LOGINพอเปิดประตูห้องก็เห็นชายหนุ่มยืนทำหน้าเข้มอยู่ แล้วในมือก็ถือของบางอย่างก่อนจะยื่นให้ฉัน
“เอาโทรศัพท์มาให้ มะลิลืมไว้ที่ห้องพี่น่ะ” “.....” ไม่พูดอะไรตอบ มองหน้าก่อนจะรับโทรศัพท์มือถือมา แล้วเตรียมจะปิดประตูห้อง มือใหญ่ดันประตูห้องไว้แล้วพูดขึ้น “ผู้ใหญ่เอาของมาให้ขอบคุณสักคำมีปะ มารยาทสะกดเป็นไหมฮะ” มองหน้าแล้วจิกสายตาก่อนจะตอบกลับ “แล้วมาเคาะห้องคนอื่นดึกๆ ดื่นๆ นี่มีมารยาทมากเรอะ เอามือออกไป!” “เด็กอย่างเธอนี่มันสอนยากสอนเย็น” “ค่ะ ไม่เหมือนเด็กของพี่ที่ชื่อแพรหรอก รายนั้นคงจะสอนง่าย ง่ายชนิดที่ว่ามานอนบ้านผู้ชายทั้งๆ ที่คบได้แป๊บเดียว” “ถามจริง แพรไปทำอะไรให้มะลิเหรอ มะลิถึงไม่ชอบ” “ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่มีอะไรเยอะ กลับไปนอนกกกันได้แล้วไป ลิจะนอนแล้วอย่ามากวนดิ” พูดพลางจะปิดประตูลงแต่ก็โดนพี่เมฆผลักประตูต้านไว้ แล้วอยู่ๆ เขาก็เดินพรวดเข้ามาในห้องของฉันเสียอย่างนั้น อะไรวะเนี่ย อีมะลิงง? “จะนอนแต่เปิดไฟไว้เนี่ยนะ” เขาพูดพลางมองมาทางฉัน แล้วจ้องมองนมแบบรู้เลยว่ามองอะ ใบหน้าหล่อแดงซ่านขึ้นมา กลอกตามองบนแล้วเดินไปปิดไฟ “อะนี่...หนูปิดไฟแล้ว พี่เมฆกลับไปนอนกับแฟนพี่เถอะ หนูจะนอนแล้ว” เดินไปกระโดดคว่ำหน้าลงที่เตียงแล้วหลับตาพริ้มอย่างไม่สนใจ “เลิกประชดสักทีเหอะ” พี่เมฆพูดพลางเดินไปเปิดไฟ “โอ๊ย พี่เมฆ! ลิจะนอนแล้ว” เอาหน้ามุดลงหมอนแล้วกระดกก้นขึ้น “ปิดไฟแล้วออกไปเลย ไป!” ไล่เขาอย่างหงุดหงิด “เดี๋ยวนี้ไล่พี่เรอะ” “ทีพี่ยังไล่ลิออกมาเลย เพราะฉะนั้น...เชิญออกไป” ดีดตัวนั่งแล้วผายมือเชิญให้พี่เมฆออกไปจากห้อง “ออก...ไป” “พี่ขอโทษมะลิก็แล้วกันนะ” เดินมานั่งลงที่เตียงข้างๆ ฉัน แล้วใช้มือลูบหัวอย่างแผ่วเบา “หัดทำตัวให้อ่อนโยนบ้างสิเราน่ะ” “เดี๋ยวๆ ผีเข้าหรือเปล่าเนี่ย” สองมือจับใบหน้าหล่อให้อยู่นิ่งๆ แล้วมองซ้าย มองขวา “ก็ปกติดีนะ แต่ดูแปลกไป” ว่าจบก็ปล่อยมืออกแล้วล้มตัวลงนอนท่าเดิม เอาหน้ามุดลงหมอนแล้วก้นกระดกชี้ฟ้า (คือนอนท่านี้มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว) “มะ...มะลิ” เสียงพี่เมฆดูตะกุกตะกัก “นะ...นอนดีๆ สิ” “นี่มันห้องลิ ลิจะนอนยังไงก็ได้” ส่ายก้นไปมาเป็นการเย้ายวนไปในตัว ยิ่งเกงในไม่ได้ใส่ด้วยนะ คงจะเห็นถึงเนื้อเน้นๆ “ยะ...หยุดทำแบบนั้นก่อน” “พี่เมฆนั่นแหละถ้าไม่อยากเห็นก็ออกไปได้แล้ว” ส่ายก้นไปมาเพื่อเย้ายวนหนักกว่าเดิม ยั่วขนาดนี้ทนได้ก็ให้มันรู้ไปเซ่! “มะลิ พะ...พี่...” “.....” “พี่ขอโทษนะ” ว่าจบร่างสูงก็ขึ้นมาบนเตียงแล้วใช้สองมือจับเอวเล็กไว้แน่น “ยั่วกันเองนะ” “ลิไม่ได้ยั่ว แต่ถ้าพี่อยาก ก็เอาได้นะ” ยกก้นขึ้นสูงอีกนิด ภายในห้องนอนมะลิ ชายหนุ่มถาโถมกระแทกเอวใส่หญิงสาวแบบดุเดือดในท่าหันหลัง(ท่าหมา) เขาต้านทานแรงยั่วสวาทของเธอไม่ไหว ยั้บยั้งชั่งใจไม่อยู่ จับผู้หญิงที่คิดว่าเป็นน้องสาวมาอัดกระแทกแรงๆ แบบไม่ปราณี จนคนตัวเล็กถึงกับกำจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่นเป็นการยึดเหนี่ยว และร้องครวญคราญเสียงดังก้องห้อง อ๊าห์ ปัก ปัก! “พะ...พี่เมฆ บะ...เบาหน่อย ลิจะไม่ไหว” ร้องบอกกับคนข้างหลังที่ตอนนี้ซอยเอวใส่รูร่องอย่างป่าเถื่อน “อ๊ะ...อ๊าห์ เบาๆ” “มันเบาไม่ได้ มะลิมายั่วพี่เอง” ท่อนเนื้อขนาดใหญ่ผุบเข้าผุบออกร่องสวาทแบบเป็นจังหวะและเน้นๆ ถี่ๆ ฉันได้แต่นอนจุกท้องน้อยแล้วน้อมรับความเจ็บจากการที่เขาอัดกระแทกมาแบบแรงๆ แก่นกายของพี่เมฆมีขนาดใหญ่มาก ทั่วๆ ไปคือเต็มที่ก็ไซส์ห้าสิบเก้า แต่ของอีพี่เมฆคือไซส์หกสิบอะจ้า ใหญ่เกิน! ที่รู้เพราะว่าเคยได้ยินเขาคุยเรื่องถุงยางกับพี่คิมเพื่อนสนิทเขาอะ คุยประมาณว่าขนาดไซส์หกสิบไม่มีถุงยางเพราะคนไม่ค่อยผลิต ของฉันก็เล็กแค่เนี้ย ไม่ฉีกก็ให้มันรู้ไปสิ “อื้อ...ลิเจ็บ” “ทนหน่อย พี่กะ...ใกล้แล้ว อ่าห์ ตอดดีมาก” เสียงครางเล็ดลอดออกมาจากปากเขาเบาๆ แล้วซอยเอวถี่ๆ ปึก ปึก! อ้าห์ อ๊าห์ ร้องครางดังขึ้นกว่าเดิมจนพี่เมฆต้องเอามือข้างหนึ่งมาปิดปากฉันไว้แน่น เพราะกลัวว่าแม่กับยัยแพรจะได้ยินเข้า “เบาเสียงไว้ เดี๋ยวแม่ได้ยินแล้วจะเป็นเรื่อง” ก้มกระซิบที่ข้างใบหูขาวแล้วขบเม้มเบาๆ ก่อนจะซุกหน้าลงที่ไหล่บาง “อะ...อื้อ...” ได้แต่ร้องอู้อี้ภายในลำคอเพราะโดนปิดปาก ตับ ตับ! ปึก! กระแทกได้ไม่นานร่างกำยำก็กระตุกเกร็งสองสามทีแล้วแน่นิ่ง ก่อนจะปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นเข้าสู่ร่างกายฉัน “สะ...เสร็จแล้ว อ่าห์” พูดพลางค่อยๆ ถอนแก่นกายใหญ่ออกจากรูร่อง “ละ...เลือดไหลด้วย พี่ขอโทษ” “อื้อ พี่เมฆเล่นกระแทกเอาๆ ไม่ยั้งแบบนี้ไม่ไหลไม่ฉีกก็ให้มันรู้ไปสิ” พูดออกมาในขณะนอนฟุบคว่ำหน้าอย่างหมดสภาพ “เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะซื้อยาคุมมาให้กินแล้วกัน พอดีปล่อยในไม่ได้ใส่ถุงยาง” พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเรียบเฉยสุดๆ “ที่จริงเราสองคนไม่ควรพลาดเป็นครั้งที่สอง” “พี่เมฆพลาดเองต่างหาก ลิก็อยู่ของลิเฉยๆ แต่พี่ดันมาเอาลิเอง ทำไมไม่ไปเอายัยแพรของพี่ล่ะ” พูดแล้วค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมานั่ง “ดูดิ น้ำไหลออกมาแฉะเต็มเลย กลิ่นคาวด้วย” “ก็พี่อยาก...” อยู่ๆ ก็ชะงักไป “อยากอะไรเหรอ?” ถามแล้วเอียงคอสงสัยเล็กน้อย “อยากไปนอนแล้ว มันดึก ไปก่อนนะ” พูดจบก็เดินไปChapter 06 : ห้ามมีใคร เวลา 15 : 00 น. ณ ตอนนี้ก็ยังวนเวียนกันอยู่ภายในสวนสนุก เพราะมะลิเด็กจอมดื้อยังไม่อยากจะกลับบ้านน่ะสิ บอกว่านานๆ ทีจะได้ออกมาเที่ยวเลยอยากจะขออยู่ให้คุ้มเสียก่อน ผมก็ไม่สามารถที่จะขัดใจเธอได้ ก็ต้องยอมแต่โดยดี “มะลิเดินระวังๆ หน่อย เดินให้มันดีๆ ไม่ได้หรือไงฮะ” ผมร้องบอกเสียงดุกับคนตัวเล็กที่ตอนนี้เดินเล่นซอกแซกไปมาแบบพาดโผนอยู่ภายในบ้านจำลองของยักษ์ “เอาน่าไอ้เมฆ มึงปล่อยๆ น้องมันบ้างเถอะ มะลิโตเป็นสาวพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วนะเว้ย มึงนี่ก็ตามบ่นเหมือนน้องมันยังสิบขวบไปได้” ไอ้คิมพูดพลางตบบ่าผมเบาๆ “มึงไม่มาเป็นกูไม่รู้หรอกไอ้คิม อีกอย่างแม่ก็ไหว้วานกูไว้ด้วย กูก็ต้องทำตามที่แม่สั่งไว้” “แพรเห็นด้วยกับพี่คิมนะคะ มะลิแกโตแล้ว ปล่อยๆ มั่งก็ดีเหมือนกันนะคะ” แพรพูดสบทบขึ้นอีกคน “ตอนนี้ปล่อยไม่ได้จริงๆ ในสายตาพี่และแม่...มะลิยังเหมือนเป็นเด็กอยู่เสมอ เห็นภายนอกแสบๆ ก๋ากั่นแบบนี้ แต่ภายในเธอก็มีจุดที่บอบบางอยู่เช่นกันนะ” พูดจบผมก็เดินเข้าไปหามะลิที่นั่งเล่นห้อยขาอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ของยักษ์ แล้วคอยจับตาดูแบบไม่ห่าง เพราะกลัวว่าน้องมันจะพลาดหล่นลงมาแล
“เอาแบบนี้ใครจะเข้าก็เข้านะ ใครไม่เข้าก็ไม่ต้องเข้าแค่นั้นเอง เดี๋ยวลิขอตัวเข้าไปก่อนแล้วกัน เสียเวลามาก ยังมีเครื่องเล่นอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้เล่นด้วย” พูดจบมะลิก็เดินพรวดพราดเข้าไปในบ้านผีสิงนั่นแบบไม่มีความกลัวเลยสักนิด โดยไอ้คิมวิ่งตามหลังไปแบบติดๆ เด็กคนนี้นี่มันจริงๆ เลย จิ้งจกตัวเล็กๆ ไม่มีอะไรให้กลัวก็กลัวแทบเป็นแทบตาย แต่ไอ้บ้านผีสิงที่น่ากลัวๆ ดันไม่กลัว“พี่เมฆจะเข้าไปไหมคะ?” แพรถามผมอีกครั้ง“อื้ม...เข้าสิ แต่ถ้าแพรกลัวก็รออยู่ข้างนอกก็ได้นะ”“แพรว่าแพรเข้าไปข้างในนั่นกับพี่เมฆจะดีกว่าค่ะ ยืนอยู่ข้างนอกคนเดียวมันดูน่ากลัวกว่าอีกอ่า” แพรยิ้มแห้งๆ ออกมา“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปกันเถอะ ป่านนี้สองคนนั่นเดินไปถึงส่วนไหนของบ้านผีสิงแล้วก็ไม่รู้”.....เดินเข้ามาในบ้านผีสิงนี่ก็ถึงกับขนลุกซู่เลยครับ อากาศภายในเย็นยะเยือกมาก นี่มันเป็นแบบจำลองหรือของจริงก็แทบจะแยกไม่ออกเพราะจัดฉากและตกแต่งได้เหมือนมากๆ “พะ...แพรขอจับแขนพี่เมฆไว้นะคะ”“อื้ม ได้สิ”เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้ขัดอะไรแพรก็เอามือทั้งสองข้างของเธอมากอบกุมไว้ที่แขนผม ตัวเธอดูสั่นๆ คงจะกลัวสินะ“นี่พี่พาแพรมาทรมาณหรื
Chapter 05 : หักห้ามใจพาร์ทเมฆผมนอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนที่นอน พอดีว่าวันนี้เป็นเวรหยุดงดเป็นคุณสารวัตรหนึ่งวัน เอาจริงๆ การที่เป็นตำรวจนี่มันก็ไม่ได้สบายไปเสียทุกคนหรอกนะ ยิ่งตำแหน่งสูงงานยิ่งเยอะขึ้นไปอีก แถมตอนแรกจะไม่ให้มีเวรหยุดกันด้วย ดีที่ผมกับไอ้คิมช่วยกันค้านกับท่านรองผู้กำกับ ท่านเลยอนุญาตให้มีเวรหยุดกันได้อาทิตย์ละหนึ่งวัน แค่เฉพาะผมกับไอ้คิมเท่านั้นนะ และไอ้คิมมันก็ดันมาขอหยุดวันเดียวกันกับผมอีกนะตอนนี้ไม่อยากจะลุกไม่อยากจะก้าวขาออกจากห้องเลยด้วยซ้ำ เพราะเรื่องเมื่อคืนที่ผมเผลอใจไปเอากับมะลิมามันดันวนเวียนอยู่ในหัวสมองไม่หยุดหย่อน คือ...พยายามหักห้ามใจแล้วนะแต่แม่งก็ไม่เคยจะทำได้ เพราะมะลิน่ะขี้ยั่วเก่งสุดๆ“เฮ้อ จะทำไงต่อไปดีวะไอ้เมฆเอ๊ย” พึมพำกับตัวเองแล้วนอนเอามือข้างหนึ่งขึ้นก่ายหน้าผาก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงแหลมๆ ตะโกนเรียกผมอยู่ที่หน้าประตู คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมะลิ“พี่เมฆตื่นรึยัง?”“พี่ตื่นแล้ว”“ถ้าตื่นแล้วก็ลงมาข้างล่างที พอดีพี่คิมมาหาพี่น่ะ”“อื้มๆ เดี๋ยวพี่ลงไป ขอล้างหน้าแป๊บ”“โอเค เดี๋ยวลิจะไปนั่งรอเป็นเพื่อนพี่คิม
อยู่ๆ ใบหน้าก็เลื่อนเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ ปลายลิ้นเรียวอุ่นๆ ตวัดลิ้มรสที่ริมปากหนาของชายหนุ่มก่อนจะดุนดันมันเข้าไปภายในโพรงปากอันหวานหอมของเขา ลิ้นแลกลิ้นตวัดกันพัลวันอยู่ภายใน ปากดูดปากอย่างดูดดื่ม จูบนี้เหมือนจูบที่หื่นกระหายกันมานาน ฝ่ามือใหญ่เริ่มลูบไล้ตั้งแต่แขนเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ที่เต้าอวบแล้วบีบขยำมันเล่นอย่างเต็มไม้เต็มมือ ปากที่ดูดกันอยู่ก็ต้องปล่อยออกแล้วเผยอร้องครางออกมาอื้อ อ๊าห์ฝ่ามือใหญ่ที่สัมผัสกับเต้าอวบแล้วบีบเคล้นแรงๆ มันทำให้รู้สึกเสียววูบวาบอย่างบอกไม่ถูก จุกสีชมพูก็ตั้งชูชันขึ้นเมื่อปลายนิ้วมาเขี่ยไปมา อารมณ์พลุ่งพล่านมากตอนนี้“พะ...พี่เมฆ ไหนบอกว่าจะไม่เอา”“พี่พยายามห้ามใจตัวเองแล้ว...แต่มันก็ทำไม่ได้สักที” “พี่ก็ไม่ต้องห้ามใจสิ ลิรักพี่เมฆนะ”“สะ...ใส่มันเข้าไปเลยนะ พี่ไม่ไหวแล้ว ปวดท่อนตุบๆ เลยตอนนี้ น้ำอัดแน่นจนแทบจะทะลักออกมา” พี่เมฆควักแก่นกายใหญ่ที่แข็งตัวเต็มที่พร้อมจะสอดใส่ออกมาชักขึ้นลงเบาๆ“จะให้ลิถอดกางเกงออกก่อน หรือว่าจะแหวกเอาดีล่ะ” เอ่ยถามเขาพลางใช้มือทั้งสองข้างค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อพี่เมฆออกทีละนิดจนหมด เผยให้เห็นแผงหน้า
Chapter 04 : พี่น้องท้องชนกัน(ดังตับ!)NC+19 : 00 น.ตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มเป๊ะๆ พี่เมฆยืนทำอาหารอยู่ภายในห้องครัว ส่วนฉันเองก็ยืนอยู่ห่างๆ อย่างกลัวๆ เพราะกลัวว่าอีพี่เมฆมันจะจับเอาไปขังรวมกับพวกเจ้าจิ้งจกที่น่าขยะแขยงน่ะสิ วันนี้ทำตัวต่อต้านและดื้อใส่เขาไปเยอะเสียด้วยเรา “มะลิ ทำไมต้องยืนห่างพี่ขนาดนั้นฮะ” พี่เมฆพูดพลางใส่เครื่องปรุงรสลงในอาหารแล้วเหลือบสายตามามองฉันแว้บหนึ่ง“ก็ยืนตรงนี้มันดูปลอดภัยนี่นา แม่ไม่อยู่ลิก็ไม่รู้ว่าจะโดนพี่เมฆกลั่นแกล้งอะไรบ้าง” ฉันพูดออกไปตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม“นี่มะลิเห็นพี่เป็นคนขี้แกล้งขนาดนั้นเลยเหรอ”“ใช่ พี่น่ะตัวพ่อเลยแหละ”“เดี๋ยวก็ไม่ทำให้กินเลยนิ ปล่อยให้อดซะดีม้าง”“ไม่เป็นไร ลิมีพี่คิมอยู่ เดี๋ยวลิโทร.บอกให้พี่คิมมารับไปกินข้าวข้างนอกได้ ไม่ง้อพี่เมฆหรอก ชิชะ!” “อะไรๆ ก็ไอ้คิมเนอะ ทำไมไม่ไปอยู่กับมันเลยอะ” เขาพูดประชดประชันก่อนจะมองมาด้วยสายตาค้อนๆ “ไปอยู่ได้ใช่ปะ ถ้าอย่างนั้นลิขอไปเก็บเสื้อผ้าแป๊บ” ว่าจบก็ทำท่าก็จะวิ่งขึ้นไปบนห้อง แต่อีพี่เมฆดันไวกว่า เขาเดินมาดักหน้าด้วยความเร็วแสงแล้วรั้งข้อมือฉันไว้แน่น แน่นชนิดที่ว่าสะบ
“เรอะ พี่ก็บอกว่าให้รอยังไงเล่า แค่ให้รอพี่ทำงานอะ มันจะตายไหมมะลิ” เขาพูดออกมาอย่างหัวร้อนเอาจริง เรื่องแค่นี้ต้องหัวร้อนด้วยเหรอ มาอารมณ์ไหน?“แล้วนี่มึงจะหัวร้อนเพื่อ? อย่าบอกนะว่าหวงน้องสาวกับกูที่เป็นเพื่อนสนิทมึงเนี่ยนะ” พี่คิมถามแล้วมองหน้าพี่เมฆ“กูไม่ได้หวง แต่ก็ควรจะบอกกันสักนิดดิ กูจะได้ไม่ต้องมาเป็น...” พี่เมฆชะงักไป“เป็นอะไรวะ?”“เป็นอะไรก็เรื่องของกูเหอะ ว่าแต่คุณสารวัตรคิมรีบไปเคลียร์งานที่โต๊ะคุณเถอะครับ ตอนนี้กองเต็มไปหมดแล้ว” พี่เมฆทำท่าผายมือใส่พี่คิม “เชิญครับ”“เออๆ โยนงานยากๆ มาให้กูอีกสิท่า” พูดจบพี่คิมก็เดินไปอย่างไว เหมือนจะลืมว่ามะลิคนนี้ยืนหัวโด่อยู่ข้างๆ“ไง ดื้อนักเหรอเราน่ะ แสดงว่าคงอยากจะถูกจับไปให้อยู่ในห้องที่มีแต่จิ้งจกสินะ” มองมาที่ฉันด้วยแววตาและน้ำเสียงที่ดุร้าย “มานี่ดิมะลิ ให้ไวด้วย”“ไม่! วันนี้ลิจะไม่รักพี่เมฆเพราะพี่ใจร้ายและชอบดุ ลิจะรักพี่คิมหนึ่งวันเพราะพี่คิมใจดีมากๆ” เชิดหน้าแล้วเตรียมจะเดินออกมา แต่ก็ถูกพี่เมฆรั้งแขนไว้เสียก่อน“นี่อย่าดื้อได้ปะ และที่สำคัญมะลิจะไปรักผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ชายตัวเองเนี่ยนะ”“ทำไมอะ ก็ลิจะรัก







