หน้าหลัก / วาย / นิยายรักสองภาพ / ความเสียใจที่ได้รับ

แชร์

ความเสียใจที่ได้รับ

ผู้เขียน: ต๋อง น่ะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-17 17:09:18

           กัสผิดหวังพอสมควรที่พีคไม่ได้ชวนเขาไปเที่ยวไหน ตอนอยู่บนรถพีคก็ชวนกัสคุยตลอดทาง เป็นการคุยที่ไม่ใช่คนรักกันหรือแอบชอบแต่อย่างใด จึงสร้างความผิดหวังให้แก่กัสอย่างมาก เมื่อเขามาถึงห้องจึงรีบเขียนนิยายต่อทันที

            เช้าวันใหม่ยิวได้เห็นสภาพของจันที่หนาวจนตัวสั่น เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับจันในช่วงเวลานี้ เขาจึงเดินไปหาผู้คนมากมายที่อยู่ในขบวนเพื่อขอยา ก็ยังพอมีคนที่มีน้ำใจให้มาซึ่งยิวไม่รู้ว่ายานั้นจะได้ผลหรือไม่ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่ปั้นเป็นยาลูกกลอน แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกยิวจึงรีบเอามาให้จันได้กินเดี๋ยวนั้นทันที

            “กินยาซะ”

            “ขอบคุณพี่มากเลย”

            “ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นพี่น้องกัน  เดี๋ยวตอนเย็นถึงเมืองศิลานครแล้ว พี่รับรองท่านแม่ทัพจะหาหมอเก่งๆมารักษาจันอย่างแน่นอน

            “ข้าจะรอ”

            ยิวมองจันกินยาอย่างยากเย็นเพราะเม็ดค่อนข้างใหญ่พอสมควร เมื่อจันได้กินยาเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังเมืองศิลานคร เพราะหัวหน้าขบวนได้ตะโกนบอกทุกคนให้ได้รับรู้ และเตรียมตัวเพื่อที่จะเดินทางต่อไป

            ความรู้สึกนึกคิดของยิวตอนนี้เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะพาจันไปถึงที่หมายหรือเปล่า เพราะสภาพร่างกายของจันนั้นแย่มาก ดูจากอาการยิวก็พอจะรู้น่าจะเป็นไข้เกิดการอักเสบของบาดแผล เมื่อคืนยังมานอนตากน้ำค้างอีก สภาพร่างกายของจันจะรับไหวหรือเปล่ายิวเลยไม่ค่อยแน่ใจ

            “จันเดินไหวไหม”

            “ไหว ผมจะไปถึงเมืองศิลานครให้ได้”

            “พี่เชื่อเช่นนั้น จันเก่งอยู่แล้วอีกแค่วันเดียวเอง ทำไมจะเดินไปไม่ได้ ถ้างั้นเราไปกันเถอะ”

            ยิวพยุงร่างของจันลุกขึ้นยืนและพาเดินอยู่ท้ายขบวน เพราะร่างกายของจันนั้นแท่บจะไม่มีแรงเดิน เพราะเมื่อตอนเช้าได้กินข้าวไปแค่หน่อยเดียว ด้วยพิษไข้จันจึงไม่สามารถที่จะกินอะไรลงไปได้มากนัก ทั้งยิวและจันเดินไปสักพักก็หยูดอยู่แบบนี้หลายครั้ง

            “พี่พักก่อนเถอะผมไม่ไหวจริงๆ”จันนั่งลงกับพื้นแล้วล้มตัวนอนทันที

            “คงพักได้ชั่วครู่ถ้าพักนานกว่านี้เดี๋ยวเราจะเดินตามขบวนไม่ทัน”

            “ข้าไม่ไหวจริงๆแล้ว ปล่อยข้าไว้ที่นี่ก็ได้ พี่เดินทางไปคนเดียวเถอะ เมื่อไปถึงเมืองศิลานครแล้วให้คนมารับข้าก็ได้”

            “ไม่ได้หรอก อยู่กลางป่าคนเดียวได้อย่างไง พี่ไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด อย่างไรพี่ก็จะเอาจันไปด้วย ถ้างั้นขี่คอพี่เลยจะได้ไปกันเดี๋ยวนี้”

            “มันอีกไกลไหมข้าหายใจไม่ออก ข้าเหนื่อยมากข้าเดินทางไม่ไหวแล้วพี่”

            “จันเดินไม่ไหวแต่พี่เดินไหว มาขึ้นหลังพี่มาได้เลย”

            ยิวนั่งยองๆส่วนจันก็พยายามอย่างสุดกำลังลุกขึ้นนั่ง และกอดคอของยิวไว้อย่างแน่น ในขณะเดียวกันนั้นยิวก็ลุกขึ้นและรีบเดินตามไปยังขบวนนำทางที่เดินไปไกลพอสมควร ช่วงแรกยิวไม่ได้รู้สึกหนักอะไรมาก เพราะตัวของจันนั้นผอมเกร็งอยู่แล้ว เขาจึงให้จันขี่คอเดินได้อย่างสบายจนตามขบวนทัน

            “พี่ใกลถึงหรือยัง พี่คงหนักมาเลยใช่ไหม”

            “ไม่หนักหรอก”

            ก่อนหน้านี้ยิวไม่ได้รู้สึกหนักอะไรมาก แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าจะแบกร่างของจันแท่บจะไม่ไหว ถึงเป็นอย่างนั้นยิวก็พยายามอดทนอดกลั้นเพื่อไปให้ถึงศิลานคร เพราะเขาได้ยินคนในขบวนพูดถึงว่าใกล้แล้ว

            “พี่ผมไมไหวแล้ว”จันหายใจถี่ขึ้น

            “ทนอีกหน่อยนะจะถึงแล้ว ใจสู้เข้าไว้จัน”

            “ได้พี่”

            ยิวยังไม่ยอมแพ้เขาแบกร่างของจันเดินอย่างเร็ว เพื่อได้แซงหน้าคนอื่นๆและจะได้ถึงที่หมายก่อนใคร ซึ่งเขาก็เดินมาเรื่อยๆจนถึงหัวขบวน

            “ลุงถึงแล้วใช่ไหม”ยิวมองไปทางหน้าเพราะเขาเห็นทหารยืนอยู่เต็มไปหมด

            “ใช่แล้ว”หัวหน้าขบวนพูดห้วนๆ

            ยิวจึงไม่รอช้าใช้แรงเหือดสุดท้ายเดินอย่างเร็ว เพื่อที่จะได้ให้ถึงจุดหมายที่อยู่ตรงหน้า และถ้าถึงตรงนั้นแล้วเขาจะบอกทหารเหล่านั้นว่าเป็นเพื่อนของท่านแม่ทัพวิศรุฒ ในที่สุดความพยายามของยิวก็ประสบความสำเร็จ เมื่อเขาได้พาจันมาถึงยังป้อมยามประตูเมืองศิลานคร

            “จันถึงแล้ว”

            สายตาของยิวมองไปรอบๆตัวและเน้นไปที่หน้าประตูเมือง  เขาถึงกับอมยิ้มอย่างมีความสุข เพราะนั่นหมายถึงชีวิตของจันและตัวเขาต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน

            “เอาล่ะจันลงได้เลยถึงเมืองศิลานครที่จันอยากมา”

            ยิวค่อยๆนั่งลงแต่ทันใดนั้นร่างของจันก็ล่วงหล่นลงพื้น เมื่อยิวเห็นเช่นนั้นใจของเขาล่วงหล่นตามไปในทันที ยิวจึงรีบก้มลงดูร่างของจัน ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นคือใบหน้าของจันซีดเซียวไร้เลือด

            “จัน จัน จัน”ยิวทั้งเรียกและเขย่าร่างของจัน แต่ก็ไร้การตอบสนองโดยสิ้นเชิง

            “จันอย่าทำแบบนี้พี่ใจคอไม่ดีเลย”

            ยิวเขย่าร่างของจันอยู่พักหนึ่งจนเสียงดัง แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น เมื่อหัวหน้าขบวนเดินเข้ามาและนั่งลง โดยใช้นิ้วแตะที่ปลายจมูกของจัน

            “จันเสียแล้ว”หัวหน้าขบวนพูดจาราบเรียบ

            “ไม่จริงลุงโกหก”ยิวเขย่าร่างของจันเป็นการใหญ่

            “ข้าเข้าใจดี แต่เอ็งต้องทำใจ ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเอ็งสองคนรู้จักกันได้อย่างไร ในเมื่อจันได้เสียไปแล้ว เอ็งก็ควรทำใจและจัดการฝังศพของจันซะ เดี๋ยวข้าจะช่วยไอ้จันมันเป็นครั้งสุดท้าย ข้าจะให้คนของข้าขุดหลุมศพให้จัน”

            “จัน ไหนบอกกับพี่ว่าจะทนอีกหน่อยอย่างไงล่ะ”

            ยิวร้องไห้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยความเสียใจที่จันได้ตายจากไป ถึงแม้จะรู้จักกันได้ไม่เพียงกี่วัน แต่ความผูกพันนั้นเหมือนนานนับปี เพราะด้วยความลำบากที่ต้องเผชิญมาด้วยกัน

            “เสียใจให้พอแล้ว”หัวหน้าขบวนพูดขึ้น

            มือน้อยๆของยิวปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง และมองชายสองคนอุ้มร่างของจันไปยังในป่าข้างๆ ซึ่งยิวก็ลุกขึ้นเดินตามไปอย่างกระชั้นชิด จนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เขาจึงได้เห็นชายอีกสองคนได้ขุดหลุมขนาดไม่ใหญ่มาก

            “ไปดีเถอะไอ้จัน”ชายหนุ่มที่นำร่างของจันมาได้เอาจันใส่ไว้ในหลุม

            เมื่อจันได้อยู่ในหลุมนั้นแล้วชายหนุ่มสองคนก็กลบฝังทันที ไม่นานร่างของจันก็หายไปโดยมีดินฝังกลบจนมิด หลังจากนั้นชายหนุ่มทั้งหมดก็เดินจากไป ปล่อยให้ยิวนั่งร้องไห้อยู่เพียงลำพัง

            ยิวเดินไปเด็ดดอกไม้ข้างๆมาไว้บนหลุมฝังศพของจัน ที่ได้จากยิวไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมา

            “จัน ไหนบอกกับพี่ว่าจะมาอยู่ที่เมืองศิลานครกับพี่ไง”

            “ทำไมมาทิ้งพี่ไว้คนเดียว จันบอกว่าอยากเรียนหนังสือ อยากเป็นทหาร อยากไปบ้านเมืองของพี่ ทำไมจันถึงทิ้งพี่ไป”ยิวร้องไห้อย่างต่อเนื่องและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดแต่อย่างใด

            ยิวร้องไห้เสียใจด้วยความระทมใจอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงชายที่คุ้นเคยอยู่ด้านหลังดังขึ้น

            “เสียใจพอแล้ว ก็ควรที่จะหยุดแล้วเดินหน้าต่อไป”หัวหน้าขบวนเอ่ยจึ้น

            ยิวหันหน้ามาทันที และได้เห็นลุงหัวหน้าขบวน ที่เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทั้งทีก่อนหน้านี้เย็นชาต่อเขาและจันอย่างมาก แต่กับตอนนี้เป็นห่วงเป็นใยและดูแลเขาเป็นอย่างดี

            “ทำไมลุงถึงดีกับผม”ยิวปาดน้ำตาไปด้วยพร้อมกับพูดในสิ่งที่คาใจ

            “ข้าไม่ได้ดีกับเอ็ง ข้าก็แค่ทำหน้าทีของข้าแค่นั้น”

            “หน้าที่อะไรทำไมเมื่อวานยังทำเป็นไม่สนใจข้าและจันเลย”

            “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเอ็งเป็นใครมาจากไหน  แต่มีคนบอกข้าว่าได้ยินเอ็งกับไอ้จันคุยกันหลายเรื่อง และเรื่องหนึ่งที่คนของข้าได้ยิน คือเอ็งรู้จักกับท่านแม่ทัพวิศรุฒ”

            เมื่อยิวได้ยินเช่นนี้เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าหัวหน้าขบวนนั้นหมายความว่าอย่างไร ในตอนแรกยิวก็รู้สึกโกรธและเกลียดกับคนนิสัยแบบนี้ แต่เมื่อเขาได้ใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน ยิวก็คิดได้ว่าไม่มีประโยชน์อันใดที่ต้องต่อกรให้ไม่พอใจ เขาควรที่จะใช้ประโยชน์จากคนแบบนี้มากกว่า

            “ใช่ รู้จักกัน”

            “ฐานะอะไร”

            “ลุงไม่ต้องรู้หรอก ลุงพูดขึ้นมาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร”

            “ตัวข้าไม่ได้ต้องการอะไรหรอก แต่ข้าอยากให้ลูกชายของข้าได้ไปอยู่แทนไอ้จันมันได้ไหม”

            “อะไรนะ”

            “ถ้าเข้าไปในเมืองแล้ว ข้าอยากให้ลูกของข้าไปอยู่กับเอ็งและแม่ทัพวิศรุฒ ถ้าลูกของข้าได้ไปอยู่กับเอ็งคงจะมีอนาคตที่ดี ข้าและเมียของข้าจะได้สบายไปด้วย”

            “แล้วผมจะได้อะไร”

            “แหวนที่เอ็งเอามาขายข้าและถุงย่ามนั้นข้าจะคืนให้เอ็ง ถ้าเอ็งอยากได้อะไรอีกก็บอกข้าได้เลยนะ”

            ยิวยืนนิ่งครุ่นคิดว่าจะทำเช่นไรดี ถึงแม้เขาจะเกลียดชายผู้นี้ แต่สิ่งที่ชายผู้นี้เสนอมาช่างน่าสนใจอย่างมาก เขาเลยอยากที่จะปฏิเสธได้ข้อเสนอของชายผู้นี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status