วันรุ่งขึ้น ณ บริษัทไวน์เนอร์เจียงเซิงนั่งอยู่ในห้องทำงานของเธอเพื่อตรวจสอบการออกแบบของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากนั้นเธอก็โยนแฟ้มลงบนโต๊ะ"ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ แม้แต่คำนิยามของการออกแบบยังไม่รู้เลย หลายปีมานี้เครื่องประดับของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ใช้เงินไปกับการเอาของไม่ดีมาปนกับของดีเพื่อทดจำนวนงั้นเหรอ?"พนักงานที่ยืนอยู่ห้องทำงานดูลำบากใจเป็นอย่างมาก "คุณโซราคะ ผู้อำนวยการเจียงบอกว่า แบรนด์เครื่องประดับของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ต้องไปตามสไตล์ดั้งเดิมเท่านั้นค่ะ"เจียงเซิงกอดอกเอนตัวพิงกับเก้าอี้ แล้วหัวเราะ "สไตล์ดั้งเดิมยังไง?"เธอกางไฟล์ข้อมูลของผลิตภัณฑ์เครื่องประดับขึ้นมา "ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับแฟชั่นพวกนี้เป็นเพียงขยะเท่านั้น ผู้อำนวยการเจียงของพวกคุณมีความสามารถจริงๆ หลังเข้ารับตำแหน่งก็ถอดคนที่มีความสามารถในแผนกออกทั้งหมด ตอนนี้ ไวน์เนอร์แม้แต่ผลิตภัณฑ์ของตัวเองยังทำออกมาไม่ได้ ได้แต่ขายของที่คนอื่นไม่เอาแล้ว จะผลาญก็ไม่ใช่ผลาญแบบนี้นะ"พนักงานนิ่งเงียบและไม่ตอบโต้ใดๆเจียงเซิงลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า "พาฉันไปที่โกดังเก็บวัตถุดิบที""ค่ะ" พนักงานพยักหน้า
เมื่อเจียงเวยได้ยินว่าซือเย่เจ๋วและเจียงเซิงมาที่โกดังเก็บวัตถุดิบ แถมผู้จัดการเฉินยังถูกเรียกตัวเข้าไปอีกต่างหาก เพราะกลัวว่าบางอย่างจะถูกเปิดเผย เธอจึงรีบไปที่นั่นในทันทีเธอระงับความตื่นตระหนกในใจเอาไว้ แล้วถามราวกับไม่รู้อะไรเลยว่า "เกิดอะไรขึ้น?""เย่เจ๋ว ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?"ให้ตายเถอะ นังสารเลวเจียงเซิงกลับมาเพื่อจับผิดเธอใช่ไหม ถึงกับต้องตามถึงโกดังเก็บวัตถุดิบเชียวเหรอ!ตอนนั้นเพื่อประหยัดเงินเธอได้ให้คนนำเข้าอัญมณีล็อตหนึ่งที่มีการปลอมปนเข้ามา ไม่คิดเลยว่านังนี่เพิ่งกลับมาก็หาเรื่องเธอซะแล้ว!ซือเย่เจ๋วมองไปที่เธอและพูดอย่างเฉยเมย "หินอัญมณีเจือปนพวกนี้คืออะไร?"เจียงเวยอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น แต่เธอกลับแสดงทีท่าไร้เดียงสาออกมา "ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับหินอัญมณี อย่างที่คุณรู้ หลายปีที่ผ่านมา วัตถุดิบหินอัญมณีต้องได้รับการอนุมัติจากฉัน แต่ฉันคิดว่ามันคงเหมือนเดิมมาโดยตลอด"เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับหินอัญมณีจริงๆ ข้อนี้เธอได้ประโยชน์แต่เจียงเซิงกลับหัวเราะออกมา "คุณพ่อใจกว้างจังเลยนะ ยกบริษัทให้กับคนที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่กลัวบริษัทจะล้มละลายหรือไ
วันถัดมาบนอินเทอร์เน็ต ภาพถ่ายของแบรนด์"ถงเหยียน"ที่เจียงหนวนหนวนและเจียงเหยียนเหยียนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ได้รับความนิยมอย่างมากในทวิตเตอร์ และด้วยหน้าตาที่ดีแต่กำเนิดจึงทำให้พวกเขาติดอันดับสามในโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว#สนุกไร้ขีดจำกัด# รูปชุดนี้สุดยอดจริงๆ!#ไม่ใช่บัวลอยไส้งาดำ# โอ้มายก็อต อะไรจะหล่อขนาดนี้ ใจจะละลาย~#uหน้าร้อนu# ฉันอยากรู้ว่าพ่อแม่พวกเขาหน้าตาเป็นยังไง อย่าตีเรานะ#นางฟ้าโหนสลิง# ทั้งๆที่เป็นเสื้อผ้าเด็กแท้ๆ แต่เมื่อเด็กสองคนนี้ใส่แล้วรู้สึกได้ถึงความหรูหราราคาแพงขึ้นมาทันที เป็นเพราะถงเหยียนเหรอ?...คอมเมนต์ข้างล่างแทบระเบิด ส่วนใหญ่มุ่งไปที่หน้าตาของเด็กน้อยทั้งสองซือเย่เจ๋วนั่งอยู่ที่ห้องผู้บริหารของTG บังเอิญเห็นหัวข้อการค้นหาที่ร้อนแรงนี้ในภาพเด็กทั้งสองไม่เพียงไม่ตื่นเวทีขณะถ่ายทำ แต่ยังให้ความร่วมมืออย่างสมบูรณ์แบบ ราวกับว่าพวกเขาเกิดมาเพื่ออยู่กับแสงสีเพียงแต่ไม่รู้ทำไม ตัวเขาถึงได้สนใจในตัวพวกเขาอย่างไม่รู้ตัวในเวลานี้เองหลัวเชว่เคาะประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน "ท่านซือครับ ยอดขายของแบรนด์'ถงเหยียน'พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเราจะค
ดีไซเนอร์?ใบหน้าของซือเย่เจ๋วหม่นลงเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะจับจ้องไปที่เจียงเฉินเฉิน "ชื่ออะไร""มามี้ของเราไม่ดังหรอกครับ บอกไปก็ไม่รู้จัก ใช่แล้วคุณอา คุณอามีแฟนมั้ย?"เจียงเฉินเฉินเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็วซือเย่เจ๋วหรี่ตา แฟนเหรอ?ข้างกายเขามีผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ยอมรับว่าเธอเป็นแฟนของเขาเจียงเฉินเฉินยิ้มตาหยี "ถ้างั้นแนะนำมามี้ของเราให้ดีไหมครับ? แม้ว่ามามี้ของเราจะไม่โด่งดัง แต่เธอเก่งมาก แถมมามี้ของเราก็สวยมากอีกด้วย มามี้สามารถให้กำเนิดเราที่หน้าตาดีขนาดนี้ก็น่าจะรู้แล้วใช่ไหมล่ะครับ~"ซือเย่เจ๋วเม้มริมฝีปากแน่นไม่พูดอะไรแน่นอน ว่าเด็กสองคนนี้มีรูปร่างหน้าตาโดดเด่น ผู้หญิงที่ให้กำเนิดพวกเขาได้ก็ต้องหน้าตาไม่เลวเป็นแน่แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อเขามองดูหน้าตาของพวกเขา ยากที่จะไม่เชื่อว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา แต่เจียงเวยไม่ได้ตั้งครรภ์หรือให้กำเนิดลูกเลยนี่แถมหน้าตาของเด็กผู้หญิงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย...นาฬิกาอัจฉริยะของเจียงเฉินเฉินสั่น เขาก้มมองไปดู ก็เห็นสายเรียกเข้าจากพี่ชายของเขาเขาหาข้ออ้างแล้วลุกขึ้นยืน "คุณอาครับ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ
เมื่อเห็นว่าซือเย่เจ๋วโกรธจริงๆ เซียวหลานก็รู้ดีว่าการทำให้เขาโกรธนั้นไม่ส่งผลดีใดๆเธอกัดฟันกรอดๆ ก้มศีรษะลงให้กับเด็กทั้งสอง "ฉันขอโทษ หนูน้อยทั้งสอง มันเป็นความผิดของป้าเอง ยกโทษให้ป้าด้วยนะ"ให้ตายเถอะ เรื่องราวยังไม่ชัดเจนเธอจะต้องไม่ประมาทเด็ดขาดหากพวกเขาเป็นทายาทของนังเจียงเซิงจริงๆ จะปล่อยพวกเขาไว้ไม่ได้เป็นอันขาด!หลังจากที่เซียวหลานจากไป ซือเย่เจ๋วก็จ้องมองไปที่เจียงหนวนหนวนทันใดนั้นเจียงหนวนหนวนก็จริงจังขึ้นมา จูงมือของเจียงเฉินเฉิน "ขอโทษนะคะคุณอา เราไม่อยากทานอาหารแล้ว เราอยากกลับบ้าน"ซือเย่เจ๋วตกใจ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เด็กๆคงจะตกใจเข้าเสียแล้ว "อืม อาจะไปส่งที่บ้านนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เราจะกลับเองได้"เจียงหนวนหนวนจับมือของเจียงเฉินเฉินแล้วจากไปอย่างรวดเร็วหลัวเชว่จ้องมองด้วยความงุนงง "ท่านซือครับ เด็กสองคนนี้ทำไมจะแตกคอก็แตกคอแบบนี้เลยล่ะ"ซือเย่เจ๋วไม่พูดอะไร จ้องมองร่างเล็กทั้งสองจากด้านหลังโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากออกมาจากโรงแรม น้ำตาของเจียงเฉินเฉินก็แห้งหายไปหมดแล้ว เขาพูดกับเจียงหนวนหนวนด้วยรอยยิ้ม "เป็นยังไงบ้าง การแสดงของ
เซียวหลานโกรธจัดจากเจียงเซิงไม่มีที่ระบาย จนเธอทนไม่ไหว เมื่อกลับถึงบ้านเธอรีบวิ่งไปฟ้องเจียงเซิ่นทันทีเจียงเซิ่นวางหนังสือพิมพ์ลง เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจเล็กน้อย "เซิงเซิงกลับมาแล้วเหรอ?""ใช่ค่ะ ตอนนี้เธอเป็นดีไซเนอร์เครื่องประดับชื่อดังระดับสากลโซรา อย่าว่าแต่เวยเวยกับฉันเลย ฉันได้ยินเวยเวยบอกเธอกล้าดีแม้แต่หน้าของท่านซือยังไม่ไว้"หลังเจียงเซิ่นรู้ว่าลูกสาวของเขาเจียงเวยมีสัมพันธ์กับท่านซือ เขาก็ให้กับความสำคัญกับเจียงเวยมากและเจียงเซิงกล้าดีที่จะโต้แย้งกับท่านซือ เพราะงั้นเจียงเซิ่นจึงไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้ยังไงซะเจียงเซิ่นไม่เพียงแต่ต้องการรักษาหน้าเท่านั้น แต่เขาไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลซือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะทนเห็นลูกเขยที่ร่ำรวยโกรธเคืองได้อย่างไรเจียงเซิ่นพับหนังสือพิมพ์แล้ววางลง "นังตัวดี ไม่ได้เจอกันหกปี ทำไมถึงได้ยั่วยุท่านซือได้"เซียวหลานนั่งข้างเขาและจับแขนเขาไว้ ทำท่าทีเสียใจ "นั่นสิคะ วันนี้ฉันไปเตือนเธอที่บริษัท เธอยัง... เธอยังดุฉันอีก ที่รัก เซิงเซิงเชื่อฟังคุณมาตลอด ถ้าปล่อยให้เธอทำเช่นนี้ต่อไป ถึงตอนนั้นถ้าท่านซือจะต่อว่าเวยเวยไปด้วย คงจะแ
เจียงเซิงสูดหายใจเข้า เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะฉีกยิ้ม "ไม่ทราบว่าคุณซืออยากจะเห็นเรายังไง หากต้องการคำขอโทษ ถ้างั้นฉันต้องขอโทษคุณแทนเธอด้วยนะคะ"เขาแค่อยากเห็นเธอขอโทษไม่ใช่เหรอ?เจียงเซิงปรับทีท่าของตนเอง โค้งคำนับเขา "ขอโทษค่ะ คุณซือ"เมื่อเห็นว่าเธอมีทีท่านอบน้อม ซือเย่เจ๋วกลับพูดประชดไปเล็กน้อยว่า "ไม่คิดเลยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเจียงจะยอมขอโทษเพื่อเพื่อน ดูไม่ออกเลยว่า คุณจะทำเรื่องที่ทำร้ายพี่สาวตัวเองได้"เจียงเซิงยืดตัวขึ้นด้วยความสับสน "คุณซือหมายความว่ายังไงคะ?"เธอทำร้ายพี่สาวของตัวเองงั้นเหรอ?เขากำลังพูดถึงเจียงเวยเหรอ?ซือเย่เจ๋วโน้มตัวเข้าใกล้ใบหน้าของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ผมคิดว่าคุณกล้าทำกล้ารับ ดูเหมือนว่ามันก็คงเป็นแบบแหละนะ"ขณะที่พูด เขาก็หันหลังกลับอย่างเฉยเมย "เรื่องวันนี้ช่างเถอะ"จับจ้องแผ่นหลังของพวกเขาที่จากไป ในที่สุดเซียวเถียนเถียนก็หายใจหายคอขึ้นมาได้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพูดกับเจียงเซิงเมื่อสักครู่นี้ "เซิงเซิง คำพูดของท่านซือหมายความว่ายังไง?""ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?"เจียงเซิงหัวเราะ "อาจจะเป็นเพราะคิดว่าฉันหาเรื่องเจียงเวยมั้ง เป็นผู้ชาย
เจียงเซิงไม่พูดอะไร พยายามอย่างหนักเพื่อให้เธอมาทานข้าวที่บ้าน แถมยังเชิญซือเย่เจ๋วมาอีก ตอนนี้ยังจะให้เธออยู่ทานข้าวด้วยให้ได้ถ้างั้นเธอก็จะคอยดูว่า สองแม่ลูกคู่นี้คิดจะทำอะไรกันแน่เธอเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มจางๆ "ก็ได้ งั้นก็ทานข้าวด้วยกันก็ได้"เจียงเวยและเซียวหลานไม่คาดคิดว่าเธอจะตอบตกลง แต่ก็ดีอยู่เหมือนกัน เป็นไปตามแผนของพวกเธอในระหว่างทานอาหาร เจียงเซิงเพียงก้มศีรษะลงทานอาหารโดยไม่พูดไม่จา อาจเป็นเพราะการปรากฏตัวของซือเย่เจ๋ว ทำให้เจียงเซิ่นและเซียวหลานไม่พูดอะไรเลยซือเย่เจ๋วไม่ค่อยทานอาหาร ตอนที่เจียงเวยให้เขากลับมาที่บ้านตระกูลเจียง เดิมทีเขาเจตนาจะปฏิเสธ แต่เธอพูดถึงเจียงเซิงในเมื่อเจียงเวยบอกว่าเจียงเซิงเชิญเขาไปที่บ้านของตระกูลเจียง เขาจึงอยากรู้ว่าเจียงเซิงจะทำอะไรกันแน่"เซิงเซิง หลายปีมานี้แกอยู่ต่างประเทศเป็นยังไงบ้าง?" คงมีแต่เวลานี้เจียงเซิ่นถึงได้นึกเป็นห่วงใยลูกสาวคนนี้ขึ้นมา?เจียงเซิงไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น "เพราะคุณ ฉันจึงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีไงล่ะคะ"ความอับอายบนใบหน้าของเจียงเซิ่นแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งเซียวหลานบอกใบ้เจียงเวยด้วยสายตา เจียงเวยถึงได้เ