ログインวันรุ่งขึ้นสองพี่น้องมู่อาบน้ำกินข้าวเสร็จก็พากันปั่นจักรยานไปในหมู่บ้านเพราะบ้านของสองพี่น้องอยู่ท้ายหมู่บ้านด้านหลังสวนผลไม้บ้านมู่มีลำธารไหลผ่านมาจากบนเขา พีระดาคิดว่าคนรุ่นเก่าก็หาทำเลตั้งหมู่บ้านเก่งเหมือนกันเพราะทุกชีวิตอาศัยน้ำไม่ว่าคนหรือผักแม้แต่สัตว์ก็ด้วย
พอพี่ชายล็อคกุญแจบ้านเรียบร้อยสองพี่น้องก็ปั่นจักรยานเข้าไปในหมู่บ้านเพราะฟ่านปิงอยากจะดูวิวข้างทางดีๆของบ้านป่าแห่งนี้ เผื่อจะเจออะไรดีๆบ้างไม่ต้องรีบมากเพราะมีนัดตอนเก้าโมงสองพี่น้องจึงปั่นจักรยานช้าๆคุยกันเล่นไปฆ่าเวลา มู่หยางกับมู่ฟ่านปิงมาถึงสองโมงสี่สิบห้านาทียังไม่เห็นสองครอบครัวคู่กรณีของเธอมาเห็นก็แต่สองแม่ลูกตระกูลเสิ่นที่นั่งรออยู่ที่ลานบ้านของลุงผู้ใหญ่บ้าน ป้าเสิ่นมองเห็นพี่น้องมู่มาถึงก็ยิ้มทักทายและบอกให้มานั่งด้วยกันส่วนอีกคนรีบลุกขึ้นมาทั้งยังเดินมาหาอีกต่างหากฟ่านปิงกรอกตามองบนกับคนหน้ามึน "ปิงเอ๋อร์มาถึงแล้วมานั่งกับแม่ของพี่เถอะครับ" เสิ่นเฉินซานบอกภรรยาตัวน้อยกับพี่ชายของเธอ มู่หยางพยักหน้ารับคำทักทายน้องเขยจำเป็นและเขาก็ทักทายท่านป้าเสิ่นเช่นเดียวกันก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งเดียวกันกับเฉินซาน ส่วนฟ่านปิงเดินไปนั่งข้างนางเสิ่นหนานโดยมีหมีตัวโตเดินตามยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งสงสัยหัวกระแทกพื้นมาฟ่านปิงคิดในใจ แม้จะไม่อยากมองหน้าของสามีจำเป็นของตัวเองก็ตาม ซึ่งแตกต่างกับอีกคนที่ดีใจที่ได้เห็นใบหน้าเล็กๆตาโตๆทำหน้าบึ้งใส่เขาก็ตาม แต่กับมารดาของเขาเธอจะพูดคุยอย่างน้อบน้อมมากแต่ทว่าแค่นี้เฉินซานก็พอใจมากแล้วละ เขารอได้เพียงในใจของเธอลดความโกรธในตัวของเขาลงมาบ้างก็พอ ฟ่านปิงกับพี่ชายทักทายลุงหัวหน้าหมู่บ้านเรียบร้อยจึงมานั่งที่ของตัวเอง สามโมงตรงสองครอบครัวก็มาถึงและมีชาวบ้านที่ต้องการเสือกเรื่องของชาวบ้านก็ตามมาเกือบครึ่งหมู่บ้านพอมากันครบหัวหน้าหมู่บ้านก็รีบพูดขึ้นมาเลยเพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา "เอาละข้าร่างสัญญาเอาไว้เรียบร้อยแล้วพวกเจ้าสองครอบครัวก็เอาเงินออกมาข้าจะนับและนำส่งให้นังหนูมู่ฟ่านปิง มู่ฟ่านปิงมองหน้าทุกคนที่เดินเข้ามารวมทั้งคู่หยวนหยางสองผีเน่ากับโลงผุที่ไม่กล้าจะมองหน้าของเธอเต็มตาแม้แต่นางเสี่ยวหลันหน้ายังบวมอยู่คงจะโดนสามีสั่งสอนมาไม่น้อย สองป้าจ้องมองมู่ฟ่านปิงด้วยความโกรธที่ทำให้ทั้งสองโดนสามีตบสั่งสอนจนหน้าบวมเป็นหัวหมู แต่ไม่กล้ามีปากเสียงกลัวเสียเงินเพิ่มเพราะสามีคาดโทษเอาไว้แล้วว่าก่อเรื่องอีกจะหย่าให้ทันที จึงทำได้เพียงถลึงตาจ้องมองมู่ฟ่านปิงด้วยความโกรธแค้น มูฟ่านปิงจ้องตอบและทำท่ายักไหล่ใส่สองป้าลูกมหาภัยและทำหน้ากวนตีนใส่อีกต่างหาก ทุกการกระทำของมู่ฟ่านปิงอยู่ในสายตาของเฉินซานตลอด เขายกยิ้มมุมปากที่ภรรยาตัวน้อยของเขาแสบไม่น้อยและไม่ทีท่าทางกลัวสองครอบครัวนั้นอีกต่างหาก ส่วนอี้เหิงกับเสี่ยวชิงชิงก็ไม่กล้ามองหน้ามู่ฟ่านปิงกับเฉินซานเต็มตาเรื่องจ่ายเงินจึงตกเป็นของหัวหน้าทั้งสองครอบครัว ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่ได้รับรู้เรื่องที่ภรรยาของตัวเองไปทำเรื่องเสี่ยมเสียต่อวงศ์ตระกูลรวมทั้งลูกของพวกท่านด้วย พอจ่ายเงินให้มู่ฟ่านปิงเรียบร้อยลุงหัวหน้าหมู่บ้านจึงเอาสัญญาให้ถือไว้บ้านละฉบับ "ถ้าใครไปหาเรื่องสองพี่น้องที่บ้านอีกเตรียมเงินค่าปรับเอาไว้ได้เลย เพราะพวกแกอายุเยอะจนเป็นพ่อแม่คนแล้วยังจะะหาเรื่องรังแกเด็กอีก จนมันเกิดเรื่องขึ้นจนได้และเหมือนกรรมมันจะตามทันเพราะอยากให้นังหนูฟ่านปิงเสียหายแต่ลูกของพวกแกก็เสียหายด้วยเช่นเดียวกัน" ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านหัวเราะสี่คนแม่ลูกที่ร่วมมือกันทำร้ายฟ่านปิง นางเสี่ยวหลันกับนางอี้หรูสะบัดหน้าด้วยความโกรธที่ได้ยินคำพูดจากระทบตัวเองสองคน ชาวบ้านที่มาก็ส่งเสียงต่อว่าครอบครัวของพวกนางตลอดจนไม่กล้าออกมาบ้านมาสามวันแล้ว นางเสี่ยวหลันจึงหันไปพูดแขวะมู่ฟ่านปิง "ได้เงินแล้วหล่อนจะไม่วิ่งตามลูกชายของฉันมานะเพราะว่าหล่อนกับลูกของฉันถอนหมั้นกันแล้วหึ" นางสะบัดหน้าใส่มู่ฟ่านปิง "อ้อไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณยายของที่ฉันคายทิ้งไปแล้วฉันไม่กลับไปเก็บมาใช้อย่างแน่ค่ะ เพราะอี้เหิงกับเสี่ยวชิงชิงเหมาะสมกันยิ่งกว่าผีเน่ากับโลงผุเสียอีกจริงไหมเสี่ยวชิงชิงเพื่อนรัก" มู่ฟ่านปิงหันไปทางสองผัวเมียที่ยืนจับมือกันอยู่ มู่ฟ่านปิงเบ้ปากใส่สองคนจอมวางแผน "นี้ละหนาเขาถึงบอกว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวแต่ยังลากเอาฉันไปเกี่ยวข้องกับเรื่องฉ่าวโฉ่วของตัวเองด้วยสิจ๊ะ คิดว่าคนจะไม่รู้เรื่องของตัวเองละสิเล่นบทเป็นนางดอกบัวขาวผู้หวังดีแต่จิตใจอิจฉาคิดแต่จะทำร้ายลับหลังเพื่อน ถ้าฉันเชื่อฟังพี่ชายคงไม่ต้องเกิดเรื่องทุเรศกับฉันหรอก" มู่ฟ่านปิงตอกกลับอย่างไม่เกรงกลัวสองคนผัวเมีย เสียงชาวบ้านซูดปากตามเลยพอได้ยินมู่ฟ่านปิงเถียงคนเพราะไม่ค่อยเห็นสาวน้อยสู้คนและเธอยังไม่ค่อยเข้ามาในหมู่บ้านสักเท่าไร ก่อนที่นางเสี่ยวหลันจะอ้าปากต่อว่าแทนลูกสาวท่านลุงเสี่ยวต้วนตวาดเสียงดังลั่นเสียก่อน "กลับบ้านได้แล้วยายแกชอบหาเรื่องให้เด็กมันถอนหงอกนักใช่ไหมอย่าให้ข้าหมดความอดทด" พูดจบเขาก็เดินออกไปจากลานหน้าบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านทันทีจนสองแม่ลูกจึงรีบจูงมือกันวิ่งตามหลังไปเพราะกลัวโดนทำโทษรวมทั้งครอบครัวของอี้เหิงด้วย มู่ฟ่านปิงเบ้ปากตามหลังแต่เลือกจะไม่ต่อปากต่อคำอีกจึงหันกลับมาจะชวนพี่ชายกลับบ้าน ยกมือไหว้ขอบคุณลุงผู้ใหญ่บ้านที่ช่วยเหลือพวกเธอสองพี่น้องด้วยความจริงใจ เพราะเมื่อเช้าเธอเอาผลไม้มาฝากให้ท่านลุงแล้วเพื่อเป็นการขอบคุณที่คอยช่วยเหลือพวกเธอสองพี่น้อง "เอาละฟ่านปิงมานั่งนี้ก่อนพอดีเรื่องของเรายังไม่จบ ที่หนูกับเสิ่นเฉินซานได้เสียกันแล้ว ตอนนี้นางเสิ่นหนานกับเฉินซานก็มาปรึกษาลุงตั้งแต่เช้าว่าจะหมั้นหมายแล้วแต่งหนูภายในอาทิตย์นี้เลยลุงจึงจะพูดคุยกันกับมู่หยางด้วยให้จบในวันนี้" ลุงผู้ใหญ่พูดจบก็หันมาหามู่ฟ่านปิง !!!!!!ตายห่าละกูทีนี้พีระดาคิดในใจคิดหาทางรอดให้กับตัวเองทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







