LOGINหลังจากกินข้าวร่วมกันเสร็จก็นั่งคุยกันสักพักสองพี่น้องเจียงก็ขอตัวไปลุยงานต่อเพราะได้ฟ่านปิงออกแบบให้ครบแล้วชุดที่จะเข้าประกวดครบแล้ว
สองพี่น้องอยากจะเร่งมือจะทำให้มันออกมาให้ดีที่สุด ก่อนจะเดินออกไปฟ่านปิงหยิบเอากิ๊บช๊อบที่เธอมีในมิติให้กับเจียงห่าวไปสามสี่ชิ้นให้เอาไปผลิตออกมาขายให้กับสาวๆวัยรุ่นที่ชอบสวยชอบงามเพราะร้านที่ขายเครื่องประดับทั่วไปที่อยู่ติดกันกับร้านเครื่องทองเครื่องเพรชก็คือร้านขายเบตเล็ดของครอบครัวเจียงเช่นเดียวกัน สร้างความดีใจให้สองสามีภรรยาที่ได้แบบใหม่มาทำออกมาวางขายสินค้าใหม่ๆอีกหลายตัว "ขอบใจน้องมาฟ่านปิง" เหม่ยอิงกับเจียวห่าวบอกและลาทุกคนเดินออกจากร้านด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า ส่วนฟ่านปิงเข้าไปเพิ่มเมนูในร้านให้กับพี่ชายจื่อเซิ้นอีกหลายรายการ เธอนำเอาวัสถุดิบในครัวนั้นละออกมาสอนพ่อครัวอีกสี่ห้าอย่างสร้างความพอใจให้จื่อเซิ้นยิ่งนัก ฟ่านปิงเก็บใบกระเพรามาจากป่าทำเมนูกระเพราหมูสับหมูกรอบ กระเพรากุ้ง ไข่ดาวโป๊ะบนข้าวเยิ้มๆให้แต่ละคนในครัวชิมรวมทั้งตุ๋นไข่ใส่กุ้ง เจียวไข่ใส่กุ้งสับใส่หมูสับผัดผักรวมใส่กุ้งทุกคนกินด้วยความอร่อย ทั้งบอกให้พ่อครัวทำคะน้าหมูกรอบผักบุ้งไฟแดงและผัดผัดบุ้งหมูกรอบก็อร่อยไม่แพ้กันรวมทั้งหมูทอดกระเทียมคืออาหารจานด่วน ได้ทุกเมนูข้าวผัดกุ้งข้าวผัดหมูและข้าวผัดรวมใส่ได้ทั้งหมูกุ้งปลาหมึกรวมกันจื่อเซิ้นยิ้มปากแทบฉีกกับเมนูใหม่ๆในวันนี้ที่แสนอร่อยสองพ่อลูกชิมอาหารของฟ่านปิงในครัวพร้อมทั้งพ่อครัวกับผู้ช่วย หลังจากที่เสร็จจากทำอาหารเรียบร้อยแล้วทุกคนนั่งคุยกันสักพักก็ลากล้บบ้านเพราะกลัวจะถึงบ้านค่ำมืดเสียก่อนและแวะซื้อของที่ตลาดอีกบางอย่างที่ไม่มี แม่เสิ่นก็ซื้อหลายอย่างเหมือนกันมาถึงบ้านก็เกือบห้าโมงเย็นสองพี่น้องก็ปั่นจักรยานมุ่งหน้ากลับบ้านหลังจากลาสองแม่ลูกแล้วที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน เฉินซานมองส่งทางจนไม่เห็นสองพี่น้องแล้วจึงปั่นจักรยานกลับบ้าน แม่เสิ่นได้แต่ส่ายหัวที่ลูกชายของเธอทำตัวติดภรรยาไม่อยากให้ห่างสายตาได้เลย "เฉินซานวันนี้แม่ขายผ้าปักได้เงินมาเป็นพันหยวนถ้าแม่ปักลายที่ฟ่านปิงวาดแบบให้เพราะว่าทางร้านของคุณหนูเจียงหยู่จะใช้ผ้าที่แม่ปักไปเป็นตัวอย่างให้กับทางร้านปักออกมาขายต่อ ตอนนี้ช่างปักผ้าปักกันไม่ทันต้องจองคิวกันล่วงหน้ายิ่งแม่กับฟ่านปิงนำลายผ้าไปส่งในวันนี้อีกลำพังแค่เราจับกุ้งส่งทุกวันกับปลาเราก็ไม่ต้องดิ้นรนอีกต่อไปแล้วนะลูก ลายผ้าที่ฟ่านปิงออกแบบแต่ละลายแม่เกิดมาจนอายุปูนนี้แล้วยังไม่เคยเห็นเลยที่ไหนเลยลูก" นางเสิ่นหยวนบอกลูกชายของนางเอง "ต่อไปในวันข้างหน้าลูกแค่ดูแลสวนช่วยพี่ชายของน้องและทำนาก็พอแล้ว ส่วนแม่กับฟ่านปิงก็จะปักผ้าขายก็พอแล้วอีกหน่อยพอฟ่านปิงมีลูกให้แม่ก็จะได้เลี้ยงหลานชีวิตนี้แม่ก็ตายตาหลับแล้วละซานเอ่อร์" เสียงมารดาบอกลูกชายไปตลอดทางที่เฉินซานปั่นจักรยานไปที่บ้าน "ครับแม่ผมอยากจะแต่งให้กับฟ่านปิงในวันพรุ่งนี้เลยครับแม่ผมอยากดูแลภรรยาของผมใจแทบขาด ยิ่งเธอยังไม่หายโกรธดีเลยผมยิ่งอยากจะทำให้เธอเห็นว่าผมจริงใจกับเธอมากนะครับแม่และผมก็หวงภรรยาของผมมากๆด้วยที่ใครก็คอยแต่จะมองภรรยาของผมเวลาเข้าเมืองผมอยากจะทำงานแทนเธอทุกอย่างเลยครับแม่" เฉินซานไม่อายที่จะบอกแม่ของตัวเองว่าเขารู้สึกเช่นไรเพราะมีกันแค่สองคนแม่ลูกมีอะไรสองแม่ลูกจึงไม่มีความลับต่อกัน ส่วนสองพี่น้องที่ปั่นจักรยานผ่านหมู่บ้านก็เจอคนที่กลับจากนามาก็หลายคนแต่ทั้งสองไม่ได้สนิทกับใครนอกจากครอบครัวลุงผู้ใหญ่บ้านที่คอยช่วยเหลือพวกเขาเวลามาหาที่บ้านของท่านในบางครั้งแค่นั้น พอดีปั่นเลยทางแยกออกไปทางบ้านของพี่น้องมู่ก็ปะกันกับครอบครัวของเสี่ยวชิงกับอี้เหิงที่พากันกลับจากทำงานที่ทุ่งนาของพวกเขากำลังจะไปในหมู่บ้านตรงทางแยกพอดี "อ้อนึกว่าใครสองพี่น้องขี้โรคที่ไม่เจียมตัวคิดจะแต่งให้กับลูกเขยของฉันนี้เอง สงสัยเงินที่ได้ไปคงจะนำไปซื้อยามากินช่างน่าสมเพชจริงๆขูดเอาเงินจากครอบครัวของพวกเราไปรักษาตัวเอง" เสียงนางเสี่ยวหลันร้องตะโกนใส่สองพี่น้องบ้านมู่ทันทีเพราะใกล้จะมืดค่ำแล้วไม่มีใครผ่านทางมาแถวนี้ พอดีจึงเป็นโอกาสให้เธอจิกกัดสองพี่น้องเพราะยังแค้นที่ต้องจ่ายเงินให้ฟ่านปิงไปถึงสองพันหยวนรวมทั้งนางอีหรูกับลูกชายที่เดินตามมาด้วยกันสี่คน "พี่ใหญ่จอดฟังดูสิค่ะเสียงเปรตที่ไหนมันมาส่งเสียงโหยหวนตรงทางแยกพอดีฉันจะไม่ได้ไปไหว้พระสักเก้าวัดเลยหรือค่ะพี่ใหญ่ทำบุญกรวดน้ำให้เปรต" ฟ่านปิงตะโกนบอกพี่ชายของเธอเสียงดัง "แกว่าใครเป็นเปรตนังขี้โรคฟ่านปิง" นางเสี่ยวหลันตะโกนด่ามู่ฟ่านปิง "อ้อเสียงสัมพเวสีนี้เองใครร้อนตัวก็รับเอาไปสิป้า ผีเน่ากับโรงผุคงคิดว่าลูกชายของตัวเองตัวเป็นทองละมังฉันไม่ไปแย่งเอามาของที่ทิ้งไปแล้วกลับมาหรอกฉันไม่เก็บคืนมาให้เป็นเสนียดตัวหรอกจ๊ะป้า ต้องขอบใจเสี่ยวชิงนะที่แย่งเอาเขาไปจากหนูไปก่อนแถมท้องโตก่อนแต่งเสียอีกเป็นไงละคิดจะใส่ร้ายคนอื่นกรรมคืนสนองกับคิดว่าฉันไม่รู้ว่าถึงความเน่าฟะของเธอสองคนหรือถึงกับลงทุนเสียตัวหลายครั้งเพื่อที่จะแย่งเอาผู้ชายเฮงซวยไปจากฉันแต่ต้องขอบใจเธอนะที่ทำมันจนสำเร็จโดยที่ฉันไม่ต้องลงมือเลยแถมได้เงินมาใช้สบายๆถึงสี่พันหยวนจริงไหมเสี่ยวชิงเพื่อนรัก" "มันจะมากไปแล้วนะฟ่านปิงเสี่ยวชิงเป็นเพื่อนเธอนะ" อี้เหิงรีบพูดเอาใจเสี่ยวชิงทันที "คิดว่าผมสนใจคุณหรอก็แค่สัญญาจากพ่อของเธอให้ไว้กับพ่อของผมเท่านั้นและผมก็ไม่ได้รักชอบคุณเลย" อี้เหิงพูดให้กับฟ่านปิงคิดจะให้เธอเสียใจที่อกหักจากตัวเอง อ้อหรอคุณคิดว่าฉันชอบคุณเหรอมั่นหน้าดีนะอี้เหิงจะบอกอะไรให้นะ ฉันรอให้นายพาพ่อแม่มาขอถอนหมั้นกับฉันทุกวันแค่บอกกันดีๆก็ได้เพราะฉันไม่ได้รักนายเลยอ้ออีกอย่างนะภรรยาของเธอเสี่ยวชิงจะไม่ต้องอับอายเพราะกินก่อนแต่งยังไงละจะให้ฉันพูดไหมว่าเธอสองคนไป????ที่ไหนกันมาบ้างหึ" เสี่ยวชิงทั้งโกรธและอายที่ฟ่านปิงรู้ทันตัวเองทุกอย่าง เมื่อก่อนเธอพูดอะไรฟ่านปิงจะเชื่อและทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง ที่เห็นว่านิสัยที่เปลี่ยนไปของฟ่านปิงเปลี่ยนในคืนที่เกิดเรื่องในตอนเช้าที่บ้านร้างฟ่านปิงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ทั้งที่เธอกับแม่และอี้เหิงวางแผนเอาไว้แต่ล่มไม่เป็นท่า เพราะนังฟ่านปิงมันแฉเรื่องของเธอจนเธออับอายเสียเองแถมยังต้องจ่ายเงินค่าทำขวัญมันไปอีกสองพันหยวนมันน่าเจ็บใจจริงๆที่เสียรู้ให้ฟ่านปิงทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







