Share

ค้นพบมิติวิเศษ

บทที่ 2

ค้นพบ มิติวิเศษ

หลังจากแยกย้ายกับจากเถ้าแก่ซ่ง สิ่งหนึ่งที่นางพบคือไม่ว่าเดินไปที่ใดก็มักเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น ด้วยรูปร่างสะโอดสะองสมส่วนไปเสียหมดล้วนแต่ดึงดูดสายตาจากทั่วสารทิศให้มองมาหากแต่นางมิได้สนใจนัก คนงามรีบเดินไปหาโรงเตี๊ยมซึ่งถามจากหญิงชรา เนื่องจากตอนนี้ทั้งหิวและอยากพักผ่อนมากเหลือเกิน ขณะกำลังเดินไปตามทาง ในหัวคิดวิเคราะห์จากประสบการณ์การอ่านนิยายว่าค่าเงินในยุคนี้มีค่าเท่าใด จำนวนอัฐที่ได้มาจะสามารถอยู่ได้หลายวันหรือเปล่า

เถ้าแก่ซ่งได้ไปสิบเหรียญทองกับอีกห้าเหรียญเงิน เขาดูดีใจมากเพียงนั้นเป็นไปได้ว่าจำนวนเงินคงมิใช่น้อยเป็นแน่

เมื่อลองเปรียบเทียบค่าเงินที่พอจะจำได้ พลันรู้สึกได้ว่าเงินนั้นคงเยอะพอสมควรเลยทีเดียว

กลิ่นน้ำซุปที่ลอยมาตามลมดึงความสนใจจากเซียวอันหนิงแทบทันที ตอนนี้ร่างกายทั้งหิวโหยอ่อนล้า เพียงกลิ่นน้ำซุปหอมที่ลอยมาตามลมมันก็แทบทำให้น้ำลายสอเสียแล้ว นางเริ่มมองหาที่มาของกลิ่นน้ำซุปว่าอยู่ตรงที่ใด อย่างน้อยก่อนไปโรงเตี๊ยมได้กินบะหมี่ผักสักชามก็ยังดี นางไม่อยากเสี่ยงไปโรงเตี๊ยมแล้วไม่มีอะไรกินต้องนอนทนหิวไปทั้งอย่างนั้น หลังจากมองซ้ายขวาอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็พบว่าร้านบะหมี่นั้นอยู่ไม่ไกลกันมากจากตรอกอันเป็นที่ตั้งของโรงเตี๊ยม ภายในร้านไม่มีลูกค้านั่งเลย พ่อค้ามีลักษณะที่ดี อ้วนพีสมบูรณ์ อัธยาศัยดีมากอีกทั้งยังหันมาต้อนรับนางด้วยรอยยิ้มกว้าง ๆ จนตาหยี

“แม่นางอยากกินบะหมี่แบบใด มีทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ” 

“ข้าขอบะหมี่ผักหนึ่งชามเจ้าค่ะ” นางสั่งทันทีเนื่องจากหิวมาก กลิ่นจากหม้อโชยมาเป็นระยะราวกับหยอกเย้ากับกระเพาะอันน่าสงสารของเซียวอันหนิง พ่อค้าเห็นแบบนั้นพลันยิ้มร่า รู้ได้ทันทีว่าลูกค้ากำลังหิวโหยเพียงใด

“ล่าย ๆ รอสักครู่เดียวเท่านั้น”

เขาพูดแล้วผละไปทำบะหมี่ผักส่วนเซียวอันหนิงเดินไปนั่งรอที่โต๊ะว่าง ๆ ไม่นานนักบะหมี่ผักชามโตก็ได้ถูกพ่อค้านำมาวางตรงหน้า เส้นบะหมี่ถูกลวกจนเหนียวนุ่ม น้ำซุปหอมกรุ่นสีทองแตกมันจาง ๆ ยั่วน้ำลาย มีผักโรยอยู่ด้านบนยิ่งแต้มสีสันของมันให้น่ากินมากขึ้น หญิงสาวไม่สามารถรอได้อีกต่อไป นางรีบกินบะหมี่ด้วยความหิวโหยแทบทันทีโดยมีพ่อค้าจ้ำม่ำนั่งพัดมองมาด้วยแววตาสุขใจ

ในที่สุดหนังท้องก็ตึง...

นางเดินไปจ่ายเงินให้พ่อค้า มองไปยังทิศทางอื่น ๆ เพื่อดูว่ามีร้านขายเสื้อผ้าในระยะใกล้ ๆ บ้างหรือไม่ นี่เริ่มมืดแล้ว รั้งรอนานกว่านี้ไม่ได้ เสื้อผ้าของนางยังพอใช้ได้ แต่ในเมื่อได้เงินมาทั้งทีก็ควรซื้ออะไรที่พอกันแดดกันหนาวได้บ้างไม่ใช่แค่ลมพัดผ่านยังสะดุ้งอย่างเสื้อผ้าชุดนี้ เซียวอันหนิงเดินออกจากร้านบะหมี่ ไปไกลได้สักช่วงถนนจึงเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำหรับบุรุษและสตรี มีขนาดประมาณสามผิง (หนึ่งผิงมีขนาดสามจุดสามเมตร) โดยในร้านมีทั้งชุดซึ่งตัดเย็บเรียบร้อยแล้วกับผ้าที่เอาไว้ให้เลือกซื้อกลับไปตัดเอง กั้นแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน ขวาบุรุษ ซ้ายสตรี ดูมีระเบียบดี สถานการณ์ของนางตอนนี้ไม่ได้มีเวลามากพอให้ไปตัดเย็บชุดเอง ดังนั้นชุดสำเร็จจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก

นางเดินเข้าไปในร้าน เนื่องจากสภาพแสนโทรมทำเอาคนขายชะงักแต่ไม่นานก็กลับมายิ้มเช่นเดิม

เพ้ย เพ้ย เถ้าแก่เนี้ยพร่ำบอกว่าอย่าดูถูกลูกค้า แต่งเช่นใดก็ต้องต้อนรับ เช่นนั้นก็ทำไปตามนั้นเสียแล้วกัน

“คุณหนูสนใจชุดไหนเจ้าคะ หรือว่าอยากได้ผ้าไปตัดเอง”

เซียวอันหนิงยังไม่ได้ตอบทันที นางมองไปทั่วร้านพลันสะดุดตากับชุดฮั่นฝูสีม่วงชุดหนึ่ง เกาะอกเป็นสีม่วงเข้มมีสายรัดสีขาวด้านล่างก่อนไล่สีจากม่วงเข้มเป็นอ่อนลงเรื่อย ๆ เสื้อตัวนอกพลิ้วบางถูกปักเป็นรูปดอกมู่ตาน เวลาสวมใส่แล้วเนื้อผ้าจะพลิ้วไหวไปตามจังหวะการก้าวเดิน นับว่าการปักและตัดเย็บชุดนั้นยอดเยี่ยม กลมกลืน พลิ้วไหว อ่อนช้อย 

นางยิ้มบาง ๆ ชี้นิ้วไปทางชุดฮั่นฝูสีม่วงชุดนั้น “ข้าต้องการชุดสีม่วงตัวนั้น”

คนขายมองตามมือนาง พบว่าชุดที่นางเลือกนั้นเป็นชุดซึ่งมาจากทางเหนือ นับว่าตาถึงเสียจริง ดวงตาเหลือบมองเรือนร่างของเซียวอันหนิงพลันยิ้มหวาน สตรีนางนี้มีความงามไม่ธรรมดา หากได้สวมชุดที่เลือกมา คงงามราวกับเทพเซียนเป็นแน่

“ชุดนี้ตัดเย็บด้วยผ้าไหมจากทางเหนือ คุณหนูช่างเลือกได้ดีเสียจริง” 

เซียวอันหนิงยิ้มโดยไม่พูดอะไร อย่างไรเสียนางก็มีรสนิยมเรื่องการแต่งตัวมาแต่ไหนแต่ไร การเลือกชุดไม่ถือว่าเกินความสามารถ นางหันมองซ้ายขวา เห็นปิ่นปักผมเป็นรูปดอกมู่ตานเข้ากับชุดวันนี้จึงหยิบมันมาด้วย ปิ่นดอกมู่ตานถูกขึ้นลายด้วยเงิน ส่วนเกสรเป็นพลอยสีแดง กลีบดอกเป็นเส้นระหว่างกลีบแบ่งชั้นกลีบแต่ละชั้นได้อย่างงดงาม

งามดีเสียจริง

คนขายเห็นนางหยิบปิ่นจึงเริ่มคิดราคาทันที “ชุดราคาสองร้อยห้าสิบอีแปะ ปิ่นปักผมรูปดอกมู่ตานราคาสามร้อยห้าสิบอีแปะ รวมเป็นเงินหกร้อยอีแปะเจ้าค่ะ”

นางยิ้มหวาน ในใจแอบหวั่นว่าคนงามจะจ่ายได้หรือไม่ ทว่าเมื่อเห็นลูกค้าตรงหน้ายื่นเงินมาให้จึงโล่งใจ นับว่าคำสอนของเถ้าแก่ซึ่งเพียรบอกมานานปีเป็นเรื่องเชื่อถือได้เสียจริง

เซียวอันหนิงมองแม่ค้าอยู่ครู่หนึ่งค่อยถาม “ข้าขอเปลี่ยนชุดที่นี่ได้หรือไม่” 

“ได้เจ้าค่ะ เชิญแม่นางมาทางนี้เลย” ลูกจ้างสตรีที่ยังสาว ผายมือให้ไปทางซ้ายซึ่งมีฉากกั้นไว้ เซียวอันหนิงพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าฉากกั้นไปทันที จากประสบการณ์ใส่ชุดก่อนหน้าทำให้การเปลี่ยนในรอบนี้ไม่ยากเย็นนัก นางใช้เวลาสักพักกว่าจะเดินออกมา ซึ่งพอแม่ค้าหันมาเห็นนางก็ถึงกับหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง

เซียวอันหนิงเกล้าผมขึ้นครึ่งหัวปักด้วยปิ่นดอกมู่ตานอันบ่งบอกถึงสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน ชุดฮั่นฝูสีม่วงงามล้ำยิ่งขับความงามของนางให้ประจักษ์ ใบหน้าหวานล้ำ ขาตายาวงอน ยามกระพริบตาคล้ายว่าผีเสื้อกำลังขยับปีก ร่างกายแบบบางสมส่วนหากแต่ไม่ราบเรียบ สิ่งใดควรมีนางไม่น้อยหน้า สิ่งไหนควรราบนางก็ไม่มี ด้วยลักษณะเช่นนี้อย่างไรผู้พบเห็นย่อมต้องหลงใหลเสียก็แต่เจ้าของเรือนร่างและใบหน้าแสนงามเช่นนี้ไม่สนใจในความรัก แม้ในโลกที่จากมาจะเป็นที่หลงใหลของผู้อื่นหากแต่ไม่เคยคิดว่าตนนั้นงามหยดย้อยราวเทพเซียนถึงเพียงนั้น

หากแต่ในสายตาของผู้คนในดินแดนนี้กลับไม่ได้มองเช่นนั้น...

นางเห็นสายตาของผู้คนพลันประหม่า รีบรับเงินทอนแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   ค้นพบมิติวิเศษ

    บทที่ 2ค้นพบ มิติวิเศษหลังจากแยกย้ายกับจากเถ้าแก่ซ่ง สิ่งหนึ่งที่นางพบคือไม่ว่าเดินไปที่ใดก็มักเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น ด้วยรูปร่างสะโอดสะองสมส่วนไปเสียหมดล้วนแต่ดึงดูดสายตาจากทั่วสารทิศให้มองมาหากแต่นางมิได้สนใจนัก คนงามรีบเดินไปหาโรงเตี๊ยมซึ่งถามจากหญิงชรา เนื่องจากตอนนี้ทั้งหิวและอยากพักผ่อนมากเหลือเกิน ขณะกำลังเดินไปตามทาง ในหัวคิดวิเคราะห์จากประสบการณ์การอ่านนิยายว่าค่าเงินในยุคนี้มีค่าเท่าใด จำนวนอัฐที่ได้มาจะสามารถอยู่ได้หลายวันหรือเปล่าเถ้าแก่ซ่งได้ไปสิบเหรียญทองกับอีกห้าเหรียญเงิน เขาดูดีใจมากเพียงนั้นเป็นไปได้ว่าจำนวนเงินคงมิใช่น้อยเป็นแน่เมื่อลองเปรียบเทียบค่าเงินที่พอจะจำได้ พลันรู้สึกได้ว่าเงินนั้นคงเยอะพอสมควรเลยทีเดียวกลิ่นน้ำซุปที่ลอยมาตามลมดึงความสนใจจากเซียวอันหนิงแทบทันที ตอนนี้ร่างกายทั้งหิวโหยอ่อนล้า เพียงกลิ่นน้ำซุปหอมที่ลอยมาตามลมมันก็แทบทำให้น้ำลายสอเสียแล้ว นางเริ่มมองหาที่มาของกลิ่นน้ำซุปว่าอยู่ตรงที่ใด อย่างน้อยก่อนไปโรงเตี๊ยมได้กินบะหมี่ผักสักชามก็ยังดี นางไม่อยากเสี่ยงไปโรงเตี๊ยมแล้วไม่มีอะไรกินต้องนอนทนหิวไปทั้งอย่างนั้น หลังจากมองซ้ายขวาอยู่หลายคร

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   ข้ามมิติมาแบบไม่รู้ตัว(ตอนปลาย)

    ข้ามมิติมาแบบไม่รู้ตัว(ตอนปลาย)ยามซื่อ (ยามมะเส็ง คือช่วงเวลา 09:00 – 10:59 น.)นางเดินลัดเลาะจนมาถึงตรอกที่หญิงชรากล่าวถึง ตรงบริเวณนี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนัก เซียวอันหนิงมองตรงไปเห็นร้านเครื่องประดับตั้งแผงขายอยู่ ลูกค้าไม่ค่อยมีนักหากแต่ผู้ขายกลับดูขัดตากันเล็กน้อย ผู้ขายเป็นบุรุษ ส่วนสูงปานกลาง ลักษณะทางกายไม่อ้วนผอมชัดเจน ใบหน้ามีลักษณะสื่อว่าเป็นคนใจซื่อ แววตาไม่เจ้าเล่ห์แสนกล ผิวพรรณออกเข้ม เมื่อคนลักษณะเช่นนี้มาขายเครื่องประดับจึงดูแปลกไปเสียหน่อย หญิงสาวมองไปก่อนคิดได้ว่าหากนางสามารถขายเครื่องประดับพวกนี้ได้สักชิ้นคงมีส่วนแบ่งพอให้ใช้ชีวิตไปหลายวัน เนื่องจากเครื่องประดับงดงามหากแต่ผู้ค้าทำให้ดูขัดตาจึงมีลูกค้าน้อยตามไปด้วยเถ้าแก่ซ่งนั่งมองเครื่องประดับตนเองซึ่งขายไม่ออกเท่าที่ควร พวกมันงดงามทว่าไม่มีผู้ใดอยากครอบครองพวกมันเลย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงได้ปิดร้านแทนเป็นแน่แท้ เขาขาดทุนมาหลายเดือนแล้ว สถานะทางการเงินเปลี่ยนไปพอสมควร จากมีลูกจ้างก็ต้องมานั่งขายเอง จนตอนนี้ผ่านมาเป็นเดือนยังขายไม่ได้สักชิ้นเดียว ห่วงก็แต่บุตรสาวผู้มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บป่วยบ่อยกระเสาะกระแส

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   ข้ามมิติมาแบบไม่รู้ตัว

    บทที่ 1ข้ามมิติมาแบบไม่รู้ตัวแสงตะวันยามเช้าทอประกายสีทองอ่อน ความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์แผ่กระจายทั่วหมู่บ้าน ‘ธาราใส’ผู้คนเริ่มตื่นนอนเพื่อเริ่มวิถีชีวิตและการทำงาน บางครอบครัวแบกจอบแบกเสียมเข้าไปทำไร่ตามวิสัยปกติ บางครอบครัวพากันลุกขึ้นมาทำอาหาร ควันจากการทำอาหารลอยอบอวลส่งกลิ่นหอมจากปล่องควัน ล่องลอยไปตามลมเชิญชวนทุกผู้คนให้น้ำลายสอ เสียงจากวิถีชีวิตอันเริ่มดำเนินไปเป็นเหตุให้ความสงบถูกความวุ่นวายเริ่มแสดงตัวณ บ้านร้างแห่งหนึ่งในหมู่บ้านซึ่งห่างไกลจากบ้านชาวบ้าน...ตัวบ้านค่อนข้างทรุดโทรมเนื่องจากไร้ซึ่งคนเข้ามาอยู่อาศัยนานหลายปี ภายในบ้านมีหญิงสาวผู้หนึ่งนอนอยู่บนเตียงไม้เก่า ๆ ภายในกระท่อมมีกลิ่นอับชื้นโชยมาเป็นเหตุให้ร่างบางซึ่งนอนอยู่บนเตียงไม้ค่อย ๆ รู้สึกตัว นางมีอาการสะลึมสะลือเล็กน้อย มองไปรอบ ๆ พลันรู้สึกประหลาดกับบรรยากาศไม่คุ้นเคย สิ่งแรกที่มองเห็นเป็นหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีรอยแตกร้าว อีกทั้งยังมีแสงเล็ดลอดเข้ามาราวกับประกาศศักดาความผุพังของมัน ยามกวาดสายตาไปรอบ ๆ นางเห็นผนังของตัวบ้านแสนเก่าคร่ำครึ แม้แต่อิฐยังมีรอยแตกร้าว หยากไย่พาดไขว้ไปมาทุกหนแห่งอันเป็นมุมอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status