Share

chapter 13

last update Last Updated: 2025-01-03 14:28:14

“หากมิกลัวว่าข้าบีบจมูกไปแล้วอาจทำให้ท่านสิ้นลมได้นะ...ข้าบีบจมูกท่านแล้วเอาน้ำผักผสมยาเคี่ยวกรอกปากแล้ว” มีทางไหนให้เขาป้อนน้ำผักเคี่ยวกับแม่ทัพใหญ่บ้างไหม คิดอยู่เป็นนานก็ค้นพบว่ามีอยู่หนึ่งวิธีที่ได้ผลแน่ หากเขานี่แหละ จะกล้าทำหรือเปล่า นั่นเท่ากับเขาต้องเสีย...

หากสุดท้ายแล้วเมื่อเห็นว่ามิมีทางใด เก้าเทียนรุ่ยก็ได้แต่กลอกตาไปมา ขณะเป่าน้ำสีดำเข้มที่กลิ่นมิทำให้เขาอยากจะกลืนลงท้องเลยมาอมไว้แล้วป้อนให้ท่านแม่ทัพใหญ่

“ข้าจะคิดค่าป้อนท่าน หนึ่งครั้งเท่ากับหนึ่งก้อนทอง” เขาเอ่ยด้วยความหงุดหงิดใจ ก็ตัวเขาในชาติภพนี้ อย่าว่าแต่ภรรยาเลย แม้กระทั่งคู่หมายก็ยังมิมี หากตอนนี้ต้องมาเสียจูบแรกและจูบที่สองให้กับท่านแม่ทัพปีศาจผู้นี้ไปแล้ว...เขาจะต้องคิดค่าเสียหายให้คุ้มค่า

เก้าเทียนรุ่ยรีบจัดการป้อนผักผสมยาด้วยปากต่อปากไปอีกสองครั้ง หากครั้งที่สองทำให้เขาถึงกับตื่นตะลึงทำอันใดมิถูก ด้วยว่ามีคนมาเห็นวิธีการนี้ของเขาถึงสองคน!

“เอ่อ...คือว่า...” ทั้งที่การกล่าวความจริงออกไปก็มิได้เป็นแปลกอันใด หากเพราะเขาเขินอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำตัวมิถูก จึงได้แต่หลบซ่อนใบหน้าที่มันคงจะแดงไปมองคนบนเตียง

“ท่านกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือคุณชายเอ้อร์เอ๋อร์”

รอยยิ้มเย็น ๆ ของรองแม่ทัพทำให้เก้าเทียนรุ่ยอยากจะยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าที่มันก็มิได้มีอยู่เลย ทั้งที่มิได้ทำสิ่งใดผิด หากความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น...มันแปลกอย่างบอกมิถูก จนมิค่อยกล้าจะสบสายตาผู้ใด

“เอ้อร์เอ๋อร์ทำอันใดหรือลูก”

“ท่านแม่ คือข้า...” เก้าเทียนรุ่ยยิ้มแหย ๆ ให้กับมารดาที่แม้จะกลัวคนในจวนนี้ หากความคิดถึงและห่วงใยเขามีมากกว่า จึงเลือกที่จะมาหาเขาในวันนี้

“ข้ากำลังป้อนผักผสมยาเคี่ยวให้กับท่านแม่ทัพอยู่นะขอรับ วันนี้มิรู้ว่าเป็นอย่างไร ถึงได้กินยากกินเย็นเหลือเกิน ข้าก็เลย...” เขารีบบอกกล่าวพร้อมก้าวลงจากเตียงของท่านแม่ทัพอย่างรวดเร็วจนเกือบจะสะดุดขาตนเองล้มลงเพื่อไปหามารดา

“เจ้าก็เลยต้องป้อนด้วยวิธีเช่นนี้นะหรือ”

“ความจริงข้าจะใช้วิธีใดรักษานายของท่าน มันก็มิแปลกมิใช่หรือขอรับท่านรองแม่ทัพ ขอเพียงแค่นายของท่านหายดีเท่านั้นนี่”

“มิแปลกและข้ามิสนใจด้วยว่าท่านจะใช้วิธีการใดรักษานายของข้า หากข้าเห็นหลายวันแล้วท่านแม่ทัพใหญ่ยังมิมีการเปลี่ยนแปลงอันใดเลย จนตอนนี้เริ่มคิดไปว่าท่านอาจจะมิได้มีฝีมือดังที่เขาเล่าลือกันมา”

ชิชะ...ท่านรองแม่ทัพปากเสียนี่! อยากตบปากจริง ๆ

“ท่านนี่นะ...” เก้าเทียนรุ่ยถอนหายใจแรง ๆ อย่างเหนื่อยหน่ายใจ “ช่างกล่าวออกมาได้ หากข้ามิมีฝีมือ ท่านจะได้มายืนถกเถียงดูแคลนข้าอยู่เช่นนี้หรือ เรื่องที่เกิดขึ้นในป่า ยังพิสูจน์ฝีมือข้ามิเพียงพอหรืออย่างไรกัน...คนจริงเขามิโอ้อวดฝีมือกันหรอกนะท่านรองแม่ทัพ” เขากล่าวย้ำลงไปอีกครั้ง

ความจริงแล้วเขาก็มิรู้เลยว่าตนเองจะมีความสามารถทางด้านนี้ด้วย คิดเพียงแค่ว่า การมาอยู่ยังภพนี้นั้นปลูกผักได้ดี ให้ผลเร็วและทำให้หลายคนหายป่วยไข้ได้ก็ดี ใครจะคิดเล่าว่าเมื่อยามคับขัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความสูญเสีย ในตอนนั้นเองหูก็พลันได้ยินเสียง...

ครั้งแรกก็คิดไปว่าตนเองหูฝาดและคิดมากไปเอง หากเมื่อได้ยินซ้ำอีกครั้ง...

“นายท่านต้องการให้ช่วยสิ่งใด เชิญกล่าว”

แม้เขาจะงุนงงกับเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัว หากเมื่อเหลียวมองรอบกายด้วยคิดว่าท่านรองแม่ทัพไถ่ถาม ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังรับมือกับเถาวัลย์ที่พุ่งเข้าหาจนแทบมิทันจะได้หายใจด้วยซ้ำ ก็เลยรู้ว่ามิใช่ หากสิ่งใดเล่าที่กล่าวกับเขา...แล้วเรื่องราวที่ท่านแม่เล่าให้ฟังเมื่อครั้งที่เขาได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ จากที่เคยคิดว่ามันคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เขาคิดมากไปเอง ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ แต่พอมาคิดอีกที...นี่ก็อาจเป็นความสามารถอีกอย่างที่คนผู้นั้นให้ติดตัวเพื่อให้เขาอยู่รอดที่นี่...ในภพนี้ก็เป็นไปได้

ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ความคิดเป็นความต้องการของตนเองที่หวังจะช่วยมารดา หรือจะเป็นความหวังจะทำให้ตนเองมีชีวิตรอดก็แล้วแต่ สิ่งที่ได้ยินจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ในเมื่อรู้แล้วและต้องการมีชีวิตรอด เขาก็ควรทำ เมื่อคิดไปเช่นนั้นแล้วเขาก็เลยลองดู!

เริ่มแรกเขาก็ขอให้ใบหญ้าช่วย ตอนที่เห็นว่าใบหญ้าเปลี่ยนเป็นใบมีปลายแหลมและคม...เขาก็อึ้งมิน้อย คิดในใจไปว่า...นี่เราเก่งและทำได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ไหน ๆ ต้นไม้และใบหญ้าก็ช่วยได้จริงอย่างที่บอกไป ถ้าเช่นนั้นก็ลองให้ช่วยท่านแม่กลับคืนมาและสั่งสอนคนมิดีด้วย...เขาก็เลยบอกออกไป แล้วมันก็เป็นจริง เขาก็ได้ท่านแม่คืนมา แต่กลับรู้สึกว่าร่างกายเกิดความผิดปกติไป

ตอนที่คิดว่าจะลองทำอีกสักครั้ง หากอยู่ดี ๆ รอบกายก็ดับวูบ มืดจนมองมิเห็นสิ่งใดเลย ก่อนจะเห็นเป็นภาพเลือนราง มันเหมือนกับว่าเขาเดินอยู่ท่านกลางหมอกควันเพียงลำพัง หากหูกลับได้ยินเสียงร้องเรียกให้ช่วย เสียงที่ดังมาจากที่แสนไกล...ไกลมา คล้ายกับกำลังขอร้องให้ช่วย

“ใคร...ต้องการสิ่งใด” หากสิ่งที่ไถ่ถามออกไปกลับมิได้รับคำตอบ มีเพียงแค่เสียงคล้ายกับมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ มันรวดเร็วเสียจนเขามองมิทัน รับรู้เพียงแค่ว่ามีอะไรสักอย่างกระแทกเข้ากับร่างกายอย่างแรง จนแทบจะยืนมิอยู่ จนถึงตอนนี้เสียงแหบพร่าแผ่วเบายังคงดังติดอยู่ในความทรงจำ ยิ่งเมื่อเห็นคนบนเตียง...เหมือนกับความรู้สึกเหล่านี้ก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ราวกับว่ามันกำลังเกิดอยู่ตรงหน้า

แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อการอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยไร้คนมารบกวน หากตอนนี้เขามิควรคิดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้ว ควรรับมือกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน

“แล้วข้าก็จะบอกให้ท่านรับรู้ไว้ด้วยนะ...ท่านแม่ทัพของท่านเพิ่งจะฟื้นมาประมือกับข้าเมื่อครู่นี้เอง ตอนนี้คงจะเพลียจนหลับยาวไปอีกหลายชั่วยาม”

“เจ้าคงจะมิคิดกล่าวเพื่อรักษาหน้าตนเองหรอกนะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 124 - จบ

    “แล้วเด็กสองคนนั้น” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยถามเพราะหนานชวนส่งข่าวให้รู้บ้างแล้ว“ดูเป็นเด็กดีอยู่ขอรับ” นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเสวียนลิ่วหลางมา มิเพียงแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป หากรับรู้ว่าภายในกายเริ่มมีพลังลมปราณมากพอที่จะสัมผัสได้ว่าใครมีวรยุทธ์และพอจะมองออกว่าผู้ใดมาดีหรือร้าย ทำให้มองออกว่าเด็กน้อยสองคนเป็นเด็กดีจริง ๆ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่มารดามีคนดี ๆ มาคอยดูแล“แล้วท่านพี่ละขอรับ พบเจอเรื่องใดหรือไม่”หากเสวียนลิ่วหลางมิทันจะได้บอกกล่าวเรื่องที่ได้ไปตรวจสอบมา...มิได้มีสิ่งใดร้ายแรง ก็เป็นพวกมารปลายแถวกับเผ่าปีศาจที่มิชอบหน้ากันมาทะเลาะกัน แล้วกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาอยากแสดงว่าตนมีฝีมือเท่านั้น ก็มีบางคนเดินเข้ามา“มาทำไม” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยเสียงเข้มดุ หากเด็กน้อยตรงหน้ากลับมิสนใจแล้วยังจะส่งยิ้มให้กับเก้าเทียนรุ่ยเพื่อยั่วโทสะยักษ์ใหญ่ตรงหน้าอีกด้วย“มิได้มาหาเจ้าเสียหน่อย มาหานั่น...” ปากเล็กสีแดงสดบุ้ยใบ้ไปทางเก้าเทียนรุ่ย “ต่างหากล่ะ...คิดถึงมากเลย”“ที่นี่เรือนข้า...ไปคิดถึงไกล ๆ หากมิอยากถูกจับโยนออกไป”“กล้ารึ...ข้าพี่ชายสองนะ เจ้ากล้าทำร้ายพี่ชายเมียเจ้ารึ”“ฮึ! พี่ชายที่นอก

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 123

    “อึก...อ้ายฉี!” ชิงชวนร้องเรียกด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะยังมิทันได้เตรียมกายรับอ้ายฉีก็แทรกแท่งใหญ่ร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะหัวเราะร่าพร้อมกับกลั่นแกล้งเขาด้วยการขยับกายออกแล้วเคลื่อนกลับเข้าไปใหม่จนสุด“ไอ้เจ้าบ้าอ้ายฉี!”“อา...ข้ามันคนบ้านี่น่า เขาว่าคนบ้าทำอะไรก็มิผิด” ว่าแล้วอ้ายฉีก็เร่งเคลื่อนกายจู่โจมเข้าในพื้นที่เร้นลับของชิงชวนอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนุ่มนวลกลับเป็นรุนแรงเมื่อถูกผนังอ่อนนุ่มบีบรัด“เจ้าว่า...ข้าจะบ้าได้มากกว่านี้ไหมอาชวน”“หยุดทำอย่างที่เจ้าคิดเลยนะอ้ายฉี” ชิงชวนห้ามปรามเมื่อพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำการสิ่งใด เขามิอยากเดินออกจากห้องพักอย่างอับอายเพราะถูกอีกฝ่ายจับกดจนเตียงพังอย่างเช่นโรงเตี้ยมที่ก่อนหน้าอ้ายฉีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะกล่าวออกไป “ข้ายังมิได้คิดอะไรสักหน่อย”“ฮึ! เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะมิล่วงรู้ ข้าอยู่กับเจ้ามานานเท่าใดแล้ว ยามนี้หากมิใช่เพราะคิดว่าเดินทางกันพอแล้วกับในยุทธภพมีเรื่องมากมายชวนปวดหัว คิดว่าเจ้ากับข้าจะคิดกลับไปหาท่านแม่ทัพ...นายท่านกับคุณชายหรือไงกัน”“ครั้งนี้ข้ายอมก็ได้” หากมิใช่เพราะจะทำให้ชิงชวนอับอาย แต่เขาสัมผัสได้ว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 122

    “ใบหน้าเมียข้ายามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เร่งอีกหน่อยสิท่านพี่ ข้าอยากได้ยินเสียงร้องของอาเหว่ย” จวินต้าเกอเอ่ยยามทอดสายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขสมยามถูกกระแทกด้วยความต้องการ“ได้สิน้องข้า” เฮยต้าเกอตอบรับ ผนังอ่อนนุ่มช่างบีบรัดเสียจนเขาถึงหายใจหอบแรงทำให้เขาขยับโยกกายด้วยความหนักหน่วงรุนแรงตามความต้องการที่มันเพิ่มมากขึ้น...และมากขึ้นจางเหว่ยสัมผัสได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลพุ่งเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับเสียงครางของเฮยต้าเกอ ก่อนคลื่นความร้อนครั้งใหม่จะถาโถมเข้าหา“ข้าถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้ง แล้วยังจะต้องพาหมูป่ากลับมา ระหว่างทางก็ยังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำด้วย กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยมิใช่น้อย เมียข้าช่วยปลอบโยนข้าหน่อยนะ” จวินต้าเกอเอ่ยขณะสองมือใหญ่ลูบคลำไปทั่วร่างกายพร้อมกับใช้แท่งใหญ่ยักษ์ของตนเองกดรุกล้ำเข้าไปในร่องทางด้านหลังของจางเหว่ยยามถูกผนังอบอุ่นห่อหุ้มและรัด ความต้องการของจวินต้าเกอก็เพิ่มมากขึ้น เขาขยับกายตัวราวกับพายุฝนที่กำลังกระหน่ำสาดซัดอย่างรุนแรง“หากเมียข้ายังจะทำสีหน้าเช่นนั้น...วันนี้เราคงจะมิได้ไปหานายท่านกับคุณชายเป็นแน่” เฮยต้าเกอกล่าวขณะวางมือลูบไล้บนอกเมียรัก“ข้า

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 121

    “ท่าน...ท่านพี่” จางเหว่ยเอ่ยทักสองบุรุษที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงแผ่วเบา ด้วยอย่างไรเขาก็ยังมิชินกับการเป็นฟูเหรินของบุรุษด้วยกัน แต่มิใช่เพราะเขาจำต้องผูกพันธสัญญาหรือมิเต็มใจอยู่กับกระทิงสองพี่น้องหรอกนะ แต่เพราะใจของเขาก็รู้สึกดีกับทั้งสองคนอยู่มิน้อย ยิ่งเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนผูกพันธสัญญาไปแล้ว เฮยต้าเกอและจวินต้าเกอก็ดูแลเขาอย่างดี“มิสบายหรือเมียข้า” เฮยต้าเกอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามิได้เป็นอะไร หากแต่ท่านพี่กับท่านพี่จวิน เหตุใดถึงได้กลับมาเรือนเร็วเช่นนี้ ยังมิทันจะเที่ยงเลย ท่านมิสบาย...บาดเจ็บใช่หรือไม่” จางเหว่ยเอ่ยถามพลางมองดูว่าบุรุษตรงหน้ามีบาดแผลที่ส่วนใดของร่างกายบ้าง“มิได้เป็นเช่นนั้น วันนี้โชคดี ได้หมูป่าตัวใหญ่มา เลยคิดกันว่ารีบกลับบ้านจะดีกว่า หมูป่าตัวใหญ่เช่นนี้ถ้าได้นั่งล้อมวงกินกันหลาย ๆ คนคงจะดีมิใช่น้อย อาเหว่ยอยากพามันไปกินกับนายท่านกับคุณชายหรือไม่” เฮยต้าเกอกล่าวถึงเสวียนลิ่วหลางกับเก้าเทียนรุ่ย“แต่กว่าท่านพี่จะจับมันได้...มิง่ายเลยนะขอรับ” แม้จะดีใจที่กระทิงสองพี่น้องยังคิดถึงความรู้สึกของเขา“สัตว์มีอยู่เต็มป่า จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นายที่ดีอย่างนายท่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 120

    “อ่า...รอค่ำคืนนี้ก่อนนะเมียรักของข้า รุ่งสางแล้วเราต้องเร่งทำเวลา” ยามนี้จวนแม่ทัพยังมีงานให้เขาทำอยู่ อีกทั้งยังบางคนที่มิอยากให้เขาออกไปใช้ชีวิตที่อื่นก็มาคอยอ้อนวอนขอร้อง“อื้อ...” เก้าเทียนรุ่ยรับคำก่อนจะยกตนเองขึ้นเพื่อตอบรับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ค่อย ๆ สอดดันเข้ามาในร่างก่อนจะถอนออกอย่างเชื่องช้า แล้วย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งจะลึกขึ้นเรื่อย ๆร่างเล็กบางไหวโยกตามแรงเคลื่อนไหว ผนังด้านในรับรู้สึกแท่งร้อนที่บุกรุกเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า บ้างก็เชื่องช้า บ้างก็รวดเร็ว“ท่านพี่”ใบหน้าแดงระเรื่อของเก้าเทียนรุ่ย ดวงตากลมใสที่ยามนี้ฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจนทำให้เสวียนลิ่วหลางยิ่งถาโถมแท่งร้อนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามด้วยความปรารถนาที่รุนแรง เสียงสะท้อนของร่างกายที่กระทบกันดังทั่วห้องเช่นเดียวกับเสียงหอบของสองคนที่ดำดิ่งกับความใกล้ชิดเสวียนลิ่วหลางพลิกกายบางให้ลงนอนคว่ำ ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยแนบกับหมอนหนุน แขนแกร่งสอดรัดเอวเล็กขณะกดสะโพกพาแท่งเหล็กร้อนให้ดำดิ่งสอดแทรกไปในช่องทางที่อ่อนนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงคำรามจะแผดดังขึ้นพร้อมกระแสความร้อนไหลพุ่งเข้าสู่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 119

    “เอาเป็นข้า...” เด็กน้อยเคลื่อนไหวกายเพียงเล็กน้อยแต่กลับรวดเร็วเสียจนแทบจะมองมิทัน เพียงแค่มิถึงหนึ่งจิบชาดูเหมือนว่าทุกคนที่ยังคงอ่อนแรงยกเว้นเสวียนลิ่วหลางก็ดีขึ้น“ข้าช่วยพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าเองแล้ว”“เดี๋ยว!” เก้าเทียนรุ่ยร้องเรียกเด็กน้อยตรงหน้าที่หันกายจะจากไป“มีอะไรอีก ข้ามิได้คิดร้ายกับพวกเจ้านะ”“เปล่า ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่...” เก้าเทียนรุ่ยขบเม้มปากเข้าหากัน มิรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของเขาเองหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าประมาณหนึ่ง จนมันอดที่จะคิดมิได้“หากเจ้ามิพูดอะไร ข้าจะไปแล้วนะ”“เจ้า...คุณเป็นหนึ่ง” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยเสียงแผ่วเบา“หือ...” คิ้วของเด็กน้อยเลิกขึ้น“ใช่หรือไม่”เด็กน้อยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “จะใช่หรือมิใช่ จะมีสิ่งใดแตกต่างไปล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เจ้านั่นแหละ...ได้โอกาสแล้วก็ใช้ชีวิตนับจากนี้ไปให้มีความสุขเถอะ” กล่าวจบเด็กน้อยที่มิบอกกล่าวให้ทุกคนรู้เป็นผู้ใดจากไปพร้อมกับร่างของเสวียนลิ่วหลางที่ทรุดล้มลงศีรษะแนบชิดกับลำคอเก้าเทียนรุ่ย“ท่านพี่!”“ท่านแม่ทัพ!”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status