Share

บทที่ 84 เหอถิงถึงคราวซวย

last update Last Updated: 2025-07-25 09:28:21

บทที่ 84

เหอถิงถึงคราวซวย

            เหอถิงถึงคราวจบสิ้นแล้ว!

            แม้จะใช้เวลาเตรียมการถึงสี่วัน แต่ผลลัพท์ที่ได้ถือว่าไม่เลว…กงเยียนซูคิดพร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น ในขณะที่มองความลนลานบนใบหน้าสองแม่ลูกตระกูลเหอ

            ทางด้านของเหอถิง ได้แต่มองกงเยียนซูกับลู่ซินฟางสลับไปมาด้วยความสงสัย

            ตามหลักความจริง ตระกูลจี๋ที่อยู่เมืองชิ่งไม่ควรรู้การเคลื่อนไหวของเหอถิงในเมืองเล่ออันรวดเร็วถึงเพียงนี้ นอกเสียจากจะมีใครบางคนส่งม้าเร็วแจ้งข่าวไปบอก และคนคนนั้นต้องมีฐานะที่น่าเชื่อถือ

            ทันใดนั้น เหอถิงก็เบิกตาโพลง มองไปที่กงเยียนซูด้วยสังหรณ์ร้ายแปลกๆ

            “คุณชายเป็นใครกันแน่!”

            กงเยียนซูคลี่ยิ้มมุมปาก แต่ดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตาม “ก่อนมาที่เมืองเล่ออัน จี๋หลิน ภรรยาของเจ้าไม่ได้บอกเอาไว้หรอกหรือ ว่าคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยมากที่สุดคือเจ้าของโรงเตี๊ยมตระกูลกง”

            คำพูดเหล่านั้นทำเอาเหอถิงได้แต่ยืนแข็งทื่อ

            ไม่เพียงรู้จักตระกูลจี๋ ชายคนนี้ยังรู้ว่าจี๋หลินที่เป็นภรรยาของเขา

            อย่างไรก็ตาม คล้ายว่าจี๋หลินจะเคยเตือนให้ระวังคนสูงศักดิ์ที่อยู่ในเมืองเล่ออันจริงๆ แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ และคิดว่าจี๋หลินคิดมากไปเอง เหอถิงจึงไม่ได้สนใจคำพูดของภรรยา

            “ที่แท้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นแผนของพวกเจ้า!” เหอถิงฉุนเฉียวจนไม่สนใจฐานะ ชี้หน้าใส่กงเยียนซูพร้อมกับตะเบ็งเสียงดังสนั่นอย่างกล่าวหา

            เห็นแบบนี้แล้ว ลู่ซินฟางอดจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาไม่ได้ เพราะความดิ้นรนแบบโง่ๆ ของเหอถิงในตอนนี้ทำให้นางนึกถึงเจียงลิ่ว แล้วสุดท้ายคนโง่เขลามักมีจุดจบที่ไม่สวย

            “เคยคิดว่าลูกชายคนโตตระกูลเหอเป็นคนฉลาด แต่จริงๆ แล้วก็เป็นแค่คนโง่ ซ้ำความโลภของเขายังไร้ทางเยียวยา” ลู่ซินฟางพึมพำเหมือนคนปลงตก

            “เจ้าว่าอะไรนะ” เหอถิงรู้สึกอับอายมากเมื่อได้ยินคำพูดของอดีตภรรยา ถึงกับหายใจฮึดฮัดรุนแรง

            “เป็นแผนของเจ้าจริงๆ ด้วย ลู่ซินฟาง เจ้าทำแบบนี้กับข้าทำไม หนีตามชู้รักและวางแผนทำลายชื่อเสียงของข้า แก้แค้นที่ข้าเลี้ยงดูเจ้าไม่ดีหรือ”

            “แถไปเรื่อย แถจนสีข้างถลอกปอกเปิกไปหมดแล้ว”

            เจ้าของประโยคนั้นเป็นของหลางไป๋ อันที่จริง หมาป่าหนุ่มเห็นเหอถิงแอบมองนายหญิงกับกงเยียนซูตั้งแต่พวกเขากำลังตรวจความเรียบร้อยของรถขนเสบียง และเชื่อว่ากงเยียนซูก็รู้ตัวเช่นกันจึงได้ตามนายหญิงเข้ามาในร้าน

            แต่การที่หลางไป๋ไม่ได้ออกมาปกป้องนายหญิงทันที เพราะไม่อยากถูกมองว่าสามรุมหนึ่ง

            เหอถิงกวาดตามองทุกคน ก่อนจะพูดราวกับคนเสียสติ “พวกเจ้ารวมหัวกันทำลายชื่อเสียงข้า”

            “หากเจ้าไม่ใช้แผนโง่เขลาอย่างการทำลายชื่อเสียงของนายหญิงก่อน คนที่เมืองชิ่งก็ไม่มีใครรู้ใครเห็น แต่เจ้าเล่นตะโกนป่าวร้องไปทั่ว ต่อให้ท่านกงไม่เขียนจดหมายไปบอกตระกูลจี๋ พฤติกรรมของเจ้าก็ทำลายชื่อเสียงของเจ้าเองอยู่ดี”

            เนื่องจากแผนไล่เหอถิงออกจากเมืองเล่ออันสำเร็จลุล่วง เหลือก็แต่จัดการขั้นเด็ดขาด! ด้วยเหตุนี้ หลางไป๋ที่อารมณ์ดีจึงอธิบายให้เหอถิงฟังอย่างใจเย็น

            “ไม่รีบกลับไปแก้ตัวกับตระกูลจี๋เร็วๆ จะดีหรือ เก็บของแล้วออกเดินทางได้แล้ว ชิ่วๆ” กงเยียนซูไม่เพียงเตือน ยังแสดงท่าทีกวนโมโหด้วยการโบกมือไล่เหมือนสัตว์เดรัจฉาน

            เหอถิงกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหและอับอายอย่างมาก

            “กลับเมืองชิ่งกันก่อนเถอะ อาถิง” นางเหอเข้ามาเกาะแขนลูกชาย รั้งให้ออกมาจากร้านซินหลิน ในขณะที่พูดกับลูกชาย ใบหน้าเหี่ยวย่นของคนสูงวัยแสดงออกอย่างเป็นกังวล

            เหอถิงโกรธจนเก็บอาการไม่อยู่ แต่ระบายกับใครไม่ได้ จึงสะบัดแขนแรงๆ ทั้งยังพ่นคำกล่าวหาใส่มารดาด้วยสายตาเลือดเย็น

            “ไหนท่านแม่บอกว่าจะขัดขวางตระกูลจี๋ให้ข้าอย่างไรเล่า”

            “แม่…แม่ขอโทษนะลูก”

            “ข้าต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะท่านแม่ รู้เอาไว้ซะด้วย”

            “อาถิง ลูก…”

            “อย่ามาพูดกับข้า!”

            เหอถิงตะคอกใส่มารดา ก่อนผลุนผลันออกจากร้านซินหลิน

            นางเหอตวัดสายตามองลู่ซินฟางด้วยสายตาโกรธแค้นชิงชัง แล้วรีบปรี่ตามหลังลูกชายออกไป

            เมื่อทั้งสองออกไปจากร้านซินหลิน ภายในร้านกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม ราวกับก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            ลู่ซินฟางพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่ใช่เพราะกลัวแม่ลูกตระกูลเหอ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ออกจากเมืองเล่ออันสักที ตลอดสี่วันมานี้ นางต้องอดทนอย่างเงียบๆ ทั้งที่อยากจะจับพวกเขามาแล่เนื้อหั่นกระดูกใจจะขาด

            “จากนี้พวกเขาจะไม่มากวนใจเจ้าได้อีกแล้ว ไม่ต้องห่วง” กงเยียนซูหันมาปลอบใจลู่ซินฟาง

            ทันใดนั้น หญิงสาวสะดุ้งเบาๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเบิกตามองกงเยียนซู

            ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยความสงสัย

            “ข้า…พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า” กงเยียนซูถาม

            “เอ๊ะ เอ่อ…เปล่าเจ้าค่ะ ข้าเพิ่งนึกออกว่ามีงานด่วน เช่นนั้นขอตัว” ลู่ซินฟางพูดจบก็เดินขึ้นชั้นสองทันที

            หลางไป๋เดินเข้ามายืนข้างๆ กงเยียนซูแล้วถาม “ทำไมนายหญิงมีท่าทีแปลกๆ แบบนั้นหรือขอรับ”

            ใบหน้าหล่อเหลาของกงเยียนซูแสดงออกอย่างงุนงงไม่ต่างจากอีกฝ่าย “ข้าต่างหากที่ต้องถาม มีงานเร่งด่วนเข้ามาหรือ นางถึงรีบร้อนเช่นนั้น”

            หลางไป๋ส่ายหน้า “ไม่มีนะขอรับ”

            คำตอบนั้น ทำเอากงเยียนซูย่นหัวคิ้ว “ถ้าอย่างนั้น นางอาจจะกังวลแผนต่อไป”

            แผนต่อไปที่ว่าคือสร้างสถาการณ์ทำให้เหอถิงเหมือนประสบอุบัติเหตุ แผนนี้ไม่ทำให้ถึงตาย แค่เจ็บหนัก และไม่มีโอกาสย้อนกลับมาที่เมืองเล่ออันได้อีก

            ในวันที่กงเยียนซูวางแผนจัดการเหอถิงด้วยกันกับหลางไป๋ ก็ยังย้ำให้หลางไป๋มาบอกเรื่องนี้กับลู่ซินฟาง ในตอนนั้นนางเองก็ยอมรับแผนการของเขา ทั้งยังบอกว่าจะจัดการต่อเอง แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้…?

            กงเยียนซูเงยหน้ามองระเบียงของชั้นสอง พึมพำออกมาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ “หรือว่านางยังมีใจให้กับอดีตสามีอยู่”

            “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน” หลางไป๋รีบแก้ตัวแทนนายหญิง

            วิญญาณที่อยู่ในร่างลู่ซินฟางตอนนี้ไม่ใช่คนเก่า เรื่องมีใจเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว 

            อีกอย่างหนึ่ง ลองคิดดูว่าตอนที่นายหญิงใช้พิษเอาคืนฝางลี่และยังจัดการกับเจียงลิ่วจนหมดตัว ตอนนั้นนายหญิงเด็ดเดี่ยวและไม่มีความลังเลเลยสักนิด และแน่นอน การจะจัดการกับคนชั่วๆ อย่างเหอถิง นายหญิงก็ไม่มีความลังเลเช่นกัน

            “ถ้าอย่างนั้น ปัญหาคงอยู่ที่ประเด็นอื่น?” กงเยียนซูยังคงคิดไม่ตก เขาไม่ชอบเวลาที่ลู่ซินฟางหมางเมินใส่ เพราะท่าทางแบบนั้นทำให้เขาทรมานใจที่สุดแล้ว

            หลางไป๋มองความกังวลบนใบหน้าของกงเยียนซู ก่อนจะถอนหายใจออกมา

            “ช่วยไม่ได้นะขอรับ…”

            กงเยียนซูหันไปมองหลางไป๋พร้อมตั้งคำถาม “อะไรหรือ”

            “ท่านกงไม่รู้ตัวจริงๆ หรือขอรับ ตอนที่ท่านออกหน้าปกป้องนายหญิงเมื่อกี้นี้ ท่านได้พูดอะไรออกไปบ้าง”

            “…”

            ชายหนุ่มหลุบตามองพื้น พร้อมกับย้อนคิดเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น

            หลางไป๋มองสีหน้าของกงเยียนซูเงียบๆ

            ทันใดนั้นเอง กงเยียนซูก็ช้อนตาขึ้นมองหลางไป๋แล้วกล่าวเหมือนเพิ่งอะไรบางอย่างออก “หรือจะเป็นตอนนั้น!?”

            หลางไป๋พยักหน้าน้อยๆ “ตอนนั้นท่านกงเผลอพูดความในใจออกมาใช่หรือไม่ขอรับ ท่านประกาศต่อหน้าทุกคนว่าชอบนายหญิง ในเมื่อท่านนึกออกแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ”

            ว่าจบ หลางไป๋ก็เดินกลับไปทำงานต่อ 

            กงเยียนซูยังยืนที่เดิม ครุ่นคิดถึงการกระทำที่น่าอายของตน

            ตอนนั้นเขาหลุดความในใจออกมา เหตุผลเพราะเลือดขึ้นหน้า ทว่าคำพูดนั้น กงเยียนซูไม่ได้โกหก เขาชอบลู่ซินฟางจริงๆ

            ว่าแต่ว่า หลางไป๋ได้ยินคำพูดของเขาด้วยหรือ ในเมื่อตอนนั้นอีกฝ่ายยืนอยู่ที่ชั้นสอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status