ภายในห้องที่แสงไฟสลัว นักรบยังคงคลอเคลียนัวเนียอยู่กับหญิงตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา เมื่อเธอนั้นกำลังจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ความรู้สึกของคนทั้งคู่ที่เกิดขึ้น ในเวลานี้ไม่ต่างจากกระแสไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบ เพราะมันพร้อมจะสพาร์ค ซึ่งมีความกระสันเป็นตัวนำ ที่ทั้งสองกำลังต้องการกันและกัน ด้วยความยินยอมและพร้อมใจทั้งสองฝ่าย จนยากที่จะมีเหตุผลอะไรมาขวางกั้น ให้ยุติความสัมพันธ์นี้ลงได้
ชายร่างเปลือยเปล่าจับจ้องมองไปที่ใบหน้างามของภรรยาสาว รสจูบของเขายังติดตรึง พร้อมกับบทรักที่ลึกซึ้งกำลังจะบรรเลงขึ้น
"คุณจ้องมาที่มาที่ดวงตาของผม ผมดื่มไปมากก็จริง แต่สติสัมปชัญญะ ยังครบถ้วน คุณพร้อมที่จะเป็นภรรยาของผมโดยสมบูรณ์แบบหรือยังนารี" นับรบพูดขณะที่ร่างกำยำของเขาได้ขึ้นคร่อมร่างเล็กของเธอเอาไว้ มือหนาเชยไปที่ปลายคางของภรรยาสาว ให้หันมาสบตา เพื่อบ่งบอกให้เธอรับรู้ในสิ่งที่เขากำลังจะกระทำกับเธอ เมื่อทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความใคร่ แต่เป็นความรัก ที่เขาเพิ่งประจักษ์ ไม่คิดว่าจะรักเธอที่เป็นลูกสาวของศัตรูได้มากถึงเพียงนี้
"คุณ! ปิดไฟก่อนสิฉันอาย คุณเล่นจ้องฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้ จะกลืนกินกันไปทั้งตัวเลยหรือไง" คำพูดที่ดูใสซื่อไร้เดียงสาของนารีนั้น กำลังทำให้นักรบชอบใจ มิหนำซ้ำเธอยังทำตาเล็กตาน้อยไม่กล้ามองออกมาอย่างเต็มตา การกระทำของเธอยิ่งทำให้เขานั้นหลงใหลมากขึ้น
"จะอายทำไม คุณสวยมากรู้ตัวหรือเปล่านารี หื้ม.. เรือนกายของคุณสวยไม่มีที่ติ สวยจนผมนั้นจะคลั่งตายอยู่แล้ว" นักรบพูดพร้อมกับเอามือสัมผัสลงไปที่พวงแก้มของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ไซ้ ลูบไล้ลงมาที่หัวไหล่แล้วสอดลงไปที่ใต้แผ่นหลังของนารี เพื่อปลดตะขอบราสีหวานที่เธอสวมใส่ปิดบังเต้าคู่งามเอาไว้ เมื่อขนาดของมันนั้นไม่ธรรมดา
"คุณ! ฉันกลัว" นารีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย เมื่อนักรบนั้นกำลังจะจัดการถอดบราเธอออก และอีกไม่นานกางเกงในตัวจิ๋วที่เธอสวมใส่ คงจะไม่เหลือให้ปิดบังร่างกาย ทุกอย่างแม้แต่กลีบกุหลาบงามจะต้องประจักษ์แก่สายตาของชายตรงหน้า ที่ขึ้นชื่อว่าสามีจนสิ้น คงไม่เหลือให้เธอนั้นได้เก็บเอาไว้เป็นสมบัติที่ล้ำค่าควรแก่การรักษา เพราะมันคงถึงเวลาที่เธอควรจะมอบมันให้กับเขาไปครอบครอง แต่เพียงผู้เดียวจนชั่วชีวิตนี้
"อย่ากลัวไปเลยที่รัก ผมจะถนอมคุณจะทำเบาๆ" เมื่อนักรบพูดออกมาแบบนั้น นารีถึงกับเขินจนขดตัวงอ แต่ชายร่างบึกบึนได้เบียดตัวเข้าหา ก่อนจะดึงบราออกไปให้พ้นจากตัวนารี อกตูมกลมโตได้รูปตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว
ริมฝีปากหนาคาบเกี่ยวลงไปที่ยอดประทุมถัน เม็ดบัวอมชมพูที่เย้ายวนชวนให้อมแล้วดูดอย่างเมามัน จนนารีนั้นหายใจเข้าออกถี่ๆ และแรงขึ้นด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่ เมื่อเธอนั่นเพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก
"อืมม์" เสียงครางดังออกมาจากลำคอของหญิงสาว มือเล็กจับลงไปกุมผ้าปูเอาไว้ ในขณะที่ปลายเท้าได้ยันปลายขอบเตียงเอาไว้ จนนักรบรับรู้ได้ในสิ่งที่นารีกำลังแสดงออกมา เมื่อความต้องการรสสวาทในตัวเธอกำลังก่อตัวขึ้น และไม่นานมันจะต้องร้อนแรงระอุขึ้นเรื่อยๆ ดังเปลวไฟ ที่พร้อมจะเผาผลาญทุกอย่างให้มอดไหม้ โดยมีนารีเป็นตัวแปรและนักรบเป็นเชื้อเพลิง
"เมียผมสวยยัง" นักรบผละจากปากออกจากสองเต้ามือของเขาค่อยๆ สอดลงไปใต้ชุดชั้นในตัวจิ๋วก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกี่ยวมันออกไปให้พ้นจากเรียวขาของเธอ ทำให้มองเห็นกลีบกุหลาบงามอูมเบ่งอย่างชัดเจน
"คุณนักรบ!" เสียงหวานร้องเรียกชายตรงหน้าออกมา ในขณะที่หัวใจของเธอนั้นกำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
"คุณเชื่อใจผมนะนารี ทุกอย่างมันจะผ่านพ้นไปด้วยดีผมสัญญา" เรือนร่างอรชรของหญิงสาวตรงหน้าไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ สะท้อนแสงไฟส้มนวล ช่างสวยประจักษ์แก่สายตาของนักรบ ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะแตะสัมผัสชิมทุกส่วนของเรือนกายนวลขาวผ่องเป็นยองใยตรงหน้านี้
มือของนักรบบีบคลึงลงไปที่ก้นมน ก่อนจะจับลงไปที่ต้นขาอวบแยกออก ใบหน้าคมได้มุดลงไปตรงกลางหว่างขาของเธอ จนทำให้นารีนั้นรีบหุบขาเข้าแทบไม่ทัน
"คุณกำลังจะทำอะไร มันสกปรก" เสียงของนารีท้วงติงขึ้น เมื่อเธอพอจะเดาออกถึงสิ่งที่นักรบกำลังจะทำกับจุดซ่อนเร้นของเธอ
"สำหรับเมียผมแล้ว ไม่มีตรงไหนสกปรกหรอกนะนารี ครั้งแรกของเรา ผมจะทำให้คุณจดจำไปจนตราบนิรันดร์เลยคอยดู" นักรบพูดพร้อมกับจับขาอวบของนารีแยกออกอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่รอช้า ใบหน้าคมมุดเข้าไปพร้อมใช้ปลายลิ้นแตะลงที่กลีบกุหลาบงาม ที่มันบานเบ่งรอเขาเข้าไปชิมรสชาติจากเกสรของมัน และเชยชมความงามสุดหาใดจะปานไม่มีอีกแล้ว
"อืม" เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอ พร้อมหลับตาพริ้ม เมื่อลิ้นร้อนของนักรบ ไล้เลียกระตุ้นลงไปที่จุดอ่อนไหวเม็ดสีแดงระเรื่ออย่างกับคนที่ช่ำชองในเรื่องบนเตียง
การกระทำของชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี กำลังทำให้นานรีอ่อนระทวยไปทั้งตัว ยิ่งเมื่อเขาแตะลิ้นร้อนดันเข้าออกไปในช่องแคบ ความรู้สึกของเธอนั้นยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ มือเล็กกำผ้าปูไว้แน่น ในขณะที่น้ำหวานจากกลีบกุหลาบงามกำลังหลั่งออกมาให้ชายตรงหน้าได้ชิมรสชาติที่แสนจะหอมหวาน อย่างไม่รังเกียจเลยสักนิด
"พร้อมนะเมียจ๋า" นักรบเงยหน้าขึ้น ก่อนที่ชายร่างบึกบึนจะเข้าไปคร่อมร่างเล็กของหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้ มือของเขาจับลงไปที่ท่อนเอ็นร้อน ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของนารี
"คุณ! ทำไมมันคับแน่นแบบนี้ ฉันกลัว" เวลานี้ความอายมิอาจส่งผลต่อความกลัวของนารีได้ เมื่อเธอนั้นรับรู้ถึงขนาดของท่อนเอ็นลำเขื่องที่มันพองตัวขึ้นเรื่อยๆ จนช่องแคบนั้นแทบอ้ารับไม่ได้ ถ้าหากเขากระแทกเข้ามา เธอเริ่มหวั่นเกรงว่า มันจะทำให้รูสวาทของเธอนั้นฉีกขาดเป็นแน่
"เด็กน้อยเดี๋ยวมันก็ไปได้ อย่ากลัวไปเลย ทำตัวตามสบายไม่ต้องเกร็ง" นักรบพูดพร้อมกับใช้ปากคาบเกี่ยวลงไปที่ปลายยอดปทุมถันของเธออีกครั้ง ในขณะที่สะโพกของชายหนุ่มค่อยๆ โยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะถี่ๆ และแรงขึ้นเรื่อยไป
"อ๊ะ คุณนักรบ" เสียงหวานเปล่งออกมาจากปากของคนตัวเล็ก สะโพกมนกระตุกวาบ สั่นสะท้านเมื่อได้รับสัมผัสกับจากท่อนเอ็นร้อน ที่มันรุกล้ำเข้ามาจ้วงลึกลงไปในช่องแคบ ท่อนเอ็นลำเขื่องถอดถอนเข้าออกอย่างระรัว สะกิดอารมณ์หวั่นไหวจนยากจะถอนตัวถอนใจ เมื่อนักรบกระแทกมันเข้าไปได้อย่างแม่นยำจนนารีนั้นร้อนวูบวาบเสียวไปจนถึงท้องน้อยในยามนี้
"เมียผมสุดยอดจัง" เขาพูดออกมาในขณะที่ใช้ปลายลิ้นเลียไล้ลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่นของภรรยา พร้อมกับวนรอบใบหูเล็กของเธอ ก่อนจะมาหยุดที่ติ่งหูเพื่อดูดเร้าอารมณ์ของหญิงสาว ที่เวลานี้มันเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร