“มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง
“อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที
มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว
สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารมากกว่า
“กูว่าครั้งนี้มันเอามึงตายแน่ รวมถึงกูและนาคด้วย” พวกมันไม่อยากให้ใครเหลือรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นไปได้แม้แต่คนเดียว เพราะกลัวว่าจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการมัดตัวคนผิด ทว่าคงไม่มีวันนั้น เพราะเขาจะรวบทั้งลูกน้องและเจ้านายของมันด้วยตัวเอง
มีสายรายงานมาว่าพันกรกำลังทยอยสั่งลูกน้องให้ขนยาเสพติดไปตามแนวชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่านแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย การขนส่งครั้งนี้จะกระจายไปทางพม่าเรื่อยไปถึงบังกลาเทศและอินเดีย แผ่ขยายไปรอบๆ
พวกมันจะทำการขนส่งยาบ้าในตอนกลางคืน และใช่ เขาจะลอบจับกุมพวกมันตอนนั้น แน่นอนพันกรมีแบล็คหนุนหลังเป็นตำรวจใหญ่หลายคน แต่ไกรพบจะไม่ยอมจำนน เขาจะเอาหลักฐานและการสื่อสารสมัยใหม่เข้าร่วม ถ้ามีเสียงและคลิปวิดีโอ ของกลาง แผ่ออกไปก็ยากที่จะหลุดจากความผิดไปได้
ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ไกรพบรู้ดี ทว่าก็ดีกว่าปล่อยให้คนผิดลอยนวล มั่งมี อยู่บนความทุกข์ของคนอื่น ยาเสพติดไม่เห็นให้ประโยชน์ใคร คงมีแต่พวกคนผลิตที่รวยเอาๆ แต่คนเสพกลับจนลงๆ ชีวิตนี้ไกรพบเลือกแล้วว่าจะทำแต่ประโยชน์แม้จะขัดแย้งใครก็ตาม
“มาแล้ว” นายหัวของไร่ธรภูมิได้ยินเสียงรถ ตอนนี้เขากำลังแอบอยู่ตามแนวต้นไม้ พร้อมกับนายตำรวจอีกสิบนาย
มีการสูญเสียอย่างแน่นอน แต่ถ้าเขาจับพวกมันได้ นั่นเท่ากับว่าสิงหราชจับคนที่คอยทำลายชาติได้เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้จับหัวใจตัวเอง โดยไม่ลังเลอีกแล้ว
คืนนี้พวกมันต้องเขาตารางให้หมด และโทษฐานที่มันกล้าจับผู้หญิงของเขาไป เขาจะเล่นงานพวกมันให้ถึงที่สุด ต่อให้มันหนีลงไปในนรก เขานี่แหละจะลากคอมันขึ้นมา
ชายหนุ่มขบกรามแน่น มือกำกระบอกปืนด้วยความมาดมั่น ในตอนนั้นเองที่ใบหน้าหล่อเหลาหันไปพยักหน้ากับไกรพบเพียงลำพัง
นายตำรวจนับสิบแตกกระจายกันออกไป จากครั้งนั้นสิงหราชรู้แล้วว่าไม่ควรอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน ไม่รู้ครั้งนี้จะมีนักแม่นปืนมาอีกหรือเปล่า แต่จากอดีตที่ผ่านมาเขาได้ฝึกฝนการยิงปืนเพิ่มเติมแล้ว ตอนนี้นายหัวหนุ่มรู้อย่างเดียวว่า ‘กูไม่กลัว’
สิงหราชแยกออกมาจากไกรพบ สถานที่ที่นาราอยู่นั้นอยู่กลางป่า พวกมันทำสัญลักษณ์ไว้ ไม่สนใจว่าเขาจะนำคนเข้าไปมากเท่าไหร่ ดูจากแผนของพวกมัน คงเป็นการปิดประตูตีแมวเสียมากกว่า เพราะถ้าให้เดาพวกมันคงดูออกว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว เพราะการมาคนเดียวเท่ากับว่าส่งตัวเองไปตาย พวกมันต้องการให้เกิดการปะทะขึ้น ไม่อย่างนั้นคงไม่เปิดทางโล่งแบบนี้
และแน่นอน เปิดทางให้กะจะเอาให้ตายทั้งหมด เหมือนครั้งนั้น...
มาถึงตรงนี้สิงหราชรู้ดีจะผลีผลามเข้าไปไม่ได้ เขาต้องวางแผนให้ดีที่สุด ถ้ามันอยากปะทะ เขาจะให้มันปะทะจนกระอักเลือดกันเลยทีเดียว
ชายหนุ่มลักลอบไปทางต้นไม้ ในยามค่ำคืนแบบนี้ ได้ยินเสียงแมลงส่งเสียงแข่งกัน สัตว์ป่าน้อยใหญ่ ลิง ชะนี ค่าง ส่งเสียงดังสลับกันขึ้นมาเป็นจังหวะ
ชายหนุ่มไม่เกรงกลัวอะไร ใจเขาห่วงอยู่ที่คนตัวเล็ก ที่ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง เป็นความผิดของเขาเอง ความผิดที่ทำให้เธอต้องเจอเรื่องเลวร้ายทั้งหมด เป็นเขาเห็นแก่ตัวที่กับเก็บเธอไว้ ทำราวกับว่าหญิงสาวมีเขาเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว
แต่มันเป็นเรื่องจริง เขาเป็นสามีนารา และใครก็ห้ามมาแตะต้องเธอทั้งนั้น
คิดด้วยความโกรธ โกรธที่มันกล้าจับตัวนาราไป เมื่อถึงเวลาเขาจะเอาคืนมันอย่างสาสม
ปัง ปัง ปัง
เกิดเสียงปืนดังสนั่นอยู่กลางป่า การปะทะได้เริ่มขึ้นแล้ว สิงหราชกำมือของตัวเองแน่น ระวังหน้าระวังหลัง ย่างด้วยจังหวะฝีเท้าแผ่วเบาเข้าไปใกล้วงต่อสู้เรื่อยๆ
สองฝ่ายต่างยิงปะทะกันไปมา ในความมืดมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องให้พอเห็นเพียงเลือนราง ไม่รู้ว่าใครอยู่ส่วนไหนบ้าง ทว่าสิงหราชจำจดแสงสีฟ้าจากไฟฉายส่วนตัวที่ไกรพบสั่งให้ลูกน้องนำติดตัวมาได้ มันถูกเปิดเป็นระยะๆ แล้วจึงพบว่าฝั่งที่เขาอยู่มีนายตำรวจอยู่หกนาย ฝั่งตรงข้ามมีอยู่ห้านาย และใช่ แสงนั้นเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย สร้างความงุนงงให้ฝ่ายศัตรูไม่น้อย
ไกรพบอยู่ไหน
อยากรู้ถึงความเป็นไปของเพื่อน ทว่าเพียงแวบเดียวกลับต้องได้ยินเสียงกระสุนเฉียดผ่านหน้าไป ร่างสูงยิงสวนกลับ หลบที่หลังต้นไม้ด้วยความรวดเร็ว
ตรงนี้ไม่มีกระท่อม ไม่มีส่วนไหนที่สามารถนำตัวนารามาไว้ได้ เป็นเพียงที่ว่างที่แทรกซึมขึ้นเป็นต้นไม้น้อยใหญ่ และที่สำคัญไม่ได้ยินเสียงเธอเลย งั้นแปลว่าตอนนี้นาราไม่ได้อยู่ที่นี่
เพียงคิดว่าหญิงสาวถูกนำตัวไป มือใหญ่ก็กำแน่นด้วยความโกรธ และใช่ความโกรธนั้นทำให้เขาสาดลูกปืนเข้าใส่ศัตรูไม่ยั้ง ทำให้มีสองในหลายคนที่ตายไป
ลูกตะกั่วต่างถูกลั่นออกมาจากสองฝ่าย มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ในตอนนั้นเองเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ประกายไฟลุกโชนอยู่ตรงด้านหน้าทำทุกคนหยุดชะงัก ด้วยทิศทางของพื้นที่อันมีความลาดชันหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งรับแสงอาทิตย์ในเวลากลางวันมากกว่าส่วนอื่น ทำให้พื้นที่มีความแห้งแล้งส่งผลให้ไฟกระจายอย่างรวดเร็ว ยิ่งเป็นทิศทางของทางลมยิ่งทำให้เปลวไฟโหมกระหน่ำราวกับมันบ้าคลั่งต้องการเผาทุกอย่างให้เป็นจุณ
นารา!
นายหัวหนุ่มเกิดความกลัวขึ้นอย่างรุนแรง ร่างสูงวิ่งออกมาจากที่กำบังไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ยังดีที่ลูกปืนพบว่ายังพอยิงได้ ทว่านอกเหนือจากศัตรูที่น่ากลัวคือไฟรุนแรงขนาดที่แผดเผาร่างกายจนไหม้เกรียมลุกโชนไปทั่ว คงเพราะรู้ชะตากรรมเดียวกัน ทุกคนถึงได้หยุดการปะทะ หาทางรีบลงจากเขาอย่างทันท่วงที
ไฟลุกลามเร็วเหลือเกิน ไม่ทันไรก็เกิดประกายไฟไปทั่ว ด้วยที่ฤดูนี้เป็นหน้าแล้ง พื้นดินแห้งกรอบจึงทำให้อัคคีโชติช่วงชัชวาลกระทั่งมองเห็นทุกสิ่งในป่า
นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย
“แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต
รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน
“ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”
“น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป
“นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง