แชร์

บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

ผู้เขียน: Midzilee01
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 15:34:28

เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้

โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!

"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง"

"คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย"

"นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา

"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!

เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนัก

นางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง นางต่อสู้ไม่เป็น จะให้ไปร่วมสู้กับเขาก็คงจะเกินกำลังของนาง

โจรสามคนที่เหลือถูกฟันจนล้มลงนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น บุรุษผู้มีพระคุณกำลังจะหันไปจัดการกับโจรคนสุดท้าย ทันใดนั้นเอง หัวหน้าโจรก็จับดาบด้วยมือข้างซ้ายหมายจะพุ่งเข้าไปแทงข้างหลังคนที่มันฟันมือขวาของตน

ผู้มีพระคุณคนนั้นกำลังจะเสียท่าถูกลอบแทงข้างหลัง จ้าวเยี่ยนฟางไม่รอช้า สอดสายสายตามองหาสิ่งที่จะนำมาเป็นอาวุธได้ พลันเห็นก้อนหินพอเหมาะมืออยู่ไม่ไกลตน จึงรีบวิ่งไปขว้าหินก้อนนั้นขึ้นมาแล้วพุ่งทะยานเข้าไปทุ่มหินใส่หัวของโจรผู้นั้นอย่างสุดกำลัง

อั่ก!! หัวหน้าโจรร้องลั่นก่อนที่จะทรุดกายลงไปนอนกับพื้นดิน ของเหลวสีแดงสดไหลออกจากศีรษะโจรเป็นทางยาว บุรุษในชุดสีดำหันกลับมามองทางด้านหลัง เห็นหนึ่งในกลุ่มโจรนอนสลบเหมือดกับพื้นและสตรีใจกล้าที่ยืนตัวสั่น ในมือถือก้อนหินที่มีของเหลวสีแดงสดเปื้อนอยู่

ในขณะที่บุรุษผู้กล้าอึ้งกับภาพเบื้องหน้า โจรคนสุดท้ายที่เหลือสบโอกาสในยามที่อีกฝ่ายกำลังพลั้งเผลอ เงื้อดาบยาวขึ้นสูงแล้วตวัดฉับไปที่ร่างของบุรุษผู้กล้านั้นทันที ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ในเชิงรบ เขาพลิกพลิ้วเบี่ยงตัวหลบและตวัดดาบในมือฝ่าอากาศฟันฉับเข้ากับลำตัวของโจรผู้นั้นอย่างแม่นยำ

บุรุษผู้กล้าสังหารโจรตรงหน้าโดยไร้ความเมตตาและไร้ซึ่งความลังเล คมดาบยาวตัดผ่านหลอดลมของโจรทันที กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ ฝ่ามือหนาปาดเช็ดเลือดที่กระเซ็นมาเปื้อนใบหน้าที่โผล่พ้นผ้าออกอย่างลวก ๆ ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับสตรีที่อยู่เบื้องหลัง

จ้าวเยี่ยนฟางเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาก็ตกใจยิ่งนัก แข่งขาอ่อนแรง ร่างกายไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง ล้มพับพาบลงไปกองกับพื้นอย่างแรง บุรุษผู้กล้าค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้นางขึ้นเรื่อย ๆ นางนั่งตัวสั่นเทาแววตาสั่นไหว จับจ้องบุรุษตรงหน้าที่ก้าวย่างเข้ามายังตน แม้นจะกลัวเพียงใดแต่ก็ทำใจดีสู้เสือส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้กับคนตรงหน้า บุรุษผู้นี้ช่างน่ากลัวยิ่งกว่าโจรยิ่งนัก!

"เจ้ากลัวข้างั้นรึ เหตุใดก่อนหน้านี้ถึงได้ใจกล้า ปากกล้ายิ่งนัก" จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ นางไปปากกล้าใส่เขาตอนไหนกัน

"ข้าไปปากกล้าใส่ท่านตอนไหนกัน.." นางโต้กลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เกิดมาก็ไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาอย่างนี้มาก่อน  ใครจะไปรับมือได้ไหว

แต่เดี๋ยวก่อน..เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นกับน้ำเสียงนี้เหลือเกิน

ร่างบางพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ทว่าขานางกลับไม่ยอมเชื่อฟังเลย นางลุกไม่ขึ้นไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหนแล้วก็ตาม

"เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งพ่นถ้อยคำหยาบคายออกมาเสียงดัง ระคายหูข้ายิ่งนัก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นางไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์แบบไหนกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่นางด่าโจรสินะ..

"อะ..เอ่อข้าเพียงโกรธเท่านั้นจึงได้พูดเช่นนั้นออกไป พวกมันทำไม่ดีกับข้า ไยข้าต้องพูดจาอ่อนหวานกับพวกมันด้วย"

"ไยเจ้ามิลองใช้มารยาดูเล่า แบบที่เจ้าเคยทำไง พวกมันอาจไม่ฆ่าเจ้าก็ได้" คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน แม้เขาจะเป็นผู้มีพระคุณแต่นางกลับรู้สึกไม่ชอบใจบุรุษผู้นี้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ 

"ท่านเป็นใครกันถึงได้มาพูดจาดูหมิ่นข้าเช่นนี้ เรารู้จักกันงั้นหรือ?"

"เจ้าไม่รู้จริง ๆ หรือ" เขาตอบเสียงเรียบ

นางจ้องมองใบหน้าที่ปิดด้วยผ้าผืนสีดำของเขาด้วยความฉงนใจ และเมื่อใช้สายตามองสำรวจร่างกายกำยำของบุรุษตรงหน้าอย่างถี่ถ้วนก็พบว่า บุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายคลึงกับหวงตงหยางที่นางเพิ่งเจอที่โรงน้ำชา แต่มันจะเป็นไปได้หรือที่หวงตงหยางจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เอาชีวิตตนมาเสี่ยงเพื่อช่วยนาง เขารังเกียจนางอย่างกับอะไรดี 

จ้าวเยี่ยนฟางจ้องลึกเข้าไปยังดวงตาสีเหล็กกล้าอย่างค้นหาคำตอบเพียงเสี้ยวนาที ก่อนจะเบือนใบหน้าหนีหลบดวงตาคู่คมนั้นที่จ้องลึกเข้ามายังดวงตากลมโตที่สั่นไหวเหมือนกันอย่างหวาดหวั่น พลันสายตาก็สังเกตเห็นว่าที่ช่วงกลางอกของเขา อาภรณ์ที่เขาสวมใส่มีรอยขาดเป็นทางยาวและบริเวณนั้นมีความเปียกชุ่มอยู่ เขาคงได้รับบาดเจ็บเป็นแน่!

"ท่านบาดเจ็บนี่ ข้าขอดูหน่อย" นางค่อย ๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ยืนชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาบุรุษตรงหน้า

ไม่ว่าบุรุษผู้นี้จะเป็นใคร แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีพระคุณ ต่อให้เขาคือหวงตงหยางที่จะฆ่านางในตอนจบ นางก็ต้องรักษาเขา

นางเดินเข้าไปหนึ่งก้าว เขาก็ถอยหลังออกจากนางหนึ่งก้าว

"ท่านจะถอยหลังหนีข้าทำไมกัน ข้าเพียงแค่จะดูแผลให้ท่านเท่านั้น"

"ข้าไม่เป็นไร แผลเท่านี้นับว่าไกลหัวใจ" แม้จะมองเห็นแค่เพียงครึ่งหน้า แต่นางก็เห็นว่า ใบหน้าของเขานั้นเริ่มซีดเซียว และบัดนี้บริเวณหน้าอกของเขามันเปียกชุ่มเป็นวงกว้างมากยิ่งกว่าเดิม

"ท่านอย่าดื้อนักจะได้มั้ย!!" นางดันบุรุษที่ตัวใหญ่กว่านางจนหลังเขาชิดติดกับต้นไม้ใหญ่ และจับไหล่ของเขาเบา ๆ ค่อย ๆ กดให้เขานั่งลง บัดนี้บุรุษที่แข็งแกร่งอย่างเขากลับถูกมือเล็ก ๆ จับไปวางตรงนั้นตรงนี้ได้อย่างง่ายดาย หากนางอยากดูนักก็ปล่อยให้นางดูให้สมใจ เขานั่งนิ่งไม่ขัดขืน และไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาใช้เพียงสายตาสำเร็จมองนาง

"คุณชายข้าต้องล่วงเกินท่านแล้ว" จ้าวเยี่ยนฟางจับไปที่อาภรณ์สีดำที่โชกเลือดของเขา ก่อนจะค่อย ๆ ถอดมันออกอย่างเบามือ สำหรับนางแล้วแค่ผู้ชายถอดเสื้อมันธรรมดามาก โลกที่นางจากมา ถอดให้เห็นกันยิ่งกว่านี้เยอะ และอีกอย่างนางก็เคยเรียนหมอมาก่อน แม้จะไม่ได้ชอบนัก แต่นางก็สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

เขาได้แต่นั่งเงียบคอยดูการกระทำของนาง นางกล้าถอดเสื้อผ้าของบุรุษแปลกหน้าได้อย่างไร หรือจริง ๆ แล้วนางจำได้ว่าเขาคือใคร แล้วถ้าหากว่านางจำเขาไม่ได้ล่ะ ต่อให้เป็นบุรุษแปลกหน้านางก็จะทำเช่นนี้หรือ.. เหอะ! นางช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอายยิ่งนัก

"เจ้ามันเป็นสตรีน่ารังเกียจ"

"ยังมีแรงต่อว่าข้าเช่นนี้แสดงว่าคงยังไม่ตายง่าย ๆ" จ้าวเยี่ยนฟางหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมา หมายมั่นว่าจะเอามาเช็ดเลือดให้กับบุรุษตรงหน้า แต่ทว่านางกลับชะงักการกระทำนั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

บุรุษแปลกหน้าผู้นั้นมองผ้าเช็ดหน้าในมือของนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนสายตาดุดันจะตวัดกลับมามองหน้านางด้วยความรู้สึกหนึ่งที่อ่านได้ยาก

ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของหลงโม่โฉว แม้ว่านางจะมิได้เอามาเช็ดน้ำตาในตอนแรก แต่นางก็ต้องซักแล้วนำไปคืนเขา จะเอามาเช็ดเลือดเช่นนี้ไม่ได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ลุกขึ้นทันที คนจะช่วยทำแผลให้กลับโดนด่าว่าเป็นสตรีน่ารังเกียจ นางน่าจะหนีไปเสียตั้งแต่ตอนแรก

ขณะที่นางกำลังจะหันหลังเดินออกไป กลับถูกเขาจับข้อมือไว้แน่น 

"เจ้าจะไปไหน"

"ข้าจะไปหยิบผ้ามาห้ามเลือดให้ท่าน ปล่อยมือข้าได้แล้ว"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาจึงยอมปล่อยมือจากนาง จ้าวเยี่ยนฟางเดินผ่านซากโจรที่นอนอยู่บนพื้นโดยที่มิรู้ว่าใครเป็นใครตายบ้าง นางเดินตรงไปหยิบห่อผ้าที่นางเพิ่งซื้อมา และกลับเข้าไปในรถม้าเพื่อหยิบขวดเหล้าออกมา มันเป็นเหล้าที่นางตั้งใจซื้อไปดื่มที่เรือน

ไม่รู้ว่า เหล้านี้จะนำมาล้างแผลได้มั้ย.. แต่มันก็แอลกอฮอล์เหมือนกันแหละน่า ใช้ ๆ ไปก่อน จ้าวเยี่ยนฟางเดินกลับมายังต้นไม้ ที่มีบุรุษชุดดำนั่งรออยู่ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเขาจึงลืมตาขึ้นดู พบว่านางได้หอบของพะรุงพะรังเต็มสองมือไปหมด

"ท่านมีมีดสั้นหรือไม่เจ้าคะ" นางถามเขาเพื่อจะเอามันมาตัดผ้า ลำพังแค่แรงนางคงจะฉีกไม่ไหว

"เจ้าจะเอาไปทำอะไร" เขาถามอย่างงุนงง นางคิดจะสังหารเขาด้วยมีดอย่างนั้นหรือ แต่คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอกกระมัง

"ผ้าผืนใหญ่ขนาดนี้หากไม่ตัดแล้วท่านจะห่มเอาหรือเจ้าคะ"

"มีแต่ดาบที่เจ้าเห็นนั่นแหละ" เขาพูดก่อนจะหลับตาลงเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับนาง

จ้าวเยี่ยนฟางใช้ชายกระโปรงตัวเองเช็ดรอยเลือดที่เปื้อนดาบจากนั้นนำเหล้ามาราดเพื่อทำความสะอาด และใช้ผ้าส่วนหนึ่งเช็ดดาบให้แห้ง ก่อนจะนำดาบที่นางคิดว่าสะอาดแล้วตัดผ้าแพรผืนสีขาวอีกผืนออกเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอใช้งาน

นางใช้ผ้าชุบเหล้าแล้วเช็ดรอบ ๆ บาดแผลก่อนที่จะนำผ้าส่วนที่นางเตรียมไว้เป็นผ้าพันแผลค่อย ๆ บรรจงพันแผลให้กับเขา

บัดนี้เลือดของเขาดูเหมือนว่าจะไหลช้าลงแล้ว โชคดีที่แผลไม่ได้ลึกมาก มิเช่นนั้นอาจอันตรายถึงชีวิตได้ นางทิ้งตัวลงข้าง ๆ เขาเพื่อนั่งพัก พลางใช้ความคิดถึงการเอาชีวิตรอดจากที่นี่ หากมีหนึ่งในโจรฟื้นขึ้นมา นางจะทำอย่างไรดี

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ตรงเข้ามาทางที่นางนั่งอยู่ และดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของคนหลายคน ไม่นานถิงถิงก็โผล่มาพร้อมกับทหารและรถม้าของจวน

จ้าวเยี่ยนฟางรีบลุกขึ้นไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทหารฟัง หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้วก็พบว่ามีผู้สิ้นชีพสิบห้าคน หนึ่งในนั้นรวมคนขับรถม้าของนางด้วย ส่วนกลุ่มโจรพวกนี้มีคนรอดชีวิตเพียงคนเดียว คือคนที่จ้าวเยี่ยนฟางทุบด้วยก้อนหิน..

บุรุษชุดดำที่ตอนนี้ถูกพันด้วยผ้าพันแผลเดินมายืนข้าง ๆ จ้าวเยี่ยนฟางก่อนจะใช้มือถอดผ้าปิดหน้าออก

"ตายหมดมั้ย" เขากล่าวอย่างภูมิใจในผลงานของตัวเอง จ้าวเยี่ยนฟางจึงหันไปดูว่าเขาลุกขึ้นมาได้อย่างไร ทหารหันไปมองตามที่มาของเสียงเมื่อเห็นป้ายหยกตรงเอวของเขาแล้ว ก็รีบทำความเคารพทันที

"คารวะท่านแม่ทัพ!!" 

"ที่เหลือฝากพวกเจ้าจัดการด้วย" เขากล่าวอย่างเรียบง่ายก่อนจะหันหน้ามาหาสตรีตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางได้แต่ยืนอึ้งและมึนงง นิ้วเรียวชี้หน้าเขา ทำตาปริบ ๆ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเผยอออกแล้วก็หุบอยู่หลายครั้ง คลายจะพูดอะไรแต่ก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจากปากนาง

บุรุษคนนี้คือ.. หวงตงหยางจริง ๆ ด้วย!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตอนพิเศษ

    "หยางหยาง เธอคนนั้นสวยเนอะนายว่ามั้ย" ลู่ฉือเฉิงใช้ศอกสะกิดเพื่อนรักของตัวเองด้วยความตื่นเต้น พลางใช้นิ้วชี้ไปยังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ เธอสวมมินิเดรสสีครีม พร้อมกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดัง ผมสีน้ำตาลอ่อนเหยียดตรงยาวจนถึงกลางหลัง ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกหลงใหล"อืม" เขาตอบกลับเพียงสั้น ๆ ทำเอาลูู่ฉือเฉิงถึงกับหน้ายู่ด้วยความผิดหวัง ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ทำตัวเหมือนกับก้อนหินแบบนี้ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ กันแล้ว แต่เขายังไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทคนนี้มีแฟนกับเขาเลยสักคน"นี่หยางหยาง ฉันถามนายจริง ๆ นาย..คงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกใช่มั้ย" ลู่ฉือเฉิงเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก"ฉันชอบผู้หญิงเหมือนกับนายนั่นแหละน่า" หวงตงหยางหรือที่เพื่อนสนิทเรียกว่าหยางหยางตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับศิลปะเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าที่ยอมมาหอศิลป์เป็นเพื่อนเจ้าลู่ฉือเฉิง เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับศิลปินท่านหนึ่งที่เขาจะต้องรู้ให้ได้..ชื่อของศิลปินคนนี้ เหมือนกับนางในฝันของเขา .."หยางหยางนายยังฝันแปลก ๆ อยู่ใช่มั้ย เพราะเธอคนนั้นหรือเปล่านายถึงไม่ยอมมีแฟนสักที" คำถาม

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความทรงจำในม่านหมอก

    แสงไฟจากโคมระย้าคริสตัลส่องประกายระยิบระยับไปทั่วห้องโถงคอนโดหรู ผนังห้องสีครีมอ่อนประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันฝีมือประณีตที่บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลิศหรูของเจ้าของห้อง เรือนร่างระหงยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ เธอมองลงไปยังถนนด้านล่างที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและยานพาหนะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายที่รอให้เธอเปิดอ่านวางรออยู่บนโต๊ะแขนเรียวเอื้อมมือไปหยิบซองจดหมายสีครีมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างตัวออกมาเปิดอ่าน เนื้อหาภายในจดหมายแจ้งว่าเธอได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงภาพวาดที่หอศิลป์แห่งหนึ่ง ริมฝีปากบางเผยอเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินไปยังมุมหนึ่งของห้องภาพวาดขนาดใหญ่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนหนึ่ง เรียวแขนเล็กค่อย ๆ ดึงผ้าคลุมออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นภาพวาดสีน้ำมันที่วิจิตรงดงาม สิ่งที่ปรากฏบนผืนผ้าใบก็คือรูปของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดจีนโบราณสีเปลือกไข่ เธอจ้องมองภาพนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่ทว่ามิอาจซ่อนความโศกเศร้าในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนได้ แพขนตางอนหลุบต่ำลงเล็กน้อย นิ้วมือเรียวลูบดวงหน้าคนในภาพอย่างทะนุถนอม ราวกับกำลังสัมผัสใบหน้าของผู้เป็นที่รัก..เสียงริงโทนเรียกเข้าดังขึ้น ทำให้เจ้าของดว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตำราหน้าสุดท้าย

    หวงตงหยางนอนกอดหมอนที่ฮูหยินเคยหนุนนอน ด้วยความโศกเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ น้ำตาแห่งความคิดถึงไหลอาบแก้มของเขา หมอนใบนั้นยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของนาง กลิ่นที่เขาจะไม่มีวันลืมเลือนไปได้ตลอดชีวิตหวงตงหยางโอบกอดหมอนแน่นยิ่งขึ้น ราวกับว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ยังเชื่อมโยงเขากับนางได้ นัยน์ตาเศร้าสร้อยหลับตาลงและปล่อยให้ความทรงจำอันแสนหวานไหลเวียนอยู่ในหัวใจ ภาพของนางที่ยิ้มแย้ม หัวเราะ และร้องไห้ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ภาพเหล่านั้นชัดเจนราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้แต่ความจริงแล้ว นางได้จากเขาไปแล้ว..หลังจากที่จ้าวเยี่ยนฟางสิ้นลมหายใจ หวงตงหยางก็รู้สึกราวกับว่าส่วนหนึ่งของตัวเขาได้ตายไปพร้อมกับนาง ความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดทรมานหัวใจ ภาพที่นางโผเข้ามารับคมกระบี่แทนเขายังคงตามหลอกหลอนเป็นดั่งเงา ทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแต่กระนั้นเขาก็ยังตายไม่ได้ เพราะนางได้ยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเขาเอาไว้ เขาจำต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปกับความรู้สึกผิดที่กดทับหัวใจตลอดเวลาคำพูดที่จ้าวเยี่ยนฟางพูดไว้วันนั้นก็เป็นดั่งคำสาป "โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขนะเจ้าคะ" นางพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มชี

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

    "หลานเฟิง เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร" หวงตงหยางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนัก"ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า ข้าจะมิยอมตกนรกอยู่คนเดียว ในเมื่อข้ามิสามารถครอบครองท่านได้ จะใครหน้าไหนก็มิคู่ควรทั้งนั้น!!" บัดนี้ดวงหน้าที่เคยงดงามอ่อนหวาน ถูกไฟริษยาแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี ความรักทำให้นางตาบอดงมงาย ชายที่นางหลงรักกลับเห็นนางเป็นเพียงแค่ของเล่น สตรีที่นางชิงชังที่สุดกลับมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของนาง!!"ปล่อยเยี่ยนฟางไป นางมิได้เกี่ยวอะไรด้วย หากเจ้าโกรธแค้นนักก็มาลงที่ข้า ข้าขอรับความโกรธแค้นของเจ้าไว้แต่เพียงผู้เดียว""ฮ่าๆๆๆ จนป่านนี้ท่านก็ยังปกป้องมัน ในวันที่ข้าจมน้ำ ข้ารู้ว่าท่านแสร้งทำเป็นลงโทษนาง เพื่อที่จะได้มิต้องส่งตัวนางให้ทางการใช่หรือไม่ ท่านมิเคยคิดเข้าข้างข้าอยู่แล้ว แล้วที่ผ่านมาท่านจะมาให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับข้าทำไม""..." หวงตงหยางนิ่งเงียบมิยอมตอบกลับอะไร จริงอย่างที่เหรินหลานเฟิงพูด เขารู้ดีว่าจ้าวเยี่ยนฟางร้ายกาจเพียงใด แต่อย่างไรนางก็เป็นภรรยาที่รักและซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงคนเดียว เหรินหลานเฟิงเองก็มิใช่สามัญชนคนธรรมดา หากบิดานางล่วงรู้ว่า ฮูหยินจงใจผลักลูกสาวของเข

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เทศกาลฉงหยาง

    แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างไม้สลัก มากระทบลงบนใบหน้าเนียนผ่องที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของผู้เป็นสามี เซี่ยซินหยานลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ด้วยความงัวเงีย ดวงตาคู่งามจับจ้องไปยังใบหน้าคมคายที่บัดนี้กำลังหลับไหลอยู่ด้วยความรู้สึกรักใคร่ ฝ่ามือเล็กสัมผัสกับใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา เรียวนิ้วลูบไล้สันจมูกโด่งด้วยความหลงใหล"ฮูหยินเจ้าหลอกกินเต้าหู้ข้าหรือ" เสียงนุ่มทุ้มของเขาเอ่ยขึ้น ก่อนจะจับข้อมือของภรรยาตัวน้อยเอาไว้มิยอมปล่อย อันที่จริงเขาตื่นมาสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าแสร้งทำเป็นนอนต่อก็เท่านั้น ผู้ใดจะรู้เล่าว่าฮูหยินจะมีมุมเช่นนี้อยู่ด้วย "ข้ามิได้คิดเช่นนั้นเสียหน่อย" เซี่ยซินหยานขมวดคิ้ว ประท้วงคำพูดของเขาด้วยเสียงแผ่ว นางมิได้มีความคิดเช่นนั้นเสียหน่อย นางเพียงแค่คิดว่าหวงตงหยางเป็นบุรุษที่รูปงามมากก็เท่านั้น มิได้มีอารมณ์ความรู้สึกใดแอบแฝงอย่างที่เขากล่าวหาเลยแม้แต่น้อย"หากมิได้คิดเช่นนั้น..แล้วเจ้าคิดเช่นไรกันล่ะ" สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์จับจ้องไปยังริมฝีปากของนางพร้อมซักถาม "ข้าคิดว่าท่านรูปงามมากก็เท่านั้นเอง..พอใจหรือยังเจ้าคะ" เซี่ยซินหยานตัดสินใจตอบกลับไปตามตรง หวงต

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนหลอกลวง!

    อาทิตย์อัสดงสาดส่อง ย้อมให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นสีแสด กระทั่งเงาของต้นหลิวที่สะท้อนอยู่ในน้ำก็ยังมองเห็นเป็นสีแสดด้วยเช่นกัน จ้าวเยี่ยนฟางนั่งยังคงชะเง้อมองหาร่างของผู้เป็นสามี ด้วยความกระวนกระวายใจ"อากาศเย็นลงแล้วนะเจ้าคะฮูหยิน เข้าไปพักผ่อนด้านในเรือนเถิดเจ้าค่ะ" สาวใช้คนสนิทเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง วันนี้ฮูหยินของนางนั่งรอท่านแม่ทัพอยู่ที่ศาลาริมน้ำมาทั้งวันแล้ว ไม่ว่านางจะพูดเช่นไรก็ดูเหมือนว่าฮูหยินท่านจะไม่ยอมฟังเลยแม้แต่น้อย"ข้าขอรอเขาอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อยนะ.." เสียงผู้เป็นนายตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ถิงถิงจึงทำได้เพียงปล่อยให้ท่านนั่งรออยู่เช่นนี้ต่อไป สิ่งที่นางพอจะทำให้ฮูหยินได้ในเวลานี้ก็คือนำเสื้อคลุมหนา ๆ มาให้ท่านสินะ.."เช่นนั้นบ่าวจะไปนำเสื้อคลุมอุ่น ๆ มาให้นะเจ้าคะ" "อื้อ" จ้าวเยี่ยนฟางพยักหน้าตอบกลับเล็กน้อย ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังซุ้มประตูทางเข้าของเรือนจงหยุนไม่นานนักถิงถิงก็เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อคลุมสีฟ้า มืออีกข้างหนึ่งของนางถือตะเกียงไม้มาด้วย นางช่วยใส่เสื้อคลุมให้กับฮูหยินและจัดแจงวางตะเกียงไว้ด้านข้าง เพราะนางรู้ดีว่าฮูหยินคงจะนั่งอยู่ต่อไปเช่นนี้ต่อไป หาก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status