ログイン"มานั่งเร็วๆลูกวันนี้ปิงเอ๋อร์ทำอาหารหลายอย่างเลยแม่จะไปช่วยก็ไม่ยอม แต่ชวนแม่ปักผ้าซะงั้นมีลายผ้าให้แม่ปักใหม่ๆอีกและสวยมากด้วย เดี๋ยวกินอิ่มแล้วแม่จะเอาให้ดู" ป้าเสิ่นหนานบอกกับสองหนุ่มมู่หยางมองหน้าน้องสาวเธอจึงพยักหน้าให้พี่ชายเป็นอันเข้าใจกัน
ส่วนเสิ่นเฉินซานนั้นทั้งกินทั้งยิ้มเพราะกับข้าวที่ภรรยาตัวน้อยทำนั้นมันอร่อยมาก เขาเพิ่มข้าวไปสองจานจนแม่ของเขามองหน้าลูกชายของตัวเองว่ากินเยอะมากกว่าทุกวัน "คงจะชอบรสมือของปิงเอ๋อร์ละซิ" แม่เสิ่นเอ่ยแซวลูกชายซึ่งเขาก็ตอบรับทันที "อร่อยมากครับแม่" อาหารอร่อยไม่พอได้ยินว่ามู่ฟ่านปิงยอมเป็นลูกสาวของแม่อีกคนเขายิ่งดีใจทั้งกินทั้งยิ้มเหมือนคนโง่งม ฟ่านปิงมองทีไรก็ยิ่งขัดใจกับสายตาที่มองมาที่เธอหวานเยิ้มนี้มันอะไรมองแล้วขัดลูกกะตาจริงๆ หลังจากอิ่มข้าวก็มีแตงโมเย็นๆให้ล้างปากอีกทุกคนนั่งเล่นกันที่หลังบ้านที่มีต้นลูกพับให้ร่มเงาและอากาศไม่ร้อนมากมีแคร่ให้นั่งและเก้าอี้อีกหลายตัวให้นั่งเล่น ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังทึ้งกับแบบวาดลายผ้าของแม่ที่ปักตามแบบที่มู่ฟ่านปิงวาดให้ มันสวยงามและดูมีชีวิตราวกับมันยิ้มได้ เขามองหน้าของคนตัวเล็กที่นั่งเล่นอยู่กับพี่ชายของตัวเองและเอาแบบวาดให้พี่ชายของเธอดู บอกว่าจะเอาเข้าไปในอำเภอเพื่อจะขายให้กับร้านเครื่องประดับนี้เธอมีความสามารถซ่อนอยู่ในหัวมากมายขนาดไหนกันนี้ ได้แต่มองและยิ้มให้คิดถึงตอนเข้าไปช่วยล้างจานในครัวช่วยคนตัวเล็กทำให้เสิ่นเฉินซานยิ้มด้วยความสุขถึงแม้ว่าเธอจะยังโกรธในตัวของเขาแต่ก็ปฎิบัติกับแม่ของเขาดีมากและยังเรียกคุณแม่อีกด้วยจะไม่ให้ชายหนุ่มดีใจได้อย่างไรละ เขาหาทางพูดกับภรรยาแต่เธอก็ถามคำตอบคำแต่เขายังพยายามร้องขอเข้าไปในอำเภอกับเธอและแม่ด้วย ถึงเธอไม่ตอบรับแต่เขาถือว่าได้ขอเธอแล้ว ทั้งยังบอกฟ่านปิงอีก "พี่จะรอจนกว่าน้องจะหายโกรธพี่นะ ถึงน้องไม่อยากพูดคุยกับพี่แต่อย่าขับไล่พี่เลยนะ พี่ขอมาช่วยพี่ชายของน้องทำสวนด้วยและจะช่วยทำนาเพราะพี่ลาออกจากทหารมาแล้วเพราะอยากมาดูแลแม่ตอนนี้ท่านแก่และไม่แข็งแรงเหมือนก่อนแล้ว พี่จะพาแม่มาที่บ้านของน้องทุกวันเพื่อมาปักผ้าด้วยกัน อยู่ที่บ้านท่านก็ปักคนเดียวพี่เห็นเวลาที่แม่คุยกับน้องแล้วแม่พี่ยิ้มและมีความสุขมากและกินข้าวได้ตั้งเยอะคงจะชอบกับข้าวฝีมือน้องเหมือนกันกับพี่แล้วละปิงเอ๋อร์" เสิ่นเฉินซานพูดกับมู่ฟ่านปิงที่ล้างถ้วยอยู่และเขาก็ช่วยเธอทุกอย่างถึงแม้เธอจะไล่เขาก็ไม่หนีและยังบอกให้เธอตบตีได้อีก "ตีพี่ได้เลยถ้ามันจะทำให้น้องหายโกรธพี่ลงมาบ้าง พี่รู้ว่าพี่ผิดเพราะปากพล่อยที่ว่าให้น้องแต่มันเอาคืนกลับมาไม่ได้นอกจากคำว่าขอโทษจากปากคนเลวอย่างพี่ที่พูดให้น้องเกลียดพี่ พี่เสียใจมากที่พูดคำแย่ๆออกไปพี่ขอโทษ" คำว่าขอโทษจากใจของเสิ่นเฉินซานถึงกับคุกเข่าลงขอโทษมู่ฟ่านปิงที่ในห้องครัว มู่ฟ่านปิงตกใจบอกไม่ต้องมาคุกเข่าให้เธอ "ถ้าจะให้เชื่อว่าจริงใจก็ต้องทำให้เห็นแค่บอกแต่ปากใครก็พูดได้เพราะตอนนี้ลายของคนที่ซ่อนอยู่คงออกมายังไม่หมด ถ้าทำได้เธอก็อาจจะให้โอกาสสักครั้งแต่คงไม่ใช่ตอนนี้อย่างแน่นอน" ตอบแล้วเธอก็เดินออกมาจากในครัวเลยซึ่งเสิ่นเฉินซานก็เข้าใจเธอ "แค่นี้พี่ก็ดีใจมากแล้วครับพี่รอได้" ชายหนุ่มก็เดินตามภรรยาออกมาข้างนอกทันที หลังที่นั่งพักไปจนถึงตอนบ่ายพี่ชายของฟ่านปิงจึงพาน้องเขยจำเป็นไปตัดหญ้าต่อ ฟ่านปิงเอาน้ำเย็นใส่กระติกให้พี่ชายไปจนเต็มและกลับมานั่งปักผ้าต่อกับแม่เสิ่นหนานต่อทั้งสองพูดคุยปรึกษาลายผ้ากันไปด้วยความสนุก แม่เสิ่นบอกว่าแม่จะเป็นคนมาที่บ้าเขาเอง "หนูไม่ต้องไปที่บ้านของแม่ก็ได้เอาไว้แต่งให้พี่เขาแล้วค่อยไปที่บ้านแม่นะปิงเอ๋อร์" "ค่ะคุณแม่" ฟ่านปิงตอบสร้างรอยยิ้มให้กับนางเสิ่นหนานยิ่งนักต้องบอกกลูกชายให้ค่อยๆเข้าหาฟ่านปิงและพูดจาให้ดีกว่านี้ ดูไปแล้วฟ่านปิงไม่ชอบคนบังคับสาวน้อยมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากเพราะว่าไม่ค่อยได้เห็นเด็กสาวบ่อยมากถึงจะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแต่ส่วนใหญ่ตัวเธอเองจะปักผ้าอยู่ที่บ้านมากกว่าเพราะไม่ได้ออกไปทำนาเหมือนบ้านอื่นเพราะลูกชายไม่ให้ทำตั้งแต่ที่ไปเป็นทหารเมื่อหลายปีก่อน จนถึงยามเย็นทั้งสองคนก็ปักผ้าได้กันคนละครึ่งผืนแต่ยังไม่เสร็จดียังต้องเก็บลายละเอียดอีกคิดว่าอีกสองวันนี้ก็คงจะเสร็จสมบูรณ์ มู่ฟ่านปิงจึงบอกแม่เสิ่นว่าวันนี้จะทำกับข้าวให้ไปกินที่บ้านเลยเพราะกว่าจะกลับคงจะมืดค่ำแล้ว "เดี๋ยวหนูจะทำข้าวต้มหมูง่ายๆไปกินกับผัดผักกลับไปจะได้กินเลย" พูดจบเธอก็เดินเข้าครัวไปทำอาหารเย็นนางเสิ่นหนานได้แต่ส่ายหัวให้กับความน่ารักของฟ่านปิง พอถึงเวลาเลิกงานพี่ชายก็พาว่าที่น้องเขยจำเป็นเลิกงาน ซึ่งมู่ฟ่านปิงก็ตักข้าวต้มหมูใส่หม้อเล็กกับผัดผักใส่กล่องอาหารของยุคนี้ซึ่งก็ถือว่าทันสมัยมากแล้วเพราะเข้ายุคเก้าสิบแล้วประเทศเปิดกว้างมาหลายปีและไม่หนักเท่ายุคเจ็ดศูนย์ถือว่าพีระดาย้อนมาตอนที่ประเทศปลดล๊อคหลายๆอย่าง หลังจากส่งแม่ลูกตระกูลเสิ่นกลับไปแล้วสองพี่น้องก็กินข้าวเย็นกันในมิติและนอนในนั้นทั้งคืน ฟ่านปิงบอกให้พี่ชายหาลูกสุนักมาให้เลี้ยงสักสองตัวเอาไว้เฝ้าบ้านเวลาคนไม่อยู่ หมานี้ละจะส่งเสียงทักทายให้ผู้บุกรุก ซึ่งพี่ชายก็รับปากว่าจะไปหาในหมู่บ้านมาให้น้องสาว ในเวลาสามวันก่อนที่จะไปบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อรับเงินค่าเสียหายจากสองครอบครัวคู่หมั้นเก่า ได้ข่าวว่าเสี่ยวชิงชิงไม่กล้าเดินออกจากบ้านเลยรวมทั้งอี้เหิงด้วยเพราะพี่ชายเข้าไปหาขอลูกหมามาให้ฟ่านปิงเลี้ยงมีแต่คนบอกเล่าเรื่องของสองครอบครัวให้ฟังพี่ชายก็มาเล่าให้น้องสาวฟังอีกทอดหนึ่งและฟ่านปิงก็ตอบไปแบบสะใจ "สมน้ำหน้ากรรมตามสนองมันสองคนที่ร่วมกันใส่ร้ายน้องสาวของพี่ยังไงละคะพี่ชาย" เธอหัวเราะด้วยความสะใจ ในเมื่อเป็นคนดีแล้วโดนรังแกก็จะเป็นนางร้ายผู้พลิกชะตาของตัวเองให้พวกนางเอกมันกระอักเลือดตายไปเลยหึๆฟ่านปิงยืนกอดอกหัวเราะที่พี่ชายเล่าจบ "พรุ่งนี้แล้วนะที่เราจะไปบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อจะไปรับค่าปรับน้องจะไปกับพี่ด้วยไหม" มู่หยางถามน้องสาวเพราะเป็นห่วงกลัวว่าฟ่านปิงจะอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ "ไปสิคะพี่ใหญ่ไม่เห็นจะอายตรงไหนมีแต่สองบ้านนั้นละที่ต้องอายพวกเราพี่ว่าจริงไหมคะ" เธอตอบแล้วหัวเราะเบาๆกับความรักที่พี่ชายมีให้และกลัวว่าน้องสาวจะอายชาวบ้านเพราะว่าฟ่านปิงได้เสิ่นเฉินซานเป็นสามีด้วยในสองวันก่อนทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







