เธอพลาดที่เดินเข้าห้องทำงานเขาไปแค่ครั้งเดียว แต่กลับถูกบอสโหดอย่างเขากินไม่ยอมปล่อย.... “ลองตะคอกอีกทีสิ จะทำจนลืมทางกลับบ้านเลย” เรื่องราวของบอสหนุ่มสุดโหดที่ดุ เผด็จการและขี้โมโห กับโปรแกรมเมอร์สาวสวย หัวหน้าทีมในบริษัทพีวี กรุ๊ป เมื่อเธอต้องแก้ไขงานในออฟฟิศตอนดึกคนเดียว และเมื่อนำงานไปส่งในห้องของบอสจอมโหด หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป...... “เหนื่อยไหม” “ไม่น่าถาม” “แสดงว่าไม่เหนื่อย ถ้าอย่างนั้นต่อนะ” “บอสคะ!! พอแล้วมิลินแทบจะหมดแรงแล้วค่ะ” “แต่ถุงยางยังเหลือ” “เก็บเอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ หึ” “ว่ายังไงนะ”
ดูเพิ่มเติมPV Group
“มิลินยังไม่เสร็จเหรอนี่จะทุ่มหนึ่งแล้ว”
“ยังเลยพวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”
“นี่วันศุกร์นะไม่ไปปาร์ตี้ที่ไหนเหรอ”
“เฮ้อ…อยากไปอยู่หรอกแต่ก็อย่างที่เห็น มุกจะไปเที่ยวกับแฟนไม่ใช่เหรอรีบไปเถอะ”
“งั้นเราไปก่อนนะวันจันทร์เจอกัน”
“มิลินรดา” หันกลับไปวุ่นกับงานเขียนโปรแกรมที่แก้แล้วแก้อีกก็ยังไม่ผ่านด่านสุดโหดของบอสหรือผู้จัดการคนใหม่ที่พึ่งจะผันตัวเองลงมาคุมงานแผนก IT และโปรแกรมเมอร์ด้วยตัวเอง
“ผมต้องการงานที่มีประสิทธิภาพเหมือนปากของพวกคุณ เลิกประชุม”
นั่นเป็นคำทักทายแรกที่เขาพูดในการพบกันที่แผนกเมื่อสี่เดือนก่อน “ภูวินทร์ วิศุทธารานิวัฒน์” CEO หนุ่มและลูกชายคนเดียวของเจ้าของ PV Group บริษัทผลิตซอฟต์แวร์และดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ชื่อดังของเมืองไทย
จากที่พนักงานสาว ๆ ต่างสนใจในตัวเขาจนอยากจะร่วมงานด้วยและเฝ้ารอการมาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ แต่ผ่านไปเพียงสองสัปดาห์แรกที่เขาลงมาควบคุมงาน ทุกคนก็แทบอยากจะลาออกกันยกแผนกเพราะงานที่หนักและละเอียดมากขึ้นอีกทั้งไม่ว่าพวกเขาและเธอจะสรรหาวิธีการใดไปนำเสนอล้วนถูกปัดตกออกมาหมด
“โธ่เว้ย!! ทำไมไม่ผ่านสักทีวะ”
“ฉันว่านายแก้ตรงนี้อีกหน่อย ระบบมันทำงานไม่เสถียรดังนั้น…”
“ไม่ไหวว่ะ มิลินเธอเก่งกว่าฉันเธอแก้ไปก็แล้วกัน ส่งไปสี่รอบโดนส่งกลับมาหมดไม่รู้ว่าตาซาตานนั่นต้องการอะไรกันแน่”
“เฮ้อ…”
“อนุชิต” เพื่อนร่วมงานในทีมของเธอก็ทนแทบไม่ไหวกับการแก้ไขโปรแกรมที่ไม่แล้วเสร็จนี้เสียที สุดท้ายเธอในฐานะหัวหน้าทีมจึงมานั่งแก้ไขเพื่อให้ทุกอย่างจบและจะได้เดินหน้าทำงานอื่น ๆ ต่อเพราะพวกเธอเสียเวลากับโปรแกรมตัวนี้มาเกือบสองสัปดาห์แล้ว
“น่าจะใช้ได้แล้วล่ะนะ”
มิลินรวบรวมข้อมูลทุกอย่างและพิมพ์ออกมาเพื่อจะไปส่งมอบให้กับบอสหนุ่มที่ยังอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว เมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาเธอก็แทบช็อก
“อะไรเนี่ยเกือบสามทุ่มแล้วเหรอต้องรีบกลับแล้วเดี๋ยวรถไฟฟ้าหมดพอดี”
ห้องผู้จัดการแผนก IT
ก๊อก ก๊อก
เธอเคาะประตูอยู่ราว ๆ สามครั้งแต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับ หรือว่าเขาจะหลับอยู่กันแน่นะ แต่เธอเองก็ต้องรีบกลับบ้านเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเปิดเข้าไปเองเพราะประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับห้องที่เงียบกริบ ไฟที่คอมพิวเตอร์ยังมีแสงแต่เจ้าของไม่อยู่ตรงนั้น เมื่อเธอเดินไปที่โซฟาก็เห็นว่าบอสหนุ่มนอนพักอยู่ตรงนั้น
“เอายังไงดีล่ะ ปลุกหรือไม่ปลุกดีอย่าเลยรีบส่งแล้วรีบกลับดีกว่า”
สุดท้ายมิลินก็ตัดสินใจที่จะเอางานไปวางที่โต๊ะและกำลังจะเดินกลับออกจากห้อง เสียงมือถือเจ้ากรรมก็ดันดังขึ้นจนเธอต้องกดรับทั้ง ๆ ที่ไม่ทันมองด้วยซ้ำว่าใครโทรมาแต่ก็ต้องรับสายก่อนที่บอสสุดโหดจะตื่น
“สวัสดีค่ะ…. คุณโทรมาทำไมเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วฉันบอกแล้วว่าหลังจากที่คุณหักหลังฉันในวันนั้น…”
เธอกำลังหัวเสียเมื่อ “ศิระ” อดีตแฟนเก่าโทรมาตามตื๊อขอคืนดี เธอและเขาจบกันไปเกือบสามเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังพยายามเปลี่ยนเบอร์เพื่อโทรมาหาเธอ มิลินไม่เคยรับสายเขาเมื่อเธอยอมรับครั้งนี้เขาจึงพูดไม่หยุด
“ฉันบอกแล้วว่า…”
“คุณมีอะไรกับคู่หมั้นของผมอีกไหม ถ้าไม่มีจะได้วางเสียเวลานอน”
มิลินตัวแข็งทื่อเมื่อมือถือถูกใครบางคนดึงไปและพูดอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ทันเพราะเธอทำตัวยืนตัวเกร็งไปแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมาตอนนี้และมายืนชิดด้านหลังจนหายใจรดต้นคอเธอแบบนี้
“ติ๊ด”
“วางไปแล้ว”
“ขะ ขอบคุณค่ะ ขอโทษด้วยค่ะบอสที่ทำคุณตื่น มิลินก็แค่….”
“หืม คุณว่ายังไงนะ”
เสียงทุ้มต่ำ นุ่มและเซ็กซี่ที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้โทรศัพท์ที่อยู่จะตก เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขามีมุมแบบนี้ด้วยแม้ว่าครั้งแรกที่พบเขามิลินจะตกตะลึงไปกับความหล่อและรูปร่างสูงโปร่งหุ่นนายแบบในชุดสูทสีเข้มที่ผู้หญิงทุกคนได้เห็นเป็นต้องอยากได้ก็ตามที
“ทำไมไม่ตอบล่ะ ผมคิดว่าพึ่งจะช่วยคุณจากการถูกคุกคามอยู่นะ”
“คุกคามเหรอคะ แต่ว่าตอนนี้….”
“คุณเข้ามาทำอะไรในห้องของผม”
เสียงทุ้มแกมดุเล็กน้อยถามเธอขึ้นมา ตอนนี้ในแผนกคงเหลือแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้น จะให้ทำอะไรได้นอกจากงานที่เขาสั่งให้แก้
“มิลินแค่จะเอางาน งาน…บอสคะ ช่วยถอย…. ออกไปก่อน”
เธอบอกให้เขาถอยแต่เหมือนกับบอสหนุ่มจะยิ่งเบียดกายเข้ามาจนชิด แขนสองข้างของเขาพาดกั้นเอาไว้ไม่ให้เธอหนีพร้อมกับกระซิบข้าง ๆ หูเธออีกครั้ง
“ทำยังไงดีล่ะ คุณพลาดเองไม่ใช่เหรอที่เดินเข้ามาแบบนี้”
“บอสคะ คือว่ามิลินเคาะประตูหลายครั้งแล้วแต่คุณไม่ได้ยินก็เลย…อ๊ะ!”
เขาจับเธอหันมาสบตาเขา โต๊ะทำงานของเขาแม้จะใหญ่และกว้างแต่ก็มีแค่คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวและตอนนี้ก็มีแฟ้มงานของเธอที่วางอยู่แต่ก็ถูกเขาปัดออกและดึงร่างของเธอขึ้นไปวางแทน
“บอสคะ!”
“มิลินรดา”
เสียงของเขาที่กระซิบกำลังจะทำให้เธอยอมแพ้ ใช่ว่าเธอจะไม่หวั่นไหวกับเขาเลยเสียหน่อยและยังเคยคิดอยากจะได้ผู้ชายคนนี้เสียด้วยซ้ำแค่คิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ต่างหาก
“ว่ายังไงล่ะผมกำลังหิวนะ ให้โอกาสคุณอีกนาทีเดียวที่จะพูดและ…หนี”
สีหน้าสับสนของเธอในตอนนี้ทำให้เขาพึงพอใจเพราะเธอกำลังลังเลเขาจึงไม่รอช้าที่จะขโมยจูบเธอในทันทีก่อนที่เธอจะทันได้ตัดสินใจ
“อื้อ…แฮก แฮก…บอส อื้อ…”
ป้ายพนักงานถูกเขาดึงออกพร้อม ๆ กับเสื้อคลุมด้านนอก เขาดูชำนาญในการถอดมากกว่าที่เธอคิด ไม่นานตัวเธอก็เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตด้านในและตัวเขาเองก็ถอดไทสีเข้มออกไปแล้วเช่นกัน
“ผมถือว่านี่คือคำตอบ”
ลิ้นสากหนาล้วงลึกเข้าไปด้านในจนสุดเกินจะถอนตัวได้ทัน มิลินเผลอตอบรับสัมผัสของซาตานไปเสียแล้วเมื่อเขาเริ่มเชื้อชวนให้เธอไปสู่หนทางหฤหรรษ์ที่ตื่นเต้นนี้ มือหนาปลดกระดุมด้านหน้าของเธอออกอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาหน้าอกอวบคู่สวยตรงหน้าทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถอดบราแต่มือเย็น ๆ ของภูวินทร์ก็สอดเข้าไปจนถึงเนื้อในและเริ่มใช้นิ้วขยี้ยอดอกทันที
“อื้อ…. อย่าค่ะ”
อีกฝ่ายไม่รับรู้คำปฏิเสธที่เบาหวิวนั้นแม้จะได้ยินเขาก็ไม่สามารถหยุดได้แล้วในตอนนี้ ท่อนเอ็นล่างปวดหนึบต้องการถูกปลดปล่อยเมื่อค่อย ๆ เอนตัวของโปรแกรมเมอร์สาวสวยที่เขาสะดุดตาตั้งแต่วันแรกลงไปกับโต๊ะทำงานหรูหรา
“อ๊ะ บอสคะ อย่าถอด อื้อ…”
จนถึงตอนนี้ไม่มีคำไหนที่เขาจะฟังเธอพูดเลย กระโปรงบางตัวสั้นของเธอถูกเขาดึงออกไปพร้อมกับบราเข้าชุดกัน สายบราถูกปลดออกพร้อมกับจูบที่หนักหน่วงราวกับเรียกร้องให้เธอตอบรับคำขอที่ดุดันนี้
“อือ อ๊าา…เสียว…”
“ยังจะปากแข็งอีกไหม”
“บอสคะ บอส…. อ๊าา”
นิ้วสากหนาค่อย ๆ กดและลากไปมาระหว่างร่องสวาทด้านล่างทำให้มิลินเสียวสะท้านจนเผลอคว้าต้นคอเขาไว้แน่น ลิ้นที่เผลออ้าออกมาถูกเขาล่วงล้ำดูดกลืนจนแทบละลายไปพร้อมกัน
เสื้อเชิ้ตราคาแพงถูกสลัดไปกองกับพื้นพร้อมกับชุดของเธอ เข็มขัดถูกปลดออกและร่างเปลือยของชายหนุ่มที่งดงามเหมือนในฝันก็ปรากฏต่อหน้าเธออีกครั้ง แม้ว่าสายตาจะเริ่มพร่ามัวเพราะถูกเขาปลุกแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบอสของเธอ “น่ากินสุด ๆ” ไปเลย
“ถ้าเจ็บก็บอกผมจะผ่อนแรงลง แต่ผมจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะกินอิ่ม เข้าใจไหมมิลินรดา
ห้องพักคู่บ่าวสาว“อ๊าา เดี๋ยวก่อนค่ะที่รัก ยังไม่ได้ถอดชุด”“ผมไม่สน ที่เราเลือกชุดสั้นแบบนี้ก็เพื่อให้สะดวกแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ อาา เสียวจัง หันมาหน่อยสิผมยังจูบไม่พอเลย”“อื้อ…เสียว เบาหน่อยค่ะ อ๊ะ”แต่แรงอัดกระแทกด้านหลังไม่ได้เบาลงเลย ยิ่งเห็นเธอในชุดเจ้าสาวแบบนี้จิตใจเขาก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะมันกระตุ้นอารมณ์เขาได้มากกว่าชุดปกติ “ถอดยากนักก็ต้องทำแบบนี้แหละ”“อื้อ อ๊าา บีบแรง ๆ ค่ะ อ๊าา”เจ้าสาวถูกยกสะโพกขึ้นเพื่อรับแรงอัดกระแทกที่แรงขึ้น มิลินยังไม่ได้ไปถึงเตียงด้วยซ้ำ เพราะเข้าประตูมาได้เจ้าบ่าวก็รีบจัดการเธอทันที ตอนนี้ทั้งคู่ยังอยู่แค่ประตูห้องส่งตัวยังไม่ได้แตะต้องเตียงที่ปูไปด้วยกุหลาบนั่นเลย“ซี๊ด…อ๊าา!! จะเสร็จแล้วค่ะ ที่รักเร็วค่ะ”ภูวินทร์อัดกระแทกแรง ๆ เน้น ๆ เข้าไปอีกครั้งตามที่หมอตะวันแนะนำเพราะเขาให้เธอหยุดกินยาคุมแล้วเพื่อจะได้ปั๊มลูกโดยไม่พักเพราะเขาเห็นหมอตะวันเล่นกับลูกชายแล้วนึกอยากจะมีเป็นของตัวเองบ้าง“ขนาดเลือกแบบง่าย ๆ แล้วยังถอดยากอีก ฉีกเลยดีไหม”“ไม่ได้นะ!! มันแพง”“ที่รัก ผมซื้อให้ใหม่ก็ได้”“ไม่ได้!! ถอยไปเลย”เมื่อถูกภรรยาดุ ภูวินทร์ก็ได้แต่ทำห
บนเรือสำราญ / เกาะพีพี“ยอดไปเลยนะ สมกับเป็นบอสจริง ๆ จัดงานแต่งทั้งทีธรรมดาไม่ได้เลย สมกับเป็นเจ้าพ่อวงการธุรกิจไอที”“พี่อุ่นก็อยากแต่งงานเหรอคะ”“บ้าน่าพิมพ์พี่เลยจุดนั้นมานานแล้ว คงไม่มีใครมาจีบหรอกอยู่เป็นสาวทึกกับพวกเธอนี่แหละ”“แหม คุณอุ่นก็พูดเกินไป ยังสาวยังสวยอยู่อย่าตัดพ้อแบบนั้นสิครับว่าแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยังไม่เข้ามาอีกเหรอครับเรือออกจากฝั่งนานแล้ว”“รออีกหน่อย ยังไม่ถึงฤกษ์เลยพวกเราก็ไปเตรียมประจำที่เถอะ”พนักงานของพีวี กรุ๊ปทยอยกันมาที่ดาดฟ้าเรือสำราญหรูที่ภูวินทร์เหมาลำสำหรับสองบริษัทมาพักและร่วมพิธีแต่งงานของเขาและมิลินรดา ทั้งพีวี กรุ๊ปและเอส กรุ๊ปที่รวบกิจการเข้าด้วยกันและยังมีตะวันและตันหยงที่มาพร้อมกับวัชระกับแคทที่กรี๊ดทุกครั้งที่เห็นภูวินทร์จนวัชระค้อนไปหลายรอบ“ที่รักคุณไหวหรือเปล่า เมาเรือไหมผมเป็นห่วง"“คุณลืมไปแล้วเหรอคะว่าคุณก็เคยพาหยงไปขอแต่งงานบนเรือมาเหมือนกันแค่นี้สบายมากค่ะ”“แต่ตอนนี้เหมือนกันที่ไหน คุณท้องอยู่นะครับถ้าเวียนหัวก็รีบบอกนะผมเอายาดมมาให้ด้วย”“คุณก็ยังเหมือนเดิมจริง ๆ นะคะหมอ หยงไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” "แล้วนี่ตาภูผาไปไหนแล้ว”“อยู่กับคุณแ
ภูวินทร์ดึงเธอขึ้นมาและจับขึ้นไปวางที่โต๊ะทำงานใหม่ของเธอ มิลินอ้าขาให้เขาทันทีเพื่อให้เขาจัดการกับชั้นในตัวจิ๋วที่เขาเลือกซื้อให้เอง เมื่อมองเห็นภูวินทร์ก็แทบจะทนไม่ไหวที่จะใช้นิ้วลากไล้ไปมาจนมิลินแอ่นรับสัมผัส“อ๊าา อย่ากระตุ้นสิคะ มันเสียว”“แฉะขนาดนี้จะใส่ได้อีกไหมนะ ถอดออกก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวทำความสะอาดให้”“อ๊าา”เมื่อพูดจบก็ลงมือทำทันที บอสจอมโหดยังไม่ทิ้งลายความเด็ดขาดเมื่อต้องการรุกฆาตเหยื่อ ลิ้นและนิ้วของเขายังสร้างความเสียวให้เธอไม่ขาดจนน้ำหวานเริ่มไหลออกมาและก่อนที่จะเลอะเขาก็จัดการพามังกรยักษ์สอดเข้าไปทันที“อู๊วว…เสียวจัง เบาหน่อยนะคะเดี๋ยวข้างนอก…”“ไม่ได้ยินหรอก คุณคิดว่าห้องทำงานผมไม่เก็บเสียงเหรอ ผมออกแบบเองเชียวนะไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้หรอกน่าวางใจได้”“คุณมันร้ายกาจ อ๊าา”แรงอัดกระแทกทำเอาโต๊ะทำงานใหม่เกือบจะล้มเขาจึงพาเธอกลับมาที่โซฟาตัวเดิมที่เคยเป็นเตียงแรกของทั้งสอง เมื่อเริ่มกระแทกมิลินก็เริ่มครางดังขึ้นอีกครั้ง“อาา เสียวมาก อ๊าา ท่านี้เสียวไปแล้วที่รักคะ เร็วหน่อย”เขาเองก็รู้ว่าตอนนี้คงจะทำนานไม่ได้เหมือนกับที่คอนโดเพราะยังมีภารกิจต้องไปทำอีกหลายที่ เม
อุณหภูมิของน้ำในอ่างจากุชชี่สุดหรูแม้ว่าจะอุ่นแต่ก็สู้ความเร่าร้อนของคนทั้งสองที่แช่อยู่ไม่ได้ แม้ว่ามิลินจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังมีปลาสเตอร์กันน้ำอยู่ที่หน้าผาก ภูวินทร์ที่เฝ้าระวังอยู่ก็อ่อนโยนกับเธอมากกว่าครั้งไหน ๆ เพราะเขาพึ่งสังเกตเห็นรอยช้ำตามตัวของเธอ“ไอ้สารเลวนั่น…”“ลืมมันไปเถอะนะคะ มันจบแล้วตอนนี้คุณสนใจแค่มิลินก็พอ ได้ไหมคะบอส”“ผมบอกแล้วว่าถ้าคุณเรียกผมว่าบอส ผมจะจัดการคุณ”“อ๊าา ภูคะ อื้อ เสียวจัง นิ้วคุณซนเกินไปแล้ว อ๊าา ลิ้นด้วย อ๊าา”ลิ้นของภูวินทร์วนไล้ไปทั่วรอบ ๆ ราวหน้าอกอวบที่ตอนนี้กลับมาเนียนขาวอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้รังแกเธอมาหลายวัน ตอนนี้เขาไม่ต้องใช้เครื่องป้องกันแล้วเพราะมิลินตัดสินใจเปลี่ยนไปกินยาคุมแบบรายเดือนแทนซึ่งนั่นก็นับว่าสะดวกกับทั้งคู่มากเพราะมิลินไปปรึกษาตะวันมา เขาจึงแนะนำให้เธอกินยาแบบแผงที่ช่วยเรื่องผิวพรรณเพราะมิลินไม่ชอบวิธีการฉีดยาคุมแบบรายเดือน“มิลินผมจะทนไม่ไหวแล้ว ขอตอนนี้ก่อนได้ไหมมันจะแตกแล้ว”“อือ ได้ค่ะ โอ๊ะ!! เข้ามาเร็วจัง ซี๊ด…แน่น!!”“มันคงคิดถึงกันน่ะสิเพราะไม่ได้เข้าไปนานหลายวัน”“อื้อ ทะลึ่ง อ๊าา เสียว ที่รักคะขยับเร็วขึ้นอีก
มิลินและภูวินทร์หันไปมองที่จอมอนิเตอร์ก็ต้องตกใจทันทีเพราะตัวคนที่พูดในตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นกับแฟนสาวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตันหยงนั่นเอง"พี่วัชระ เป็นพี่เองเหรอคะเนี่ย!!”“ยังดีที่ไม่เรียกว่าแฮกเกอร์โนเนม เชอะจะงอนแล้วนะ นี่ตันหยงน้องสายรหัสคุณนี่ร้ายชะมัดเลยกล้าบอกว่าผมเป็นแฮกเกอร์โนเนม”“พี่วัชระคะ ถ้าเทียบกับบลูเดวิล ยังไงพี่ก็โนเนมสำหรับมิลินอยู่ดีแหละค่ะ”“อะไรนะ!! เดี๋ยวก่อนนะเมื่อกี้พูดว่าบลูเดวิลเหรอ!! ตัวจริง ตัวเป็น ๆ น่ะเหรอไม่จริงน่าเขาคือใครกันน่ะ”ภูวินทร์ยื่นหน้าเข้าไปในจอ วัชระถึงกับกะพริบตาถี่ ๆ เข้ามาหน้ากล้องด้วยความอยากรู้อย่างที่สุด เพื่อมองให้ชัดอีกครั้งเพราะเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากรู้ตัวจริงของ “บลูเดวิล” มาโดยตลอด“สวัสดีครับคุณวัชระ ผมภูวินทร์เองครับหรือที่พวกคุณรู้จักในนาม…”“โอ้มายก็อด!! ใช่จริง ๆ เหรอ บลูเดวิลเทพแห่งเซิร์ฟเวอร์คนนั้น ที่รัก!! เร็ว ๆ เข้ามานี่เร็ว วันนี้เราจะได้เห็นหน้าจริงของบลูเดวิล”“อะไรนะคะ!! เมื่อกี้คุณพูดว่าบลูเดวิลเหรอ”เสียงโวยวายของผู้หญิงด้านหลังเขารีบตะโกนมาเมื่อรู้ว่าคนที่พูดอยู่คือใคร “แคท” เพื่อนสนิทของตันหยงวิ่งมาที่หน้าจอพร้อม
ทุกคนหันไปดูที่จอใหญ่อีกครั้ง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้จิตราแทบอยากจะเดินไปบีบคอภูวินทร์ให้ตายคามือ เอกสารสร้างหุ้นและเงินทุนปลอมและจำนวนเงินที่หุ้นส่วนแต่ละคนนำมาลงทุน“เห็นความผิดปกติอะไรไหมครับ ทุกคนพร้อมที่จะร่วมลงทุนในโปรเจคที่มิลินรดาคิดขึ้นมาแต่มีสองแม่ลูกที่มีเพียงรายชื่อและจำนวนเงินที่ไม่ได้ลงเงินจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่หุ้นส่วนแต่ละคนได้วางเงินลงทุนของตัวเองจนครบ ขาดก็แต่…”“ขาดคุณจิตราและคุณศิระ”คุณจิตรา!! ผมต้องการคำอธิบาย"บอร์ดบริหารที่นั่งโต๊ะเดียวกับจิตราเริ่มหันมาเอาเรื่องเธอเองหลังจากที่ภูวินทร์แสดงเอกสารออกมา“ไม่ใช่แค่นั้น เดิมทีเธอและลูกชายทำหน้าที่ดูแลก็จริง แต่เงินที่ใช้บริหารกลับดึงมาจากส่วนกลางและผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยทราบเลยว่า…ผลประโยชน์ที่ได้นั้นไม่ได้มีสัดส่วนที่เป็นธรรมตั้งแต่แรก”จอเปลี่ยนไปอีกครั้ง ผลกำไรและเม็ดเงินที่เข้าบัญชีของสองแม่ลูกนั้นแตกต่างกับสัดส่วนกำไรของคนอื่น ๆ ที่ได้รับอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้คณะบอร์ดของเอส กรุ๊ปเริ่มลุกขึ้นและหันมาเอาเรื่องจิตราและศิระที่นั่งตัวงออยู่ข้าง ๆ“แก!! เรื่องที่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของฉันถูกทำลายก็เป็นแกที่ทำขึ้นมาใช่ไหม”
มิลินรดาเดินมาพร้อมกับภูวินทร์ที่คอยพยุงเธอ ชัตเตอร์หันไปรัวภาพทั้งคู่เมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับจิตราที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะแถลงข่าว แม้ว่าสีหน้าจะไม่แสดงอาการแต่เธอก็กำหมัดแน่น ส่วนศิระเมื่อเห็นมิลินอีกครั้งเขาก็รีบหลบสายตาทันทีพร้อมกับหันมามองที่แม่ของเขา“แม่ครับ”“อยู่นิ่ง ๆ ฉันสั่งให้คนลบทุกอย่างจากกล้องวงจรปิดไปแล้วมันจะมีหลักฐานที่ไหนเอาผิดแกได้”“ฉันมิลินรดา คนที่คุณจิตราใส่ความว่าเป็นคนทำลายระบบเซิร์ฟเวอร์ของเอส กรุ๊ป”“เอาล่ะค่ะในเมื่อคู่กรณีมาแล้ว ขอถามได้ไหมคะว่าวันนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นคุณได้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าทำร้ายคุณศิระจริงหรือไม่คะ”มิลินรดากับภูวินทร์หันไปมองรสาที่ยืนยิ้มให้กับทั้งคู่เมื่อถามคำถามนี้ขึ้นมา มิลินยิ้มกลับให้เธอและพูดขึ้นมาทันที“ใช่ค่ะ ฉันยอมรับว่าใช้เครื่องช็อตไฟฟ้านั่นทำร้ายเขาจริง ๆ แต่เรื่องมันไม่ได้เริ่มต้นเหมือนกันที่คุณจิตราได้เล่าให้พวกคุณฟังเลยแม้แต่น้อย”นักข่าวเริ่มหันมาทางมิลินโดยที่จิตรายังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ“คุณเล่าให้ฟังได้ไหมคะว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น”“ได้ค่ะ วันนั้นหลังจากเลิกประชุมโปรเจคสำคัญของบริษัทซึ่งฉันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าดูแ
ภูวินทร์และมิลินรดาพักอยู่ที่คอนโดของตะวันยับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แม้ว่าภูวินทร์จะเข้าบริษัททุกวันแต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรมาถามมิลินสามเวลาหลังอาหารอีกทั้งตอนนี้งานที่พีวี กรุ๊ปก็หนักมากจนอนุชิตแทบจะร้องขอชีวิต“บอสครับ เหลืออีกสองที่สุดท้ายแล้วครับ”“ขอบใจมากนะอนุชิต หลังจากงานนี้แล้วผมคงต้องเพิ่มเงินและวันหยุดให้พวกคุณแล้วล่ะ”“ตอนนี้ผมแค่ขอเวลาได้นอนเกินสี่ชั่วโมงก็พอแล้วครับ รอให้ผ่านวิกฤตินี้ไปได้แล้วค่อยว่ากันครับบอส”“ฝากคุณด้วยนะ คุณอุ่นล่ะ”“อ้อ ไปอีกที่หนึ่งครับ เธอฝากเอกสารนี้มาให้บอสด้วยครับ”“ขอบใจมากนะ”“งั้นผมไปก่อนนะครับ”“ให้คนขับรถไปให้นะ ผมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย”“ขอบคุณครับบอส”อนุชิตเดินออกไปพร้อมกับคนขับรถบริษัท ตอนนี้โปรแกรมเมอร์ในพีวี กรุ๊ปจะมีคนขับรถและบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา แม้ว่าภูวินทร์จะไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟียเหมือนหมอตะวันแต่เขาเองก็มีเพื่อนในวงการนี้อยู่พอสมควรที่จะเรียกใช้งานได้โรงพยาบาล“คุณหมอคะ อาการที่เขียนมานี่มันเบามากเลยนะคะ ลูกชายฉันบาดเจ็บหนักเพราะโดนเครื่องช็อตไฟฟ้าเลยนะคะ เขาเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้เลยทำไมคุณหมอเขีย
“ค่ะ มิลินจะไม่กลับไปอีกแล้ว”“คุณนอนพักสักหน่อยนะ แผลของคุณยังเจ็บอยู่ไหม ผ้าพันแผลนี่แน่นเกินไปหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ คุณกอดมิลินหน่อยสิคะ”“มาเถอะ พักสักหน่อยนะไม่ต้องห่วงนะมีผมอยู่ไม่มีใครกล้าแตะต้องคุณได้”“มิลินทำสำเร็จแล้วใช่ไหมคะ ใกล้จะจบแล้ว”“ใช่ มันใกล้จะจบแล้วล่ะ”เอส กรุ๊ป“ท่านประธานคะติดต่อคนแก้ไขเซิร์ฟเวอร์ได้แล้วค่ะ แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ”“ดีมาก ฉันคุยเอง”จิตราระดมคนที่มีความสามารถเพื่อหาแฮกเกอร์แทนที่จะหาคนที่แก้ไขงานระบบและสุดท้ายเธอก็ได้มาคนหนึ่งแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแต่คนนี้เป็นแฮกเกอร์มืออาชีพที่เคยดูแลระบบให้มาเฟียต่างประเทศที่หาตัวจับยากซึ่งโปรแกรมเมอร์ของเธอแนะนำมา“ใช่ค่ะ ปัญหาที่เราพบอยู่ตอนนี้เป็นแบบนี้คุณพอจะช่วยได้ใช่ไหม เยี่ยมเลยค่ะถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งข้อมูลไปให้คุณ…อะไรนะ สามล้าน”“ครับ สามล้านดอลล่าห์ต่องานหนึ่งครั้ง”“ดอลล่าห์?”“ครับ ถ้าไม่พร้อมก็ไปคิดดูก่อนได้”“แล้วถ้าคุณทำไม่สำเร็จล่ะ เงินที่ฉันจ่ายไปไม่สูญเปล่าเหรอ”“นั่นก็แล้วแต่คุณ การแก้ไขระบบเองก็มีความเสี่ยง ไม่มีใครรู้ว่าระบบคุณถูกโจมตีด้วยอะไร ใครแต่ผมสามารถหาคนที่ทำและจัดการมัน
ความคิดเห็น