แชร์

บทที่ 54 ความใสซื่อของหมาป่าสาว ชุน

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 11:27:05

บทที่ 54

ความใสซื่อของหมาป่าสาว ชุน

            ด้วยความร่วมมือจากทุกคน ผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ ลู่ซินฟางก็ได้อาคารหลังใหม่มาครอบครอง เหลือก็แค่ตกแต่งร้านกับรับคนงานเพิ่ม

            อย่างหลังพักเอาไว้ก่อน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด และตรงกับวันที่ชิงเหลียนมาสอนวิชาเลข ลู่ซินฟางที่ต้องการพักสมองจึงเข้าครัวทำขนมแป้งไส้ถั่วหวานกับอาหารกลางวันของเด็กๆ ด้วยตัวเอง

            พูดถึงเรื่องน่าปวดหัวในช่วงนี้ ไม่พ้นเรื่องการสั่งจองชุดแก้วชา พ่อค้าบางคนก็ใจร้อน เร่งให้ร้านซินหลินผลิตสินค้าออกมาเร็วๆ บางคนถึงขั้นมากดดันทุกวัน วันละหลายๆ รอบ พ่อค้าบางคนก็หัวหมอ อยากกักตุนชุดแก้วชาจำนวนมากๆ ในครั้งเดียว เลยจ้างวานพ่อค้าจากร้านเล็กๆ ทำทีมาสั่งจอง ส่วนบางคนถึงกับทุ่มทุนให้เงินใต้โต๊ะหลางไป๋

            หลางไป๋ไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน และมองเห็นพิรุธของพ่อค้าเหล่านั้น เลยแก้ปัญหาได้เร็ว

            พอนึกเรื่องชวนให้ปวดหัว ลู่ซินฟางก็พ่นลมหายใจยาวๆ ออกมา

            “เฮ้อ…”

            ชุนที่เดินไปส่งเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ที่ห้องเรียนแล้วย้อนกลับมาหาลู่ซินฟางที่ครัว เห็นตอนนายหญิงถอนหายใจพอดี เกิดความเข้าใจผิด คิดว่านายหญิงคงเหนื่อยที่ต้องเตรียมอาหารคนเดียว นางจึงถลกแขนเสื้อ สาวเท้าไปยังอ่างล้างมือ    

            “วันนี้เด็กๆ มาเรียนเยอะมาก ให้ข้าช่วยนายหญิงทำหมั่นโถอีกแรงนะเจ้าคะ” ชุนกล่าวพร้อมกับเช็ดมือให้แห้ง

            ลู่ซินฟางพยักหน้าตอบ “อืม”

            แล้วทั้งสองก็ช่วยกันปั้นหมั่นโถเป็นรูปตัวการ์ตูน ทำแบบนี้เหมือนปล่อยให้สมองได้จินตนาการไปเรื่อยๆ ลู่ซินฟางรู้สึกสบายใจขึ้นมากทีเดียว

            “พูดก็พูดเถอะ ไม่เจอแค่พักเดียว เจ้าเด็กตงตงคนนั้นสงบลงมากเลยเนอะ”

            ลู่ซินฟางเปิดประเด็น พลางคิดถึงเรื่องเมื่อเช้า

            ตอนที่จางต้วนมาส่งตงตงกับเม่ยเม่ย ใครจะคิดเล่าว่า เจ้าเด็กเกเรอย่างตงตงจะก้มศีรษะให้ความเคารพลู่ซินฟาง ทำเอานางเผลอตัวเบิกตามองด้วยความตะลึงเลยทีเดียว

            ชุนเองก็คงคิดเหมือนกันจึงขำพรืดออกมา

            ลู่ซินฟางเห็นหญิงสาวหัวเราะอย่างสนุกสนานก็พลอยยิ้มตามไปด้วย

            ชุนปาดน้ำตาตรงหางตาหลังจากหยุดหัวเราะแล้ว พูดปนขบขำว่า “ถูกหลางไป๋อบรมไปทีเดียวไม่กล้าฮืออีกเลยเจ้าค่ะ คิกๆ นึกแล้วก็ตลก”

            ชุนเคยเล่าว่า วันแรกที่ตงตงกับเม่ยเม่ยมาเรียน เด็กชายก็แผงฤทธิ์ทันที รบกวนเพื่อนๆ ในห้องเรียน ก้าวร้าวในหลางไป๋

            ภายนอกหลางไป๋เป็นคนสุขุม แต่หากได้โกรธ ความน่ากลัวนั้นแม้แต่ลู่ซินฟางยังต้องยอม

            หลางไป๋บอกให้ชุนนำของว่างของวันนั้นออกมา จากนั้นก็สั่งงดขนมในส่วนของตงตง

            เด็กๆ ชอบของหวาน อีกอย่าง การที่เพื่อนๆ ทั้งห้องได้กินขนมอร่อย ยกเว้นตัวเอง เป็นใครก็ต้องรู้สึกสะเทือนใจเป็นธรรมดา

            ถึงอย่างไร ตงตงก็เป็นแค่เด็ก 8 ขวบ ถูกดัดนิสัยด้วยวิธีนี้ย่อมไม่กล้าอวดเก่ง

            “ท่านต้องเห็น ตอนเลิกเรียนก็ถูกหลางไป๋อบรมอีกรอบ สั่งให้เช็ดโต๊ะ เก็บหนังสือ เจ้าหนูนั่นยอมทำทุกอย่างเลยเจ้าค่ะ”

            กว่าจะได้กินขนม ในวันนั้นตงตงถูกหลางไป๋อบรมเป็นชั่วยาม

            “อย่าแกล้งเขานักล่ะ” ลู่ซินฟางพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

            ชุนหัวเราะฮ่าๆ แล้วตอบ “เห็นว่าตอนอยู่ที่บ้านก็เป็นเด็กดีด้วย รู้จักช่วยพ่อทำงานแล้ว”

            ลู่ซินฟางยิ้มพลางส่ายหน้าเบาๆ

            คงกลัวว่าความเกเรของตนจะรู้ถึงหูหลางไป๋แล้วจะถูกอบรมอีก เลยทำตัวเป็นเด็กดีสินะ

            คิดจบ ลู่ซินฟางก็ขำคิกๆ ไม่ต่างจากชุน สักครู่ผ่านไป นางจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ว่าแต่ ช่วงนี้ข้าไม่เห็นจิ่นเซี่ยแวะมาหาเจ้าเลย พวกเจ้าทะเลาะกันหรือ”

            ชุนทำปากยื่นแล้วพูด “ไม่ได้ทะเลาะเจ้าค่ะ ครึ่งเดือนก่อนเขามาหาข้า บอกว่าต้องติดตามนายท่านเข้าเมืองหลวง จะไม่เจอกันพักหนึ่ง แล้วก็บอกว่าจะเอาของฝากมาให้ด้วย ก็ดีใจอยู่หรอกที่จะได้เนื้อชิ้นโต แต่ทำไมต้องมาบอกข้าด้วย ไม่เข้าใจเลย”

            “เนื้อหรือ” ลู่ซินฟางกะพริบตาถี่ พร้อมทวนคำอย่างติดใจ

            ทำไมคุยไปคุยมาถึงวกเข้าเรื่องเนื้อได้ล่ะ

            “เวลาที่เผ่าหมาป่ามอบของฝากให้กันส่วนใหญ่ก็เป็นเนื้อชิ้นโต เนื้อกวาง เนื้อกระต่าย เอ…นายหญิงไม่ทราบหรือ” ชุนตอบพร้อมถามกลับด้วยสีหน้าพาซื่อ

            มุมปากของลู่ซินกระตุกเล็กน้อย

            เรื่องในต่างมิตินางจะไม่รู้ได้อย่างไร ก็คลุกคลีอยู่ที่นั่นมาตั้ง 10 ปี

            แต่ว่า เจ้าเด็กคนนี้ไม่ซื่อเกินไปหน่อยหรือ ถึงคิดว่าของฝากจากจิ่นเซี่ยจะเป็นเนื้อน่ะ!

            เฮ้อ…

            และแล้ว ก็มีเรื่องให้ลู่ซินฟางต้องถอนหายใจเพิ่มอีกหนึ่งเรื่องจนได้

            “อุบ!”

            จู่ๆ ชุนก็ยกมือปิดปากตัวเอง ดวงตาเรียวรีสอดส่ายไปทางประตู เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร นางก็ตบหน้าอกตัวเองด้วยท่าทีโล่งใจ

            “เป็นอะไรอีก?” ลู่ซินฟางถาม อยู่กันมาตั้งนาน แต่ไม่เคยเข้าใจความคิดของเด็กคนนี้เลย

            ชุนขยับมาใกล้ๆ ตอบด้วยเสียงกระซิบ

            “ข้าไม่ควรพูดคำว่าเนื้อกระต่าย เดี๋ยวจะทำให้อาอวิ๋นกับเสี่ยวเหมยหวาดกลัวเอา”

            หมายถึงพี่น้องกระต่ายหู่จือหรอกหรือ!

            หลงเข้าใจว่า ชุนจะตระหนักได้แล้วว่าจิ่นเซี่ยเป็นมนุษย์ และมนุษย์นั้นไม่มอบของฝากเป็นเนื้อ

            ลืมไปเลย สมองของชุนคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status