Share

บทที่ 11

Aвтор: ต้นไผ่น้อย
หลิงกว๋อจื้อ ฟางซุ่ยเอ๋อและหลินลั่วอินมองหน้ากัน

ฟางซุ่ยเอ๋อยากจะด่าอีกแต่จู่ ๆ หลิงกว๋อจื้อก็ห้ามไว้ "เอาเถอะ บางทีหมอนั่นอาจออกจากคุกมาเหมือนกัน! ในคุกมีคนอยู่ทุกประเภท ใครจะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้ติดคุก"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางซุ่ยเอ๋อก็ลังเลแล้วพูดว่า "แล้วพวกเราจะปล่อยไปแบบนั้นเหรอ?"

หลิงกว๋อจื้อลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า "รอดูก่อนเถอะ ถ้าผู้ช่วยผู้กำกับเหอจะเอาเรื่องลั่วอิน เราก็ค่อยคิดหาทาง" เขาไม่มีความกล้าที่จะเผชิญชายคนนั้นอีก

หลิงลั่วอินขมวดคิ้ว ชายคนเมื่อกี้เคยอยู่ในคุกจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ แม้ว่าดวงตาของชายคนนั้นถูกปิดไว้ด้วยผมหน้าม้า แต่เธอก็ยังสังเกตเห็นได้ว่าเขาดูดี…

อีกอย่างเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นดูคุ้น ๆ เหมือนกับว่าเธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน

หรือชายคนนี้อยู่ในแวดวงบันเทิงด้วย?

ในห้องเช่า หลิงอี้หรานมองอี้จิ่นหลีและพูดว่า "ขอบใจนะ" ถ้าจินไม่กลับมาเธอคงจะถูกพ่อของเธอทุบตีไปแล้วเมื่อกี้นี้

"ฉันก็แค่ช่วยพี่สาว ไม่มีอะไรต้องขอบคุณหรอก นั่นเป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว" เขาพูดพร้อมมองไปที่ข้อเท้าของเธอ "เท้ายังไม่หายดีเลยนะ ฉันจะทาน้ำมันไพลให้พี่เอง"

ในขณะที่เขาพูดเขาหยิบขวดน้ำมันไพลออกมาทาที่ข้อเท้าของเธอแล้วเริ่มนวด บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อย หลิงอี้หรานกัดริมฝีปากเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทำไมไม่ถามฉันว่าทั้งสามคนมาที่นี่เพื่ออะไร?"

“ฉันจะไม่ถามถ้าพี่ไม่อยากบอก” เขากล่าว

“อันที่จริงมันไม่มีอะไรเป็นความลับหรอก พวกเขาเป็นพ่อ แม่เลี้ยง และน้องสาวต่างเเม่ของฉัน” หลิงอี้หรานกล่าว “แต่ตอนนี้พวกเขาไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไปแล้ว”

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ถามอีกครั้ง "นายไม่มีอะไรจะถามอีกเหรอ?" เขาน่าจะได้ยินตอนที่พ่อของเธอด่าเธอว่าเธอติดคุกแล้ว

เขากะพริบตาแล้วเงยหน้าขึ้น "พี่สาวอยากให้ถามอะไรเหรอ?

ดวงตาสีเข้มของเขาเผยให้เห็นความสงบแปลก ๆ ภายใต้แสงไฟสีนวลสลัว

หลิงอี้หรานค่อย ๆ สงบลงจากความวิตกกังวลและหายใจเข้าลึก ๆ "ฉันถูกตัดสินจำคุกสามปี ในข้อหาเมาแล้วขับจนเป็นเหตุก่อให้ถึงแก่ชีวิตแล้วฉันก็ได้รับการปล่อยตัวเมื่อไม่นานมานี้"

หลายคนคงมีทีท่าเป็นลบเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลังจากที่เธอถูกปล่อยตัว คนรอบข้างที่รู้ว่าเธอติดคุกพวกเขาจะปฏิบัติต่อเธอด้วยสายตาอคติและจงใจรักษาระยะห่างจากเธอ แล้วเขาจะทำเหมือนกันไหม? ในตอนนี้เธอมีความรู้สึกเหมือนกับตอนที่กำลังรอการพิจารณาคดีในศาล

“งั้นเหรอ?” เขาพูดอย่างเฉยเมยโดยยังคงจดจ่ออยู่กับการนวดข้อเท้าของเธอ

แค่นั้นเหรอ? เธอกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ "นายไม่รังเกียจเหรอ?" เธอถาม

"ทำไมถึงต้องรังเกียจล่ะ?" เขาถามกลับ "อย่างที่พี่พูด จากนี้ไปตราบใดที่ฉันเรียกพี่ว่าพี่สาว เราแค่ต้องห่วงใยซึ่งกันและกันและไม่มีอะไรจะต้องสนใจอีก"

หัวใจของเธอดูเหมือนจะสงบลงเพราะคำพูดของเขา หลิงอี้หรานยิ้มโล่งใจ "จิน ฉันโชคดีจังที่ได้พบนาย”

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เธอไม่ได้สังเกตว่ามีประกายแวบเข้ามาในดวงตาของเขา

วันอาทิตย์ ฉินเหลียนอีไปเยี่ยมห้องเช่าของหลิงอี้หราน เมื่อเธอเห็นอี้จิ่นหลี เธอก็สงสัยว่าเพื่อนของเธอโยงเขาเข้ากับคำว่า ‘จรจัด’ ได้อย่างไรกัน

แม้ว่าเขาจะสวมเพียงแจ็คเก็ตและกางเกงขายาวผ้าฝ้ายธรรมดาและรองเท้าผ้าใบราคาถูกซึ่งเห็นได้ชัดว่าซื้อมาจากแผงขายของข้างถนน แต่เขาก็ไม่ดูราคาถูกแม้ว่าจะในชุดนี้เพราะเขามีรูปร่างดี เขาสูงมากกว่า 180 ซม. และมีโครงหน้าที่สวยงามแม้ว่าผมม้าหนาของเขาจะบังสายตาของเขาอยู่บ้าง แต่ดวงตาใต้ผมหน้าม้าจะทำให้คุณประทับใจอย่างมากเลยทีเดียว

อย่างน้อยฉินเหลียนอีก็ไม่เคยเห็นดวงตาของผู้ชายที่สวยได้ขนาดนี้ ตาเขาสวยกว่าไอดอลหรือคนดังคนไหนอีก ด้วยใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและการออกเสียงภาษาจีนกลางแบบมาตรฐาน เขาสามารถตอบคำถามของเธอได้อย่างคล่องแคล่ว

นี่เหรอที่เรียกว่าคนจรจัด?

เธอดึงหลิงอี้หรานไปด้านข้างและแอบถาม "เธอแน่ใจหรือว่าเขาเป็นคนจรจัดที่ไม่มีที่จะอยู่? แค่หน้าตานี่เขาสามารถเป็นดาราหรือนายแบบได้เลยนะ"

“ไม่ใช่คนหน้าตาดีทุกคนที่ได้จะเป็นดาราหรือนายแบบศะหน่อย” หลิงอี้หรานตอบ

ฉินเหลียนอีคิดอีกครั้งและตระหนักว่าการเข้าวงการบันเทิงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ "เธออยู่กับเขาทุกวัน เธอไม่หวั่นไหวบ้างเลยเหรอ?"

หลิงอี้หรานกลอกตา ก่อนหน้านี้เหลียนอีเป็นกังวลมาก่อนที่จินจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับเธอไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ดูเหมือนจะกังวลว่าเธอจะทำอะไรกับเขาแทน

"เขาอายุน้อยกว่าฉันไม่กี่เดือน ฉันถือว่าเขาเป็นน้องชายของฉันเท่านั้น" อี้หรานบอก

ฉินเหลียนอีเดินไปหาอี้จิ่นหลี “ฉันจะพูดตรง ๆ ว่านายอยู่ที่นี่ได้ แต่นายต้องสัญญาว่า นายจะไม่ทำเรื่องไม่ดีและจะไม่โกหกอี้หราน นายรู้ไหมเธอเกลียดการหลอกลวง ถ้านายเป็นพวกต้มตุ๋น ฉันจะโทรแจ้งตำรวจมาจับนายแน่!"

"เหลียนอีเธอกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย? จินจะไม่โกหกฉันหรอก" หลิงอี้หรานขัดอย่างรีบร้อน

"เธอรู้จักเขามานานแค่ไหนกัน ก็ต้องคุยให้มันชัดเจนก่อน นี่ จิน นายได้ยินไหม?" ฉินเหลียนอีถามอี้จิ่นหลีตรง ๆ

เขายกยิ้มแล้วพูดว่า "เอาเถอะครับ รู้แล้ว"

ตอนนี้เขากำลังยิ้มเบา ๆ แต่เขาก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยง เขาเพียงรับรู้สิ่งที่เธอพูดเท่านั้น

ด้วยเหตุผลบางอย่างฉินเหลียนอีรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับกลิ่นอายที่เปล่งออกมาจากเขานั้นเป็นคำเตือนเธอ แต่เขาเป็นแค่คนจรจัด เธอคงคิดมากเกินไปเอง ฉินเหลียนอีด่าตัวเอง แต่ก่อนที่เธอจะจากไปเธอแอบบอกกับเพื่อนของเธอให้ปกป้องตัวเองและโทรหาเธอถ้ามีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อเหลือแค่พวกเขาเพียงสองคนในห้อง หลิงอี้หรานจึงพูดกับอี้จิ่นหลีว่า "อย่าสนใจที่เหลียนอีพูดเลยเมื่อกี้เลย เธอแค่เป็นห่วงฉันน่ะ"

"เขาเป็นเพื่อนของพี่ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรฉันก็ไม่ใส่ใจหรอก" อี้จิ่นหลีกล่าว เขาพบว่าคำเตือนของเพื่อนเธอนั้นน่าขัน "พี่สนิทกับเขามากไหม?"

“นายรู้ไหมว่าฟางช่วยชีวิตคืออะไร? เมื่อนายจมน้ำนายไม่สามารถคว้าอะไรได้ไม่ว่านายจะพยายามแค่ไหน ในเวลานั้นเมื่อนายสามารถจับฟางได้แม้ว่าฟางเส้นนี้จะช่วยนายไม่ได้ มันจะทำให้นายไม่สิ้นหวัง" เธอพึมพำ "เหลียนอีเป็นฟางของฉันน่ะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 424

    เสียงจัวเชียนอวิ๋นดังมาจากปลายสาย “นี่ การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดีนะ หมอบอกว่าเสี่ยวเหยียน หลังจากผ่านไปสองสามวันเสี่ยวเหยียนปรับตัวได้ เขาก็จะเริ่มการฝึกเรื่องของการแยกแยะเสียงแล้ว”“ดีมากเลยค่ะ” หลิงอี้หรานดีใจที่ได้ยิน “ถ้างั้นตอนบ่ายฉันจะแวะไปเยี่ยมเสี่ยวเหยียนนะคะ”จากนั้นหลิงอี้หรานก็ถามอีกครั้งถึงเลขห้องผู้ป่วยของเสี่ยวเหยียนในโรงพยาบาลก่อนจะวางสายไป“นี่เรื่องของเด็กที่หูหนวกนั่นเหรอ?” อี้จิ่นหลีมองหลิงอี้หรานก่อนถาม“การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดี ยังไงตอนบ่ายฉันก็มีเวลาว่าง ฉันเลยจะไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล” หลิงอี้หรานบอก“ให้ฉันไปกับเธอแล้วกัน” อี้จิ่นหลีพูด“คุณจะไปกับฉันเหรอคะ?” หลิงอี้หรานเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ “แต่… คุณไม่มีงานต้องทำเหรอ?”“ฉันก็แค่บอกให้เลขาเลื่อนงานตอนบ่ายออกไป ยังไงก็ไม่ได้มีอะไรเร่งด่วน” อี้จิ่นหลีพูดเรียบ ๆแต่หลิงอี้หรานรู้ดีว่าในบริษัทใหญ่แบบนี้ สำหรับคนเป็นประธานไม่มีอะไรที่ “เร่งด่วน” สำหรับเขา“ทำไม เธอไม่อยากให้ฉันไปด้วยเหรอ?” เขาถาม“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” พูดตามตรงการที่เขาเต็มใจจะไปเป็นเพื่อนเธอ ทำให้เธอประหลาดใจแต่ก็ร

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 423

    และเพราะว่าเธอฟังเข้าใจ จู่ ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกอายสุดท้ายอี้จิ่นหลีก็ตอบว่า “เธอนั่นแหละ”“โอ้ จิน คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอ? เป็นคนรักกันไหม?” คนต่างชาติมักจะชอบถามอะไรตรง ๆหากว่าเป็นพนักงานชาติเดียวกัน ไม่มีใครกล้าถามอี้จิ่นหลีตรง ๆ แบบนี้แน่จากนั้นหลิงอี้หรานก็ได้ยินอี้จิ่นหลีตอบเป็นภาษาอังกฤษ “เธอเป็นคนโปรดของฉัน”ฉับพลันหลิงอี้หรานก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบรัดไว้ แม้แต่จังหวะการเต้นของหัวใจก็เหมือนจะสะดุดหลังจากที่การประชุมทางวิดีโอจบลง อี้จิ่นหลีก็เดินเข้ามาหาเธอและถามว่า “เป็นอะไรไป? ทำไมหน้าแดงแบบนั้น?”“เปล่า…ไม่มีอะไรค่ะ” เธอรีบตอบแต่เขาก็เอามือมาจับหน้าเธอไว้แล้วพิจารณาหน้าแดงก่ำของเธอ “นี่เพราะว่าเรื่องที่พวกนั้นพูดเมื่อกี้เหรอ?”เธอไม่ได้ตอบอะไร แต่เธอก็ใช้ความเงียบเป็นการยอมรับ“ไว้อนาคตมีโอกาส ฉันจะแนะนำเธอกับพวกเขา” เขาบอก“แนะนำเหรอคะ?” เธอร้องเขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไม เธอไม่อยากเหรอ?”เอ่อ… เธออึ้งไป ตอนนั้นดวงตาสีดอกท้อคู่นั้นฉายแววบีบคั้น เหมือนว่าหากเธอตอบว่าไม่อยาก เธอก็คงเหมือนเป็นตัวจุดประกายให้ไฟโทสะเขาลุกท่วมเธอคิดอยู่พั

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 422

    “แต่ถึงกู้ลี่เฉินอยากจะแย่งเธอไปจริง ๆ เขาก็ทำไม่ได้ใช่ไหม? เพราะว่าคนที่เธอชอบก็คือฉัน และคนที่เธอมีชะตาต้องตกหลุมรักในอนาคตก็คือฉันใช่ไหม?”เสียงของเขาพึมพำและลมหายใจอุ่นร้อนก็เป่ารดใบหน้า เมื่อพูดจบเขาก็จูบเธอที่ริมฝีปากเขาไม่มีทางยกเธอให้ใคร เธอจะเป็นของเขาเท่านั้น……ตอนที่หลิงอี้หรานตื่นขึ้นมาให้วันต่อมา อี้จิ่นหลีก็ไปทำงานแล้ว หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จเธอก็เตรียมอาหารกลางวันให้อี้จิ่นหลีที่คฤหาสน์อี้มีกล่องอาหารกลางวันและวัตถุดิบ และก็มีพ่อครัวอยู่ใกล้ ๆ เห็นชัดว่าพ่อครัวก็ได้รับคำสั่งมา หากว่าหลิงอี้หรานมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ พ่อครัวก็พร้อมช่วยถึงขนาดที่ว่าหลังจากทำกล่องอาหารกลางวันแล้ว หลิงอี้หรานรู้สึกว่าฝีมือของตัวเองนั้นพัฒนาสูงขึ้นเลยทีเดียวเธอนำกล่องอาหารมาที่อี้กรุ๊ป แต่เพราะว่าวันนี้คนขับรถของตระกูลอี้เป็นคนพาเธอมา ยามที่หน้าประตูก็ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเธอลงมาจากรถแม้ว่าพนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มที่จะลือกันว่าพนักงานส่งอาหารลึกลับคนนี้น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพนักงานคนนี้จะเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าเล็ก ๆ มาเป็นรถส่วนตัวเร็วแบบนี้โดยเฉพาะรถ

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 421

    ช่วงนี้เขามักจะมาค้างในห้องของเธอ นอนร่วมเตียงกับเธอ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรกัน แต่มันก็เหมือนว่าการนอนร่วมเตียงเดียวกันนั้นกลายเป็นนิสัยไปโดยไม่รู้ตัวแล้วเพราะว่าเธอต้องเปิดไฟนอน เธอก็พูดเสียงอ่อนว่า “คุณจะชินกับการเปิดไฟนอนตลอดเวลาไปแล้ว ทำไมคุณไม่กลับไปนอนห้องคุณล่ะคะ”สุดท้ายเขาก็บอกว่า “ฉันอยากนอนกับเธอนี่ พี่สาว ถึงจะเปิดไฟไว้ก็ไม่เป็นไรหรอก”ดังนั้นคำพูดที่เหลือของเธอจึงโดนกลืนกลับลงไป“เธอจะนอนแล้วเหรอ?” อี้จิ่นหลีถามขณะที่มองหลิงอี้หรานเดินไปที่เตียง“ใช่” หลิงอี้หรานพูดพร้อมหน้าแดงเรื่อหลิงอี้หรานเลิกผ้าห่มและเข้าไปนอนเตียง มือของอี้จิ่นหลีก็มาโอบรอบเอวเธอ เขากอดเธอแนบแน่นและฝังใบหน้าซุกกายเธอราวเก็บเด็กที่อยากจะออดอ้อนเขาดูราวกับเด็กเล็กน้อยซึ่งต่างไปจากท่าทางปกติของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ หลิงอี้หรานรู้สึกว่าชอบอี้จิ่นหลีที่มีท่าทางเป็นเด็ก ๆ แบบนี้“ว่าแต่กู้ลี่เฉินหมายความว่าอะไรตอนที่คุยกับคุณวันนี้? พวกคุณทะเลาะกันเหรอ?”จู่ ๆ หลิงอี้หรานก็คิดขึ้นมาได้“ประโยคไหนล่ะ?” อี้จิ่นหลีถาม พลางรู้สึกว่าการกอดเธอมันชวนให้เสพติดมาก เมื่อเขากอดเธอแล้วก็ไม

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 420

    “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรกับเธอ” จัวเชียนอวิ๋นลังเลและบอกว่า “ถึงตอนนี้ฉันจะรู้ว่าเธอเป็นแฟนของคุณ ฉันไม่เคยบอกอะไรเธอมาตั้งแต่แรก และฉันก็ไม่คิดว่าจะบอกอะไร ไม่คิดจะหาประโยชน์จากเธอ แน่นอนว่าในอนาคตฉันก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น ที่ตอนแรกฉันจ้างเธอก็เพราะว่าฉันรู้สึกว่าเธอเหมือนกับฉัน เคยติดคุกมาก่อน และรู้สึกว่าเราลงเรือลำเดียวกัน ฉันก็เลยอยากให้โอกาสเธอได้ทำงาน”ความเย็นชาในตาของอี้จิ่นหลีหายไป “ผมไม่สนหรอกว่าระหว่างคุณกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร แต่ตราบใดที่เธอยังทำงานที่นี่กับคุณ เธอก็จะทำงานอย่างปลอดภัย หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ว่าจะอะไร คุณโทรหาผมได้ตลอด”เมื่อพูดจบ เขาก็เอาเบอร์มือถือให้จัวเชียนอวิ๋นจัวเชียนอวิ๋นรีบจดลงไป เธอเกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่สามารถมีเบอร์นี้ได้ในเมืองเสิ่น แต่ตอนนี้เธอได้มาภายใต้เงื่อนไขแต่ที่อี้จิ่นหลีบอกว่าเขาไม่สนว่าระหว่างเธอกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร ก็แปลว่าเขาคงไม่บอกเย่เหวินหมิงว่าเธออยู่ที่ไหน ซึ่งนี่ก็ทำให้จัวเชียนอวิ่นหายใจได้อย่างโล่งอกอี้จิ่นหลียังอยู่ในร้านและกินมื้อเย็นกับหลิงอี้หรานดังนัั้นเมื่อเลิกงาน เพื่อนร่วมงานทุกคนเลยได้รู

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 419

    จัวเชียนอวิ๋นจำได้ว่าตอนที่เธอดึงหลิงอี้หรานมาถาม อีกฝ่ายก็ให้คำตอบที่ชัดเจนหนักแน่นกับเธอ“ก็พี่จัว คนที่ว่าก็คืออี้จิ่นหลีของอี้กรุ๊ป” โอเค ก็ถือว่าเป็นคำตอบแล้วกันจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางหัวเธอ ซึ่งทำให้เธอมึนไม่หายพนักงานส่งอาหารให้ร้านของเธอเป็นแฟนกับอี้จิ่นหลีจริงเหรอ? ถ้าบอกไปแล้วใครจะเชื่อ?โดยเฉพาะหลิงอี้หรานบอกว่ายังมีอาหารที่ต้องออกไปส่งอีก อี้จิ่นหลีก็บอกว่า “ถ้างั้นฉันจะรอเธอที่นี่ วันนี้ยังไงก็ว่าง”ดังนั้นคนหนึ่งก็ออกไปส่งอาหาร ส่วนอีกคนก็… เอ่อ อ่านหนังสือจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเธอประสบคลื่นลมโหมกระหน่ำ แต่ตอนนี้เธอสับสนมากทำไมอี้หรานถึงได้ยังมาทำงานที่ร้านของเธอหากว่ามีแฟนแบบนี้? แล้วอี้จิ่นหลีจริงจังกับอี้หรานเหรอ?แต่เมื่อมองเหตุการณ์ก่อนหน้าระหว่างทั้งสอง ก็ไม่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องหลอกลวง อย่างน้อยท่าทีของอี้จิ่นหลีที่มีต่ออี้หรานด้วยสายตาคนนอกอย่างเธอก็เห็นได้ว่าเขารักอี้หรานมากเมื่อเห็นว่าอี้จิ่นหลีกินกาแฟหมดแล้ว จัวเชียนอวิ๋นก็เดินเข้าไปหาและถามว่า “คุณอี้ ต้องการอะไรเพิ่มไหมคะ?”“ขอน้ำให้ผมแก้วหนึ่งพอครับ” อี้จิ่นหลีบอกดังนั้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status