แชร์

จวนเหมยฮัว / 3

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 13:37:12

"คำถามแรก ข้าไม่มีพันธะกับชายใดใช่หรือไม่"

"ใช่เจ้าค่ะ นายท่านยังไม่ทันได้เรียกใช้เหล่าแม่สื่อก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน"

นึกถึงแล้วก็หดหู่กับชะตานายหญิงของตนยิ่งนัก

"งั้นก็ถือเป็นเรื่องดี ข้อสอง..."

จินเยว่ทำท่าครุ่นคิดจะถามอะไรต่อดีจนบังเกิดสิ่งที่อยากรู้ขึ้น

"ทำไมข้ากับเจ้าถึงอยู่ในคุกแค่สองคน พี่สาวข้าอยู่ที่ไหน หรือว่า..."

"ไม่ใช่อย่างที่คุณหนูคิดนะเจ้าคะ คุณหนูใหญ่เดิมทีเป็นคนสนิทขององค์หญิงสามอยู่แล้ว พระองค์จึงใช้อำนาจขององค์หญิงพาตัวคุณหนูใหญ่ไปอยู่ที่ตำหนักในเจ้าค่ะ"

หึ! หนีเอาตัวรอดคนเดียวสิไม่ว่า

แต่ก็อย่างว่า เฟิงเยว่ซินนางเป็นเพียงบุตรีของอนุภรรยา ใครจะยอมเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงกับลูกกบฎแถมเป็นลูกเมียรองเช่นนี้

"เอาตัวรอดเป็นยอดคน"

"..?"

"งั้นคำถามต่อไป"

"คุณหนูยังมีคำถามอีกหรือเจ้าคะ"

นี่เป็นเรื่องราวพื้น ๆ ของนางอยู่แล้ว ถ้าหากแค่นี้ยังจำไม่ได้ เกรงว่าคืนนี้ทั้งคืนคงมีคำถามเป็นร้อยเป็นพันให้เสี่ยวโหรวคนนี้ตอบเป็นแน่

"คำถามสุดท้ายแล้ว"

ได้ยินเช่นนี้ค่อยสบายใจหน่อย

"ที่นี่ที่ไหนเหรอ?"

รู้แค่ว่าตื่นขึ้นมาอีกที จากคุกมืด ๆ กลายเป็นห้องหับที่กว้างขวางสะอาดสะอ้าน ตกแต่งสวยงามไปเสียแล้ว

"นี่คือจวนเหมยฮัวของท่านอ๋องสี่เจ้าค่ะ"

จวนเหมยฮัว?

เหมยฮัวที่แปลว่าดอกบ๊วยหรือเปล่านะ

"จะว่าไปแล้ว ข้ายังไม่เคยเจอท่านอ๋องที่ว่าเลย เจ้าพาข้าไปเจอหน่อยได้ไหม"

เสี่ยวโหรวรีบส่ายหัวทันที

"ท่านอ๋องใช่ว่าผู้ใดจะเข้าพบได้นะเจ้าคะ ยิ่งบ่าวเป็นเหมือนฝุ่นละออง ไม่มีอำนาจพาคุณหนูเข้าพบได้หรอกเจ้าค่ะ"

"แต่พวกเราอยู่ที่จวนของท่านอ๋องแล้วนี่ แค่แอบดูห่าง ๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"

แววตาจินเยว่บ่งบอกว่านางอยากเจอหน้าคนผู้นี้มาก ความตื่นเต้น ความลุ้นต่าง ๆ นานา แสดงออกมาชัดจนเสี่ยวโหรวทำใจลำบาก

"นะ ๆ โหรวโหรว เจ้าใจดีกับข้าที่สุดไม่ใช่หรือไง"

หลันจินเยว่ใช้น้ำเสียงออดอ้อนแถมเป็นน้ำเสียงที่เฟิงเยว่ซินตัวจริงเคยแสดงออกทำให้สาวใช้อย่างเสี่ยวโหรวยิ้มออกมาพร้อมในใจที่คิดว่าอีกไม่นานความทรงจำคุณหนูต้องกลับมาแน่

"บ่าวเองก็เพิ่งจะเข้ามาเยือนที่นี่ครั้งแรก แต่ตอนที่เข้ามาพอจะเดาทางได้อยู่บ้างว่าส่วนไหนที่ท่านอ๋องน่าจะประทับอยู่"

"งั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว เรารีบไปแอบดูท่านอ๋องกัน"

"ค...คุณหนู! รอก่อนสิเจ้าคะ"

เฮอ... ทำไมคุณหนูที่เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ถึงได้กลายเป็นแก่นแก้วดูต่างจากเมื่อก่อนคนละโยชน์เช่นนี้

"เป็นเช่นไรบ้าง"

เสียงทุ้มเอ่ยถาม ทว่าสายตาจดจ้องอยู่กับฐานจำลองสนามรบขนาดกลาง

"ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงยื่นมือเข้าช่วยซินเอ๋อร์ในครั้งนี้" อู่ชิงหรงที่เป็นทั้งรองแม่ทัพ ทั้งองครักษ์ข้างกายองค์ชายสี่กล่าวขอบคุณอย่างเกรงอกเกรงใจ

"เจ้ารู้ดีแก่ใจ ข้าไม่ยอมปล่อยให้คนบริสุทธิ์ตายแบบไร้ประโยชน์"

"ท่านอ๋องคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรมากกว่าการยักยอกเงินในคลังส่งมอบให้กับฝ่ายศัตรูเช่นกันหรือ"

"เจ้ายังคิดได้ เหตุใดข้าจะคิดไม่ได้"

"กระหม่อมช่างเขลาที่ถามเช่นนั้น"

อู่ชิงหรงรีบคุกเข่าเพื่อเตรียมรับโทษที่ตนพูดก่อนคิด

"เจ้าทำอะไร ลุกขึ้น ทำเหมือนข้าเป็นคนไร้เหตุผลเอะอะลงโทษ"

ถ้าเป็นคนอื่นคงถูกกระทำเช่นนั้นไปแล้ว แต่กับอู่ชิงหรงมีหรือท่านอ๋องอย่างเขาจะทำ

เหตุผลเพราะทั้งสองคนเป็นเหมือนพี่น้องที่ตายแทนกันได้มากกว่าองค์ชายกับข้ารับใช้

ส่วนเรื่องที่ทั้งคู่กำลังปรึกษาหารือกันอยู่คือสาเหตุที่ตระกูลเฟิงถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎจนทำให้ผู้นำตระกูลอย่างเสนาบดีเจ้ากรมการคลังเฟิงอู๋เยว่ถูกสังหารขณะทหารเข้าจับกุม ส่วนคนที่เหลืออยู่ทั้งบ่าวรับใช้ทั้งผู้ที่ใช้แซ่เฟิงต่างบ้านแตกสาแหรกขาด บ้างถูกฆ่า บ้างถูกจับ บ้างถูกแยกไปเป็นข้าทาสที่ชายแดน

"ท่านเสนาเฟิงตายแล้วแต่ไร้ศพ เจ้าว่าไม่น่าแปลกรึ"

ปากวิเคราะห์ถึงเรื่องราว มือก็จับตัวเบี้ยหมากรุกเดินไปยังตำแหน่งที่ทหารเล่าว่าเสนาบดีเจ้ากรมการคลังเฟิงอู๋เยว่ถูกสังหาร

"รับราชการมาครึ่งชีวิตกลับถูกคนที่เพิ่งเข้ามาคุมทหารค้นเจอหลักฐานการยักยอกเงินหลวง เจ้าว่า ใครกันที่ควรต้องสงสัย"

"ข้าก็มีความคิดเช่นพระองค์"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status