"เจ้าเป็นวิชาเเพทย์รึ" หนิงฮูหยินตกใจไม่น้อย หนิงเยียนไปเรียนวิชาเเพทย์ยามใด
หนิงเยียนคิดว่าแย่เเล้วหนิงฮูหยินต้องสงสัยนางแน่ ๆ ว่านางไม่ใช่หนิงเยียนตัวจริง
"เจ้ามีอะไรปิดบังเเม่รึไม่"
"ท่านแม่ ข้าไม่ขอปิดบังท่านแล้วกัน ในตอนที่ตกน้ำสลบไปหลายวัน ข้าได้ไปเจอกับท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่ง เขาบอกสอนเคล็ดลับวิชาแพทย์ให้ข้าในฝัน อีกทั้งบอกอีกว่า ข้าชอบทำร้ายคนอื่น ยั่วยวนบุรุษ หญิงใจบาป เมื่อรอดไปให้ทำความดีรักษาผู้คนใต้หล้าเเล้วชีวิตจะมีสุข"
หนิงเยียนเล่าด้วยเเววตาที่ใสซื่อ ทำให้มารดาเชื่อเสียสนิทใจ
"คนดีของข้า"
"ท่านเเม่ ท่านนอนพักเถอะ" นางอาศัยตอนที่มารดาเผลอฉีดยาแก้ไข้ให้มารดา อาการของหนิงฮูหยินคือป่วยไข้เพราะโดนไอเย็น หนิงฮูหยินหลับอย่างสบาย ในสมองหวนคิดถึงคำพูดของสามีว่าบุตรสาวรักษาไท่ชางหวงได้ ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ
หนิงเยียนมองมารดาหลับไปแล้วรู้สึกโล่งใจจึงเรียกสาวใช้ให้มาดูแลมารดา ส่วนนางออกจากเรือนใหญ่ ในความทรงจำของหนิงเยียน เรือนร้อยดาวคือเรือนของนาง กระนั้นนางจึงหมายจะเดินไปที่เรือนร้อยดาว
แต่ทว่าเดินไปตามเเนวระเบียงได้ไม่นานมีสองสตรีมาขวางนางไว้
สตรีสองนางในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมผุดขึ้นมา เป็นบุตรสาวอนุเซี่ยทั้งสองคน
คุณหนูรองหนิงชิง คุณหนูสามหนิงซิน อีกทั้งสตรีสองนางไม่ค่อยถูกกับหนิงเยียนด้วย
"หลีกไปอย่าได้ขวางทางข้า"
"พี่หญิง จะไม่ทักทายพวกเราหน่อยรึ ท่านได้เป็นถึงชายาเอก ลืมน้องรักอย่างพวกเราได้อย่างไร" หนิงชิงเอ่ยขึ้นอย่างยิ้ม ๆ
"อยากโดนตบรึไม่"
"พี่หญิง ข้าแค่คิดถึงท่าน" หนิงซินสอดปากขึ้น
หนิงเยียนหมดความอดทนนางเดินชนสตรีทั้งสองนางเกือบล้ม แล้วมุ่งหน้าไปที่เรือนร้อยดาว
สองพี่น้องไม่ยอมเลิกรายังคงเดินตามหนิงเยียนไป วันนี้พวกนางจะทำให้เวยอ๋องเห็นความร้ายกาจของหนิงเยียน
นางหยุดที่หน้าเรือน กำลังจะก้าวเข้าไปในเรือน สองพี่น้องยังคงตามมา
หนิงเยียนเปลี่ยนใจเเล้ว นางเห็นสระบัวที่หน้าเรือนจึงเดินไปที่สระบัว สองคนพี่น้องยังคงเดินตามหนิงเยียน
จังหวะที่เข้ามาในศาลาสระบัว
"พวกเจ้าจะเอายังไงกันเเน่"
"ท่านก็ยังนิสัยเสียเหมือนเดิม ทั้งที่เป็นพระชายาเวยอ๋องแล้ว" หนิงซินเป็นคนเอ่ยขึ้น
"ข้านิสัยเสียกว่าที่เจ้าคิด" หนิงเยียนพูดยังไม่ทันจบ นางถีบหนิงซินลงในสระบัว ตามด้วยหนิงชิง สองพี่น้องร้องโวยวาย ท่ามกลางเสียงหัวเราะของหนิงเยียนที่สาแก่ใจ...
ความนี้ทราบไปถึงบิดาหนิงเสิ่นไม่คาดคิดว่า ธิดาคนโตยังนิสัยเสียไม่เปลี่ยน หลังจากให้คุณหนูรองกับคุณหนูสามเปลี่ยนผ้าเเล้ว พวกนางอยู่ในห้องโถงใหญ่ เวยอ๋องรอชมละครปาหี่ ที่ชายาตัวร้ายเป็นคนสร้างขึ้น นางจะรับมือกับพ่อตนอย่างไร
"ท่านพ่อ เรื่องนี้น้องสาวทั้งสองมาวุ่นวายกับข้าก่อน" หนิงเยียนเอ่ยขึ้น ถ้าพวกนางไม่มาวุ่นวายกับหนิงเยียนจะมีจุดจบเช่นนี้รึ
"เยียนเอ๋อร์ แต่เจ้าก็ทำเกินไป" คนเป็นบิดาตำหนิบุตรสาว
"ท่านพ่อ เอาเวลามาตำหนิข้า มิสู้ไปอบรมพวกนางทั้งสองคนให้มีมารยาทไม่ดีกว่ารึ"
เวยอ๋องมองชายาตัวร้ายตีฝีปากกับบิดาอย่างคล่องปรื๋อ นิสัยนางไม่เปลี่ยนที่ทำร้ายผู้อื่น
หนิงเสิ่นจนปัญญา
"เอาละ ข้ามาเยี่ยมท่านเเม่ ขอตัวกลับเเล้วกันวันนี้"
นางลุกออกจากห้องโถงโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
"ท่านอ๋อง นางคงสร้างความวุ่นวายให้ท่านไม่น้อย"
เวยอ๋องไม่เอ่ยอันใดเพียงสาวเท้าออกจากห้องโถง มาที่รถม้า พบว่านางนั่งอีกฝั่งหนึ่ง
ที่เขาตามนางกลับจวนมาต้องการสืบหาว่านางเรียนวิชาแพทย์มาจากที่ใด ยังไม่ได้สืบได้เรื่อง ดันเกิดเรื่อง นางถีบน้องสาวทั้งสองคนตกน้ำเสียก่อน
"นิสัยของเจ้ายังคงร้ายกาจเหมือนเดิม" เวยอ๋องเอ่ยขึ้น
"ใครไม่ทำร้ายข้าก่อน ข้าก็ไม่ทำร้ายคนผู้นั้นหรอก"
จู่ ๆ รถม้าเกิดหยุดกะทันหัน หนิงเยียนเกือบล้มหน้าคะมำลงพื้น
"ท่านอ๋องมีชายผู้หนึ่งขวางรถม้าไว้ขอรับ"
"หนิงเยียน หนิงเยียน" คนผู้นั้นตะโกนเรียกชื่อนาง ทำให้เปิดม่านดู พบว่าบุรุษผู้นี้ ช่างคุ้นในความทรงจำนางนัก
ใช่เเล้วเขาคือชายงามแห่งสำนักสังคีต หนิงเยียนเหตุใดเจ้าต้องหาเรื่องให้ข้าด้วย เจ้าอยู่มีแต่เรื่องชั่วร้ายเสียจริง
ชายผู้นั้นมาหาหนิงเยียนข้างหน้าม่าน
"ข้าดีใจที่ได้เจอท่าน ข้าดีใจ ตั้งแต่ท่านแต่งงาน ท่านไม่ไปหาข้าเลย" ชูเซี่ย...ชายในสำนักสังคีตย่อมมีความรู้สึกที่ดีต่อหนิงเยียน เพราะนางปรนเปรอเขาด้วยเงินทองไม่น้อยเลยละ
"ข้า..." นางจะพูดอย่างไรดี
ชูเซี่ยกุมมือนาง
"เอามือของเจ้าออกจากชายาของข้าประเดี๋ยวนี้" น้ำเสียงทรงพลังดังขึ้น
ชูเซี่ยมองเวยอ๋อง เป็นเจ้าอ๋องคนนี้ที่ไม่ให้ยอดพธูมาหาเขา
"เจ้าสารเลว ไม่ให้นางมาหาข้า" เวยอ๋องทนไม่ไหวเรียกองครักษ์เงาออกมาจัดการชูเซี่ยจนสลบคาถนน
"งามหน้านัก หนิงเยียน เจ้ามันสารเลวสิ้นดี แต่งเข้าจวนอ๋องยังทำตัวไร้ยางอาย" เวยอ๋องใบหน้าเขียวคล้ำ ไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าทอสตรีเยี่ยงหนิงเยียน
หนิงเยียนไม่คิดว่าเจ้าของร่างเดิมจะทำวีรกรรมที่เลวร้ายได้ขนาดนี้
เมื่อถึงจวนอ๋องเวยอ๋องออกจากรถม้าไปที่เรือน ส่วนหนิงเยียนเดินทอดน่อง สมองหวนคิดเรื่องเลวร้ายอันใดอีกหนิงเยียนคนเดิมก่อไว้ คิดว่าบุรุษสำนักสังคีตคนเดียวไม่น่าจะพอ...
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ