ครึ่งเดือนต่อมา ณ ตีนเขากินคน
ซินเมี่ยวเพียงแค่ยืนอยู่ตีนเขาก็รับรู้ว่าภายในมีสมุนไพรพิษมากมายที่นางต้องการแน่ เพราะกลิ่นของพวกมันช่างคล้ายคลึงกับหุบเขาพิษของนางจริง ๆ ดีที่นางเตรียมยาถอนพิษมาไว้ไม่น้อยสำหรับเหล่าองครักษ์ด้วย
“พวกเจ้านั่งพักก่อน นี่เป็นยาถอนพิษ ให้พวกเจ้าโรยไว้ที่ตัวก่อนขึ้นเขา”
ซินเมี่ยวโยนขวดยาทั้ง 20 ส่งให้กับองครักษ์ทั้งหมด ส่วนของนางก็มีอีกขวดหนึ่งเช่นกัน หลังจากทุกคนโรยผงยาเรียบร้อยแล้ว ซินเมี่ยวก็พาพวกเขาขึ้นไปยังภูเขากินคนทันที โดยที่นางไม่รู้เลยว่ามีศัตรูไม่น้อยที่ติดตามกลุ่มของพวกนางอย่างห่าง ๆ มาตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงแล้ว
คนเหล่านี้ได้ข่าวว่าพระชายาของอู๋อ๋องกำลังตามหาสมุนไพรเพื่อรักษาอาการป่วยของอู๋อ๋อง จึงถูกสั่งการให้มากำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก ถึงแม้แต่ละกลุ่มจะมีเจ้านายต่างกัน แต่เมื่อเป้าหมายเป็นคนเดียวกัน พวกเขาก็สามารถร่วมมือกันได้
นักฆ่าทั้งหมดไม่มีใครคิดจะขึ้นไปยั
หนึ่งเดือนผ่านไปจวนอู๋อ๋องที่ปิดจวนอยู่อย่างเงียบสงบมาตลอดและไม่ต้อนรับแขกใด ๆ เริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง ตอนนี้อู๋อ๋องหายดีแล้วจากการรักษาของซินเมี่ยว ตัวนางก็สามารถดูดซับพิษเข้ามาไว้ในทะเลปราณของนางได้ดังชาติก่อนเช่นกัน อีกทั้งร่างใหม่นี้ยังสามารถต้านทานพิษนับร้อยชนิดไม่ต่างจากร่างของอู๋อ๋องที่หลังจากรักษาตัวแล้วยังมีร่างต้านพิษเช่นเดียวกับนางด้วยระหว่างทานอาหารเช้าร่วมกันหลังจากหายดี อู๋อ๋องแทบอยากจะประกาศให้โลกรู้ว่าตอนนี้พระองค์กลับมาเดินได้แล้ว และยังมีพลังปราณเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนถูกพิษถึงสองเท่า อาจเป็นเพราะพระองค์กดพลังปราณเอาไว้เพื่อสกัดกั้นพิษมาหลายปีจึงไม่ทราบว่าพลังปราณของตนเองแข็งแกร่งขึ้น“เสด็จพี่แน่ใจหรือว่าจะไม่ปิดบังอาการป่วยจริง ๆ” ซินเมี่ยวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“ทำไมหรือ? น้องหญิงไม่อยากให้คนรู้หรือว่าพี่หายดีแล้ว”“น้องกลัวว่าจะมีคนคิดร้ายเสด็จพี่อีกเพคะ
“ไม่ลำบากเลยเพคะ เสด็จพี่ไปพักผ่อนรอก่อนนะเพคะ หม่อมฉันต้องเตรียมตัวยา”“เช่นนั้นพี่จะให้คนนำอาหารไปให้เจ้าที่ห้องยานะ”“ขอบพระทัยเพคะ” ซินเมี่ยวยิ้มบางก่อนจะแยกตัวไปที่ห้องยาของนางอู๋อ๋องให้เหลยเปาพาไปยังห้องทำงานของพระองค์ แล้วสั่งให้เรียกองครักษ์ที่เดินทางไปพร้อมพระชายามาเข้าเฝ้าเพื่อสอบถามเรื่องการเดินทางในครั้งนี้หัวหน้าองครักษ์หลังจากสั่งงานคนที่ต้องนำสมุนไพรไปเก็บเสร็จก็รีบไปยังห้องทำงานของท่านอ๋องเพื่อรายงานเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ออกเดินทางให้ทราบ“คารวะท่านอ๋อง ตั้งแต่ออกเดินทางจากจวนไปนั้นราบรื่นดีตลอดทางพะย่ะค่ะ พวกเราขึ้นเขาโดยใช้ยาแก้พิษของพระชายาที่เตรียมไว้ให้จึงไม่มีใครเป็นอันตรายจากสมุนไพรพิษเหล่านั้น มีเพียงตอนลงมาจากภูเขากินคนช่วงกลางดึกที่มีนักฆ่าจำนวนมากกลุ้มรุมเข้ามาเพื่อเอาชีวิตพวกเราพะย่ะค่ะ พระชายาต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวและสั่งให้ฆ่าทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องเหลือใครเ
องครักษ์ทั้งหมดได้ยินเสียงดังของพระชายาก็รู้ว่าพวกเขาไม่อาจเป็นตัวถ่วงให้พระชายาได้อีก ทุกคนลงมืออย่างสุดฝีมือจากตอนแรกที่คิดจะไว้ชีวิตเอาไว้เพื่อสืบหาผู้บงการสักคนสองคนเช้ง! เคร้ง! เพี๊ยะ!!! อั่ก!! อ๊าก!!!องครักษ์จวนอู๋อ๋องใช่ว่าจะไร้ฝีมือ พวกเขานับเป็นองครักษ์ชั้นยอดที่สุดในเมืองหลวง หากก่อนหน้านี้ไม่ออมมือเอาไว้ล่ะก็ พวกเขาคงไม่มีใครบาดเจ็บแน่ ตอนนี้พระชายารับสั่งแล้วว่าให้ฆ่า พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะไว้ชีวิตพวกมันอีก“อย่าให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว!!!” ซินเมี่ยวสั่งเสียงดัง“พะย่ะค่ะพระชายา” องครักษ์ทั้งหมดรับคำเสียงดังซินเมี่ยวที่ตอนนี้เสียเลือดไม่น้อย นางไม่มีเวลาดูแลแผลตนเอง และนางไม่ต้องการให้นักฆ่าเหล่านี้กลับไปส่งข่าวได้ว่านางได้รับสมุนไพรแก้พิษของท่านอ๋องมาแล้ว ไม่เช่นนั้นหากเกิดความผิดพลาดในการแก้พิษขึ้นคงแย่แน่ด้วยพลังลมปราณและฝ่ามือพิษของซินเมี่ยว ทำให้นักฆ่าทั
ครึ่งเดือนต่อมา ณ ตีนเขากินคนซินเมี่ยวเพียงแค่ยืนอยู่ตีนเขาก็รับรู้ว่าภายในมีสมุนไพรพิษมากมายที่นางต้องการแน่ เพราะกลิ่นของพวกมันช่างคล้ายคลึงกับหุบเขาพิษของนางจริง ๆ ดีที่นางเตรียมยาถอนพิษมาไว้ไม่น้อยสำหรับเหล่าองครักษ์ด้วย“พวกเจ้านั่งพักก่อน นี่เป็นยาถอนพิษ ให้พวกเจ้าโรยไว้ที่ตัวก่อนขึ้นเขา”ซินเมี่ยวโยนขวดยาทั้ง 20 ส่งให้กับองครักษ์ทั้งหมด ส่วนของนางก็มีอีกขวดหนึ่งเช่นกัน หลังจากทุกคนโรยผงยาเรียบร้อยแล้ว ซินเมี่ยวก็พาพวกเขาขึ้นไปยังภูเขากินคนทันที โดยที่นางไม่รู้เลยว่ามีศัตรูไม่น้อยที่ติดตามกลุ่มของพวกนางอย่างห่าง ๆ มาตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงแล้วคนเหล่านี้ได้ข่าวว่าพระชายาของอู๋อ๋องกำลังตามหาสมุนไพรเพื่อรักษาอาการป่วยของอู๋อ๋อง จึงถูกสั่งการให้มากำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก ถึงแม้แต่ละกลุ่มจะมีเจ้านายต่างกัน แต่เมื่อเป้าหมายเป็นคนเดียวกัน พวกเขาก็สามารถร่วมมือกันได้นักฆ่าทั้งหมดไม่มีใครคิดจะขึ้นไปยั
เมื่อทั้งสองพระองค์กลับมาถึงจวนอู๋อ๋อง ซินเมี่ยวก็ขอตัวเข้าครัวไปทำอาหารโดยให้พ่อครัวไปนำสมุนไพรที่นางต้องการมา ซินเมี่ยวใช้เวลาทำอาหารไม่นานเพราะในครัวมีบ่าวช่วยอยู่หลายคน จนได้อาหารมา 4 อย่าง น้ำแกงอีก 1 หม้อ นางยังแบ่งปันให้บ่าวไพร่ในจวนได้กินอย่างไม่ตระหนี่ ทำให้ทุกคนมองพระชายาดีขึ้นมากจากตอนแรกที่เกรงว่าพระชายาจะถือตัวเหมือนคุณหนูจวนอื่น“พวกเจ้านำอาหารไปตั้งโต๊ะก่อน ข้าจะไปเปลี่ยนชุดสักหน่อย”“เพคะพระชายา”ซินเมี่ยวเดินกลับตำหนักตนเองแล้วรีบเปลี่ยนชุดใหม่ที่มีนางกำนัลเตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าอย่างรู้งาน นับว่าคนในตำหนักนี้ดูแลนางเป็นอย่างดี ไม่เหมือนที่นางกลัวในตอนแรกว่าพวกเขาจะนึกรังเกียจนางที่เป็นเพียงบุตรอนุ“เจ้ารีบมาเร็ว ข้ารอเจ้าร่วมโต๊ะอยู่” อู๋อ๋องเห็นซินเมี่ยวมาถึงก็รีบเรียกนาง“เหตุใดไม่เสวยก่อนเล่าเพคะ” ซินเมี่ยวรีบเดินไปนั่งข้างอู๋อ๋อง
“พวกเจ้ามีใครกล้าให้พระชายาคารวะตนเองอีกหรือไม่?” ฮองเฮาตรัสอย่างเย็นชา“พวกหม่อมฉันมิกล้าเพคะ/พะย่ะค่ะ” พระสนมที่เหลือพร้อมบุตรชายรีบกล่าว“ฮึ! หลังจากนี้ถ้าใครกล้ารังแกลูกสะใภ้ข้า ข้าจะลงโทษให้หนัก”“เอาล่ะ ๆ ฮองเฮาก็อย่ากริ้วนักเลย เรื่องเล็กน้อยจะทำให้เจ้าเสียสุขภาพเปล่า ๆ”“เพคะ ฝ่าบาท ขอบพระทัยที่เตือน”“พระยาชาอู๋อ๋อง อยู่ตำหนักอ๋องคืนแรกเป็นอย่างไรบ้างเล่า” ฮ่องเต้หันไปถาม“หม่อมฉันสบายดีเพคะ จวนอ๋องกว้างขวางและเงียบสงบ เหมาะสำหรับดูแลท่านอ๋องมากเพคะ”“ฮึ! ไม่ทราบพระชายาดูแลท่านอ๋องอย่างไร เป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กแค่นี้ จะดูแลท่านอ๋องดีได้อย่างไรกัน” พระสนมเสียนเฟยกล่าวอย่างดูถูก“ถึงแม้หม่อมฉันจะตัวเล็ก แต่เรี่ยวแรงมากพอที่จะดูแลท่านอ๋