้างความตกตะลึงไปทั่วห้องประชุม เฟยหลงก้าวออกมายืนกลางห้อง สายตาแน่วแน่“ตลอดชีวิตของข้า ข้าเกิดมาเพื่อรับใช้แผ่นดินและต่อสู้ในสนามรบ ข้าไม่เคยมีความปรารถนาจะครอบครองบัลลังก์มังกร ข้าเชื่อว่าแคว้นนี้สมควรมีผู้นำที่ดีกว่า”นับจากวันนั้นอวิ๋นเฟยหลงก็ทำหน้าที่ได้ดีมาตลอดไม่ขาดตกบกพร่องอันใด จนราษฎรต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ ในใจทุกคนอวิ๋นเฟยหลงคือฮ่องเต้ พ่อของแผ่นดินของพวกเขา คอยปกปักคุ้มครองให้แคว้นฉางจีอยู่รอดปลอดภัย บุ๋นก็ชำนาญ บู๊ก็คือเทพเซียนมาจุติและแล้วข่าวดีที่เขารอคอยก็มาถึง เจิ้งจู่ได้รายงานข่าวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขาค้น
ก่อนที่อวิ๋นเฟยหลงจะได้ปัดป้องตอบโต้ ก็มีเสียงกังวานใสของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“หยุดนะ!” หยางเฟยฮุ่ยยืนอยู่เบื้องหลังของฮ่องเต้ โดยมีทหารองครักษ์ผู้หนี่งใช้ดาบพาดคอของหานเจี๋ย“หากท่านละเว้นอวิ๋นเฟยหลง ข้าก็จะไว้ชีวิตท่าน!” สตรีผู้ได้ชื่อว่าฮองเฮา แม่ของแผ่นดิน ก้าวขึ้นหน้ามาอีกก้าว หยุดยืนมองหานเจี๋ยนิ่ง“เจ้า!... นี่เจ้ากล้าก่อกบฏหรือ ดีนี่ฮองเฮา ดี … ดียิ่งนัก ทหาร! กุดหัวนางหญิงชั่วนี่ให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เงียบ มีเพียงความเงียบงันเป็นคำตอบ ไม่มีทหารคนใดขยับ ต่างมองไปทางอวิ๋นเฟยหลงอย่างรอฟังคำสั่ง“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น?!” หานเจี๋ยตื่นตระหนกแล้ว เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้“ราชโองการในฮ่องเต้พระองค์ก่อน มาถึงแล้ว! อวิ๋นเฟยหลง รับราชโองการ!”ถึงตอนนี้ทหารที่จ่อปลายดาบคุมตัวหานเจี๋ยได้เตะดาบในมือเขาจนกระเด็น ก่อนลากตัวหานเจี๋ยให้ออกห่างจากอวิ๋นเฟยหลง“กระหม่อมอวิ๋นเฟยหลงพ่ะย่ะค่ะ” อดีตแม่ทัพหนุ่มหันกายคุกเข่ามาทางกงกงที่ยืนถือพระราชโองการสีทองอร่ามในมือ“ด้วยโองการสวรรค์ ข้าโอรสสวรรค์ผู้คร
เสียงอาวุธกระทบกันดังไม่หยุด อวิ๋นเฟยหลงหอบหายใจเสียงดัง หลินเข่อซิงมองเสี้ยวหน้าของชายอันเป็นที่รักด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ท่านพี่ ทิ้งข้าไว้เถอะ หากไม่มีข้าท่านก็จะทำศึกได้อย่างเต็มที่ และปกป้องพวกเราทั้งหมดได้”“เหลวไหล! ข้าไม่มีทางทิ้งเจ้ากับลูกแน่ อย่าคิดอะไรฟุ้งซ่าน และข้าจะไม่มีวันแพ้! เจ้าอดทนไว้ก่อนนะ” อวิ๋นเฟยหลงปวดใจนักเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆนั่นพูด ประกอบกับบาดแผลที่ไหล่ของนาง เขายิ่งอยากจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด กระบวนท่าของอดีตแม่ทัพใหญ่แกว่งไกวดาบเข้าห้ำหั่นศัตรู ร่างกายพลิ้วไหว มือเท้าผสานกัน แม้มือซ้ายจะโอบกอดหลินเข่อซิง แต่นั่นกลับไม่อาจสร้างปัญหาให้ชายหนุ่มได้“เหล่าพี่น้องของข้า จงฟัง! พวกเจ้าทุกคน วันนี้เราจะเด็ดหัวฮ่องเต้ทรราชนั่นซะ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อพ่อแม่ญาติพี่น้องของพวกเจ้า ราษฎรแคว้นฉางเยว่ และเพื่อฮ่องเต้องค์ก่อนที่ต้องสวรรคตอย่างมีเงื่อนงำ จงตามข้ามา!”“เฮๆ ๆ ๆ” เหล่าทหารฝ่ายอวิ๋นเฟยหลงต่างส่งเสียงร้องกู่ก้องไปทั่วลานด้วยการนำของอวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้พวกเขาบุ
‘ท่านพี่ เมื่อท่านได้รับสารฉบับนี้ หวังเพียงว่าท่านจะยังไม่กระทำการรุนแรงกับท่านหมอประจำตัวข้าหรอกนะ’ อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วสูง ก่อนเหลือบมองไปยังใบหน้าช้ำดำเขียว และเปรอะด้วยโลหิตของหมอหนุ่ม ก่อนจะก้มหน้าอ่านต่อ‘ข้าได้ยินมาว่าท่านได้ยกทัพมาประชิดประตูเมืองแล้ว คืนนี้ยามโหย่ว (17.00น. - 19.00น. โดยประมาณ) ข้าจะแอบมารอท่าน ขอท่านพี่ช่วยมารับข้าด้วย ข้าจะไปรอที่ประตูเมืองด้านทักษิณ หลิงเฉินบอกว่าประตูด้านนั้นค่อนข้างหละหลวม เพราะทหารไปรวมกันที่ประตูหน้าเสียส่วนใหญ่ ข้าจะรอท่านนะ’อวิ๋นเฟยหลงหรี่ตามองไปยังหมอหนุ่มที่ยังนั่งแหงนหน้ามองฟ้า ดูท่ากำเดาคงจะใกล้หยุดไหลแล้วกระมัง อวิ๋นเฟยหลงทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วต่ำ“ข้าต้องขออภัยท่านหมอแทนทหารของข้าด้วย ฝากบอกซิงเอ๋อร์ว่า ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปตามนัดหมาย”เวินสือชูมองบุรุษร่างใหญ่บึกบึนตรงหน้าด้วยความยำเกรง ก่อนจะยิ้มออกมาหน่อยๆ“มิเป็นไร ข้าเข้าใจว่านั่นคือหน้าที่ของพวกเขา หากมิมีอันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน หากมานานเกินไป อาจถูกสงสัยได้”อวิ๋นเฟยหลงพยัก
แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับดาบของเหล่าทหารหาญที่ตั้งทัพอย่างเป็นระเบียบอยู่เบื้องหน้าประตูเมือง เมื่ออวิ๋นเฟยหลงประสานสายตากับเหล่าทหารกล้าที่เขารวบรวมมา พวกเขาคือผู้ที่ยังภักดีต่อแผ่นดินและเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของแม่ทัพผู้เคยกอบกู้แผ่นดิน“วันนี้มิใช่เพียงการทวงคืนวังหลวง” อวิ๋นเฟยหลงประกาศเสียงกร้าว “แต่คือการทวงคืนความยุติธรรม ทวงคืนอนาคตของบ้านเมือง และนำแสงสว่างกลับสู่แคว้นฉางจีอีกครั้ง”เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มจากทหารนับหมื่นที่เข้าร่วม ขบวนธงสีดำลายมังกรทองสะบัดปลิวไสว เสียงอาวุธกระทบกันดังก้อง ขับเคลื่อนจิตใจอันห้าวหาญของนักรบทุกคนเหล่าทหารที่คอยรักษาการณ์ประจำตำแหน่งประตูหน้าต่างตื่นตัวและคอยจับตามองทัพของอดีตแม่ทัพอวิ๋นเฟยหลง อดีตรองแม่ทัพหยางซึ่งในขณะนี้ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ทองลงไปยังอดีตผู้ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่กว่าตน ในสายตามีทั้งความกริ่งเกรง และหวาดกลัวอยู่หน่อยๆ“ท่านแม่ทัพขอรับ” นายทหารหนุ่มผู้หนึ่งขึ้นมารายงานกับแม่ทัพหยาง“ว่ามา”“ข้าได้รายงานให้กับฝ่าบาททราบแล้วขอรับ ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งใหม่ เห็นว่าฝ่าบา




![[Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



