LOGINและก็ถึงวันแต่งงานของเสิ่นเฉินซานกับมู่ฟ่านปิงสองพี่น้องเชิญคนในหมู่บ้านไม่กี่คนที่เป็นญาติของลุงผู้ใหญ่บ้านจริงๆเท่านั้น
ฟ่านปิงถูกพี่สาวเจียงหยู่ส่งช่างแต่งหน้ามาให้ตั้งแต่เช้ามืดญาติฝ่ายเจ้าสาวมีคุณนายเจียงซินเย่วกับสามีลูกชายลูกสะใภ้ แล้วก็บุตรสาวคนเล็กกับสามีของเธอ รวมถึงพี่ชายจื่อเซิ้นบิดาของจื่อเซิ้นที่มากันครบตั้งแต่เช้าอาหารสั่งมาจากภัตคารของพี่ชายจื่อเซิ้นเลย พิธีการผ่านไปทุกขั้นตอนจนญาติผู้ใหญ่กินข้าวร่ามกันและเดินทางกลับไปหมดแล้วพี่สาวเจียงหยู่เข้ามาอวยพรพร้อมทั้งคุณนายเจียงซินเย่ว ให้ของขวัญลูกสาวบุญธรรมแบบไม่หวงอะไรเลย เพราะกำไรที่ฟ่านปิงมอบให้กับทุกคนมากมายมหาศาลคุณนายมอบตึกให้มู่ฟ่านปิงหนึ่งหลังในตัวเมือง ถ้าอยากค้าขายเพราะเธอ เห็นสองพี่น้องบอกว่าพี่ชายจะยึดอาชีพขายของตัวเองตอนนี้เริ่มปลูกผลไม้กับผักไปบางส่วนแล้วในพื้นที่เก่าที่พ่อแม่สร้างเอาไว้ให้ ส่วนจื่อเซิ้นมอบบ้านให้หนึ่งหลังในย่านที่บ้านของตัวเขาเองกับบิดาอาศัยอยู่ทั้งหมดอวยพรให้สองหนุ่มสาว ร่วมรับประทานอาการร่วมกันจนอิ่มก่อนจะเดินทางกลับโดยมีแม่เสิ่นเจ้าบ่าวกับพี่ชายมู่หยางเป็นคนรับแขกส่งแทนเจ้าสาวอย่างฟ่านปิง ที่ต้องรอให้สามีเข้าไปเปิดผ้าคลุมหน้าให้ตามพิธีการแต่สำหรับฟ่านปิงก็แอบเปิดส่องดูที่หน้าต่างในห้องหอของตัวเอง แขกอีกกลุ่มก็คือนายช่างที่กำลังเร่งสร้างบ้านให้เสร็จทันหน้าหนาวที่จะถึงในอีกสองเดือนนี้ก็ทำได้ครึ่งเดือนแล้วจนหลังแรกเกือบจะเสร็จแล้วเหมือนกัน ทุกคนต่างตื่นเต้นกับอาหารมากมายและอร่อยแบบที่หากินได้แค่ในรานอาหารของพี่ชายจื่อเซิ้นเพียงเท่านั้นอาหารมายมายเพียงพอต่อทุกคนรวมทั้งห่อให้ไปฝากคนที่บ้านอีกจนเสร็จสิ้นทุกอย่าง เฉินซานรีบเข้าไปในห้องหอเพื่อเปิดผ้าคลุมให้หน้าให้ภรรยาและกลัวว่าฟ่านปิงจะหิวข้าวเพราะต้องตื่นตั้งแต่ตีสามกว่า แต่ที่เขาไม่รู้คือฟ่านปิงไม่ยอมให้ตัวเองหิวอย่างแน่นอน เธอหยิบอาหารของตัวเองในมิติกินไปเรียบร้อยทั้งรวมทั้งกาแฟในห้องหอด้วยความอร่อย แค่นั่งรอแค่สามีมาเปิดหน้าเพราะแม่เสิ่นอยากให้ทำตามขั้นตอนนั้นเองลูกสะใภ้คนนี้เธอรักมาก เสิ่นเฉินซานรีบเข้ามาเปิดผ้าคลุมหน้าให้ภรรยาในห้องด้วยความเป็นห่วง "ปิงเอ๋อร์น้องหิวข้าวไหม" ทันทีที่เปิดผ้าคลุมหน้าและมองหน้าของภรรยาด้วยความตกตะลึง "ฟ่านปิงน้องสวยเหลือเกิน"เฉินซานบอกกับเจ้าสาวใบหน้าที่แต่งแต้มอย่างปราณีตกว่าทุกวัน ที่ผ่านเขาว่าฟ่านปิงสวยแล้ววันนี้มู่ฟ่านปิงยิ่งสวยกว่าทุกวันเฉินซานมองด้วยใจที่เต้นระรัวเขายกมือขึ้นลูบใบหน้าของภรรยาด้วยสายตาลึกซึ้งอย่างอดใจไม่ไหวและก้มลงจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างอดใจไม่อยู่เพราะนับวันรอที่จะได้แต่งงานในเร็ววัน ฟ่านปิงเองก็ตื่นเต้นไม่ต่างกันเพราะตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ผ่านมาเป็นเดือน เธอพึ่งจะมองหน้าของสามีของตัวเองเต็มตาก็วันนี้แหละ ที่จริงแล้วสามีเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่งแต่เพราะคำพูดของเขาทำให้เธอโกรธจนไม่เคยมองหน้าของสามีตรงๆเลยสักครั้ง แค่กินข้าวด้วยกันทุกวันเขาถามคำเธอก็ตอบคำเพราะไม่อยากพูดด้วยวันนี้ใบหน้าที่มีแผลเป็นเขาเปิดให้เห็นรอยยาวข้างซ้ายที่แผลหายแล้วแต่รอยแดงและแผลเป็นยังคงมีให้เห็นอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกันน่าเกลียดมากแต่เสี่ยวชิงกับรังเกียจคู่หมั้นของตัวเองจนทำให้ผู้ชายคนนี้ได้มาเป็นสามีของเธอในตอนนี้ ถ้าคู่หมั้นเก่าได้ยินว่าเงินสินสอดที่เฉินซานมอบให้กับมู่ฟ่านปิงถึงหกหมื่นหยวนรวมทั้งที่ดินอีกสิบห้าไร่คงจะอกแตกตายหรือก็กรีดร้องโหยหวนจนได้ยินไปทั้งหมู่บ้านหลัวเค่อเลยละมั่ง ฟ่านปิงใจเต้นเร็วระรัวและตื่นเต้นไม่ต่างจากเจ้าบ่าวก็คือสามีรุกเธอหนักมากเขาลูบใบหน้าของเธอและพึมพำก้มลงจูบเธอโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัวมัวแต่มองแผลที่ใบหน้าของสามี จนตอนนี้ฟ่านปิงแทบจะขาดใจตายกับจูบที่เอาแต่ใจของสามีจนเธอต้องทุบอกเขาเบาๆ เฉินซานผละออกให้ภรรยาหายใจครู่เดียวก็ก้มลงจูบดึงวิญญาณของฟ่านปิงอีกครั้งก่อนจะเอนตัวภรรยาลงที่เตียงเฉินซานขึ้นคร่อมร่างบางและตักตวงริมฝีปากหวานอย่างเอาแต่ใจและเรียกร้องให้สาวน้อยตอบสนองตัวเอง ฟ่านปิงถึงแม้จะมาจากภพอื่นแต่ก็ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนก็ตัวอ่อนและทำอะไรไม่ถูก ปล่อยให้สามีตักตวงจูบจนพอใจเธอรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีในตอนนี้เพราะถ้าเฉินซานไม่หยุดในตอนนี้เธอได้เสียตัวในตอนนี้แน่นอน มันยังไม่มืดเลยนะฟ่านปิงคิดก่อนจะทุบอกสามีและรีบบอกเขาว่าเธอหิวข้าวมากในตอนนี้ "คุณฉันหิวข้าว"ฟ่านปิงบอกสามีที่ตอนนี้ซุกซอกคอของเธอย่างอดใจไม่ไหว มืออีกข้างบีบเค้นหน้าอกที่ใหญ่เกินตัวของเธอด้วยความเมามัน เฉินซานเงยหน้ามองภรรยาที่เอามือดันหัวของเขาเอาไว้และบอกว่าเธอหิวข้าวมากแล้วในตอนนี้เขาจึงข่มใจอดกลั้นความต้องการเอาไว้ก่อนนี้ภรรยาคงจะหิวมากจนร้องบอกให้เขาหยุด เขามองหน้าของภรรยาด้วยสายตาล้ำลึกก่อนจะก้มลงหอมแก้มเธอหนักๆไปทั้งสองข้างและบอกอีกว่า เรียกพี่ซานก่อนสิปิงเอ๋อร์พี่จึงจะปล่อยตัวน้องจะมาเรียกคุณได้ยังไงครับเรียกพี่สิไม่เช่นนั้นพี่จะกินน้องในตอนนี้เลยละครับ" เขาขู่พร้อมทั้งก้มลงซุกซอกคอของภรรยาใหม่อีกรอบและมือก็ยังบีบหน้าอกของภรรยาด้วยความหลงไหล "พี่เฉินซานฟ่านปิงเอ๋อร์หิวข้าวมาเลยค่ะของกินข้าวก่อนนะคะ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลากลางคืนเลยค่ะตอนนี้หนูหิวข้าวมากๆเลยค่ะพี่ซาน" เพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเข้าหอในตอนกลางวันฟ่านปิงต้องทำแล้วละตอนนี้ "ได้เดี๋ยวพี่จะไปยกมาให้เองครับ" เฉินซานตอบภรรยาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนก่อนจะดึงเธอขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะจูงมือภรรยามานั่งกินอาหารมงคนที่โต๊ะเพราะแม่เสิ่นนำเข้ามาวางไว้ตอนที่จะออกไปต้อนรับแขก จากนั้นสองคนผัวเมียก็กินอาหารมงคลด้วยกันเฉินซานช่วยภรรยาถอดเครื่องประดับออกผมและช่วยถอดชุดแต่งงานออกให้ภรรยา ก่อนที่จะชวนกันออกมาดูข้างนอกห้องเพราะมันยังไม่มืดเฉินซานตามใจภรรยาเพราะว่าจะรอให้ถึงคืนนี้ เขาจึงอดเปรี้ยวเอาไว้กินหวานนั้นเองรอมาตั้งเดือนมารอมาแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็มืดแล้วอดทนอีกนิดนะลูกชายพ่อ ส่วนมู่ฟ่านปิงนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่รอดตัวไปไม่โดนจับกินในตอนกลางวันแทนอาหารเที่ยงถึงจะยังไม่ได้รักแต่สามีที่ได้มาอย่างไม่ได้ตั้งใจคนนี้ เขาก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจตลอดตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องก็คุกเข่าให้พี่ชายของเธอและสารภาพผิดทุกอย่างที่เข้าใจในตัวเธอผิดและขอโอกาสแก้ตัวมาตลอดเกือบหนึ่งเดือนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนถึงวันนี้ที่ได้แต่งงานกันสมใจของชายหนุ่มที่บอกกับเธอมาโดยตลอดว่า "พี่จะรอวันที่เราแต่งงานกันนะน้องจะด่าจะโกรธ อะไรก็ได้แต่อย่าทิ้งพี่เพราะพี่ไม่มีวันปล่อยมือจากภรรยาของพี่อย่างแน่นอน" ฟ่านปิงคิดถึงสิ่งที่สามีของเธอบอกมาตลอดที่ร่วมงานกันมาทุกวันที่บ้านของเธอเองทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







