Share

ตอนที่ 22 รอยยิ้มซ่อนพิษ

last update Last Updated: 2025-12-03 11:43:54

ศิษย์กับอาจารย์ตกลงใจร่วมยกทัพปราบปรามกบฏ ณ ดินแดนอันห่างไกล แม่ทัพหลานซือเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ว่านี่จะเป็นศึกสุดท้าย ที่เขาจะได้สั่งสอนศิษย์ผู้เปรียบเสมือนสายเลือดของตนเอง เป็นโอกาสท้ายที่สุด...ที่จะถ่ายทอดทุกกลยุทธ์และประสบการณ์จากสมรภูมิ ให้แก่ลูกศิษย์ที่เขาเคยภาคภูมิใจ แต่เบื้องหลังคำพูดอันงดงามเหล่านั้น กลับซุกซ่อนเจตนาอันดำมืดเอาไว้

เพราะศึกครั้งนี้ หาใช่เพื่อแผ่นดิน ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศ หากแต่เป็นศึกชำระหนี้ หนี้ที่เกิดขึ้นจากบาปร่วมกัน ศิษย์และอาจารย์...สองบุรุษที่ร่วมกันทำลายชีวิตของหญิงสาวผู้หนึ่ง ด้วยมือของตนเองและความเย็นชาที่ไม่เคยคิดชดใช้

หลานซือเหยียนรู้ดี ว่าเขามิใช่เพียงพยาน หากคือ ผู้สมรู้ร่วมคิด ศึกนี้จึงไม่ใช่เพื่อชัยชนะ แต่เป็นการเปิดม่านแห่งการชดใช้ ที่เขาจัดขึ้นด้วยตนเอง ในกองทัพซึ่งโบกสะบัดด้วยธงชัยและคำประกาศเกียรติยศ ยังมีอีกหนึ่งเงาเงียบที่ไม่มีใครคาดคิด...หลานเยว่ หญิงสาวผู้เคยถูกทำลาย ถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ปรานีนางแฝงตัวเข้ามาอย่างแนบเนียน

ไม่ใช่เพื่อสอดแนมหรือบ่อนทำลาย...แต่เพื่อเฝ้าดู

ดูให้เห็นกับตา ว่าบิดาผู้เย็นชาของนาง แม่ทัพหลานซือเหยียน จะสามารถชำระหนี้แค้นในอดีตได้สมกับความผิดที่เขาก่อไว้หรือไม่นางไม่ได้หวังให้เขากลับมาเป็นพ่อ อีกต่อไป

นางต้องการเห็น ซ่งเจี้ยนหง ตกนรกทั้งเป็นด้วยสายตาของตนเองชายผู้เคยทำลายทั้งร่างกายและเกียรติของนางจนไม่เหลือชิ้นดีนางอยากเห็นเขาถูกฉุดกระชากตกลงไปสู่ขุมนรกที่ลึกที่สุดตกลงไปต่อหน้าต่อตา...ของสตรีที่เขาเคยเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้า

กลางสมรภูมิที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและฝุ่นควัน แม่ทัพหลานซือเหยียนและซ่งเจี้ยนหงควบม้าเคียงกัน ฟาดฟันศัตรูจากกองทัพกบฏด้วยท่วงท่าที่เฉียบคม ทุกครั้งที่คมดาบสะบัดผ่าน คืออีกหนึ่งชีวิตที่ปลิดปลิว เมื่อแนวรบเริ่มแตกศัตรูเริ่มถอยหนี แม่ทัพหลานจึงหันมาสั่งการเสียงหนักแน่น

"เราจะแยกกันตีโอบ เจ้าไปทางเหนือ ข้าจะอ้อมไปทางใต้" ซ่งเจี้ยนหงพยักหน้ารับด้วยดวงตาเปล่งประกาย

"เชื่อมือข้าได้เลย" กล่าวจบ เขาก็เร่งม้าควบทะยานไปยังเป้าหมาย ปล่อยให้เสียงฝีเท้าเร่งเร้าของม้ากลบทุกความลังเล

หลานซือเหยียนมองแผ่นหลังศิษย์รักด้วยดวงตาไร้แวว ใต้หมวกเกราะที่สงบนิ่ง แววตาของเขาเยียบเย็นจนน่าหวาดหวั่น

ไม่นานนัก เขาเร่งม้าถอยออกจากแนวรบ เข้าไปยังชายป่าอันรกร้าง เบื้องหลังม่านไม้ที่เงียบสงัดเขาถอดเกราะแม่ทัพออกช้า ๆ ก่อนจะสวมชุดทหารกบฏที่เตรียมไว้ล่วงหน้าเสื้อคลุมสีดำสนิท พร้อมผ้าคลุมหน้าที่ปิดบังทุกสันฐาน

แม่ทัพหลานซือเหยียนควบม้าออกจากแนวป่ามุ่งตรงไปยังทิศที่ศิษย์ของตนกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ระหว่างทาง เขาจำต้องสังหารทหารฝ่ายตนเองบางส่วนที่หลงเข้าใจว่าเขาเป็นศัตรู เพราะชุดของเขาคือชุดทหารกบฏที่ปิดบังทั้งร่างกายและใบหน้า

เขาไม่มีเวลาลังเลหากแผนนี้พลาดแม้แต่นิด ซ่งเจี้ยนหงอาจไหวตัวทัน การจะล้มชายหนุ่มผู้นี้ด้วยการเผชิญหน้าโดยตรงคือความโง่เขลา ซ่งเจี้ยนหงแม้อายุยังน้อย แต่ฝีมือบนสนามรบนั้นเก่งกล้าเกินวัย ทักษะดาบ การใช้ปราณ หรือแม้แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอด…ล้วนไม่ด้อยกว่าใคร

แม่ทัพจึงเลือกหนทางที่สกปรกที่สุดการซุ่มโจมตีแบบลอบกัดที่คมกริบดั่งมีดในความมืดเขาควบม้าเข้าไปจนถึงระยะประชิด พอเห็นซ่งเจี้ยนหงกำลังสังหารศัตรูด้วยท่าทีฮึกเหิมแม่ทัพหลานซือเหยียนยกธนูขึ้นอย่างเงียบงันสายธนูถูกรั้งจนตึง ปราณอัดแน่นไปทั่วลูกศร เสียงปราณแทรกผ่านลมดั่งเสียงกระซิบของความตาย

ฟึ่บ!

เสียงธนูแหวกอากาศพุ่งออกไปดุจสายฟ้า ซ่งเจี้ยนหงเบิกตากว้างทันทีที่สัมผัสถึงอันตราย เขาหันมาเร็ว…แต่ไม่เร็วพอ

ลูกศรปักเข้าแขนขวาของเขาอย่างจัง เลือดไหลทะลักออกมาเป็นสาย

“เจ้า...ไอ้สารเลวลอบกัด! แกเป็นใครกัน!?” เขาตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวดและโทสะ มือกำดาบแน่นหมายจะควบม้าจัดการศัตรูผู้นั้น แต่ร่างของเขากลับชะงักในพริบตามือไม้เริ่มชาขึ้นเรื่อย ๆ สายตาเริ่มพร่าเบลอ

“พิษ...”

เขากัดฟันแน่น พยายามประคองร่างที่สั่นเทา ทว่าฤทธิ์ยาพิษในลูกศรเริ่มแผ่กระจายไปทั่วร่าง แรงที่มีหลงเหลือเพียงครึ่งเดียวอีกฟากหนึ่ง แม่ทัพหลานซือเหยียนไม่รอให้ศิษย์ทันฟื้นตัวจากความมึนงง เขากระตุกม้าเร่งฝีเท้าหนีหายไปตามทางลาดหุบเขา กลืนร่างลงในเงาไม้ และเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว

เมื่อกลับมาอีกครั้งในคราบของแม่ทัพผู้ทรงเกียรติ ร่างของเขาดูสง่างามไร้ข้อพิรุธ ดาบในมือมั่นคง สายตาคมเฉียบเขาปรากฏตัวขึ้นหน้ากองทหารอย่างแข็งกร้าว สั่งการด้วยเสียงดังฟังชัด “ตีโอบจากปีกซ้าย! อย่าให้พวกมันมีทางหนี!”

ไม่มีใครรู้...ว่ามือที่ชี้แนวรบเมื่อครู่นั้น คือมือเดียวกับที่ปล่อยศรลอบกัดศิษย์รักของตนเมื่อครู่สนามรบยังไม่สิ้นเสียง แต่เงาของการหักหลัง...ได้เริ่มขึ้นแล้ว

พิษที่แฝงมากับลูกธนูนั้น…ไม่ใช่พิษใดที่พบเจอได้ทั่วไปในยุทธภพมันไม่ใช่ยาพิษที่กัดกินชีวิตในทันที ไม่ส่งกลิ่น ไม่สร้างอาการชัดเจนนั่นคือ คำสาปชีพจรดำพิษต้องห้ามที่เคยถูกจารึกไว้ในตำราลับของยุทธจักรในฐานะ คำสาปเงียบเมื่อมันแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด มันจะค่อย ๆ ชอนไชไปตามเส้นชีพจรและลมปราณมันจะรัดรึงจากภายในไม่ก่อความเจ็บใดให้จับได้ชัดแต่มันจะ ฝังตัว… ราวกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

"ซ่งเจี้ยนหง เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?" เสียงของแม่ทัพหลานซือเหยียนดังขึ้น ขณะควบม้ามาขนาบข้างอย่างรวดเร็วสีหน้าของเขาดูเคร่งเครียด แฝงความห่วงใยดั่งอาจารย์ที่รักศิษย์สุดหัวใจ

"ท่านอาจารย์ ดูเหมือนข้าจะเผลอประมาทไปเล็กน้อย" ซ่งเจี้ยนหงยิ้มออกมา ทั้งที่เลือดยังไหลซึมจากแขนที่ถูกลูกธนูเจาะ"พิษแค่นี้ ยังทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!"เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งทะนง ดวงตาเปล่งประกายราวกับไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อยสำหรับเขา...บาดแผลเช่นนี้เทียบไม่ได้กับศึกใหญ่ที่เคยผ่านมือมาแม่ทัพหลานซือเหยียนพยักหน้าเบา ๆ สีหน้าแสดงความโล่งใจ "เช่นนั้นก็ดี...หากเจ้ามีอันเป็นไป ข้าเองก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปสู้บิดาเจ้าได้อย่างไร" คำพูดฟังดูจริงใจ หากแต่ในยามที่เขาหันหน้าไปอีกทางริมฝีปากกลับแย้มยิ้มเพียงนิด ราวกับซ่อนบางอย่างไว้ในเงามืดของใจ

“ถึงแผลเจ้าจะเล็กน้อย… แต่เมื่อกลับถึงค่าย ข้าจะให้คนของข้าทำแผลให้เจ้า” กลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดและเสียงตะโกนโหยหวนไม่มีคำใดจะอ่อนโยนเท่าน้ำเสียงของแม่ทัพหลานซือเหยียนในยามนี้นุ่มนวล...อบอุ่น ราวกับบิดาผู้ห่วงใยบุตรชายที่เติบโตกลางพายุสงครามแต่ใต้รอยยิ้มและแววตาเมตตานั้นคือมือของผู้กำลังบรรจงปั้นหลุมศพให้ศิษย์รักของตนเองอย่างเงียบงัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status