Share

บทที่2.คืนฝนพรำ!! 1

last update Last Updated: 2025-07-29 18:31:39

รูปร่างของมันผอมบางเพราะเสพยาต่างการกินข้าว มันจึงไม่สนใจเสื้อผ้าตัวใหญ่ บนร่างกายของเขา ไม่เช่นนั้นผู้ชายคนนั้นคงได้นอนตัวเปล่า เมื่อถูกลอกคราบจนหมดตัว

“รองเท้าแม่มสวยฉิบหาย...คนห่าอะไรว่ะ ตีนใหญ่ยังกับยักษ์” เสียงบ่นพึม ก่อนจะเร้นกายหายไปกับความมืด แต่กระเป๋าแฟบๆ กลับตุงเพราะฉกฉวยเอาของคนแปลกหน้ามาอย่างไม่ละอายใจ

ชายผู้นั้นนอนอยู่แบบนั้นจนเวลาล่วงเข้าตี4 เขาขยับตัวผุดลุกขึ้นนั่ง แอบเบ้ปากเมื่อทั้งตัวมีแต่คราบโคลน ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เขาสะบัดศีรษะไปมา เพื่อเรียกสติที่มึนๆ มัวๆ กลับคืนมา ชายหนุ่มตบมือไปยังกระเป๋ากางเกงก่อนจะสบถเสียงเข้ม

“Damn you!”

สำเนียงเจ้าของภาษา...ร่างกายสูงใหญ่ ไม่แปลกหรอกที่เขาคนนั้นจะไม่ใช่คนไทย

แวงซ็อง ออกัสตัสลูกครึ่งฝรั่งเศส-อเมริกา...ทายาทมหาเศรษฐีนำเข้ารถสปอร์ต...ที่ขยายกิจการมาแถวๆ ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมหลายประเทศในทวีปเอเชีย ที่มีเศรษฐีใหม่ขี้โอ่ อยากอวดตัวว่าเป็นคนมีรสนิยม...ก็ต้องมีรถยนต์ราคามากกว่า10ล้านอยู่ในครอบครอง และเจ้าเดียวที่ไว้ใจได้ ราคาถึงจะแพงจนไม่กล้าจับ แต่ก็คุ้มเมื่อได้เป็นเจ้าของ...

“Go to hell.” ชายหนุ่มยังสบถไม่หยุด เขาเดินเท้าเปล่าหลบเข้าไปใต้ชายคาใกล้ตัวที่สุด เพื่อหลบละอองฝนที่ยังคงรินไหล

แวซ็องย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น เขายิ้มเยาะให้ตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าใครเป็นคนที่ลงมือกับเขา ระหว่างการเดินทางมาท่องเที่ยว เขาอยากจะไปสะกิดบอกมันนัก ไม่ต้องมาระแวงสงสัยอะไรกับเขาหรอก หากเขาสนใจ ลิเดีย สกอฟิลด์จริงๆ หล่อนไม่เหลือรอดจนได้ไปคบหาเป็นแฟนกับลูกพี่ลูกน้องของเขาหรอก...ดิดิเย่ร์ ออกัสตัส แวซ็องรู้ดีอยู่แก่ใจ ลิเดียแค่ประชดเขาเลยตอบตกลงกับดิดิเยร์ในการเข้าพิธีวิวาห์ หลังจากนั้นเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? งานวิวาห์จึงเกิดขึ้นจริง! ...แต่...ครั้งนี้ดิดิเย่ร์เล่นแรงไปหน่อย...ไอ้น้องชายห่างๆ ของเขาคิดจะฆ่าชายหนุ่มให้ตาย!! ส่งคนมาล้อมกรอบหวังปลิดชีพ ไม่รู้ว่ามันโกรธแค้นอะไรเขาหนักหนา เมื่อกลุ่มคนขนาดย่อมล้อมกรอบเขานั้น ฝ่ายนั้นมีอาวุธการทำลายล้างครบมือ ในขณะที่แวซ็องนั้นมีแค่ปืนพกติดกายแค่กระบอกเดียวและการต่อสู้ระหว่างกันเขาใช้กระสุนจนหมดไม่เหลือติดรังเพลิงแม้แต่นัดเดียว

และไร้ซึ่งบอดี้การ์ดที่คอยอารักขาเหมือนทุกครั้ง...

เขาจำใจต้องหาทางหลีกเลี่ยงการปะทะกับพวกมัน หลอกล่อจนพุ่งรถยนต์เข้าไปจอดข้างทางที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้หนาๆ แถมยังรกร้าง ถัดออกไปไม่ไกล คือแหล่งชุมชนแออัดที่ค่อนข้างโทรม แวซ็องก้าวลงจากรถยนต์สุดไฮเทค เขาลัดเลาะเดินหลบตามเงาชายคา แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดี!! เขาคิดพลางถอนหายใจ มีผู้ชายรูปร่างกำยำตามไล่ล่าจากที่พวกมันเดินผ่านแสงไฟข้างทาง เขาสังเกตเห็นว่าผู้ชายเหล่านั้นมีผมสีทอง มันปกปิดใบหน้าอำพรางไว้ด้วยหมวกผ้ายืดเหมือนขาแร็ปทั้งหลายสวม หน้าตาคุ้นๆ จนสามารถรู้เลยว่าใครอยู่เบื้องหลัง แวซ็องไม่อยากคิด เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ดิดิเย่ร์ถึงกับคิดร้าย หมายเอาชีวิตเขาเชียวหรือ? ชายหนุ่มมุ่งตรงไปยังพื้นที่รกร้างเบื้องหน้า แอบซุกกายนิ่งๆ รอดูสถานการณ์ภายนอก เขาเห็นกลุ่มคนพวกนั้น กำลังกระจายกันเพื่อออกตามหาเขาอยู่ จนพวกมันหายลับไปจากสายตา

เขาจึงก้าวออกมาจากพงหญ้าข้างทาง ด้วยความรู้สึกเซ็งสุดขีด! ชีวิตของหนุ่มวัยสามสิบห้ากำลังเต็มไปด้วยความท้าทาย มาสะดุดเพราะผู้หญิงคนเดียวที่เข้ามาพัวพัน และทำให้เกิดปัญหาระหว่างพี่ น้อง ทั้งที่เขาระวังตัวอย่างดีมาตลอด

เขาพ่นลมหายใจออกจากปากแรงๆ กวาดสายตามองรอบบริเวณอีกครั้ง พวกนั้นมันคงไปไกลพอที่เขาจะกลับไปที่รถได้ หรือไม่ก็อาจจะหาแหล่งสื่อสารเขาต้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน! ชายหนุ่มไม่อยากเสียท่า และเป็นชนวนเหตุให้พี่ น้องผิดใจกันอีกครั้ง เมื่อน้องชายขาแสบของเขา เซดริก ออกัสตัส หนุ่มหล่อนิสัยส่วนตัวโคตรแสบ เขาคงไม่ยอมปล่อยวางหากรู้เรื่องนี้ แวซ็องนึกถึงความสะเพร่าของตนเอง ก็อดจะฉุนเฉียวไม่ได้ เขาไม่ได้เอามือถือมาด้วย มันถูกทิ้งไว้ในรถยนต์

ชายหนุ่มขบปากตนเองไปมาหลายครั้ง รีบมองหาช่องทางที่จะย้อนกลับไปที่รถยนต์

แต่ก็ต้องอ้าปากค้าง! เมื่อรถยนต์ของเขาวิ่งฉิวผ่านหน้าไปในระยะประชิด!! ให้ตายสิ! ไอ้พวกนั้นมันเป็นโจรหรืออย่างไร ทำไมมันสามารถเปิดประตูรถยนต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นหนึ่งได้อย่างง่ายดาย...

ใช่..ความซวยกำลังมาเยือนเขาอย่างที่เซดริกบอกไว้จริงๆ ด้วย ลิเดียเป็นผู้หญิงที่เข้าใจยากที่สุด หล่อนหยิ่ง ผยอง และคิดว่าตัวเองเป็นจุดรวมของแกนโลก ผู้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิตหล่อน จะต้องสนองตามความต้องการของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว...แต่ แวซ็องไม่! ...เขาไม่เคยสนใจลิเดียจริงจัง ก็แค่คนรู้จักในสังคมเดียวกัน และเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพิง ‘สกอฟิลด์’ เมื่อ ‘ออกัสตัส’ ยิ่งยงได้ด้วยตัวเอง

“นายซวยแล้วแวซ็อง! ..หึ แม่สาวนั่น จะทำให้นายปวดหัวไปอีกนาน...จนกว่าไอ้โง่ดิดิเย่ร์มันจะรู้ตัว ว่าเมียที่มันรักนักหนา ไม่เคยพิศวาสมันเลย”

เสียงเซดริกพูดมาตามสายคราวนั้น ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ นี่ขึ้น มันทำให้เขาถึงกับสบถออกมาด้วยความพรั่นพรึง

“แกก็รู้ ฉันไม่เคยพิศวาสลิเดีย”

“ฉันรู้แล้วไงพี่ชาย แต่ไอ้เวรดิดิเย่ร์มันไม่รู้นี่นา มันคิดแต่ว่านายหลงรักเมียมัน มันเลยหวงก้างอยู่นี่ไง เข้าใจป่ะ มันคิดว่านายกำลังจ้องจะฉกเมียมันไง!”

“ไม่ขำว่ะ...หากฉันจะเอาลิเดียนะเหรอ ไอ้หมาโง่ดิดิเย่ร์ มันไม่ได้หล่อนไปครองหรอกโว้ย...บอกมันให้คิดดีๆ คนอย่างฉันหากอยากได้มีหรือจะเหลือถึงมือมันน่ะ”

“เครๆ ถ้าเจอจะบอกให้นะ แต่นายควรระวังตัวดีๆ ตอนนี้มันเป็นหมาบ้า”

แวซ็องจำได้ดี ว่าเขาโวยวายออกไปอย่างฉุนเฉียว แต่น้องชายกลับหัวเราะลงคออย่างชอบใจกับชะตากรรมของเขาเสียเต็มประดา แน่ล่ะมันคิดว่าเป็นการสะใจที่แวซ็องกำลังจนมุมกับปัญหาเรื่องเดิมๆ ที่เจ้าตัวคิดว่าจัดการได้...

ชายหนุ่มส่ายศีรษะ หลังนึกถึงคำเตือนของน้องชายสุดแสบ เซดริก!!

หมอนี่มันช่างกวนประสาทได้ใจจริงๆ ด้วย แวซ็องครุ่นคิดด้วยความกังวลไม่หาย เขาหลบหน้าดิดิเย่ร์ไปอยู่ที่ไหนดี จนกว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจะสงบลง แต่...ทุกอย่างก็มืดดับ เมื่อรู้สึกถึงแรงกระทบด้านหลังศีรษะ ม่านตาเขาดับวูบ!

เขาพลาดท่าดิดิเย่ร์ อย่างนั้นเหรอ?

เสียงสุนัขเห่าดังขรม ชายหนุ่มหันไปตวัดตาไล่ พร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ เขาเดินเลี่ยงสุนัขปากเปราะ อ้อมหลบไปทางด้านหลัง ไม่มีใครรู้เจตนาของเขาเท่ากับเจ้าตัว

เอาวะ!

จากหางตาระหว่างที่ออกเดิน เขาเหลือบเห็นกระเป๋าใส่สตางค์ตัวเอง ถูกทิ้งไว้บนพื้นหญ้าเปียกๆ ชายหนุ่มรีบวิ่งฝ่าสายฝน ฉวยหยิบขึ้นมาจากพื้น ให้ตายสิ! ไอ้โจรกระจอก หยิบเงินสดออกไปจนหมด แต่กลับทิ้งบัตรเครดิตที่มีมูลค่ามากกว่าไว้เสียอย่างนั้น มันแสดงให้เห็นว่า คนที่รูดทรัพย์เขาไปไม่โง่ ก็คงรีบ...

ชายหนุ่มยัดกระเป๋าสตางค์เปล่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม เขาเดินย่ำน้ำที่เจิ่งนองบนพื้นพลางสบถเสียงขุ่น

“Damn!”

ก้มมองดูเท้าเปลือยของเขาที่ปราศจากรองเท้าหนังมันวับ...ถุงเท้าสีดำเปียกชุ่มไปด้วยคราบโคลนเหนียวๆ เขากวาดตามองหาอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาหายขยะแขยงแบบนี้สักที...รองเท้าหูคีบฟองน้ำ วางอยู่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง ขนาดพอที่เขาจะสวมได้ ชายหนุ่มตรงดิ่งไปยังที่ที่นั้น เขาถอดถุงเท้าเปียกฉ่ำ โยนทิ้งไปไกลๆ ก่อนจะคว้ารองเท้าคู่นั้นเดินถือออกมาที่ชายคา ยื่นเท้าเปลือยที่มีคราบโคลน ชะล้างด้วยน้ำฝนที่ไหลหล่นมาจากชายคาก่อนจะเสือกเท้าตัวเองลงไปในรองเท้าฟองน้ำคู่นั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่20.ความรักเพรียกหา... 2

    “ดีๆ ฉันจะได้มีหลานเต็มบ้านไงสกาเล็ต” นางพูดพร้อมกับหัวเราะ “พาฉันไปนอนเถอะ อยู่ตรงนี้เดี๋ยวจะพลอยตาเป็นกุ้งยิง หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบเล่นอะไรแผลงๆ”ดีนะที่มาดามแลงก้ารีบกลับเข้าไปด้านในเสียก่อน ไม่อย่างนั้นนางคงได้เห็นภาพสวีทหวานของเซดริก กับรำเพยเป็นแน่“ปล่อยค่ะคุณ!!” รำเพยกระโจนหนีออกมาจากห้องนอน หมู่นี้เซดริกไม่รู้เป็นอะไร เขากินจุบจิบ...ไม่เลือกเวลา และเธอเหนื่อยเพลียเกินกว่าจะทนไหวชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าหาหญิงสาว ดวงตาของเขาพราวฉ่ำด้วยไฟปรารถนา จนรำเพยขนลุก ขนชัน!!“จะหนีไปไหนจ๊ะ ไม่รอดหรอก” เสียงแหบปร่าเพราะความปรารถนารุมเร้า“เซดริก รำเพยไม่ไหวแล้วนะคะ คุณจะหื่นไปถึงไหน?” หญิงสาวต่อว่าเสียงอุบอิบ ผิวแก้มร้อนฉ่า เพราะรู้ความนัยในสายตาของเขาดี“ไม่ดีเหรอไง...เธอก็รู้นะรำเพย ฉันกลัวไม่ทันพี่ชาย” ชายหนุ่มหอบหายใจแรงๆ ความปรารถนาอัดแน่นในอกจนแทบระเบิด มันเกิดขึ้นกับแม่สาวตัวเล็กนี่คนเดียว แค่อยู่ใกล้ๆ เขากลายเป็นคนบ้าพลังเต็มขั้น อยากจะฟัด!! อยากจะจับหล่อนฟาดแทนอาหาร จะล

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่20.ความรักเพรียกหา... 1

    บทที่20.ความรักเพรียกหา...แวซ็องสวมกอดเมวิกา มือของเขาวางอยู่บนหน้าท้องนูนนิดๆ ของเธอ พลางลูบไปมาเพื่อสัมผัสหนึ่งชีวิตเล็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในนั้น“ชีวิตคู่ของเรา จะรอดหรือไม่? ไม่ได้อยู่ที่คนภายนอกเลย มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราสองคน ฉันสัญญานะเม...ฉันจะรัก และซื่อสัตย์กับเธอเพียงคนเดียว จะไม่ยอมให้อดีตย้อนกลับมาทำร้ายเราสองคนเด็ดขาด”มันไม่ใช่เพราะอารมณ์พาไป จนเขาอยากบอกรักเมวิกา แวซ็องมั่นใจว่า เขาสามารถบอกรักเธอได้ทุกๆ วันเมื่อแน่ใจว่าในหัวใจของเขา มีหญิงเดียวแค่นั้น คือ...เมวิกาเพียงผู้เดียว“เมเองก็ด้วยค่ะ เมจะจงรักภักดี และจะพยายามฝึกตัวเองให้เหมาะสมกับคุณ โดยไม่มีใครกล้าแย้ง หรือกังขา” หญิงสาวเอนซบแผ่นอกกว้างของสามี พลางพึมพำตอบ เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยทุกครั้ง หากได้อยู่ในอ้อมกอดของเขา“ไม่จำเป็นเลยเม...แค่เป็นเมเหมือนทุกวัน เท่านี้ก็พอแล้ว” ชายหนุ่มโยกตัวช้าๆ เขาคลี่ยิ้ม เมวิกาไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งเพิ่ม หล่อนมีดีในตัวเอง และเหมาะที่จะเคียงข้างเข

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 4

    มาดามแลงก้าเห็นด้วย นางใส่ชุดพวกนี้ทีไร ต้องนอนซมเป็นอาทิตย์เพราะร่างกายอ่อนล้า ไม่รู้เป็นอะไรสิเล่า พอจัดงานราตรีใหญ่ๆ ก็มักจะขนชุดแบบนี้มาอวดประชันกัน สวยก็จริงแต่หนักเกินกว่าคนอายุมากจะทานไหวเมวิกากับรำเพยหันหน้ามายิ้มให้กัน...สองสาวผุดลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับเดินมาหยุดตรงหน้ามาดามแลงก้ารอยยิ้มสนุกๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก งานนี้มาดามโจนส์ได้ภาพข่าวมาประโคมให้ลั่นเมืองแน่...“คุณแม่เคยเดินชมร้านรวงแถวๆ นี้ทั้งหมดบ้างไหมคะ?”มาดามแลงก้าขมวดคิ้ว นั่นสิ นางไม่เคยเดินเที่ยวชมแฟชั่นบนถนน…นานมากแล้วสิ!!ชองป์เอลิเซ่!! ได้รับขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก เป็นถนนในเขตที่ 8 ของกรุงปารีส เป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร ร้านค้าเสื้อผ้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเซสนัดปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ภาพบรรยากาศเก่าย้อนเข้ามาในความคิด สมัยสาวๆ นางไม่เคยพลาดที่จะเดินย่ำเท้าเพื่อสอดส่องหาเสื้อผ้าสวย สไตล์แปลกตามาสวมใส่ นางเลิกทำแบบนั้นไปตั้งแต่ตอนไหนกัน? มาดามแลงก้ายิ้มกว้าง...นึกสนุกขึ้นมาเมื่อตามความคิดของว่าที่ศรีสะใภ้ทั้ง2คนทัน&ldquo

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 3

    มาดามแลงก้าไม่ได้แจงบอกความต้องการจริงๆ สองสาวนี่ไม่เสียแรงที่นางสั่งสอน...รถยนต์ประจำที่มาดามแลงก้าใช้ยามออกไปภายนอกบ้าน จอดเทียบหน้าโถงประตู นางเดินนำสองสาว มีสายตาของเหล่าบริวารแอบมองและคอยลุ้นระทึก!!ร้านตัดเสื้อเจ้าดัง!! ได้ต้อนรับการมาเยือนของมาดามแลงก้า พร้อมกับหญิงสาวสองนาง ที่ความงดงามไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแสนจะธรรมดา แต่ออร่าของสองสาว ก็ยังผ่องจนมิสซิสแองเจลีต้องรีบถลาเข้ามาต้อนรับด้วยตัวเอง!!“อุ้ยตาย!! มาดาม มีอะไรให้แองเจลีรับใช้คะ” มีใครบ้างในปารีสไม่รู้จักมาดามแลงก้า หล่อนร่ำรวยและมีลูกชายสุดหล่อ2 คน ผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนในปารีสอยากเสนอตัวให้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวมิสซิสแองเจลีเอง“มาดูชุดราตรีสำหรับงานกลางคืนน่ะ”มาดามแลงก้าตอบอย่างไว้ตัว นางคลี่พัดเล็กๆ ในมือขึ้นโบกพัดลมให้ตัวเอง เมื่อสายตาของมิสซิสแองเจอลีเขม้นมองอย่างจริงจัง...เจ้าของร้านหรูขมวดคิ้วแน่น นางแหล่มองสองสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไม่มีการแนะนำตัวในสถานะของสองนาง แต่มิสซิสแองเจลีแ

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 2

    “แหนะๆ ยังจะคุณท่าน ฉันได้ยินอีกครั้ง...ฉันจะถือว่าหล่อนรังเกียจฉันนะย่ะ” มาดามแลงก้าสอดเสียงแข็ง แม่สะใภ้คนโตแสนเจียมตัว ยังเรียกนางด้วยสรรพนามเดิมๆ นับตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเมวิกายิ้มแหย...แต่สามีหนุ่มเกือบหัวเราะบทนางพญาจะยอมลงให้ ก็ลงเสียง่ายๆ ทั้งที่ต่อต้านมาตั้งนานสองนาน“ชิ!! แกกำลังนินทาแม่ในใจ ...ไม่ต้องมาเถียงแม่มองตาแก...ก็รู้แล้ว” นางหันไปว่ากระทบบุตรชาย เพราะแววตาของแวซ็องพราวระยิบระยับ“โธ่!! แม่ครับ...ใครจะกล้า”“อย่ามาทำเป็นปากดีหน่อยเลย...ทั้งแกแล้วก็ไอ้แสบนั่น ล้วนแล้วแต่ชอบขัดใจและก็ตะแบงเถียงฉัน”สองหนุ่มลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปทรุดนั่งเบื้องหน้ามาดามแลงก้าพร้อมกับก้มลงกราบที่ตักของนาง“ผมรักแม่ครับ...แต่บางอย่างที่ผมขัดคำสั่งแม่ เพราะผมจนใจจริงๆ” แวซ็องรีบกล่าวแก้ มีเรื่องเดียวที่เขาขัดคำสั่งมารดา คือเรื่องของเมวิกา“ถึงผมจะเถียงกับแม่บ่อยๆ แต่ผมก็ยังรักแม่เหมือนเดิม...ไม่เคยเปลี่ยนนะครับ”เซดริกรีบแย้ง!! เขายิ้มเผล่ก่อนที่จะก้มกราบบนตั

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 1

    บทที่19.นางพญายอมยกธงมาดามแลงก้านั่งนิ่งๆ นางตรึกตรองเรื่องของศรีสะใภ้ทั้งสองอีกครั้ง ต่อให้นางต่อต้านหัวชนฝา...ไอ้ลูกชายหัวดื้อทั้งสองคนก็คงไม่ฟัง...เหมือนเดิม...เมื่อเธอเลี้ยงบุตรชายทั้งคู่มาด้วยสองมือตัวเอง...มีหรือจะไม่รู้ใจไอ้ตัวแสบ เห็นๆ อยู่ว่าทั้งสองคน ‘รัก’ เมียจนหน้ามืด ทางที่ดี...นางควรคล้อยตามและหาทางแก้ทีหลังมันคงไม่ทำให้ ‘ออกัสตัส’ ล่มจมหรอกมั้ง!!แค่ยอมรับลูกสะใภ้ต่ำศักดิ์เข้ามาในตระกูล!!อีกอย่างมีลูกสะใภ้หัวอ่อนมันก็ดีอีกแบบ...นางจะได้ควบคุมได้...ไม่ปวดหัวเพราะความมากเรื่อง...มองๆ ดูแล้วศรีสะใภ้ทั้งสองคน ออกจะรักและเทิดทูนบุตรชายของนางเป็นอย่างดี...แบบนี้คงไม่ยากหากจะขัดเกลาเสียใหม่...เอาให้หาข้อติไม่ได้เวลาพาออกงานในสังคม...เพื่ออนาคตตอนที่สองนางเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ สองสาวจะเป็นหลังบ้านที่มั่นคง เข้มแข็ง สามารถประคับประคองครอบครัวไปได้ตลอดรอดฝั่ง...“มันก็ดีกว่าลูกท่าน หลานเธอ ที่เห็นๆ อยู่แหละน่า ถึงจะมาจากตระกูลสูง...แต่มารยาทไม่ไหว”มา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status