Share

ตอนที่14 ยิ้มกริ่ม

last update Huling Na-update: 2025-09-09 12:06:07

“ถ้าเถ้าแก่มิได้ตั้งใจโกงพวกข้า งั้นจะบอกว่าไม่รู้ราคาผ้าทอกับไหมที่ใช้ปักงานพวกนี้หรือไร” ฉู่ชิงเฟิงเลิกคิ้วถาม ทำท่าเหมือนตกอกตกใจที่อีกฝ่ายเป็นถึงเถ้าแก่ของร้านใหญ่โตกลับแยกชนิดผ้าไม่ออกเสียได้

“ทำไมข้าจะดูไม่ออก เพียงแต่...” เถ้าแก่ที่กวาดตามองไปรอบๆ เห็นแต่ความเคลือบแคลงบนใบหน้าของลูกค้าเงินหนาทั้งหลาย เพราะร้านของเขานั้นมีชื่อเสียงที่สุด ย่อมมีแต่พวกคุณหนูและคนมีอันจะกินในอำเภอจงมู่มาเยือน หากวันนี้เขาไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ เกรงว่ากิจการของบรรพบุรุษคงได้สูญสิ้นในรุ่นของเขาเป็นแน่

“เถ้าแก่ไม่ผิดหรอก เป็นข้าเองที่มีความรู้ไม่มากพอ เลยประเมินราคาของตามราคารับซื้อทั่วไป” เป็นหลงจู๊ออกมาปกป้องเจ้านาย

“มิน่าล่ะ เจ้าถึงไม่ยอมไปเรียกเถ้าแก่มาให้ข้า” หลินอ้ายเดินขึ้นมายืนข้างๆ ฉู่ชิงเฟิง แล้วแผดเสียงใส่หลงจู๊

“เจ้านี่นะ ข้าอุตส่าห์ไว้ใจแท้ๆ” เถ้าแก่ทำทีเป็นหันไปดุคนของตัวเอง เสร็จแล้วก็หันไปกลับไปหาพวกฉู่ชิงเฟิง ปั้นหน้ายิ้มแล้วพูดเหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย “ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ข้าจะจ่ายค่าสินค้าครั้งนี้ และชดเชยครั้งที่แล้วให้ตามที่แม่นางเรียกร้องก็แล้วกัน”

“ตามนั้นแหละ” หลินอ้ายยิ้มกริ่ม รู้สึกสะใจที่ได้ทวงความยุติธรรมให้กับนายหญิงของตน

เถ้าแก่บอกให้หลงจู๊รีบไปหยิบตั๋วเงินจำนวนห้าตำลึงมาส่งให้พวกหลินอ้าย แล้วรับของไปเหมือนไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น เรื่องวุ่นวายทั้งหมดจึงจบลงด้วยดี พวกที่มามุงดูจึงค่อยๆ สลายตัวไป แน่นอนว่าหลินอ้ายกับฉู่ชิงเฟิงที่จัดการทุกอย่างได้ตามแผน ต่างก็เดินกระหยิ่มยิ้มย่องกันออกมาจากร้าน

“อาเปา เจ้านี่สุดยอดจริงๆ ต่อไปนี้ข้าสัญญาว่าจะไม่ด่าว่าเจ้าอีกแล้ว” หลินอ้ายพูด พลางมองตั๋วเงินจำนวนมหาศาลในมืออย่างดีอกดีใจ

“ขอบใจ” ฉู่ชิงเฟิงตอบกลั้วหัวเราะ

“คุณหนูจะต้องดีใจมากแน่ๆ”

“ข้าจะต้องดีใจด้วยเรื่องใดหรือ” หลินเสี่ยวหรานเดินออกมาจากมุมหนึ่งทางด้านหลังสร้างความตกใจให้จอมวางแผนทั้งสอง แล้วแสร้งทำเป็นถามเหมือนไม่รู้เรื่องอันใด

“ที่แท้คุณหนูนี่เอง ท่านดูนี่สิเจ้าคะ เถ้าแก่ประเมินราคารับซื้องานฝีมือของท่านใหม่” หลินอ้ายปรี่เข้าไปหาหลินเสี่ยวหราน แล้วยื่นตั๋วเงินให้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มกลบเกลื่อน ภาวนาให้เจ้านายไม่รู้ถึงวีรกรรมของตนกับอาเปาเมื่อครู่ “เงินมากขนาดนี้ คุณหนูก็ไม่ต้องหลังขดหลังแข็งทำงานจนดึกดื่นอีกนานเลยเจ้าค่ะ”

“แล้วทำไมจู่ๆ เถ้าแก่ถึงได้ขึ้นเงินให้พวกเราล่ะ”

“คือว่า...เอ่อ...เพราะคราวที่แล้วหลงจู๊ดูผ้าผิดไป ถึงได้ตีราคาให้ถูกกว่าที่ควร คราวนี้เขาเลยเพิ่มเงินชดเชยให้พวกเรามาด้วยเจ้าค่ะ”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้านี่ช่างโชคดีจริงๆ เลย ว่าไหมอาเปา”

เห็นสายตารู้ทันที่นางส่งมา ฉู่ชิงเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่านางคงเห็นทุกอย่างที่ตนกับหลินอ้ายทำในร้านขายผ้าหมดแล้ว แต่คงไม่อยากเอาโทษที่พวกตนเข้าไปก่อความวุ่นวาย จึงพยักหน้ารับแล้วยืนสงบนิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างที่เคย ทว่าในหัวใจก็แอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าค่าตอบแทนก้อนโตที่ตนเองทำได้ในครั้งนี้ จะส่งผลให้หญิงใจดำอย่างคุณหนูหลินส่งเนื้ออร่อยๆ มาให้เขากินเสียที... 

หลินเสี่ยวหรานมองเงินที่ยังเหลืออยู่หลังพาอาเปาไปฝังเข็ม และจ่ายค่าเสบียงของเดือนนี้พลางครุ่นคิด

ด้วยสถานการณ์ของตนเองในบ้านสกุลหลิน นางไม่อาจไว้ใจคนแปลกหน้า แต่เพราะไม่สามารถตัดใจไม่ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากได้ ยิ่งตอนนั้นเขาเป็นเพียงชายอ้วนที่นอนหมดสภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง ดูอย่างไรก็ไม่น่าเป็นบุคคลอันตราย จึงไม่เคยสงสัยว่าเขาจะเป็นคนของแม่เลี้ยงนางเกาอี้ซินเหมือนที่หลินอ้ายคิด

ทว่าวันนี้อาเปาคนซื่อกลายร่างเป็นบุรุษสมชายชาตรี แถมยังเจ้าแผนการไปแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงหนึ่งเดือนคนเราจะเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ถึงเพียงนี้ หรือเขาจะเป็นคนที่พยายามแฝงตัวเข้ามาจริงๆ แต่ถึงในยุทธภพจะมีวิชาแปลงโฉม ทว่าการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เขาทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำทุกวัน ทั้งยังกินได้แต่ผักสมุนไพร ย่อมเป็นไปได้ที่ร่างกายจะซูบผอมลง

พอคิดถึงตรงนี้ ภาพมัดกล้ามตรงแผงอกที่เผยอออกรำไรภายใต้เสื้อผ้าที่ไม่พอดีตัวของเขาก็ลอยมาในห้วงจำ หลินเสี่ยวหรานหน้าแดงเห่อร้อนขึ้นทันใด

‘นี่เราบ้าไปแล้วเหรอ คิดอะไรเนี่ย’ หลินเสี่ยวหรานตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ

หากดูจากอาภรณ์และเครื่องประดับที่ติดตัวอาเปามา มันดีเกินกว่าจะเป็นของนักฆ่าหรือชาวบ้านทั่วไป เช่นนั้นหากเขามิได้เป็นคนของแม่เลี้ยงนาง บางทีชายผู้นี้อาจจะมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา การที่เขาระเหเร่ร่อนมาแบบนี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกคนปองร้ายจนตกที่นั่งลำบาก

แย่แล้ว! บางทีนางอาจจะเข้าไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง

นางสู้อุตส่าห์ทิ้งความสะดวกสบายในเมืองหลวงมาอยู่อำเภอเล็กๆ เพื่อรักษาร่างกายจากการแก่งแย่งในเรือนหลังของสกุลหลิน แต่ตอนนี้อาจชักนำปัญหาใหม่เข้ามาแทน

‘ให้ตายสิหลินเสี่ยวหราน ชีวิตเจ้ายังวุ่นวายไม่พออีกหรือ’ คิดแล้วนางก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมา

หลังจากคลอดนางได้หนึ่งปี กัวลี่หนิงผู้เป็นมารดาก็มาด่วนจากไปด้วยอุบัติเหตุ แต่ยังไม่ทันไว้ทุกข์ครบสามปี บิดาก็แต่งเกาอี้ซินคนรักเก่าเข้าจวนมาทันทีด้วยเหตุผลว่าเรือนมิอาจขาดนายหญิงดูแล และเพียงไม่นานนางก็ตั้งครรภ์ แล้วคลอดหลินเวยหรงกับหลินผู่ซินออกมา

ทุกคนต่างชื่นชมยินดีกับเรื่องมงคลคู่ของบิดาและฮูหยินคนใหม่ ท่านยายของหลินเสี่ยวหรานเกรงว่าเกาอี้ซินที่เพิ่งคลอดลูกแฝดจะดูแลนางได้ไม่ดีพอ จึงมาขอตัวหลานชายกับหลานสาวที่อายุเพิ่งครบปีไปอบรมเลี้ยงดูที่สกุลกัว ทว่าบิดาไม่คิดให้ผู้อื่นดูแลหลินเวยอี้บุตรชายคนโตแทนตนเอง เลยอนุญาตให้นำบุตรสาวไปเท่านั้น

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่76 จบ

    เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “เพราะอย่างนั้น ข้าเลยไม่เห็นจำเป็นต้องโอ้อวดความสามารถอะไรเลย หลายครั้งที่ข้าช่วยเสนอความคิดต่างๆ กับเสด็จพ่อ และช่วยให้จิ้นอ๋องทำผลงาน ให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ข้าแค่เห็นว่าได้ช่วยให้คนสองคนที่ข้ารักและเคารพได้สมปรารถนา ได้เติบโตในเส้นทางของพวกเขาก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ข้ามีความสุขมากนะเมื่อได้เห็นพวกเขามีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศอะไรให้ใครรู้เลย”หลินเสี่ยวหรานฟังแล้วใจอ่อนยวบ ความคิดของฉู่ชิงเฟิงนั้นสูงส่งและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่นางคิดไว้มากนัก นางรู้สึกละอายใจที่เคยมองเขาเพียงผิวเผิน“เข้าใจแล้วเพคะ” นางพึมพำ ก่อนจะถามคำถามต่อไป “แล้ววรยุทธ์เล่าเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องมีวรยุทธ์ แต่หม่อมฉันคิดว่าแค่พอป้องกันตัวได้เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าท่านจะเก่งกาจราวเทพสงคราม จนสามารถปราบโจรป่าได้ราบคาบในพริบตา”“เทพสงครามอะไรกันเล่าหรานเอ๋อร์” ฉู่ชิงเฟิงส่ายหน้า เขาปฏิเสธคำชมนั้นอย่างรวดเร็ว “ที่ต้องฝึกวรยุทธ์ก็เพราะถูกบังคับให้ฝึกน่ะสิ ข้าไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะมันเหนื่อยจะตายไป”เขาบ่นอุบอิบ “ที่พอจะดีหน่อยก็คือเรื่องยิงธนูนั่นแหละ เพราะแค่ยื

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่75 คืนจันทร์ฉาย

    หลังจากเหตุการณ์ปราบโจรป่าครั้งใหญ่ที่จบลงไปอย่างน่าตื่นตะลึง หลินเสี่ยวหรานยังคงรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ถ่วงอยู่ในอก ภาพของฉู่ชิงเฟิงที่พลิ้วไหวกระบี่ดุจเทพสงคราม และเงาร่างของหลานเหมยที่ปลิดชีพศัตรูอย่างเลือดเย็นวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของนางตลอดเวลา มันเป็นภาพที่แตกต่างจาก ‘ท่านอ๋องว่างงานผู้ใจดี’ ที่นางรู้จักมาโดยสิ้นเชิงความรู้สึกเหมือนถูกปิดบัง คล้ายเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าเกาะกินใจนาง ทำให้นางไม่สามารถร่าเริงได้เหมือนเคยบรรยากาศในจวนดูเหมือนจะปกติ แต่ความอึดอัดบางอย่างลอยอบอวลอยู่ระหว่างโซ่วอ๋องกับพระชายา หลินเสี่ยวหรานพยายามทำตัวปกติ ทว่าความเงียบที่เข้าปกคลุมระหว่างพวกเขามักจะหนักอึ้งอยู่เสมอฉู่ชิงเฟิงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระชายาของเขามาตลอดหลายวัน ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววกังวล“หรานเอ๋อร์ วันนี้อากาศดีนัก ข้าเห็นว่าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ ไยเราไม่ออกไปเดินเล่นในตลาดสักหน่อยเล่า เผื่อจะช่วยให้ใจเจ้าผ่อนคลายขึ้นบ้าง”หลินเสี่ยวหรานวางผ้าปักในมือลงช้าๆ พลางเงยหน้ามองเขา “เพคะท่านอ๋อง” นางตอบรับเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงเจือความห่างเหิน แม้ในใจจะรู้สึกว่าการไปเดินตลาดอาจไม่ได้ช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่74 ถอนหายใจ

    เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาฉู่ชิงเฟิง ทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทันที “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน... หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉัน... หม่อมฉันไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องจะ... ทรงเก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบ้านเมือง หรือวรยุทธ์ ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกระหม่อมเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอสารภาพว่าตลอดมากระหม่อมอิจฉาท่าน ไม่ยอมรับในความสามารถของท่าน แต่บัดนี้... กระหม่อมยอมรับแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ท่านคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างแท้จริง หลี่เจิ้นขอถวายชีวิตรับใช้ท่านอ๋องตลอดไป และจะเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านอ๋องแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”น้ำเสียงของหลี่เจิ้นสั่นเครือด้วยความรู้สึกผิดและสำนึกอย่างแท้จริง แววตาที่มองฉู่ชิงเฟิงเปี่ยมไปด้วยความเคารพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเขาได้พบกับเทพเจ้าที่พร้อมจะยอมอุทิศตนเองให้ฉู่ชิงเฟิงมองหลี่เจิ้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ และยื่นมือไปประคองเขาให้ลุกขึ้น “ลุกขึ้นเถิดท่านรองเจ้าเมือง เพียงท่านเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เปิ่นหวางทำเพื่อแคว้นก็พอแล้ว เรื่องที่ผ่านมาเปิ่นหวางไม่เคยติดใจ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ภายในใจของฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงชัยช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่73 หัวใจแทบหยุดเต้น!

    ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด ฉู่ชิงเฟิงพลันสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากเงามืดอีกครั้ง คราวนี้มันรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับพายุที่พร้อมจะพัดทำลายทุกสิ่ง เขาเหลือบมองไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ละสายตาจากศัตรูเบื้องหน้า“หลานเหมย...” เสียงของฉู่ชิงเฟิงต่ำลง แต่หนักแน่นเด็ดขาด “ไประบายโทสะของเจ้าได้”สิ้นคำสั่งนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พลันปรากฏกายขึ้นจากเงามืด ราวกับภูตผีที่โผล่พ้นจากนรกานต์ นางสวมชุดองค์รักษ์สีดำสนิท ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั่งใบหน้าก็ถูกผ้าคลุมสีดำทมึนบดบังไว้จนมิดชิด เห็นเพียงประกายเย็นเยียบและดุดันที่ลอดผ่านช่องแคบของผ้าคลุมเท่านั้น รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างของนางเข้มข้นจนบรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องของโจรที่ดังระงมอยู่แล้ว กลับทวีความน่าหวาดกลัวขึ้นเมื่อเงาร่างสีดำนั้นเริ่มเคลื่อนไหว การโจมตีของนางรวดเร็ว ไร้ความปรานี และเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ราวกับยมทูตที่มาทวงวิญญาณทันใดนั้นเอง นางก็เริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายที่เคยสงบนิ่งบัดนี้กลับบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรงขัง นางพุ่งเข้าใส่กลุ่มโจรที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เสียง

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่72 สุราดีไม่ดื่ม อยากดื่มสุราพิษ!

    “เรียนท่านอ๋อง... พระชายาและท่านรองเจ้าเมือง... ถูกจับตัวไปพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเขาขาดห้วง ร่างของเฉาเหมยในอ้อมแขนซีดเผือดไร้ชีวิตชีวา พิษกำลังแล่นเข้าสู่หัวใจทันทีที่เห็นสภาพของเฉาเหมยที่ถูกนำกลับมาในสภาพปางตาย ฉู่ชิงเฟิงพลันสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นธนูพิษที่ปักอยู่บนแขนของนาง ดวงตาคมกริบฉายแววเป็นห่วงปนโทสะ“ใครก็ได้! ไปตามหมอหลวงมาดูอาการเฉาเหมยเดี๋ยวนี้” ฉู่ชิงเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ในขณะที่หมอหลวงกำลังเดินทางมาอย่างเร่งด่วนในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงจนน่าสะพรึง มันแผ่ออกมาจากเงามืดในมุมหนึ่งของห้องโถง แม้จะไร้ซึ่งเสียงและตัวตนที่มองเห็น แต่จิตสังหารนั้นก็เข้มข้นจนทำให้เส้นผมบนแขนของเขาลุกชัน เขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้มาจากใคร หลานเหมยคงเดือดดาลอย่างถึงที่สุดที่ได้เห็นสภาพปางตายของผู้เป็นน้องสาว จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นไม่ใช่แค่ความโกรธแค้น แต่มันคือคำประกาศกร้าวว่า ‘จะไม่มีใครรอด’ และผู้ที่บังอาจทำร้ายน้องสาวของนางจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างสาสมจากนั้นองครักษ์ผู้รอดชีวิตก็ยื่นจดหมายที่กำแน่นในมือให้ฉู่ชิงเฟิง เขาหยิบมาคลี่ออกอ่าน แววตา

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่71 โซ่วอ๋องผู้อัญเชิญเทพปีศาจ

    หนึ่งปีแห่งความรุ่งเรืองของแคว้นหลิงหลงได้ผ่านไป ภายใต้การบริหารของฉู่ชิงเฟิงและเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดี เมืองชิงหลิวและหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนใช้ชีวิตอย่างผาสุกแต่เหรียญย่อมมีสองด้าน...ความร่ำรวยดึงดูดสายตาของเหล่าโจรป่าผู้หิวโหย ภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขาเริ่มคุกคามเส้นทางการค้าและการสัญจรของชาวบ้าน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วแคว้นภายในจวนเจ้าเมือง “กราบทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ! แม้แคว้นเราจะมั่งคั่งขึ้น แต่ปัญหาโจรป่ากลับหนักหนาสาหัสขึ้นพ่ะย่ะค่ะ พวกมันกล้าดียิ่งขึ้น ดักปล้นขบวนสินค้าและชาวบ้านตามเส้นทางสำคัญๆ ทำให้การค้าชะงักงันพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพซ่งยืนกรานสีหน้าเคร่งเครียดฉู่ชิงเฟิงขมวดคิ้ว “แล้วกองทัพเล่า ท่านแม่ทัพมีกำลังไม่เพียงพอหรืออย่างไร”แม่ทัพซ่งถอนหายใจหนัก “กำลังพลมีจำกัดพ่ะย่ะค่ะ ทหารหลวงหนึ่งพันนายต้องกระจายกำลังดูแลสี่หัวเมือง อีกทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์หลายอย่างก็เริ่มชำรุดทรุดโทรม เพราะสงบศึกมานานหลายปี ทหารเองก็ขาดการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงพ่ะย่ะค่ะ”“ปัญหาใหญ่จริงๆ นั่นแหละท่านแม่ทัพ เปิ่นหวางเข้าใจดี” ฉู่ชิงเฟิงหันไปมองเหวินจ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status