LOGINประมาณสิบโมงกว่าพี่ชายกับสามีจำเป็นก็กลับมาพร้อมด้วยเงินก้อนโตเช่นทุกวัน ฟ่านปิงก็ให้พี่ชายแบ่งสองบ้านเท่าๆกันแม่เสิ่นเรียกลูกชายมานั่งฟังเรื่องที่ฟ่านปิงสร้างบ้านสองหลังและขอเป็นคนจ่ายเงินหลังของฟ่านปิงเอง เพราะเป็นที่ดินของสองพี่น้องแต่ต่อไปทั้งสองแม่ลูกจะแต่งงานและย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านกับลูกสะใภ้เมื่อคืนสองแม่ลูกตกลงกันแล้วว่าจะย้ายมาอยู่ที่บ้านเดียวกัน
"ช่วยกันทำงานแม่เสิ่นปักผ้าเฉินซานช่วยมู่หยางทำสวนและทำนาเพราะต่อไปเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะลูก ฟ่านปิงให้แม่ได้ออกค่าสร้างบ้านด้วยเถอะนะยังไงแม่ต้องมาอยู่กับลูกชายลูกสะใภ้ของแม่อยู่แล้วต่อไปยายแก่คนนี้ต้องให้ลูกสะใภ้กับลูกชายดูแลไปตลอดชีวิตบ้านหลังเก่าแม่จะปิดเอาไว้ ให้เฉินซานไปดูแลเอาถ้ามีคนเช่าก็จะให้เช่า" แม่เสิ่นบอกกับสองพี่น้องบ้านมู่ "ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ก็ช่วยแค่ครึ่งเดียวก็พอค่ะหนูก็อยากมีส่วนสร้างบ้านของตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน" ฟ่านปิงบอกแม่เสิ่น เพราะแม่เสิ่นจะออกให้คนเดียวอ้างว่ามาอาศัยในบ้านของลูกสะใภ้ ดันกันไปก็ไม่มีอะไรดีจึงตกลงที่คนละครึ่งเพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่าย เฉินซานพอใจมากที่ภรรยาตัวน้อยยอมให้เขากับแม่มีส่วนช่วยเธอสร้างบ้านและใช้ชีวิตร่วมกันไปที่บ้านหลังนี้ไปจนแก่ชราไปด้วยกัน เขาอยากมีลูกสามสี่คนให้มารดาเลี้ยงและยึดเอาตัวกับหัวใจของฟ่านปิงให้อยู่ที่เขากับลูกเพียงเท่านั้น หลังจากกคุยกันเรื่องบ้านเสร็จเรียบร้อยมู่หยางบอกจะไปขอซื้อที่รอบตัวบ้านเอาไว้ปลูกผักผลไม้ตามที่คุยกันกับน้องสาวเพราะจะไม่ไปทำงานที่ไหนอีกแล้วส่วนฟ่านปิงกับป้าเสิ่นก็ปักผ้าไป ผมกับน้องเขยจะรับหน้าที่ทำสวนทำนาเองครับเล่าสิ่งที่เขากับฟ่านปิงปรึกษากันให้ฟังที่ตกลงกันที่จะทำต่อไปนี้ให้สองแม่ลูกฟังซึ่งทั้งสองแม่ลูกก็เห็นด้วย ทั้งยังจะช่วยจ่ายเงินเพิ่มอีกแม่เสิ่นจึงให้ลูกชายไปขอซื้อฝั่งที่ดินติดกันกับของฟ่านปิงเอาไว้ให้ลูกๆของเฉินซานกับฟ่านปิงที่จะเกิดมา ซึ่งฟ่านปิงก็ไม่ได้ขัดอะไรเขาอยากจะซื้อก็ตามใจในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว ซึ่งเหลือเวลาไม่ถึงสิบวันก็สิ้นเดือนนี้คือกำหนดการงานแต่งของเธอกับสามีจำเป็น หลังตกลงกันเรียบร้อยสองหนุ่มก็ปั่นจักรยานออกไปในหมู่บ้านเพื่อทำธุระให้เสร็จในวันนี้เลย และตอนนี้ก็ห้าโมงเช้าแล้วฟ่านปิงจึงเดินเข้าครัวอุ่นกระต่ายตุ๋นที่เธอทำเอาไว้แล้วเมื่อเช้ารวมทั้งไก่ย่างด้วยอีกหนึ่งอย่างก่อนที่สองหนุ่มจะกลับมา ส่วนแม่เสิ่นนั่งปักผ้าต่อเพราะฟ่านปิงไม่ให้ไปช่วยเธอทำคนเดียวได้สบายมากฟ่านปิงบอกแม่เสิ่นก่อนที่จะเข้าไปในครัวทำอาหารสำหรับสี่คน ส่วนสองหนุ่มที่ไปในหมู่บ้านเพื่อซื้อที่เพื่มบริเวณรอบที่ของสองพี่น้องบ้านมู่ลุง ผู้ใหญ่บ้านบอก "ฝั่งขวาสามสิบไร่ฝั่งซ้ายยี่สิบไร่จะรับหมดเลยไหม" มู่หยางจึงบอกให้ลุงผู้ใหญ่บ้านแยกให้เป็นสามชื่อมู่หยางเอาซ้ายยี่สิบไร่ใส่ชื่อตัวเอง ทางฝั่งขวาให้ใส่ชื่อมู่ฟ่านปิงกับเสิ่นเฉินซานคนละสิบห้าไร่ เพราะเฉินซานอยากมีที่ดินที่ทำสวนติดกันกับของภรรยาและเขาจะมอบให้เป็นชื่อของภรรยาเมื่อแต่งงานกันแล้ว มู่หยางจึงไม่ขัดความตั้งใจของเขา ทั้งยังบอกให้ลุงผู้ใหญ่บ้านจ้างคนมาตัดหญ้าและขุดบ่อน้ำให้ด้วยแปลงละสามบ่อ และพลิกหน้าดินให้เรียบร้อยเลยรวมทั้งจ้างล้อมรั้วของที่ดินทั้งหมดตามค่าจ้างในเมืองเพราะไม่เลี้ยงอาหาร โดยจ้างลุงผู้ใหญ่บ้านกับลูกชายเป็นคนดูแลคุมคนงานและให้คัดเอาคนที่ขยันมาทำงานให้และให้ค่าดำเนินการเรื่องที่ดินไปสิบหยวนก่อนค่าแรงจะให้อีกต่างหากถ้าพาคนงานไปทำงานให้ พอตกลงกันเรียบร้อยสองหนุ่มก็ปั่นจักรยานกับบ้านไปกินข้าวมื้อเที่ยงที่ตอนนี้เลยมานิดหน่อยิบอกเรื่องซื้อที่ให้น้องสาวและแม่ของเฉินซานฟังตอนที่นั่งกินข้าวเที่ยง ฟ่านปิงรับรู้ก็ไม่ได้ว่าอะไรรวมทั้งแม่เสิ่นด้วย พูดกันไปมาอาหารบนโต๊ะหมดเกลี้ยงทุกอย่างเพราะสองหนุ่มที่อร่อยจนเพิ่มข้าวไปหลายถ้วย หลังจากกินข้าวอิ่มสองหนุ่มจึงนอนพักก่อนจะขึ้นไปหาผักป่าอีกรอบพวกเขาแค่หาอะไรทำ เพราะงานในสวนของบ้านมู่พึ่งจะทำเสร็จไปสองหนุ่มนั้นต้องงการไปหาล่าสัตว์มากกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ช่วยงานปักเย็บก็ไม่ได้สู้ไปหาอาหารมาเพิ่มเอาไว้ดีกว่าน้องสาวทำอาหารให้กินดีกว่ามู่หยางคิด การงานของสองครอบครัวนเวียนไปเช่นนี้ทุกวันสองหนุ่มขึ้นเขาหาบปลากับกุ้งทุกวันในตอนเช้า และรถก็วิ่งไปรับที่ท้ายสวนทุกวันไม่มีใครรู้ว่าสองครอบครัวทำอะไร ช่างก็เข้ามาสร้างบ้านตามที่นัดกันไว้ซึ่งฟ่านปิงไม่ห่วงเพราะเป็นคนที่พี่ชายจื่อเซิ้นหามาให้และไม่ได้รู้จักกับคนในหมู่บ้านแห่งนี้จึงทำให้สองพี่น้องโล่งใจไม่ต้องมาคอยตอบคำถามของใคร ส่วนงานในสวนมู่หยางนัดลุงผู้ใหญ่หลังจากเสร็จงานแต่งของฟ่านปิงที่จะถึงอีกอาทิตย์เดียว คนที่อยากให้ถึงวันแต่งเร็วๆวันนั้นก็คือเฉินซานเขานั่งนับวันรอด้วยใจที่จดจ่อตั้งแต่ที่วันที่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้เฉินซานอยากกอดภรรยาตัวน้อยของตัวเองใจจะขาดแต่ติดตรงที่ว่าฟ่านปิงโกรธเขามาก เขาได้สัญญากับตัวเองและแม่เอาไว้แล้วว่าจะไม่ล่วงเกินฟ่านปิงให้เธอเสียใจจนโกรธและไม่ยอมแต่งงานด้วยยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งหลงรักภรรยาของตัวเองทำอาการก็อร่อยทำงานก็เก่งทุกอย่างวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ถ้าไม่ติดว่าร่างนี้อายุสิบแปดปีแต่ความคิดของเธอเหมือนคนมีอายุที่เยอะและมีประสบการณ์ของคนใช้ชีวิตมาก่อนเขาคิดว่าฟ่านปิงคือสิ่งมหัศจรรย์ที่มีไอคิวที่เก่งกว่าคนอื่นๆทั่วไปอย่างแน่นอน เฉินซานคิดในใจถ้าแต่งงานเมื่อไรเขาจะไม่ยอมแค่นอนกอดภรรยาของตัวเองอย่างแน่นอน เขาต้องมีลูกที่น่ารักผูกเอาแม่ของลูกด้วยความรักที่เขามีจนมันจะระเบิดของมาเพียงแค่รอเวลาเผด็จศึกภรรยาตัวน้อยในคือเข้าหออย่างแน่นอน รออีกแค่หนึ่งอาทิตย์เพียงเท่านั้นใจเย็นๆไอ้ลูกชายพ่อก็อยากรักแม่ใจแทบขาดในแต่ละวันได้เห็นรอยยิ้มได้ฟังเสียงหัวเราะกังวานใสล่อเลี้ยงหัวใจ ตั้งแต่วันที่ภรรยาตัวน้อยของเขาโกรธจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามที่จะหักหานน้ำใจของเธอแค่ทำให้ภรรยาหายโกรธกับเรื่องที่ผ่านมาหืดขึ้นคอจึงไม่กล้าทำอะไรให้ฟ่านปิงขุ่นเคียงใจเพิ่มอีกใจของผู้หญิงนี้น่ากลัวจริงๆเฉินซานคิดทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







