Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน / ตอนที่ 36 ฝันร้ายของพ่อค้าทาส

Share

ตอนที่ 36 ฝันร้ายของพ่อค้าทาส

last update Last Updated: 2025-12-03 11:49:25

เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่สำหรับหลานอวี้ซิน… มันกลับยาวนานราวกับหลายปี แต่ละวินาทีที่นางต้องฝืนแสร้งยิ้ม เล่นบทบาท ป้าผู้ใจดี กับเด็กน้อยที่ตนเกลียดชัง มันคือบทลงทัณฑ์อันทรมานเกินจะบรรยาย หากแต่ผลลัพธ์ก็เป็นไปดังหวังหลานจิ่วอวิ๋น เด็กชายผู้เปี่ยมพรสวรรค์และไร้เดียงสา หลงนึกว่านางคือญาติผู้ใหญ่ที่เปี่ยมด้วยเมตตา ห่วงใยเขาราวสายเลือดเดียวกัน

ในสายตาใสซื่อของเขา... นางคือป้าผู้แสนอ่อนโยน ผู้มักมีขนมหวานรสดี ของเล่นหายาก และเรื่องเล่าแสนสนุกมาคอยปลอบใจ แต่ในสายตาของหลานอวี้ซินเขาคือเศษชิ้นเนื้อที่น่าขยะแขยง คือศัตรูที่ต้องถูกกำจัด คือต้นตอของความไม่มั่นคงในเรือน... และในหัวใจอันมืดดำของนาง

วันแล้ววันเล่าที่ต้องฝืนกลืนความเกลียดลงคอ ปั้นหน้ายิ้มส่งสายตาอ่อนโยนให้เด็กชายในขณะที่ในใจราวกับถูกไฟเผา เผาทุกความอดกลั้น เผาทุกเศษเมตตาที่นางพอจะมีในที่สุด… วันที่นางรอคอยก็มาถึง

ภายใต้ท้องฟ้าแจ่มใส และกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกเหมยที่เริ่มผลิบาน หลานอวี้ซินกล่าวถ้อยคำหวานล้ำ ด้วยน้ำเสียงที่ช่างอ่อนโยนจนแม้แต่ผู้ใหญ่ยังมิอาจระแวง

“หลานจิ่วอวิ๋น วันนี้เจ้าพอจะไปเที่ยวเล่นที่ตลาดเป็นเพื่อนป้าได้ไหม?”“ป้าตั้งใจจะซื้อขนมหวานให้เจ้าอย่างดีเลยนะ”

คำชักชวนของนางประหนึ่งสายลมฤดูใบไม้ผลิแผ่วเบา อ่อนหวาน แต่ซ่อนหนาวเย็นลึกสุดหยั่ง ดวงตาของนางจับจ้องเด็กน้อยอย่างแนบเนียน พลางคิดคำนวณทุกจังหวะก้าว

นางเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว รถม้าชั้นดี พ่อบ้านคนสนิทที่ไว้ใจได้ หรือจะพูดให้ถูกกว่านั้นคือ...คนที่พร้อมลงมือโดยไร้คำถาม

หลานจิ่วอวิ๋นเงยหน้าขึ้น ดวงตาสดใสเบิกกว้างด้วยความดีใจ สีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของเด็กน้อยช่างใสบริสุทธิ์เสียจนหลานอวี้ซินอยากจะหันหน้าหนี ไม่ใช่เพราะเมตตา... แต่เพราะรังเกียจ

“ขอรับ ท่านป้า” เด็กชายตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ใสซื่อเสียจนทำให้หัวใจของผู้ใหญ่ที่ยังพอมีจิตมนุษย์คงรู้สึกละอายแก่ใจ

แต่สำหรับหลานอวี้ซิน...ริมฝีปากของนางค่อย ๆ คลี่ยิ้มยิ้มที่แทบจะฉีกไปถึงใบหู ยิ้มที่แม้แต่แสงตะวันยังไม่อาจละลายความเย็นชาในนั้นได้ “ดีมาก… หลานรักของป้า…”

นางหันกลับไปมองเงาของตนเองที่สะท้อนในกระจกทองเหลือง ใบหน้างดงามไร้ที่ติ สงบนิ่งเหมือนหญิงผู้บริสุทธิ์ ทว่าในแววตานั้น ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความอัปลักษณ์ที่เกือบจะทะลุออกมาผ่านรอยยิ้ม

รถม้าหุ้มทองขลิบดำเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าออกจากจวนสกุลหลาน ผ่านประตูไม้แกะสลักลงลวดลายมังกรหลับ ล้อหมุนบดทับพื้นหินเรียบเสียงดังแผ่วคล้ายเสียงกระซิบของปีศาจในม่านเงา

ในยามเช้าอันสดใสนี้ เด็กน้อยอย่างหลานจิ่วอวิ๋นนั่งชิดหน้าต่าง ยื่นหน้ารับลมด้วยแววตาเป็นประกาย ท่าทางของเขานั้นช่างสดใสบริสุทธิ์ราวกับแสงอรุณแรกของวัน ใบหน้าขาวเนียน ยิ้มละไม มองบ้านเรือนที่ถอยห่างด้วยความตื่นเต้น

และตรงข้ามเขาคือหลานอวี้ซิน ผู้เปี่ยมด้วยความงดงามเลอเลิศ... และจิตใจที่เน่าเฟะจนแม้แต่ปีศาจยังขยาด

ในใจนาง ขณะมองเด็กชายผู้เปล่งแสงนั้น ดำเนินแผนการชั่วร้ายไปทีละก้าว กลับรู้สึกถึงความพึงพอใจแปลกประหลาด ความน่ารัก น่าเอ็นดูของเขายิ่งย้ำเตือนถึงความเกลียดชังในใจนางอย่างไม่รู้จบ

“ยิ่งเจ้าบริสุทธิ์ ข้ายิ่งอยากทำลายให้แหลกคาฝ่ามือ”“ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีวันยิ้มได้อีกเลย… แม้แต่ในฝัน”

รอยยิ้มที่คลี่ออกบนใบหน้านางนั้น... ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับความอัปลักษณ์ภายใน ใบหน้าที่เคยเรียกคำชมจากทั่วเมือง บัดนี้กลับแฝงไว้ด้วยเงาเย็นเฉียบ แววตานางสะท้อนความวิปลาสบางสิ่งที่แม้แต่นรกยังไม่กล้ารับไว้

ปลายทางของรถม้านั้น… ไม่ใช่ตลาดหวานของเด็ก ไม่ใช่ร้านของเล่น ไม่ใช่ขบวนพ่อค้าใจดี

หากแต่คือ ตลาดค้าทาส ดินแดนเสื่อมทรามที่สุดในเมืองหลวง ที่นั่น... ไม่มีกลิ่นขนมหอมหวาน มีแต่กลิ่นอับของความทุกข์ กลิ่นเลือด กลิ่นน้ำตา และกลิ่นของความสิ้นหวังที่ฝังลึกในผนังไม้ผุพัง

พ่อค้าทาสที่นางนัดหมายไว้เป็นพวกชั้นต่ำในหมู่มนุษย์ ไม่แม้แต่จะมีจิตเมตตาต่อเด็กแบเบาะ หน้าที่ของพวกมันคือทำลายศักดิ์ศรี ป่นจิตวิญญาณ ฉีกสรีระให้แหลกเป็นเพียงสิ่งของ

พวกมันสามารถตัดแขนเด็กน้อยได้โดยไม่กระพริบตาสามารถสาดน้ำกรดใส่หน้าเด็กสาวเพียงเพื่อให้ สินค้าดูแปลกตามากพอจะขายได้ราคาสูงสำหรับพวกมัน เด็กคือสินค้า สำหรับหลานอวี้ซิน เด็กคือศัตรู

และแล้ว รถม้าก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ซอยแคบอันชื้นแฉะ ซ่อนตัวอยู่หลังตลาดชานเมือง ป้ายจาง ๆ ที่แขวนอยู่หน้าซุ้มไม้เขียนไว้ว่า ร้านรับเลี้ยงเด็กเร่ร่อน แต่ผู้คนในเมืองหลวงต่างรู้ดี… มันคือฉากหน้าของนรกบนดิน หลานจิ่วอวิ๋นยังคงไม่ล่วงรู้ถึงชะตากรรมที่กำลังจะเผชิญยังคงหันมายิ้มให้ ท่านป้า อย่างไร้เดียงสาและในใจของหลานอวี้ซินเสียงกรีดร้องจากนรกก็เริ่มบรรเลงอย่างเงียบงัน

ทันทีที่รถม้าจอดสนิท เสียงล้อกระทบหินหยาบก็สงัดลง เหลือเพียงเสียงลมอื้ออึงที่พัดผ่านซอกเรือนเก่าในตรอกซอยสกปรกนั้น

และที่หน้าประตูไม้ผุ ๆ ของอาคารซอมซ่อแห่งหนึ่งยืนรออยู่ก่อนแล้วคือชายร่างอ้วนใหญ่ ใบหน้าอัปลักษณ์เปื้อนรอยยิ้มที่ไม่มีแม้เศษเสี้ยวของมนุษย์ เขาคือ พ่อค้าทาส ที่เลื่องชื่อว่าเหี้ยมโหดที่สุด ผู้ที่เห็นเด็กน้อยร่ำไห้เป็นเพียงเสียงดนตรีคลอเบาในหู

“ในที่สุดท่านก็มาเสียที… ฮูหยินหลานอวี้ซิน”“ตัวข้านั้นรอท่านอยู่นานแล้ว…”

เสียงของเขาหยาบต่ำเยียบเย็น มันขาดความอบอุ่นของมนุษย์โดยสิ้นเชิง และทุกรอยยิ้มที่เผยบนใบหน้าบวมฉุของเขา ล้วนทำให้คนดูคล้ายอยากอาเจียนมากกว่าศรัทธา

หลานอวี้ซินก้าวลงจากรถม้าด้วยท่วงท่าสง่างามไร้ที่ติ ราวกับมาเดินเล่นในสวนฤดูใบไม้ผลิ มิใช่กำลังพาเด็กคนหนึ่งเข้าสู่นรกบนดิน นางแตะแขนเบา ๆ ปัดฝุ่นออกจากชายผ้า หันไปสบตากับพ่อค้าทาสอย่างคุ้นเคย

“สินค้าชิ้นนี้... ข้าว่าเจ้าต้องพอใจ”“เป็นเพียงเด็กน้อย ใสซื่อบริสุทธิ์นักไม่มีญาติ ไม่มีผู้คุ้มกัน...”

นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลราวท่านหญิงที่กำลังส่งมอบผ้าพันคอให้ญาติมิตร ไม่ใช่การผลักใครบางคนให้จมลงในเหวลึกพ่อค้าทาสหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ก้าวมาข้างหน้า แล้วแสยะยิ้มอย่างน่าสะอิดสะเอียน

“ไหน… ขอข้าดูหน้าเด็กคนนี้หน่อย”

หลานอวี้ซินพยักหน้าเรียบเฉย ก่อนจะยื่นมือไปจับข้อมือหลานจิ่วอวิ๋น ดึงตัวเขาลงจากรถม้าอย่างอ่อนโยนเด็กชายก้าวลงมาอย่างสงบ ใบหน้าน้อย ๆ นั้นเปื้อนรอยยิ้ม มือเล็ก ๆ ยังกุมขนมที่ป้าผู้ใจดีหยิบยื่นให้ไว้ในรถม้า...ทว่าวินาทีที่พ่อค้าทาสได้เห็นใบหน้าของเด็กชายอย่างชัดเจน

สีหน้าของเขากลับพลันซีดเผือด รอยยิ้มที่เคยบิดเบี้ยวด้วยความตะกละกลับค้างอยู่เพียงครึ่งเดียว นัยน์ตาเบิกกว้างราวกับต้องมนต์ เขายืนนิ่งราวถูกสาป ใบหน้าอวบอูมนั้นเริ่มสั่นคลอน

“มะ… ไม่จริง…”

ลมหายใจเขาติดขัดเพียงครู่เดียว ก่อนจะฝืนเรียกสติกลับมาอย่างทุลักทุเล พยายามบิดริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มใหม่ แม้กล้ามเนื้อจะตึงแข็งเหมือนหุ่นกระบอก

“เด็กนี่… หน้าตาดีจริง ๆ…”“ราคาคงงามไม่น้อยเชิญท่านฮูหยินเข้าด้านในก่อน…”

เสียงของเขาแผ่วลงกว่าปกติ ม่านตากระตุกเล็กน้อยขณะถอยหลังเปิดประตู ท่าทีของเขาไม่หลงเหลือความโอหังอย่างเมื่อครู่หลานอวี้ซินไม่สังเกตเห็นความผิดปกติเลยแม้แต่น้อยนางมั่นใจเกินไปในอำนาจของตน และจิตใจที่จมอยู่ในความพอใจของแผนร้ายก็ปิดกั้นสัญชาตญาณระวังภัยอย่างสิ้นเชิง

“ดี... ข้าอยากให้เจ้าดูแลเด็กคนนี้ให้ดีเป็นพิเศษ”“ไม่ต้องรีบร้อนขาย หากเจ้าจะ... สนุกกับมันก่อน ข้าก็ไม่ขัด”

คำพูดของนางหล่นลงพื้นอย่างเยียบเย็น ทิ้งไว้เพียงความเงียบอึดอัดในอากาศแต่สิ่งที่นางไม่รู้เลย…คือเบื้องหลังสายตาหวาดหวั่นของพ่อค้าทาสนั้น กำลังเกิดความระส่ำระสายอย่างลึกซึ้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status