Share

บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (3/4)

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-04 14:48:35

“ฮูหยิน เจ้าอดทนเห็นหน้าบุรุษที่รูปงามน้อยกว่าพี่เพียงครู่เดียวอีก ไม่นานเราก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว” เขากล่าวพลางรินชาใส่จอกให้นางอย่างเอาใจ

            ‘สหายผู้นี้ปากไม่ดี มันน่าเปิดโปงความลับเสียจริง’ ทำตัวราวกับเด็กน้อยกลัวผู้อื่นมาแย่งความรักความสนใจจากมารดา

            “ท่านอย่าได้กล่าววาจาไม่ดีต่อท่านหมอเช่นนั้น”

            “...” เขาเม้มริมฝีปากราวกับอัดอั้นตันใจ ก่อนจะก้มหน้าลง

            “ข้าต้องขออภัยท่านหมอด้วยนะเจ้าคะ เขาสติฟั่นเฟือนอาจกล่าววาจาไม่เหมาะสมไปบ้าง” นางหันไปกล่าวกับท่านหมอ ถึงไม่ได้เห็นเบื้องหลังสีหน้าของบุรุษมากเล่ห์

            ‘ดู...สหายข้าสำนึกที่ใด แสร้งทำเป็นน่าสงสารให้นางเห็นใจ แต่แท้จริงมากเล่ห์กลับกลอก’ ด้วยความเป็นหมอ เขาจึงสามารถรักษาสีหน้าให้นิ่งเรียบเอาไว้ได้ เมื่อเห็นสหายทำหน้าตาล้อเลียนอยู่เบื้องหลังนางราวกับเด็กน้อย แต่พอนางหันกลับไปมองก็ก้มหน้าลงท่าทางเศร้าสร้อยเช่นเดิม

            ได้เปิดหูเปิดตากับนิสัยของคุณชายเล็กตระกูลหยางก็คราวนี้

            หวิ้ว...เสียงอะไรบางอย่างทำให้สีหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

            “คอแห้งหรือไม่ จิบชาเถิด” เขากล่าวพลางเลื่อนชาให้นางกิน

            “ท่านหมอ จิบชาเจ้าค่ะ” แทนที่นางจะยกขึ้นจิบ นางกลับเลื่อนจอกชาให้กับลู่จื้อ

            “มิเป็นไรแม่นาง ท่านจิบเถิด ประเดี๋ยวสามีของท่านจะน้อยใจ เขาตั้งใจชงให้แม่นางกิน” หากเขากินชาจอกนี้เข้าไปเขาคงต้องตายอยู่ในรถม้าคันนี้เป็นแน่

            “ฮูหยิน เจ้าโกรธพี่อีกแล้วใช่หรือไม่ แม้แต่ชาที่พี่ชงให้ก็ไม่ยอมกิน”

            “ข้าไม่ได้โกรธอันใดเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ ข้ากินชาที่ท่านชงแล้ว” นางกล่าวจบก็รีบยกชาจอกนั้นจนหมดในคราวเดียวก่อนจะคว่ำจอกชาให้เขาดู

            “ชาที่พี่ชงถูกปากเจ้าหรือไม่”

            “ถูกปากเจ้าค่ะ”

            “หากเข้าเมืองหลวงแล้ว เราไปพักที่จวนของท่านพ่อตากันก่อนดีหรือไม่”

            “เจ้าค่ะ”

            “แล้วค่อยไปจวนของพี่”

            “ท่านจำจวนในเมืองหลวงได้หรือเจ้าคะ” แม้จะเอ่ยถามเรื่องราวของคนผู้นี้จากผู้ติดตามแซ่เจียวทั้งหมด แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า คุณชายของพวกตนเป็นคหบดีจากเมืองหลวงที่ไปเปิดกิจการที่เมืองซานโจว ในระหว่างที่กำลังจะเดินทางกลับเมืองหลวงรถม้าถูกโจมตีโดยคนกลุ่มหนึ่งที่เสียผลประโยชน์จากการที่กิจการของคุณชายหยางรุ่งเรือง แต่พอจะถามเรื่องส่วนตัว บรรดาผู้ติดตามก็มีอันต้องขอตัวไปจัดการหน้าที่ของตนอยู่ร่ำไป จนนางอดคิดไม่ได้ว่าหรือแท้จริงแล้วคุณชายหยางผู้นี้จะเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่

            หยางซีซวนเช่นนั้นหรือ นางไม่คุ้นหูกับชื่อนี้เลย แต่หากจะกล่าวว่าในเมืองหลวงมีตระกูลหยางหรือไม่ นางสามารถตอบได้ทันทีว่ามี และมีคนแซ่หยางมากมายอาจจะแตกต่างกันตามอักษรที่ใช้ หากกล่าวถึงตระกูลใหญ่เห็นจะเป็นตระกูลหยาง ที่เป็นตระกูลของฮองเฮา และส่งต่อตำแหน่งแม่ทัพจากรุ่นสู่รุ่น

            เขาคงไม่ใช่บุตรชายแม่ทัพใหญ่ตระกูลหยางหรอกกระมัง เท่าที่นางได้ยินมา ตระกูลหยางมีบุตรชายสามคน คุณชายใหญ่และคุณชายรองนางก็เคยพบเจออยู่บ้างตามงานเลี้ยง แต่คุณชายเล็กนั้นได้ยินว่ามีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอจึงถูกส่งตัวไปรักษาที่ต่างเมืองตั้งแต่ก่อนสวมกวาน ทว่าดูจากบุรุษตรงหน้า เขาไม่ใกล้เคียงกับคำว่าร่างกายอ่อนแอ นางจึงคิดว่าเขาอาจจะเป็นเพียงคุณชายของตระกูลคหบดี  

            “แท้จริงพี่จำไม่ได้หรอก แต่เจียวโจวกล่าวว่าจวนพี่ในเมืองหลวงใหญ่โตพอที่จะมีที่วิ่งเล่นให้ลูกของเราได้”

            “แค่ก แค่กๆ” นางที่กำลังยกน้ำชาที่เขารินใส่จอกให้อย่างเอาใจขึ้นดื่ม พลันสำลักไอจนหน้าดำหน้าแดง

            “ค่อยๆ จิบ อย่ารีบร้อน”

            ‘ข้าสำลักเพราะท่านไม่รู้ตัวหรืออย่างไร’ แม้ความจำจะสับสน ท่านก็ยังคิดกลืนกินสตรีผู้นั้นที่ตนปรารถนา ช่างเป็นความรักที่ล้ำลึกฝังใจ

            “เป็นอย่างไรบ้าง”

            “แค่กๆ” นางปิดปากไออยู่ชั่วครู่ก่อนจะอาการดีขึ้น

            “คราวหน้าต้องค่อยๆ จิบชา อย่าได้รีบร้อน” เขากล่าวพลางช่วยลูบหลังให้นาง

            “ขอบคุณเจ้าค่ะ แค่กๆ” นางไออีกครั้งก่อนจะจับมือเขาให้หยุดลูบหลัง ใกล้ถึงเมืองหลวงแล้วนางต้องรักษาระยะห่างจากเขา อีกไม่นานความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันก็จะจบลงแล้ว แม้จะเสียดายบุรุษที่อ่อนโยนและใจดี เอ่อ...นางหมายถึงได้พานพบถือเป็นวาสนา แต่นางกับเขามีวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้ อีกไม่นานหากเขาหายดี เขาก็ต้องไปหาสตรีในดวงใจ นางก็มีความแค้นที่จะต้องสะสาง หากแยกย้ายกันทันทีที่ถึงเมืองหลวงมันคือเรื่องที่เหมาะสมแล้ว

            “...” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความไม่ชอบใจท่าทีราวกับจงใจหลบเลี่ยงของนาง

            “ข้าหายดีแล้ว” กล่าวจบนางก็ยกมือขึ้นปิดปากหาว

            “หากเจ้าง่วงก็นอนเถิด ผ่านเข้าประตูเมืองหลวงเมื่อใดพี่จะรีบปลุกเจ้า” สีหน้าของเขากลับมาอ่อนโยนดังเดิม

            “ข้าง่วงเพียงเล็กน้อยเท่า...” นางกล่าวยังไม่ทันจบก็หลับไปเสียอย่างนั้น จนบุรุษที่ห่วงใยเกือบคว้าตัวมากอดเอาไว้ไม่ทัน

            “ยานิทราของข้าออกฤทธิ์รวดเร็วหรือไม่”

            “อย่าเพิ่งโอ้อวด พาตนเองให้รอดจากการโจมตีก่อนเถิด” เพราะไม่อยากให้นางตื่นกลัวกับการถูกลอบโจมตี เขาจึงผสมยานิทราลงในชาจอกนั้นให้นางดื่ม

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (3/3)

    “เรื่องนั้นท่านอย่าได้ห่วงเลยเจ้าค่ะ พี่เหลียงอี้ เขาไปลาดตระเวนตรวจตราที่บริเวณจวนของนางอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นนางปลอดภัยไม่มีอันตรายแน่นอน” ‘สตรีโง่ ข้าอยากจะบอกเจ้าเหลือเกินว่า คู่หมั้นข้านางผู้นั้นมีของล้ำค่ามากกว่าปิ่นที่เจ้าจะซื้อให้อีก’ ยิ่งได้เห็นความใสซื่อของซูหนิงเซียน ความสนใจในตัวคู่หมั้นก็เริ่มลดลง หากไม่ติดที่ว่ามีบุญคุณช่วยชีวิตเขาก็คงไม่คิดสนใจไยดีแล้ว น่าแปลกที่เขาเชื่อวาจาที่ซูหนิงเซียนบอกกล่าวออกมามากกว่าที่ได้รับฟังจากหม่าลี่อิน “ข้าเลือกชิ้นนี้เจ้าค่ะ ลี่อินนางชอบไข่มุก ข้าว่านางต้องดีใจมากแน่นอนเจ้าค่ะที่ได้ปิ่นนี้” “อืม” รอยยิ้มจริงใจของคุณหนูซูทำให้เขาเอ่ยวาจาไม่ออก “คุณหนูซูท่านช่างโชคดีเหลือเกินขอรับ วันนี้นายท่านของร้านเราใจดี สั่งลดราคาเครื่องประดับให้กับลูกค้าคนที่สิบเก้า ซึ่งคือท่าน” “ลดราคาเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” “ใช่ขอรับ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่ม้าตัวโปรดของนายท่านคลอดลูกม้า นายท่านสั่งลดราคาเครื่องประดับให้ลูกค้าคนที่สิบเก้าครึ่งราคา นั่นเท่ากับว่าวันนี้คุณหน

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (2/3)

    ดวงหน้าหวานที่โผล่ออกมาจากรถม้าทำให้ใจของเขาสั่นไหว เมื่อนางเผยรอยยิ้มเขาแทบจะกระโดดลงจากชั้นสองของโรงเตี๊ยมเพื่อไปหานาง “แม่นางหนิงเซียน” เสียงทุ้มของบุรุษที่ดังขึ้นดึงความสนใจของซูหนิงเซียนให้หันไปมอง “คารวะคุณชายซวนเจ้าค่ะ” ยามเห็นหน้ากากจึงจดจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นของสหาย “ท่านมาคนเดียวหรือ” “เจ้าค่ะ วันนี้ข้าจะมาหาซื้อผ้าไปตัดชุดให้สาวใช้คนสนิท จึงตั้งใจมาด้วยตัวเองไม่ได้ชวนลี่อินมาด้วย” นางเข้าใจว่าเขาถามหาสตรีในดวงใจ “ข้ามีความรู้เรื่องผ้าไม่น้อย ให้ข้าช่วยเลือกดีหรือไม่ ไม่แน่เจ้าอาจจะได้ผ้าเนื้อดีที่ราคาถูก” “หากมิรบกวนคุณชายซวนเกินไป…” ซูหนิงเซียนยังกล่าวไม่ทันจบเขาก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นก่อน “เรื่องนี้มิได้เหลือบ่ากว่าแรง จะถือว่ารบกวนข้าได้อย่างไร” “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ” นางตอบรับแล้วยกยิ้มเล็กน้อย บุรุษสวมหน้ากากช่วยนางเลือกผ้าได้หลายพับ แต่เมื่อจ่ายเงินนางกลับพบว่านางได้ของดีแต่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ “ท่านหลงจู๊ ลองคิดเงินใหม่อีกครั้งดีหรือไม่

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (1/3)

    ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า บริเวณชั้นบนของโรงเตี๊ยมเลี่ยงจิน บุรุษสวมหน้ากากจ้องมองคู่หมั้นของตนที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน ดวงหน้าหวานแต่งแต้มรอยยิ้มสดใสพาลทำให้บุรุษรอบตัวต่างหันมามอง แต่เขากลับถูกสตรีนางหนึ่งดึงดูดสายตาให้จ้องมอง สตรีนางนั้นคล้ายจะเป็นสหายของคุณหนูหม่า แม้ดวงหน้านางจะแต่งแต้มรอยยิ้มบาง แต่ทว่ากลับดึงดูดเขาได้อย่างน่าประหลาด และดูเหมือนว่าแท้จริงบุรุษเหล่านั้นจะจ้องมองนางเสียมากกว่า พลันในอกรู้สึกไม่ชอบใจอย่างประหลาด ความรู้สึกหวงแหนก่อตัวขึ้นในใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว เหตุใดกับคู่หมั้นตน เขาถึงไม่รู้สึกเช่นนี้ พรึ่บ ไวกว่าความคิดร่างสูงโปร่งของบุรุษรูปงามก็ปรากฏตัวด้านหลังสตรีทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยทักทาย “ลี่อินเจ้ามาเดินเที่ยวเล่นหรือ” เขาทราบว่ามันเป็นคำถามที่ดูโง่งม แต่เขาไม่รู้จะเอ่ยถามอันใดออกไป “คารวะคุณชายซวนเจ๋อเจ้าค่ะ” สายตาที่มีประกายรังเกียจพาดผ่านทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คู่หมั้นจะแสดงความเคารพเขา หลายครั้งที่นางมองเขาเช่นนี้ คงเพราะหวาดกลัวหน้ากากที่ปกปิดบนใบหน้าเขา การเป

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (2/2)

    “คนของเจ้าสืบได้ละเอียดถึงเพียงนั้น” หมิงอี้เฉินหรี่ตามองอย่างจับผิด “เรื่องที่คิดกำจัดนางกับท่านพ่อตา คนของข้าได้ยินหม่าลี่อินวาดฝันกับกวางเหลียงอี้ เมื่อเห็นว่าเป็นภัยต่อนาง คนของข้าจึงนำมารายงานข้าด้วย” “...” “เบื้องต้นข้ามีหลักฐานที่กลุ่มนักเลงพวกนั้นสารภาพ เจ้าอยากดูหรือไม่” “อืม” เขายกชามสุราขึ้นจิบก่อนจะตอบรับ “นี่คือจดหมายรับสารภาพของนักเลงที่ดักปล้นรถม้าแต่ถูกข้าซ้อนแผนจับเป็นทั้งหมด ก่อนจะนำมาทรมานเพื่อเค้นความจริง” หยางซีซวนยื่นจดหมายที่เพิ่งนำออกมาจากอกเสื้อให้เขา “หม่าลี่อินชั่วช้ายิ่งนัก คิดจะให้พวกนักเลงข่มเหงนาง” จากคำสารภาพของนักเลง กวางเหลียงอี้เพียงแต่ตั้งใจทำให้นางตกใจ แต่หม่าลี่อินกลับซ้อนแผนให้นักเลงพวกนั้นข่มเหงนางก่อนที่กวางเหลียงอี้จะไปช่วย คงกลัวว่าหากเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของตนได้พบเจอนางจะเปลี่ยนใจ จึงสร้างมลทินให้ซูหนิงเซียน “เพราะเหตุนี้ข้าจึงแสร้งสติฟั่นเฟือนเพื่อจะได้อยู่ในจวนตระกูลซูต่อไป เพื่อจะได้ปกป้องนางและบิดาด้วยตนเอง” “เรื่องนี้เจ้าสามารถใช้ผ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (1/2)

    คุณชายหมิงอี้เฉิน เมื่อได้รับข่าวว่าสหายในวัยเด็กเดินทางกลับมาจากเมืองซานโจวแล้ว เขาจึงรีบไปหา แต่ใครจะคิดเล่าว่าการพบเจอครั้งนี้จะพ่วงบุรุษผู้นั้นมาด้วย ชายที่มองอย่างไรก็ไม่คล้ายคนสติฟั่นเฟือน ท่าทางออดอ้อนนั้นแลดูเหมือนบุรุษเจ้ามารยาเสียมากกว่า คุณชายหมิงเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วยืนนิ่งราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง “คุณชายขอรับ นี่ก็เป็นปลายยามไฮ่ (21.00-22.59) แล้ว น้ำค้างก็ลงมากแล้วอย่างไร...” บ่าวรับใช้คนสนิทยังกล่าวไม่ทันจบ คุณชายเจ้าของจวนก็เอ่ยวาจาแทรกขึ้นก่อน “เจ้าไปนอนก่อนเถิด ข้าจะยืนชมดาวอีกสักหน่อยก็จะไปนอนแล้ว” “ขอรับ” เมื่อคุณชายกล่าวเช่นนั้น บ่าวรับใช้คนสนิทก็ได้แต่เดินจากไป พรึ่บ บุรุษชุดดำกระโดดลงมาตรงหน้าเขาหลังจากบ่าวรับใช้เดินหายไปไม่นาน “มาแล้วหรือ” คุณชายหมิงเอ่ยวาจาทักทายผู้มาเยือน “เจ้าอยากพบข้าด้วยเหตุใด” หากบุรุษผู้นี้ไม่ค้นพบการมีตัวตนของผู้ติดตาม เขาก็คงคิดว่า ซือเย่ผู้นี้เป็นเพียงบัณฑิตอ่อนปวกเปียกที่ไม่กล้าฆ่าแม้แต่ไก่ “ท่านควรแจ้งถึงจุดประสงค์ในก

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ (3/3)

    “พี่ไม่ได้รังแกเจ้า พี่มอบความโปรดปรานให้เจ้า” “หน้าอกท่านแน่นเสียจริง” “หากเจ้าอยากลูบไล้ยามไร้อาภรณ์ ก็จงรีบกลับจวนกับพี่” “ไม่เอา ข้ายังไม่อยากกลับ กว่าจะได้ออกมาเที่ยวเช่นนี้ไม่ง่ายเลย ต้องขอบคุณท่านแม่นะเจ้าคะ ที่เมตตาข้า” “มิเป็นไรๆ เจ้าอยู่สนุกกับเหล่าชายงามต่อเถิด แม่ต้องกลับไปรับโทษ...ไม่ใช่ แม่ต้องรีบกลับแล้ว” กล่าวจบหยางฮูหยินก็หันไปมองใบหน้าบึ้งตึงของสามี ‘ครั้งนี้นางคงหยอกเย้าบุตรชายมากเกินไป จึงทำให้ฟูจวิน ของนางโกรธขึ้นมาจริงๆ’ ต่อจากนี้คงต้องทนปวดเอวเพื่อง้อท่านแม่ทัพใหญ่หลายคืนอีกแล้ว “ได้เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะสนุกกับพี่ชายคนงามแทนท่านแม่เองเจ้าค่ะ” นางกล่าวพลางลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินโซซัดโซเซไปหากลุ่มชายงาม แต่กลับโดนสามีโอบรั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ “พี่ชายคนงามพวกนี้ อยากกลับไปพักผ่อนแล้ว เจ้าอย่าได้รบกวนพวกเขาเลย” น้ำเสียงที่เอ่ยกับฮูหยินตนช่างอ่อนโยนยิ่งนัก ต่างจากสายตาที่จ้องมองคล้ายจะเข้าขย้ำเหยื่อตรงหน้าของราชสีห์ “จริงหรือเจ้าคะพี่ชาย” “จริงขอรับ”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status