Share

บทที่ 8

"มามี้บอกว่าถ้าใครมาถามชื่อมามี้ ก็บอกเขาไปแค่ว่า ชื่อของมามี้คือท่านราชินีค่ะ" เจียงหนวนหนวนหัวเราะ

"หึๆ" ดาลิน่ากลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ แต่เธอก็ต้องรีบอดกลั้นเอาไว้

ฮ่าๆ เด็กสองคนนี้น่ารักจัง แม่คนไหนสั่งสอนกัน?

ดวงตาของซือเย่เจ๋ววับวาว เขามองไปที่เจียงเหยียนเหยียนซึ่งมีดวงตาที่เหมือนกับตัวเขาทุกประการ

หากไม่ใช่เพราะคนเดียวที่เขามีความสัมพันธ์ด้วยคือเจียงเวย เขาคงจะสงสัยว่าเด็กทั้งสองคนอาจจะเป็นลูกของเขาก็เป็นไปได้

เจียงหนวนหนวนเหลือบมองนาฬิกาของเธอ แล้วกล่าว "อาคนฉวย เราต้องกลับบ้านแล้ว ไม่เช่นนั้นท่านราชินีจะเป็นห่วงเอาได้นะคะ"

ซือเย่เจ๋ววางเธอลง หันกลับไปเอ่ยกับหลัวเชว่ "ไปส่งเด็กสองคนนี้ด้วยนะ"

หลัวเชว่ตกตะลึง และพยักหน้า "ครับ"

"อาคนฉวย ลาก่อนนะคะ!" เจียงหนวนหนวนโบกมือให้เขา ก่อนจับมือพี่ชายแล้วจากไปพร้อมกับหลัวเชว่

ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไปนั้น เธอก็โชว์ผมเส้นหนึ่งให้เจียงเหยียนเหยียนดูอย่างภาคภูมิใจ

หลังจากเดินออกจากประตู เจียงหนวนหนวนก็ดึงชายเสื้อของหลัวเชว่ "คุณอา มามี้ของเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาล คุณอาช่วยพาเราไปโรงพยาบาลได้ไหมคะ?"

หลัวเชว่หยุดชะงัก ลอบถอนหายใจว่าเด็กสองคนนี้เป็นเด็กที่รู้ประสาเอาเสียมากๆ

"โอเค ขึ้นรถเถอะ"

วิลล่าริมทะเล

เมื่อเจียงเซิงถึงบ้าน เธอเห็นเพียงเจียงเฉินเฉินฝึกเปียโนเพียงลำพัง กวาดสายตามองไปรอบๆ "หนวนหนวนกับเหยียนเหยียนอยู่ที่ไหน?"

เจียงเฉินเฉินตอบกลับมาว่า "พี่ชายและน้องสาวไปสมัครเป็นนางแบบนายแบบครับ แม่บุญธรรมไปกับพวกเขาด้วย"

เจียงเซิงวางกระเป๋าลงบนโซฟา ตกตะลึงเมื่อได้ยินอย่างนั้น "สมัครเป็นนางแบบนายแบบงั้นเหรอ?"

"ใช่ครับ พวกเขาบอกว่ามามี้ทำงานหาเงินลำบากมาก อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของมามี้น่ะครับ"

เจียงเซิงเดินเข้าไปหาเขา แล้วลูบหัวเล็กๆของเขา เจียงเฉินเฉินกล่าวอย่างรังเกียจว่า "มามี้ อย่ามายุ่งกับทรงผมของผมนะ"

"อุ๊ย ศิลปินน้อยของเราโกรธแล้วเหรอ?"

"ฮึ่ม!" เจียงเฉินเฉินพองแก้ม

"เฉินเฉิน พวกหนูไม่จำเป็นต้องแบ่งเบาภาระของมามี้หรอกนะ มามี้เลี้ยงดูพวกหนูได้" เมื่อเห็นว่าลูกๆเป็นเด็กดีกัน เธอก็กลับรู้สึกผิดขึ้นมาในทันที

"ไม่ได้นะครับ มามี้ทำงานหนักมากพอแล้ว พวกเราจะทำเพิกเฉยไม่ได้ อ้อ มามี้ครับ ผมได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีแห่งประเทศ Zแล้วนะครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเทอมครับ ผมมีเงิน"

"ถ้าผมได้ทุนการศึกษาอีก ผมจะให้พี่ชายกับน้องสาวเข้าเรียนที่โรงเรียนดีๆ มามี้ครับ มามี้แค่ทำในสิ่งที่มามี้อยากทำก็พอแล้วนะครับ"

เจียงเซิงซาบซึ้งใจมากจนเธอหลั่งน้ำตาออกมา "ตัวน้อยของมามี้เก่งมากเลยนะ ตอนนี้เข้าใจที่จะหาค่าเทอมให้พี่ชายน้องสาวแล้ว"

เฉินเฉินมีพรสวรรค์ด้านนี้ เธอเพิ่งค้นพบในภายหลัง ตอนอยู่ในประเทศSเขาก็ได้ถูกคัดเลือกเข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีเนปาลเป็นเคสพิเศษ แต่เนื่องจากเธอกังวลว่าเขายังเด็กเกินไป เธอจึงไม่เคยส่งเขาไปที่นั่นเลย

ตอนนี้เฉินเฉินอายุได้ห้าขวบแล้ว เดิมทีเธออยากจะรอจนกว่าเขาจะอายุหกขวบก่อนถึงจะส่งพวกเขาไปเรียนที่สถาบันการศึกษา แต่เฉินเฉินชอบดนตรีมาก มีผลการเรียนที่ดี เพราะงั้นเธอจึงไม่สามารถทำลายความฝันของลูกได้

"มามี้ พระราชินี เรากลับมาแล้วค่ะ!"

เจียงหนวนหนวนและเจียงเหยียนเหยียนกลับถึงบ้าน เจียงเซิงอุ้มเด็กน้อยสองคนที่วิ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเธอขึ้นมา "เฉินเฉินบอกว่าพวกหนูไปสัมภาษณ์งานมาเหรอ?"

"ใช่ค่ะ เราถูกเลือกแล้ว เก่งมากใช่ไหมคะมามี้!"

เจียงหนวนหนวนกะพริบตา

เจียงเซิงหอมแก้มของทั้งสองฟอดใหญ่ "พวกหนูเก่งมาก! มามี้จะไปทำอาหารให้พวกหนูนะ รอก่อนนะ"

ไม่ว่าอารมณ์จะแย่แค่ไหน อารมณ์เหล่านั้นก็หายไปหมดสิ้นเมื่อเห็นหน้าลูกน้อยทั้งสาม

เมื่อเจียงเซิงเดินเข้าไปในห้องครัว เด็กทั้งสามก็มารวมตัวกัน เจียงเฉินเฉินถามเบาๆออกมาว่า "เป็นยังไงบ้าง?"

เจียงเหยียนเหยียน "วางใจได้เลย เอาไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว ผลลัพธ์จะออกภายในสองวันนี้"

เจียงหนวนหนวนตบหน้าอกของตัวเองอีกครั้ง "หนูออกโรง ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน"

ตระกูลเจียง

"แกว่าไงนะ นังสารเลวเจียงเซิงนั่นคือโซรางั้นเหรอ?" เมื่อเซียวหลานได้ยินลูกสาวพร่ำบ่น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว

นังสารเลวนั่นไม่เพียงแต่กลับมาแล้ว แต่เธอยังเป็นโซราที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย โซรายังถูกท่านซือซื้อตัวกลับมาจากต่างประเทศเพื่อช่วยบริษัทไวน์เนอร์ให้กับลูกสาวของเธออีกต่างหาก

ตอนนั้นลูกสาวของเธอสวมรอยนังสารเลวเจียงเซิง หากนังเจียงเซิงรู้ว่าชายคนนั้นเมื่อหกปีที่แล้วคือท่านซือแล้วละก็ เจียงเซิงคงจะแย่งชิงกับลูกสาวของเธอเป็นแน่?

"แม่คะ เราควรจะทำยังไงดี?" เจียงเวยกังวลมาก

มุมปากของเซียวหลานกระตุกยิ้มอย่างเย็นชา "ต่อให้นังนั่นจะเป็นโซรา อย่าลืมว่าเรายังมีท่านซืออยู่ข้างหลังแก มันจะไปกล้าทำอะไรได้"

"จริงด้วยค่ะ ในเมื่อนังนั่นกลับมาแล้ว เรื่องระหว่างแกกับท่านซือก็ต้องคืบหน้าถึงจะโอเค ทางที่ดีแกต้องท้องหรืออะไรสักอย่าง ตราบใดที่แกมีลูก แกก็จะได้เป็นคุณนายซือสมใจอยากไงล่ะ"

เมื่อเอ่ยถึงลูก เจียงเวยก็หรี่ตาลง "แต่ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ท่านซือไม่เคยแตะต้องตัวหนูเลยนะคะ"

เธอก็อยากอยู่เหมือนกันนะ แต่ต้องให้เขาแตะต้องเธอเสียก่อนสิ

เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอไร้เดียงสาขนาดนี้ เซียวหลานจึงพูดอย่างร้อนใจขึ้นมาว่า "แกโง่หรือไง ถ้าแกรอให้เขาแตะต้องแก ต้องรอถึงเมื่อไหร่? แกต้องเริ่มก่อนสิ มีผู้ชายกี่คนในโลกที่สามารถต้านทานการยั่วยวนแบบนั้นได้?"

เจียงเวยสะดุ้งเมื่อแม่ของเธอเตือนสติ ในช่วงหกปีที่ผ่านมา เพราะซือเย่เจ๋วปฏิเสธที่จะแตะต้องเธอ เธอจึงไม่กล้าที่จะอวดดีเกินไป แต่แม่ของเธอพูดถูก เธอต้องเริ่มก่อน

เธอยิ้มอย่างเขินอาย "หนูรู้แล้วค่ะ"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status