นารีแกล้งทำเป็นหลับ เมื่อนักรบเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาได้จ้องไปที่ใบหน้างามของภรรยา เพื่อคิดทบทวนว่า สิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้มันถูกต้องหรือไม่ เขาควรพอใจไม่ใช่เหรอ ที่เห็นเธอเจ็บปวดแบบนี้ แต่ทำไมเขาถึงได้เจ็บจี๊ดที่อกข้างซ้าย เมื่อเห็นเธอร้องไห้
เพล้ง!! เสียงเหมือนแจกกันหล่น ก่อนจะมีเสียงดังโวยวายเกิดขึ้น ทำให้นารีค่อยๆ ลืมตาตื่น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเธอก็ยังไม่ได้หลับ เพียงแค่ขยับเปลือกตาลง เพราะไม่อยากเห็นใบหน้ากับใครบางคนเท่านั้นเอง
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! แกอย่ามายุ่งกับชีวิตของฉัน" มันคือเสียงของรวี เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงส่งเสียงดังโวยวายแบบนั้น นารีรีบตัวลุกขึ้นทันที เพราะรู้สึกเป็นห่วงพี่สาว
"คุณมันแรด! ร่าน! หยุดเดี๋ยวนี้นะรวี" เสียงของเจสันวิ่งตามรวีลงบันไดไป จากนั้นไม่นานเสียงรถได้ขับพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้นารีรีบเปิดประตูลงไปดู แต่ก็ไม่พบคนทั้งคู่แล้ว เห็นแต่รถของเจสันที่ขับตามพี่สาวของเธอออกไป นารีได้แต่ภาวนาในใจอย่าให้เกิดเรื่องร้ายๆ กับพี่สาวของเธออีกเลย เพราะแค่เรื่องที่บ้านพี่ชายโดนทำร้ายมันก็หนักหนาพออยู่แล้ว
นารีทรุดตัวลงกับพื้นหน้าบ้าน เธอนั่งร้องไห้น้ำตาไหลรินดั่งสายฝนพรำเหมือนช่วงของพายุโหมกระหน่ำ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนพายุลูกนี้ถึงจะออกไป เธอกลัวเหลือเกินว่าจะรอไม่ไหวในวันที่ฟ้าใสหลังพายุสงบลง
"ทำไม เพราะอะไร ฮึกฮื้อ!" นารีนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จนไหล่ของเธอสั่นเทาขึ้นลง เมื่อความรู้สึกที่มีในเวลานี้ เธอยอมรับว่าเหนื่อยเหลือเกิน
นักรบเดินตามนารีลงมาเขาพยายามข่มใจเอาไว้ที่จะไม่เดินเข้าไปใกล้เธอ แต่แล้วภาพตรงหน้า เมื่อเห็นภรรยาร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาก็ทนไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปปลอบใจเธอ ยิ่งเห็นเธอเจ็บเขาก็เจ็บไปด้วย
"เป็นอะไรร้องไห้ทำไม... หืม" นักรบพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ผมเงาของภรรยาเบาๆ ก่อนจะโอบประคองเธอมากอดเอาไว้ แม้ว่าเธอจะพยายามขัดขืน แต่เขาได้รัดอ้อมแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม
มือของเขาที่แตะลงบนศีรษะของเธอนั้น นารีกลับรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม อ้อมกอดของเขามันกำลังจะกลับไปเป็นของเทเรซ่า ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า เขากำลังเสแสร้งแกล้งทำให้เธอตายใจ ผู้ชายอย่างเขาคงไม่มีหัวใจ เสียแรงที่เธอมอบมันให้เขาดูแล แต่เขากลับทิ้งขว้างมิหนำซ้ำยังเหยียบย่ำซ้ำลงดิน เขาทำเหมือนหัวใจเธอมันไร้ค่า และไม่มีความหมายใดๆ กับเขาเลย
"ปล่อย! ฉันไม่ต้องการให้ใครมาปลอบใจ คุณควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ ที่ชีวิตของฉันกำลังจะพังยับเยิน พรุ่งนี้ฉันจะออกไปจากบ้านหลังนี้ ไม่ว่าคุณจะเซ็นใบหย่าให้หรือไม่ คุณพร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปเซ็นให้ฉันก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะเอาอะไรไป เพราะฉันจะไปแต่ตัวพร้อมกับหัวใจ ฉันขอมันคืนได้ไหมหัวใจที่เคยให้คุณไป ฉันขอเอามันกลับมาไว้ดูแลเอง" พูดจบนารีได้ผลักอ้อมกอดของนักรบออก ก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้านโดยที่ไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย
"ผมพยายามแล้วนารี แต่ทำไมผมต้องแพ้คุณทุกที ผมต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น เพราะหัวใจของผมมันอยู่ที่คุณตั้งแต่วันแรกจนวินาทีนี้ และตราบชั่วนิรันดร หัวใจของผมจะไม่มีวันมอบให้ใครนอกจากคุณ" นักรบพูดพร้อมกับมองตามแผ่นหลังของภรรยา ที่เดินขึ้นไปบนบ้าน
"เกิดอะไรขึ้น คุณหนูกับเจสันกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อกี้เสียงดังโวยวายมาจากข้างบน เสียงแจกันในห้องของคุณรวีแตก พวกคุณโตกันแล้วทำไมถึงคิดจะทำเรื่องแย่ๆ แบบนั้นได้" ป้านวลเดินลงบันไดมา เสียงดังโวยวายทำให้หญิงสูงวัยไม่สามารถข่มตานอนให้หลับลงได้อีก ที่สำคัญในเวลานี้ เจสันกับเจ้านายของเขากำลังคิดที่จะทำในสิ่งที่ป้านวลไม่ปรารถนาจะให้มันเกิดขึ้น
"ไม่มีอะไรหรอกครับแม่นวล เจสันก็แค่ต้องการจะปราบผู้หญิงร้ายๆ อย่างรวี" นักรบพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง เมื่อทุกอย่างที่เขาวางเอาไว้เริ่มจะผิดแผน เพราะหัวใจของเขามันทนเห็นนารีเจ็บปวดแบบนี้ไม่ได้
"ถึงเธอจะร้าย เจสันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพิพากษาเธอ หลายวันมานี้คุณรวีเปลี่ยนไปมาก เธอเก็บตัวเงียบไม่ทานข้าวที่บ้าน เธอมักจะกลับบ้านในตอนดึกและออกจากบ้านตั้งแต่รุ่งสาง สาเหตุมาจากเจสันใช่ไหมคะ คุณนักรบไหนเล่ามาซิ" เวลานี้นักรบได้กลายเป็นจำเลยให้ป้านวลได้สอบสวน เพราะหญิงสูงวัยไม่อาจปล่อยปละละเลยให้ทุกอย่างบานปลายไปมากกว่านี้ได้
"มันก็ไม่เชิงครับแม่นวล แต่ผมว่าทุกอย่างมันอยู่ที่การกระทำของรวีด้วย ผมไม่รู้จะพูดยังไง มันเป็นเรื่องระหว่างเจสันกับเธอผมไม่อยากเข้าไปยุ่ง" นักรบพูดปัดออกไป เมื่อเขาเองไม่รู้จะอธิบายยังไงเรื่องที่เจสันกับรวีมีอะไรเกินเลยกันแล้ว
"ป้ารู้นะ เรื่องที่คุณเทเรซ่าเดินทางมาที่นี่ เพราะคุณต้องการทำให้คุณนารีเจ็บปวด อย่าพยายามทำให้ผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกต้องทุกข์ทรมาน เพราะถ้าเธอไม่อภัยให้ สิ่งที่คุณจะได้รับมันยิ่งกว่าการถูกใครเอามีดมากรีดที่ขั้วหัวใจ เมื่อถึงเวลานั้นป้าคงช่วยคุณหนูไม่ได้" ป้านวลพูดสะกิดใจ เพื่อให้นักรบคิดได้ เพราะหญิงสูงวัยมั่นใจว่านารีกำลังตั้งครรภ์อย่างแน่นอน
"อีกไม่กี่วันเทเรซ่า ก็จะกลับแล้วครับป้า สามีเธอจะมารับที่นี่"
"แต่เธอคงไปช้ากว่าคุณหนูนารี หยุดทุกอย่างไว้แค่นี้เถอะนะนายน้อย แล้วเรื่องอดีตห้ามเล่าให้คุณนารีได้รับรู้ เพราะที่เป็นอยู่เธอก็เจ็บปวดมากพอแล้ว ขอให้เรื่องราวทั้งหมดมันตายไปกับพ่อแม่ของคุณ ถือว่ามันคือเวรกรรมตั้งแต่ชาติที่แล้ว และคุณได้ใช้คืนกะสิเทพไปหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้ควรเริ่มต้นชีวิตใหม่กลับไปง้อหนูนารีซะ"
ป้านวลพูดจบได้เดินขึ้นไปบนบ้าน ปล่อยให้นักรบยืนอยู่อย่างเคว้งคว้าง เมื่อเขานั้นกำลังคิดว่าควรทำตามสมองหรือหัวใจ เมื่อสิ่งที่ป้านวลพูดมามันถูกต้องทุกอย่าง เขาคงกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่ควรทำปัจจุบันให้มันดีที่สุด หากบิดามารดาของเขามองลงมาจากบนขอบฟ้าไกล คงจะรู้ที่เขาทำไปด้วยเหตุผลอะไร และที่ต้องยุติลงเพราะหัวใจ ซึ่งไม่สามารถหาเหตุผลข้อใดยกขึ้นมาอ้าง นอกจากคำว่ารัก
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร