ย้อนกลับไปเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ในช่วงเวลาที่เจนรบและปิยะวรรณยังเป็นนักศึกษา ทั้งคู่คบหากันด้วยความรักสดใสเฉกเช่นหนุ่มสาวทั่วไป ใครต่อใครต่างมองว่าหนุ่มสาวคู่นี้เหมาะสมกันดี จนเป็นที่อิจฉาของเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นเจนรบเพิ่งจะเริ่มขับรถยนต์ได้ จึงถือโอกาสนำรถยนต์ของคุณพ่อขับพาเปิ้ลไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัด
เจนรบตั้งใจพาปิยะวรรณไปไหว้สักการะพระปฐมเจดีย์ ณ จังหวัดนครปฐม เพื่อกราบไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ความรักของพวกเขามั่นคงและยืนยาวตลอดไป ก่อนแวะไปเที่ยวกันต่อตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึกและหาอาหารรสเลิศรับประทานก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร
ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจ สำหรับเจนรบแล้ว ปิยะวรรณคือสาวในฝัน เธอสวยงามและเพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง ก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ หนุ่มจอมตัดสินใจขับรถพาแฟนสาวแวะเข้าพักที่โรงแรมบรรยากาศดีแห่งหนึ่งในชานเมือง เพื่อสานต่อความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของคนรัก
“จอม…อือ…” ปิยะวรรณหลับตาพริ้มด้วยความรู้สึกสุขสันต์ ขณะที่ถูกแฟนหนุ่มซุกไซ้คลอเคลียบริเวณซอกคอและลูบไล้หน้าอกอย่างแผ่วเบา “จอม…อย่า…เรา…กลัว” น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
“ไม่ต้องกลัวนะเปิ้ล” เจนรบพยายามปลอบโยนแฟนสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เราจะดูแลและรับผิดชอบทุกอย่างเองนะ”
“ไม่เอานะจอม…อือ….” หญิงสาวถูกแฟนหนุ่มผลักให้นอนราบลงบนเตียงสีขาวสะอาด ก่อนสอดมือเข้าไปภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวบางของแฟนสาว ปลายนิ้วของเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลและอบอุ่นของผิวเนื้อภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ ปิยะวรรณหน้าแดงก่ำ พยายามขัดขืนแฟนหนุ่มที่กำลังรุกเร้าด้วยท่าทางเหนียมอาย
“จอม…เราไม่เคย…อย่าทำเลยนะ!!!”เจนรบไม่ได้ใส่ใจต่อคำทัดทานของปิยะวรรณ ชายหนุ่มเลิกชายเสื้อของแฟนสาวขึ้น แล้วประทับจูบอย่างอ่อนโยนลงบนหน้าท้องขาวเนียน โดยเฉพาะบริเวณสะดือที่บุ๋ม ชายหนุ่มทั้งจูบและใช้ปลายลิ้นแตะเลียอย่างแผ่วเบา เพื่อคลายความกังวลให้กับแฟนสาวที่ดูตื่นตระหนก
“ฮือ…จอม…เราไม่อยาก” ปิยะวรรณเริ่มปล่อยโฮออกมาด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ในตอนแรกเจนรบทำทีเป็นไม่ได้ยิน “จอม…เราไม่เคย…เรากลัวท้อง…อย่าทำเราเลยนะ”
“เห๊อะ!!!” พอได้ยินเช่นนั้นแล้วก็แทบหมดอารมณ์รักในบัดดล เจนรบจึงลุกขึ้นจากเตียงไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะข้างหัวเตียง แล้วเดินออกไปยังระเบียงด้านนอกเพื่อจุดสูบคลายความขุ่นเคือง ชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ในสภาพเปลือยท่อนบน สวมเพียงกางเกงยีนส์ ยืนพ่นควันบุหรี่พลางเหม่อมองทิวทัศน์ของเมืองหลวงในยามเย็น
เมื่อสูบบุหรี่จนหมดมวน เจนรบก็เดินกลับเข้ามาในห้อง พบกับปิยะวรรณที่นั่งรออยู่บนขอบเตียง ทั้งคู่สบตากันโดยไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดออกมา
“เราขอโทษนะจอม…” ในที่สุดปิยะวรรณก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน “เราให้จอมไม่ได้จริงๆ” น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา
เจนรบนิ่งเงียบ หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความผิดหวังที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเจนรบ แต่เพราะไม่อยากให้ปิยะวรรณรู้สึกไม่ดี และไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียดไปมากกว่านี้ หนุ่มน้อยจึงฝืนยิ้มให้กับแฟนสาว
“ไม่เป็นไรหรอก…” เจนรบตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “เปิ้ลอยากกลับหอพักเลยไหมล่ะ เดี๋ยวจอมไปส่ง”
“แล้วเงินที่เราจ่ายค่าโรงแรมไปแล้วล่ะ…” ปิยะวรรณถามด้วยความรู้สึกผิด
“ช่างเถอะ เดี๋ยวเราจัดการเอง” เจนรบตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“จอม เรามีอะไรจะขอจากจอมอย่างหนึ่งนะ” ปิยะวรรณลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเจนรบ หญิงสาวเอื้อมมือไปจับมือของแฟนหนุ่มไว้แน่น “ตอนนี้เรายังไม่พร้อม ไว้รอให้เราสองคนเรียนจบก่อนนะ เมื่อถึงวันนั้น เราจะยอมเป็นของจอมนะ เราสัญญา”
“อือ…” เจนรบยิ้มรับคำสัญญา “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก เปิ้ลไม่ได้ผิดอะไร ของแบบนี้มันบังคับใจกันไม่ได้ เดี๋ยวเราพาเปิ้ลกลับหอพักแล้วกันนะ”
นั่นครั้งสุดท้ายที่ปิยะวรรณได้ใกล้ชิดกับเจนรบมากที่สุด เพราะหลังจากเปิดภาคเรียนใหม่ ฝ่ายหญิงมักจะหาเหตุผลมากมายเพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปเที่ยวกับแฟนหนุ่ม นี่ยังไม่รวมถึงเวลาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ จนกระทั่งเจนรบเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในความสัมพันธ์ของพวกเขา
“เธอทำให้ฉันรักเธอก่อน ไม่อาจถอน หัวใจมันคอยแต่แอบมองอย่างซึ้งๆ เธอทำให้ฉันหลงใจอ่อน นอนกอดหมอนทุกคืน จะทนได้นานสักเท่าไร หากคิดถึง…” ภาคภูมินั่งดีดกีตาร์โปร่งร้องเพลงรักคลอเบาๆ อยู่บนม้านั่งหินใต้ร่มไม้ใหญ่ในช่วงเวลาพักกลางวัน
“ไอ้ภาค กูว่ามึงกำลังมีความรักว่ะ” กลุ่มเพื่อนสนิทเอ่ยปากแซวภาคภูมิด้วยรอยยิ้ม “ไอ้จอม!!! เห้ย!! ไอ้จอม!!! มึงเป็นอะไรของมึงวะ!! เรียกตั้งนานไม่ตอบ?”
“มีอะไรวะ?” เจนรบที่นั่งเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่งได้สติ จึงหันไปยิ้มให้กับกลุ่มเพื่อนฝูง “กูแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“เป็นบ่อยแล้วนะมึงน่ะ ช่วงนี้ดูใจลอยไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ว่าแต่พักหลังกูไม่ค่อยเห็นมึงกับเปิ้ลอยู่ด้วยกันเลยว่ะ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าวะ?” เพื่อนคนหนึ่งถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า…” เจนรบตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูปกติ “ก็ปกติดีทุกอย่าง”
“ไอ้ภาค มึงดูแลเพื่อนซี้มึงให้ดีหน่อยนะ กูว่าพักหลังไอ้จอมของเราเหมือน…เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยวะ” เพื่อนอีกคนเสริม
“มึงไม่สบายหรือเปล่าวะไอ้จอม?” ภาคภูมิ มือกีตาร์ประจำกลุ่มหนุ่มนิติศาสตร์เอ่ยปากถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“กูไม่เป็นไร” เจนรบตอบ “กูว่าจะไปสูบบุหรี่แก้เซ็งสักหน่อย มีใครจะไปกับกูไหม?”
ภาคภูมิซึ่งปกติเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่ได้แต่ยิ้มให้กับเพื่อน ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ต่างลุกขึ้นเดินตามเจนรบไป เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สับสนและคลุมเครือที่สุดในชีวิตของเจนรบ เพราะหลังจากที่เขาขับรถพาแฟนสาวอย่างเปิ้ลกลับมาจากทริปปิดเทอมที่นครปฐมและราชบุรีในครั้งนั้น ก็ดูเหมือนว่าปิยะวรรณ ดาวเด่นของคณะอักษรศาสตร์จะเริ่มตีตัวออกห่างจากเขาอย่างเห็นได้ชัด
ตัดมาที่ปัจจุบัน ที่บ้านจัดสรรหลังหนึ่งแถวบางกะปิในช่วงค่ำของคืนวันเสาร์ เจนรบอุ้มเด็กสาวขึ้นมายังห้องนอนบนชั้นสอง แล้วใช้มือบิดลูกบิดประตู ก่อนจะใช้เท้าดันประตูเบาๆ พลางอุ้มลูกปลาตัวน้อยเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของเขา
ณ ที่แห่งนี้คืออาณาจักรส่วนตัวของเจนรบ ห้องนอนสีขาวสะอาดตา มีโต๊ะทำงานไม้สีเข้มตัวใหญ่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่าง พร้อมกับโคมไฟตั้งโต๊ะดีไซน์เรียบง่าย ด้านข้างของห้องเป็นชั้นหนังสือไม้บิวท์อินที่เต็มไปด้วยตำราและเอกสารเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ที่ทนายความจำเป็นต้องรู้ เจนรบคอยประคองและหย่อนร่างของปวีณาลงบนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ ลูกปลาตัวน้อยมองคุณลุงที่รักด้วยสายตาหวานฉ่ำ แก้มของเธอแดงระเรื่อไม่ต่างจากเจนรบที่จ้องมองใบหน้าของหลานสาวคนสวยอย่างไม่วางตา
สำหรับลูกปลาแล้ว เธอไม่รู้สึกว่าลุงจอมดูแก่เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกว่าคุณลุงเป็นผู้ชายที่อบอุ่น มั่นคง และมีความสามารถ จากการที่เธอเคยเข้าไปส่องในเพจเฟซบุ๊กกฎหมายของเจนรบ ซึ่งมียอดผู้กดไลก์และติดตามหลายแสนคน ซึ่งเจนรบสร้างเพจนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับผู้คนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน
เนื้อหาส่วนใหญ่ในเฟซบุ๊กก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายที่น่าสนใจ บางครั้งเจนรบก็ไลฟ์สดให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย รวมถึงเล่าถึงประสบการณ์จากคดีความ ที่เขาเคยรับผิดชอบ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนตามคำแนะนำของลูกน้องในสำนักงาน ซึ่งก็ช่วยให้จำนวนผู้ติดตามและยอดไลก์เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พูดกันตามตรงแล้ว ปวีณาไม่ได้สนใจเนื้อหาสาระอะไรที่เจนรบนำเสนอมากนัก สิ่งที่เด็กสาวสนใจคือในแต่ละวันเจนรบทำอะไรบ้าง ประกอบกับคำบอกเล่าของภาคภูมิและปิยะวรรณ ยิ่งทำให้ลูกปลาตัวน้อยตกหลุมรักหนุ่มใหญ่รุ่นราวคราวพ่อที่อายุมากกว่าเธอถึงสามสิบกว่าปีได้อย่างง่ายดาย
“ลุงจอม…” ปวีณาครางเสียงหวาน ขณะที่ถูกคุณลุงซุกไซ้คลอเคลียบริเวณซอกคอของเธอ ลูกปลาตัวน้อยรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง ขนของเธอลุกชันขึ้นจากสัมผัสของริมฝีปากและลมหายใจร้อนผ่าวของเจนรบ “อือออ…”
ไม่ใช่แค่ความปรารถนาทางกายที่เขารู้สึก แต่มันคือความรู้สึกขอบคุณ... ขอบคุณที่เธอกล้าพอจะมอบหัวใจและความไว้วางใจให้กับคนแก่ที่มีอดีตซับซ้อนอย่างเขา ความอ่อนโยนและความไร้เดียงสาของเธอค่อยๆ สลายกำแพงน้ำแข็งที่เขาสร้างขึ้นมานานหลายสิบปี... นี่สินะ ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่เคยเจอ
เจนรบละเมียดชิมความหอมหวานจากผิวเนื้อของเด็กสาว กลิ่นกายของเธอหอมกรุ่นราวกับดอกไม้นานาพันธุ์ ผิวพรรณของเธอผ่องใสเปล่งปลั่งด้วยวัยสาว ในบางขณะ เจนรบพลันรับรู้ถึงสัมผัสที่คุ้นเคยในความทรงจำ
กลิ่นกายและรสสัมผัสของปวีณาช่างคล้ายคลึงกับปิยะวรรณผู้เป็นแม่ อย่างไม่น่าเชื่อ ในอีกสามสิบปีให้หลัง หนุ่มใหญ่อย่างเจนรบจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดและสัมผัสลูกสาวของอดีตคนรักเก่าที่เคยปันใจให้กับเพื่อนรักอย่างภาคภูมิ ซึ่งในขณะนี้กำลังนอนหลับตาพริ้มหายใจแผ่วเบา เปิดโอกาสให้คุณลุงใจดีได้ชื่นชมเรือนร่างของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืน
เจนรบปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเด็กสาวอย่างเบามือ ลูกปลาตัวน้อยพยายามรั้งชายเสื้อเอาไว้ด้วยท่าทีเขินอาย สาวน้อยขัดขืนหนุ่มใหญ่ได้เพียงครู่เดียวก็ยินยอมให้คุณลุงปลดเปลื้องเสื้อเชิ้ตตัวน้อยออกจากร่างกาย ปวีณายกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้เจนรบ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่และกายสาวที่ติดอยู่กับเสื้อผ้าของปวีณาลอยไปแตะจมูกของสุภาพบุรุษเจนรบที่หัวใจกำลังเต้นระรัวด้วยความปรารถนา
ปวีณาเหลือเพียงชุดชั้นในสีดำตัวบาง เธอเอียงหน้าหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความเสน่หาของเจนรบ แก้มของเธอแดงระเรื่อ มุมปากปรากฏเส้นโค้งบางเบา เมื่อเจนรบเลื่อนสายตาลงต่ำกว่านั้น เขาก็พบว่าสาวน้อยได้ยกมือขึ้นมาปิดบังหน้าอกหน้าใจของเธอด้วยความเขินอาย
“ลุงอย่ามองนานสิคะ” ปวีณาอมยิ้มอย่างขวยเขิน “หนูเขินนะคะลุง!!”
เจนรบถึงกับยิ้มกว้างออกมาด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของลูกปลา เขาจึงโน้มตัวลงไปสูดดมกลิ่นหอมหวานจากเนินอกของปวีณาที่เหมือนกำลังนอนเกร็งตัวด้วยความตื่นเต้น เสียงจูบแผ่วเบาดังขึ้น ประสานกับเสียงครวญคราง ของเด็กสาวที่กำลังตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“อื่ออ…อ๊ะ...อึ้ยย!!!!” ลูกปลาตัวน้อยร้องครางเสียงหลงด้วยความตื่นเต้นปนความเสียวซ่าน จนทำให้ลุงจอมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยรอยยิ้มขบขัน “อือ!!!! มองอะไรล่ะคะลุง!!”
“ลุงแค่อดขำไม่ได้” เจนรบแซวเด็กสาวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ “ก็เห็นหนูอุตส่าห์มาตามอ้อนลุงถึงที่ทำงาน ลุงก็นึกว่าหนูจะเป็นสาวสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยจะหวงเนื้อหวงตัวเหมือนสาวๆ สมัยก่อนเสียอีก…”
“ถ้าลุงหมายถึงเรื่องอย่างว่า” ปวีณาแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “หนูจะบอกลุงก็ได้ว่าหนูไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนเลยค่ะลุง”
“พูดจริงเหรอเนี่ย?” เจนรบถึงกับเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาคาดไม่ถึงว่าเด็กสาวที่กล้าแสดงออกและรุกเร้าจนคนอย่างเขาแทบจะต้านทานไม่ไหว ความจริงแล้วกลับไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศกับใครมาก่อน “หนูไม่ได้ล้อเล่นกับลุงใช่ไหม?”
“หนูจะโกหกลุงไปทำไมล่ะ?” สาวน้อยขมวดคิ้วเล็กน้อยใส่ลุงจอม “หนูไม่เคยมีแฟนมาก่อนด้วยซ้ำ ตอนที่หนูยังเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ คุณพ่อของหนูหวงหนูยิ่งกว่าอะไรดีเสียอีก”
“ไอ้ภาคนี่นะ!!” เจนรบถึงกับหลุดขำ “สงสัยมันกลัวเวรกรรมตามสนองมั้ง!!”
“คงงั้นมั้งคะ” ลูกปลาตอบด้วยรอยยิ้ม “แล้วลุงจะทำต่อไหมคะ?”
“เอ่อ…นั่นสินะ” ลุงจอมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “แล้วหนูมาชวนลุงคุยทำไมกันล่ะเนี่ย?”
“อ้าว!! หนูผิดซะงั้น” ปวีณาทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยอย่างน่ารัก “อืออ…พอหนูเผลอแล้วลุงเอาใหญ่เลยนะคะ!! อร๊าย!!! จั๊กจี้ค่ะลุง!!”
“ก็อยากมายั่วลุงทำไมล่ะ!!” ลุงจอมซุกไซ้คลอเคลียบริเวณซอกคอและกรามของเด็กสาวอย่างแผ่วเบา มือของหนุ่มใหญ่ก็ซุกซนไม่แพ้กัน มันวนเวียนอยู่บริเวณหน้าอกอวบอิ่มขนาดสามสิบสองนิ้วของปวีณาอย่างแผ่วเบา
“ลุงจอม….” ลูกปลาครางแผ่วเบาเมื่อลุงจอมพยายามจะเลิกขอบยกทรงสีดำตัวน้อยของเธอขึ้น “อือออออ…”
มือน้อยของลูกปลาพยายามขัดขืนอำนาจที่เหนือกว่าของทนายความเจนรบ ผู้ซึ่งไม่ได้เชี่ยวชาญเพียงแค่การว่าความในชั้นศาลเท่านั้น แต่ยังรอบรู้ในศาสตร์แห่งความรักที่เขาได้ศึกษาและฝึกฝนมานานหลายสิบปี การที่เขาครองตนเป็นโสดมาเป็นเวลานาน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความผิดหวังในความรักกับปิยะวรรณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สนใจในเรื่องของความสัมพันธ์ทางกายเสียเลย
หนึ่งในความลับที่ลูกปลาไม่มีวันได้รู้จากปากของผู้เป็นพ่อของเธอ ก็คือสมัยที่ยังเป็นนักศึกษาปีหนึ่งในคณะนิติศาสตร์ ภาคภูมิและเจนรบเคยชวนกันไป ‘ขึ้นครู’ ที่หอนางโลมชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เรียกได้ว่าเป็นคู่หูคู่หื่นกันเลยทีเดียว จนกระทั่งเจนรบได้มาคบหากับปิยะวรรณ เขาก็ไม่ได้ไปเที่ยวในสถานที่อโคจรแบบนั้นอีกเลย
เจนรบยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อได้เห็นยอดอกสีน้ำตาลอ่อนของปวีณาผุดโผล่พ้นขอบยกทรงขึ้นมาเล็กน้อย สาวน้อยครางแผ่วเบาด้วยความเขินอาย เพราะเจนรบไม่ได้เพียงแค่ใช้สายตามองเท่านั้น เขายังเอื้อมมือไปสัมผัสและเขี่ยปลายยอดอกที่กำลังชูชันขึ้นมาอย่างเต็มที่ด้วยความรู้สึกอยากหยอกล้อ
ปวีณาอมยิ้มแก้มแดงระเรื่อ เธอมองลุงจอมด้วยดวงตาที่หวานเชื่อม เมื่อทนต่อความน่ารักของสาวน้อยไม่ไหว ลุงจอมจึงโน้มศีรษะลงมาดูดดื่มความหวานจากทรวงอกอวบอิ่มของลูกปลาที่กล้าว่ายเข้ามาในอาณาเขตของผู้ล่าที่แสนจะเยือกเย็นอย่างเจนรบ
“อึ๊ยยย…” ปวีณาคนสวยสะดุ้งเฮือก เกร็งร่างแน่น ไหล่มนเกร็งจนเห็นได้ชัด มือเล็กจิกเข้าที่ต้นแขนของเจนรบแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของหนุ่มใหญ่ ที่ยังหยอกเย้าปทุมถันของปวีณาด้วยปลายลิ้นอย่างอ่อนโยน ไล่วนรอบปานสีน้ำตาลอ่อนและโลมเลียยอดอกที่ชูชันขึ้นอย่างน่ารัก จนเด็กสาวเริ่มบิดเร่าด้วยความรู้สึกแปลกใหม่
ลุงจอมที่คร่อมอยู่สอดมือเข้าไปใต้แผ่นหลังของปวีณาเพื่อปลดตะขอบราเซียตัวน้อย เด็กสาวแม้ยังเขินอายและประหม่าอยู่บ้าง แต่ก็ยินยอมให้ลุงจอมปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกจากร่างกายได้อย่างง่ายดายด้วยการยกลำตัวขึ้นเล็กน้อย บัดนี้น้องปลาก็เปลือยเปล่าท่อนบนอย่างงดงาม ในขณะที่ลุงจอมยังคงสวมใส่ชุดลำลองอยู่
นัยน์ตาของลูกปลามันฉายแววของความรู้สึกว่าลุงจอมกำลังเอาเปรียบเธออยู่เล็กน้อย จึงยกมือขึ้นปิดบังทรวงอกคู่งามด้วยท่าทีอ้อยอิ่งและเชื่องช้า เจนรบรับรู้ได้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะเผยเรือนร่างของบุรุษวัยห้าสิบให้สาวน้อยได้ชื่นชมเป็นขวัญตาบ้าง
ปวีณายิ้มเขินเมื่อได้เห็นแผงอกเปลือยเปล่าของลุงเจนรบก็เมินหน้าไปทางอื่น แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่เจนรบยังคงดูแลสุขภาพของตัวเองได้เป็นอย่างดี เขาเป็นหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบที่มีรูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนและไม่ผอมจนเกินไป เจนรบเลิกสูบบุหรี่มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นสมัยที่เขายังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีและโท รวมถึงในช่วงที่เริ่มทำงานเป็นทนายความ เจนรบเคยสูบบุหรี่จัดมาก จนกระทั่งเขารู้สึกถึงความผิดปกติบริเวณหน้าอก รวมถึงปัญหาเรื่องกลิ่นปากและกลิ่นตัว ทำให้เขาตัดสินใจเลิกบุหรี่อย่างถาวร และหันมาดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีเวลาว่าง จึงทำให้เขายังคงดูหนุ่มแน่นกว่าอายุจริง
เจนรบลุกขึ้นยืนตรงปลายเตียง หนุ่มใหญ่มองใบหน้าของเด็กสาวที่นอนเหยียดกายอยู่ด้านล่างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ก่อนเริ่มปลดเข็มขัดและกางเกงสแล็คสีดำของตนเอง
ออก จนทำให้ลูกปลาตัวน้อยร้องเสียงหลง
“ลุง!!! ถ้าจะถอดก็ไปถอดที่อื่นสิคะ!!” สาวน้อยใช้มือขวาปิดตา ส่วนแขนซ้ายก็ยังคงปิดบังทรวงอกของตัวเองไว้ “ทะลึ่ง!!!”
“ก็อยากมายั่วลุงทำไมล่ะปลา” เจนรบยิ้มอย่างอ่อนโยน “ลุงห้ามแล้วหนูไม่ยอมหยุด ทีนี้พอลุงเอาจริงแล้วจะมาบ่นอะไร”
“ลุง!! เดี๋ยวก่อนค่ะ!!! อึ๋ย!!” สาวน้อยถึงกับร้องตกใจเมื่อลุงเจนรบทิ้งตัวลงคร่อมร่างของเธออย่างแผ่วเบา “อร๊ายยย!! ลุงจอม!! เดี๋ยวก่อนค่ะ!!!”
เจนรบซุกไซ้บริเวณซอกคอ กราม และหน้าอกของลูกปลาตัวน้อยอย่างโหยหา มือของเขาพลิกร่างของลูกปลาไปมาอย่างทะนุถนอม ราวกับกลัวว่าเธอจะบอบช้ำ สาวน้อยครางเสียงหลงด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไป เมื่อลุงจอมที่ดูใจดีคนนั้นเริ่มแสดงความปรารถนาอย่างจริงจัง
ร่างกายของปวีณาอ่อนระทวยราวกับไม่มีกระดูก เสียงร้องของเธอเริ่มเบาลง เหลือเพียงแค่ลมหายใจถี่กระชั้นของเจนรบที่กำลังดื่มด่ำกับความงามของเรือนร่างสาวน้อยอย่างลุ่มหลง
“อืออออ….” สาวน้อยมองหน้าลุงจอมด้วยสายตาปรือปรอย เธอหมดเรี่ยวแรงในการต่อต้านอำนาจที่แท้จริงของเจนรบโดยสิ้นเชิง หนุ่มใหญ่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนถือวิสาสะในฐานะผู้อาวุโสกว่าปลดกางเกงยีนส์ของหลานสาวคนสวยออกอย่างง่ายดาย
และภาพที่ทำให้เจนรบรู้สึกพึงพอใจมากที่สุดก็คือ ร่องรอยความเปียกชื้นบริเวณเป้ากางเกงของปวีณา หนุ่มใหญ่รับรู้ได้ว่าหลานสาวคนสวยของเขาได้ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาแล้วหนึ่งครั้ง โดยไม่รอช้าให้เสียเวลา ทนายความหนุ่มจึงปลดเปลื้องกางเกงชั้นในตัวจิ๋วของสาวน้อยออกอย่างเบามือ จนเผยให้เห็น…
ความลับที่แสนเย้ายวนตรงหน้า เจนรบโน้มตัวลงกระซิบข้างหูปวีณาอย่างแผ่วเบา มือขวาของเขาลูบไล้ไปตามเนินเนื้ออ่อนนุ่มอย่างทะนุถนอม นิ้วกลางของเขาไล่ลงต่ำลงไปจนสัมผัสได้ถึงความลื่นและชุ่มชื้นที่เพิ่มมากขึ้น
เจนรบหยอกเย้าปทุมถันของลูกปลาตัวน้อยอย่างอ่อนโยน มือของเขาลูบไล้บริเวณกลีบเนื้อที่แสนนุ่มนวลและเปียกชื้น พร้อมกับการฟังเสียงครวญครางของปวีณาที่ไพเราะราวกับเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างอ่อนหวาน
“อือออ…” ปวีณาหลับตาพริ้ม ริมฝีปากของเธอเผยอออกเล็กน้อยพร้อมกับลมหายใจที่ร้อนระอุ เมื่อเจนรบผู้มากด้วยประสบการณ์ เปลี่ยนเป้าหมายจากยอดอกงาม สะโพกมน แล้วลงมาหยุดอยู่ที่หน้าท้องแบนราบของลูกปลาตัวน้อย
เจนรบละเลียดบริเวณสะดือของลูกปลาด้วยปลายลิ้น หน้าท้องของปวีณาเกร็งและหดตัวเล็กน้อยจากสัมผัสของปลายลิ้นทนายความ ส่วนมือของเขาก็ลูบไล้และนวดคลึงสะโพกของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน หนุ่มใหญ่แยกเรียวขาของปวีณาออกแล้วยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนทิ้งตัวลงตรงกลางระหว่างขาของสาวน้อยที่รีบยกมือขึ้นมาปิดบังกลีบเนื้อที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน
เจนรบผู้เปี่ยมด้วยอำนาจแกะมือของลูกปลาตัวน้อยออกอย่างนุ่มนวล ก่อนลิ้มลองชิมรสชาติน้ำหวานจากกลีบเกสรดอกไม้อันแสนงดงาม พร้อมกับเสียงร้องครางแผ่วเบาของปวีณาที่ไพเราะราวกับเสียงนกร้องในยามเช้า
“ลุงจอม…อืออออ…” ลูกปลาตัวน้อยบิดกายไปมาอยู่บนเตียงนอนสีขาว หญิงสาวอ้าเรียวขางามออกเล็กน้อย เผยให้เห็นกลีบเนื้อที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวาน ให้สุภาพบุรุษอย่างเจนรบได้ชื่นชมความงามนั้นอย่างเต็มตา
“ชอบไหมจ๊ะน้องปลา?” เจนรบเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่กำลังส่งยิ้มหวานตาปรือด้วยความสุขสม เพราะเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าบนโลกใบนี้จะมีความสุขใดที่หอมหวานและซาบซ่านเช่นนี้มาก่อน จนกระทั่งเธอได้มาพบกับลุงจอม สุภาพบุรุษหนุ่มใหญ่ผู้น่าเคารพนับถือ บุรุษผู้ยอมหลีกทางให้พ่อกับแม่ของเธอได้ครองรักกัน จนกระทั่งให้กำเนิดเธอขึ้นมา
และในตอนนี้ ในฐานะทายาทของภาคภูมิและปิยะวรรณ เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังชดใช้หนี้กรรมในอดีตที่พ่อและแม่ของเธอเคยทำไว้กับเจนรบ ด้วยการมอบทั้งร่างกายและหัวใจให้กับหนุ่มใหญ่ผู้เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อให้ครอบครัวของเธอได้อยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น
“ลุงจอม…อืออ…ปลาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะดีขนาดนี้…อืออออ” ลูกปลาตัวน้อยเผยอปากเล็กน้อย ลมหายใจร้อนผ่าวของเธอถูกปลดปล่อยออกมาจากริมฝีปากบาง “ลุงจอมขา…นี่คือเซ็กส์ใช่ไหมคะ?”
ไม่ใช่แค่ความรู้สึกแปลกใหม่ทางกาย แต่มันคือความรู้สึก...เติมเต็ม การได้ใกล้ชิดกับคนที่เธอรักและเทิดทูน มันคือความสุขที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัส การได้เห็นแววตาที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักของลุงจอม ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจที่จะมอบทุกสิ่งให้เขา
“ใช่จ๊ะ…นี่คือเซ็กส์” เจนรบตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “นี่คือสิ่งที่ผู้ชายและผู้หญิงที่รักกันจะทำเพื่อแสดงออกถึงความรักที่มีให้กันไงล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น…ลุงจอมก็รักปลาใช่ไหมคะ?” สาวน้อยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขณะที่กำลังถูกสุภาพบุรุษหนุ่มใหญ่เล้าโลมชิมความหวานจากกลีบเนื้ออ่อนนุ่มของลูกปลาตัวน้อย ที่พลัดหลงจากฝูงมาพบกับฉลามร้ายอย่างเจนรบ
เพียงแต่ฉลามตัวนี้แตกต่างจากนักล่าตัวอื่น เพราะฉลามตัวนี้ลุ่มลึกและเฉลียวฉลาดกว่าฉลามตัวไหน มันรู้ดีว่าจะต้องกลืนกินเหยื่อทั้งตัวอย่างไรโดยไม่ให้เหยื่อได้ทันตั้งตัว เจนรบรู้ดีว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรกับลูกปลาตัวน้อยที่ยังอ่อนต่อโลกกว้างอย่างปวีณา ที่บังอาจแหวกว่ายเข้ามาในพื้นที่ต้องห้าม ที่เจนรบได้เคยเอ่ยปากทักท้วงไปแล้วหลายครั้ง ในเมื่อไม่เชื่อฟังกัน เจนรบก็จะสั่งสอนบทเรียนแสนหวานให้ปวีณาได้จดจำ และตกอยู่ในห้วงแห่งความรักและความใคร่ ที่เจนรบกำลังจะปรนเปรอให้ปวีณากลายเป็นทาสรักของเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่ใช่เพื่อลงโทษภาคภูมิหรือปิยะวรรณหรอกนะ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบแทนความรักและความหวานของปวีณา สาวน้อยผู้อ่อนต่อโลก ที่กำลังถลำลึกและดำดิ่งสู่รสชาติอันแสนหวานในวังวนแห่งกามารมณ์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
“ลุงจอม…อือออ….” ลูกปลาตัวน้อยครางกระเส่าเสียงหวาน ขณะที่กำลังถูกนิ้วโป้งของเจนรบบดคลึงปุ่มสยิวที่เปียกชื้นสลับกับการดูดเลียอย่างเอร็ดอร่อย “หนู…อือออออ…เหมือน….จะปวดฉี่…หง่า!!!”
“สาวน้อยคนนี้ช่างแสนหวานและไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน” เจนรบยิ้มอย่างอ่อนโยน เขายินดีทกลืนกินน้ำหวานของลูกปลาตัวน้อยด้วยความเต็มใจ
“อึ๊ก!!! อืออ!!!!” ร่างของลูกปลากระตุกเกร็งอย่างรุนแรง สาวน้อยยกสะโพกสูงขึ้นท้าทายสายตาของเจนรบ หนุ่มใหญ่ใช้มือรองรับบั้นท้ายเปลือยเปล่าของปวีณาที่แสนอ่อนนุ่ม แน่นอนว่าเขาจะไม่สอดใส่เข้าไปในกายสาวของลูกปลาตัวน้อยที่แสนน่ารักนี้ เขาจะใช้เพียงแค่การเล้าโลมด้วยริมฝีปาก และใช้ความเป็นชายของเขาถูไถไปตามร่องกลีบสาวโดยสวมถุงยางอนามัย หรือไม่ก็พาดผ่านร่องก้นของสาวน้อยแทน
มันคือวินาทีแห่งความหวาบหวิวที่สุดในชีวิตของปวีณา เธอไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศกับผู้ชายมาก่อน อย่างมากก็แค่ช่วยเหลือตัวเอง เด็กสาวไม่เคยคิดนำสิ่งแปลกปลอมใดๆ สอดแทรกเข้าไปในร่างกาย ด้วยความตั้งใจว่าจะเก็บรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงานให้กับผู้ชายที่คู่ควร เพียงแต่ในตอนนี้ ปวีณากำลังสุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดกฎเกณฑ์ที่ตัวเองเคยตั้งไว้เมื่อครั้งก่อน
เช่นเดียวกับเจนรบ ที่ในขณะนี้เขาได้ละเลยกฎเกณฑ์และหลักจริยธรรมบางอย่างเพื่อสอนบทเรียนรักที่แสนหวานให้ปวีณาได้รับรู้และดื่มด่ำไปกับมัน ปวีณาแอ่นบั้นท้ายขึ้นเมื่อลุงจอมเร่งเร้าด้วยปลายลิ้นที่หนักหน่วงขึ้น เธอครวญครางออกมาด้วยความสุขสม จนกระทั่งแผ่นหลังของเธอยกสูงขึ้นจากเตียงนอนของเจนรบ เป็นสัญญาณว่าเธอได้ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งที่สอง
เจนรบใช้มือประคองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของปวีณาให้สัมผัสกับเตียงนอนอย่างนุ่มนวลที่สุด หนุ่มใหญ่ขยับตัวขึ้นไปนอนคร่อมบนร่างของเด็กสาว ที่หลับตาพริ้มพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข ใบหน้าที่แดงก่ำของปวีณานั้นเป็นหลักฐานอย่างดี ที่เจนรบสามารถใช้มันเป็นหลักฐานอ้างอิงในการว่าความในชั้นศาลได้
ข้าแต่ศาลที่เคารพ ขณะนี้ นางสาวปวีณา บุตรสาวของนายภาคภูมิและนางสาวปิยะวรรณ ได้ยินยอมพร้อมใจจะเป็นทาสรักของข้าพเจ้า นายเจนรบแต่เพียงผู้เดียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มีความสุขไหมจ๊ะ?” เจนรบประสานมือกับเด็กสาวที่เริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง
“ค่ะ…” ปวีณายิ้มหวาน “ลุงจอมเก่งมากเลยค่ะ แต่หนูคิดว่ามันคงไม่จบแค่ตรงนี้ใช่ไหมคะ?”
“ฉลาดเหมือนกันนะเราเนี่ย” หนุ่มใหญ่ใช้นิ้วเขี่ยปลายจมูกของเด็กสาวเล่นอย่างเอ็นดู “ไปแอบเปิดเว็บไซต์ลามกดูใช่ไหมเราน่ะ เดี๋ยวเถอะ!!! เดี๋ยวลุงจะฟ้องพ่อกับแม่เรา คอยดู!!”
“ถ้าลุงฟ้อง หนูก็จะฟ้องกลับว่าลุงปล้ำหนู!!” ปวีณาย้อนกลับ “จะลองดูไหมละคะ?”
”แหน๊ะ!! ฉลาดแกมโกงนะเราน่ะ” เจนรบยิ้มหวาน”เดี๋ยวช่วยลุงหน่อยนะ”
เจนรบได้สอนบทเรียนใหม่ให้ปวีณา ด้วยการให้สาวน้อยได้ลิ้มรสชาติแก่นแท้ของความเป็นชายขนาด 7.5 นิ้ว ลูกปลาตัวน้อยดูสงบนิ่งมากขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธประจำกายของเจนรบ
เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและแข็งแกร่งของแก่นแท้ความเป็นชายจากฝ่ายมือของตัวเอง ทนายความได้สอนบทเรียนพิเศษให้สาวนิเทศคนสวยได้เล่นซนกับท่อนเนื้อด้วยฝ่ามือ
แล้วทดลองให้เธอลองลิ้มรสชาติของมันด้วยปากและลิ้น พร้อมกับสั่งกำชับไม่ให้ฟันของเธอโดนดุ้นเนื้อโดยเด็ดขาด ปวีณาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้ติวเตอร์ชั้นดีอย่างเจนรบ ทั้งคู่เข้าขากันได้ไม่เลว
ทีนี้เจนรบคงอยากสร้างความแปลกใหม่ ก็เลยนอนตะแคง แล้วสั่งให้เด็กสาวนอนตะแคงสลับหัวและหาง หนุ่มใหญ่เปิดขาสาวน้อย จนเผยให้เห็นส่วนที่เปราะบางที่สุด ที่กำลังเปียกเยิ้ม ลูกปลาน้อยคงมีอารมณ์ร่วมมาก ทนายความจึงอยากลิ้มลองความหอมหวานจากส่วนนั้นของเธอ
”แจ๊บ…แจ๊บ…แจ๊บ”
”อ๊ะ!! ลุงจอม!! เสียว!!”
”เสียวมากไหมหนูปลา?”
”เสียวมากค่ะลุง” ปวีณาครวญเสียงหวาน ก่อนตอบโต้ลุงจอมด้วยการละเลียดแท่งทวนแห่งความเป็นชายด้วยริมฝีปาก จนเกิดเป็นเสียงที่น่าอับอายขึ้นมา เมื่อคู่รักลุงกับหลานได้ลิ้มรสชาติแก่นแท้แห่งความเป็นชายและหญิงอย่างพร้อมเพียงกัน
”แจ๊บ…แจ๊บ…แจ๊บ”
”แผล๊บ…แผล๊บ…แผล๊บ”
”อืออ…อืออ…อืออ”
เจนรบและปวีณา ในทวงท่าหมายเลข 69 อันเร้าอารมณ์ ต่างก็ส่งเสียงครวญครางสลับกับเสียงเปียกชื้นที่เร้าอารมณ์
“พอก่อนนะน้องปลา…อูยยย” เจนรบเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ เขาไม่อยากพลาดทุกรายละเอียดของช่วงเวลาพิเศษนี้ หนุ่มใหญ่ลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงาน หยิบกล่องถุงยางอนามัยออกมา แล้วเดินกลับมายังเตียงนอน เจนรบจัดแจงให้ปวีณานอนตะแคงข้าง แล้วตัวเขาก็นอนตะแคงซ้อนด้านหลังของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนวางท่อนเนื้อที่ได้รับการป้องกันอย่างดีแล้วทาบทับลงบนเรียวขาอ่อนด้านในของปวีณา
หนุ่มใหญ่กระซิบบอกให้เด็กสาวหนีบเรียวขาให้ชิดกัน แล้ลวขยับกายเบาๆ เข้าออกตรงหว่างขาของหลานสาว ด้วยความลื่นจากน้ำหล่อเลี้ยงที่ไหลออกมาจากกลีบเนื้อของปวีณา ทำให้กิจกรรมที่แสนจะหวาบหวิวในครั้งนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น
“อูยยย…ลุง…มันจั๊กจี้จังเลยค่ะ” ปวีณาครางเสียงหวานด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไป
“แล้วชอบไหมล่ะน้องปลา?” เจนรบตบรางวัลด้วยการหอมแก้มหนึ่งฟอด ในโทษฐานที่ลูกปลาน่ารักเกินไป ก่อนเพิ่มจังหวะให้เร็วและหนักแน่นขึ้น
“อืออออ…” ปวีณาหลับตาพริ้มด้วยความสุข เธอรู้สึกจั๊กจี้คละเคล้ากับความเสียวซ่านตรงบริเวณเรียวขาอ่อน ข้อพับ และลามไปจนถึงหว่างขาของเธอ สัมผัสจากท่อนเนื้อของเจนรบนั้นสร้างความรู้สึกรัญจวนใจได้มากทีเดียว แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ใช่แล้ว ปวีณาอาจจะยังเป็นสาวบริสุทธิ์ แต่เธอก็รับรู้ถึงขั้นตอนสำคัญในการมีความสัมพันธ์ทางกายว่าต้องทำอย่างไร
แต่ลุงจอมกลับไม่ยอมทำเช่นนั้น เขาต้องการทะนุถนอมปวีณาไว้ให้มากที่สุด เผื่อในอนาคตข้างหน้า หากปวีณาได้พบเจอกับผู้ชายที่หนุ่มแน่นและมีอนาคตที่สดใสกว่า เธอจะได้ไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เธอได้มอบให้ใครไปแล้ว
“อูยยย” เจนรบขยับกายเข้าออกตรงหว่างขาของปวีณาอย่างต่อเนื่อง เขาเริ่มพิ่มความเร็วมากขึ้น จนเกิดการเสียดสีกันระหว่างกลีบเนื้ออ่อนนุ่มและท่อนเนื้ออุ่นร้อน เพียงแต่ความชุ่มชื้นจากร่างกายของปวีณาเริ่มลดน้อยลงจนรู้สึกฝืด เมื่อถุงยางอนามัยเริ่มหลุดออกมาจากการเสียดสีตรงหว่างขา เจนรบรู้ดีว่าเขาไม่ควรฝืนต่อไปอีก จึงยกเรียวขาของน้องปลาขึ้นมา
เด็กสาวหันหลังกลับไปมองหน้าเจนรบด้วยความสงสัยเล็กน้อย เพราะเธอกำลังรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ได้รับอยู่พอดี
“มันเริ่มฝืดแล้วล่ะ เดี๋ยวลุงขอเปลี่ยนท่าหน่อยนะน้องปลา” เจนรบเอื้อมมือไปหยิบหมอนที่ปวีณากำลังหนุนอยู่ออกมา แล้วนำมาวางไว้ตรงกลางเตียง หนุ่มใหญ่บอกให้เด็กสาวนอนคว่ำหน้าทับหมอน โดยให้หมอนรองรับบริเวณหน้าท้อง เพื่อช่วยยกช่วงลำตัวของเด็กสาวให้สูงขึ้น เจนรบถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นบั้นท้ายเป็นกะเปาะกลมกลึงเปลือยเปล่าของเด็กสาวตรงหน้า มองต่ำลงไปก็เห็นกลีบเนื้อที่ยังคงชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน จากนั้นเจนรบจึงแยกเรียวขาของปวีณาออกให้กว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเขาเองจะถอดถุงยางอนามัยที่ชำรุดออกไปอย่างเบามือ แล้วหนุ่มใหญ่ก็ทิ้งตัวลงนอนทับแผ่นหลังของหลานสาวคนสวยอย่างอ่อนโยน
“อือออ!!! เอาอะไรมาทิ่มก้นหนูเนี่ยลุง!!” ปวีณาครางเสียงหวานปนขำ “จั๊กกะจี้อ่ะ!!”
เจนรบเลื่อนท่อนเนื้อขนาดเจ็ดนิ้วครึ่งของเขาขึ้นมา แล้ววางทาบทับกับร่องก้นของปวีณาอย่างแผ่วเบา บั้นท้ายของเด็กสาวขมิบเกร็งโดยอัตโนมัติด้วยความรู้สึกสยิวที่เกิดจากการถูกทาบทับด้วยท่อนเนื้ออุ่นร้อน และสัมผัสจากขนหนาบริเวณเนินหัวเหน่าของเจนรบที่เสียดสีกับร่องก้นของเด็กสาว หน้าขาของเขาแนบชิดกับบั้นท้ายงอนงามของปวีณา แล้วหนุ่มใหญ่ก็ทิ้งตัวลงนอนทับร่างของเด็กสาว แผงอกกว้างของเขากดทับกับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของปวีณาอย่างอ่อนโยน
“ลุง!! เล่นอะไรของลุงเนี่ย!!! หนูหายใจไม่ออกนะคะ” ปวีณาเริ่มทักท้วงด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เมื่อถูกลุงจอมทิ้งตัวนอนทับร่างของเธอ
เจนรบใช้มือซ้ายสอดเข้าไปโอบกอดทรวงอกอวบอิ่มของเด็กสาวไว้ มือซ้ายของเขาลูบไล้หน้าอกของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน ส่วนแขนขวาก็สอดลงไปด้านล่าง ปวีณาเริ่มรับรู้แล้วว่าลุงจอมต้องการทำอะไร เจนรบเลื่อนแขนต่ำลงไป จนฝ่ามืออันอบอุ่นของเขาสัมผัสกับผิวกายเนียนนุ่มบริเวณเนินสามเหลี่ยมของปวีณา เลื่อนตำลงไปอีก จนสัมผัสกับกลีบเนื้ออ่อนนุ่ม ก่อนใช้นิ้วนางและนิ้วชี้แหวกกลีบเนื้อออกอย่างเบามือ เพื่อเปิดทางให้นิ้วกลางได้บดคลึงปุ่มสยิวของปวีณาได้อย่างถนัดมือ
ขณะเดียวกัน เรียวขาของเจนรบที่กางออกเล็กน้อย ก็บีบเรียวขาของปวีณาให้แคบลง จนในที่สุดร่างกายของเด็กสาวก็ถูกหนุ่มใหญ่โอบรัดไว้จนไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้
มันอาจรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่เด็กสาวกลับรู้สึกอบอุ่นและหวาบหวิวมากกว่า มือซ้ายของเจนรบลูบไล้คลึงเคล้นทรวงอกของเธออย่างอ่อนโยน มือขวาก็หยอกเย้าบริเวณเนินเนื้อด้านล่าง ส่วนร่องก้นก็ถูกท่อนเนื้ออุ่นร้อนและถุงนุ่มของลุงเจนรบบดเบียดอยู่ตลอดเวลา
“ชอบแบบนี้ไหม?” เจนรบกระซิบข้างหูหลานสาวคนสวยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ชอบค่ะ…” ปวีณาตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แต่อึดอัดนิดหน่อยค่ะลุงจอม”
“เดี๋ยวหนูจะชอบมากกว่านี้อีก” หนุ่มใหญ่วางริมฝีปากลงบนซอกคอของเด็กสาว หนุ่มใหญ่มอบจุมพิตตรงเส้นเลือดที่เต้นตุบๆ บนคอของเด็กสาว โทษฐานที่ทำตัวน่ารักจนเกินไป
“ลุง…อืออออ” ปวีณาถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจและประหลาดใจ เมื่อถูกคุณลุงเจนรบดูดบริเวณต้นคอดังจ๊วบ ลูกปลาเพิ่งจะรู้ว่าความจริงแล้วเจนรบยังมีอาชีพเสริมอีกอย่างคือแวมไพร์ที่ชอบดูดคอหญิงสาวที่กล้าท้าทายอำนาจของเขา สุภาพบุรุษนักรักที่ซ่อนตัวตนที่แท้จริงไว้มานานแสนนาน
ในวันพรุ่งนี้ ซอกคอของปวีณาคงจะมีรอยช้ำจากการถูกลุงจอมดูด แต่โชคยังดีที่คุณลุงเลือกโจมตีบริเวณต้นคอ ดังนั้นถ้าปวีณามีเสื้อที่มีคอไม่เว้าลึกจนเกินไป ก็น่าจะช่วยปกปิดร่องรอยความรักจากริมฝีปากของลุงจอมยอดนักรักได้
แม้จะไม่มีการสอดใส่ แต่ลุงจอมก็สามารถสร้างความสุขให้กับเธอได้ไม่น้อย ปวีณารู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่าง ทรวงอกก็ถูกบีบเคล้น เนินเนื้อด้านล่างก็ถูกลูบคลึง ส่วนบั้นท้ายก็ถูกท่อนเนื้ออุ่นร้อนบดเบียดอยู่ตลอดเวลา แถมซอกคอยังถูกลุงจอมดูดจนเป็นรอยช้ำอีกต่างหาก
“อ๊า!!!!!” ปวีณาร้องเสียงหลงขณะที่กำลังจะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง เจนรบใช้ร่างกายที่หนากว่ากดทับร่างของเด็กสาวไว้แน่นขึ้น ส่วนตัวเองก็เร่งจังหวะการสัมผัสให้ถี่ขึ้น
ในที่สุด เจนรบก็กลัวว่าหลานสาวจะหายใจไม่ออก และคิดว่าปวีณาคงต้องการพักผ่อนสักครู่ เขาจึงลุกขึ้นแล้วนั่งคร่อมเรียวขาของเด็กสาว ก่อนใช้มือแหวกแก้มก้นของเธอออกอย่างเบามือ จนเผยให้เห็นช่องทางพิเศษด้านหลังของเด็กสาว หนุ่มใหญ่วางท่อนเนื้อของเขาพาดผ่านร่องก้น แล้วโยกตัวเบาๆ สลับกับใช้มือประคองอาวุธประจำกายตีแก้มก้นของสาวน้อยดังเพี๊ยะ
”เพี๊ยะ…เพี๊ยะ…เพี๊ยะ”
”ทำอะไรอ่ะลุง?”
”ตีตูดน้องปลาไงจ๊ะ”
“ทะลึ่งอ๊ะลุงจอม!!” ปวีณาหัวเราะคิกคัก แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร จนผ่านไปสักพัก เจนรบก็หยุดตีก้น และสำเร็จความใคร่ด้วยมือ ก่อนหลั่งน้ำรักสีขาวขุ่นรดใส่ร่องก้นของเธอ
“อ่าห์…” ลุงจอมเกร็งสะโพกแน่นด้วยความเสียวซ่าน ขณะที่กำลังปลดปล่อยความสุขสมออกมาจากร่างกายของเขา รดลงบนบั้นท้ายของปวีณา สาวน้อยที่นอนคว่ำอยู่หันหน้ามามองด้วยความสนใจเล็กน้อย เมื่อเห็นของเหลวบางอย่างไหลรดลงบนแก้มก้นของเธอ
ลุงจอมใช้มืดรูดแท่งทวนเข้าออกเพื่อรีดหยาดน้ำรักให้ออกมาทุกหยาดหยด ส่วนลูกปลาดูสนใจกับท่าทางของลุงจอมมาก เพราะเธอไม่เคยเห็นเขาในสภาพที่เปราะบางและเป็นส่วนตัวเช่นนี้มาก่อน
“มองหน้าลุงมีอะไรเหรอ?” เจนรบยิ้มหวานให้กับปวีณา หลังจากที่ได้ปลดปล่อยอารมณ์กำหนัดของตัวเอง นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ของหนุ่มใหญ่มองลงไปยังคราบน้ำรักสีขาวที่เปรอะเปื้อนอยู่บนบั้นท้ายงอนงามของเด็กสาว
วินาทีนั้น เขารู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย แต่เป็นความอัดอั้น ความเจ็บปวดที่สะสมมานาน... การได้อยู่กับปวีณา ได้สัมผัสเธอ มันเหมือนกับการได้เกิดใหม่จริงๆ
“เช็ดให้หนูด้วยนะคะลุงจอม!!” ปวีณามองค้อนลุงจอมเล็กน้อย แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ลุงจอมโน้มตัวลงไปจูบบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของปวีณา แล้วหอมแก้มเด็กสาวอีกหนึ่งฟอดเพื่อเป็นการให้รางวัล ก่อนเอื้อมตัวไปหยิบมวนกระดาษชำระที่วางอยู่บนโต๊ะมาเช็ดคราบน้ำรักที่เขาได้ปลดปล่อยลงบนบั้นท้ายของปวีณาคนสวย
หนุ่มใหญ่ทำความสะอาดคราบรักสีขาวที่เปรอะเปื้อนอยู่บนบั้นท้ายงามของเด็กสาวด้วยกระดาษทิชชูจนสะอาด ระหว่างที่เช็ดก็เหลือบมองและส่งยิ้มให้กับปวีณาที่แหงนหน้าขึ้นมาพร้อมกับใช้มือค้ำคาง ยิ้มตอบให้กับเจนรบอย่างมีความสุข
เมื่อนำกระดาษชำระที่ใช้แล้วใส่ถุงพลาสติกแล้วนำไปทิ้งในห้องน้ำ เจนรบก็เดินแก้ผ้าโทง ๆ ออกมาอย่างสบายอารมณ์ จนลูกปลาต้องอมยิ้มและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“นี่ลุงคะ ที่หลังใส่เสื้อผ้าหน่อยก็ได้นะ!!!” สาวน้อยบ่นด้วยความเขินอาย จนทำให้ลุงจอมหลุดขำออกมารอยยิ้มละมุน
“มาว่าลุงแบบนี้ แล้วทีตัวเองมานอนแก้ผ้าอยู่ในห้องลุง ลุงยังไม่ว่าอะไรเลย” เจนรบตอบด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนเดินกลับมาที่เตียงนอน แล้วทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างหลานสาวคนสวยที่ใช้ผ้าห่มผืนหนานุ่มคลุมร่างกายเอาไว้ “เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกมีความสุขไหมคะคนเก่ง?”
“ค่ะ…” สาวน้อยพยักหน้า “หนูมีความสุขมากเลยค่ะสำหรับเรื่องวันนี้ แต่หนูรู้สึกว่ามันยังขาดอะไรไปอยู่นะคะ”
“เริ่มใจแตกแล้วนะเราน่ะ” เจนรบเดินไปปิดสวิตช์ไฟตรงเพดาน ตอนนี้ในห้องจึงเหลือเพียงแค่แสงสีส้มสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียง “ขอพื้นที่ให้ลุงได้นอนพักผ่อนหน่อยสิคะ”
เจนรบเบียดตัวเข้ามาใกล้หลานสาวที่แบ่งผ้าห่มให้เขาอย่างเต็มใจ ก่อนดึงมือของปวีณาขึ้นมาหอมหนึ่งทีด้วยความสุขที่เอ่อล้นอยู่ในหัวใจ
“เป็นยังไงบ้างค่ะลุง?”
“ลุงมีความสุขมากเลย”
“จริงอ่ะ?”
“จริงซิ ถ้าลุงยังใจแข็งกับปลา ลุงคงไม่มีวันได้รู้ว่าความสุขที่แท้จริงมันเป็นยังไง” เจนรบสารภาพด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ขอบคุณนะคนดีของลุง ที่ไม่เบื่อความงี่เง่าของลุงแล้วหนีหายไปเสียก่อน”
“ก็เกือบไปแล้วล่ะค่ะลุงจอม” ปวีณาตอบด้วยรอยยิ้ม “ลุงนะลุง หนูยอมถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะมาเล่นตัวอีก”
“ลุงขอโทษนะ” เจนรบจูบหลังมือของปวีณาอีกครั้ง “ขอโทษที่ลุงเกือบทำให้ปลาต้องเสียใจ”
“แล้วอย่าทำอีกนะคะ” ลูกปลาส่งยิ้มหวานให้กับเขา “รู้ว่าปลารัก ก็อย่าทำให้ปลาผิดหวังนะคะ สัญญากับปลาได้ไหมคะ ว่าลุงจะรักปลาคนเดียวตลอดไป”
เจนรบผู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชนยิ้มละมุน ดวงตาของเขายังคงฉายแววของความไม่มั่นคงและไม่มั่นใจอยู่บ้าง เพราะบาดแผลจากความรักครั้งเก่ากับแม่ของปวีณายังคงฝังลึกอยู่ในใจ แม้เวลาจะผ่านมานานหลายสิบปี และในตอนนี้ ลูกสาวคนสวยของอดีตคนรักเก่ากำลังเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง ราวกับเงาอดีตที่หวนกลับมาหลอกหลอนเขาซ้ำรอยเดิม
“ลุงจะรักหนูตลอดไป” เจนรบตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แต่ลุงก็พร้อมหลีกทางให้ ถ้าวันหนึ่งลูกปลาได้เจอกับผู้ชายที่หนุ่มแน่นกว่าลุง และสามารถมอบอนาคตที่ดีกว่าลุงให้หนูได้”
เขาพูดออกไปทั้งที่ใจเจ็บปวด กลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่พูดจะเป็นจริง... เขารักเธอสุดหัวใจ แต่อีกสิบปีข้างหน้า เขาจะเป็นเพียงชายชรา ในขณะที่เธอยังคงงดงาม เขาจะรั้งเธอไว้ได้อย่างไร? ความกลัวที่จะสูญเสียเธอไปเหมือนที่เคยเสียปิยะวรรณมันกัดกินใจเขามานานหลายสิบปี
“ไม่นะคะ!!! หนูรักลุงนะคะลุงจอม” ปวีณาขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ “หนูยอมทำถึงขนาดนี้แล้ว ลุงยังไม่เชื่อใจหนูอีกเหรอคะ?”
“ฮืม…เด็กน้อยเอ๋ย” เจนรบยิ้มเอ็นดู “น้องปลา ฟังลุงนะ อีกสิบปีข้างหน้า หนูจะเติบโตเป็นหญิงสาวที่สวยสะพรั่งยิ่งกว่าตอนนี้ และในตอนนั้นลุงก็คงเป็นเพียงชายชราที่โรยราและเสื่อมโทรม เมื่อถึงเวลานั้น หนูยังมั่นใจได้อีกหรือเปล่าว่าหนูจะยังรักลุงได้เหมือนเดิม”
“เพราะแบบนี้ ลุงถึงพยายามปิดกั้นความรู้สึกที่แท้จริงของลุงใช่ไหมคะ?” ปวีณาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ
“อืมม….” เจนรบพยักหน้าน้อมรับอย่างตรงไปตรงมา “ลุงไม่อยากต้องเจ็บปวดเหมือนที่เคยผ่านมาอีกแล้ว”
“ทำไมชีวิตของลุงถึงจมอยู่กับอดีตตลอดเวลาเลยคะ?” ลูกปลาเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ “ทั้งที่หนูอยู่ตรงนี้กับลุง แต่ลุงกลับคิดถึงแต่อดีตที่ผ่านมาตลอดเลยอ่ะ คนแก่นี่เหมือนกันหมดทุกคนเลยเหรอเนี่ย จมปลักเกินไปแล้วนะลุง”
เธอเข้าใจความกลัวของเขา แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ที่เขาไม่เชื่อมั่นในความรักของเธอ ทำไมลุงจอมถึงไม่เข้าใจนะ ว่าสำหรับปลาแล้ว ลุงคือปัจจุบันและอนาคต ไม่ใช่อดีตที่ต้องกังวล... ปลาไม่ได้ต้องการผู้ชายที่หนุ่มกว่า หรือมีอนาคตไกลกว่า ปลาต้องการแค่ลุงจอมคนเดียวเท่านั้น
“ลุงขอโทษนะ” เจนรบโอบกอดร่างเล็กของลูกปลาไว้แนบอกอย่างอ่อนโยน แทนคำปลอบโยน “อย่าถือโทษโกรธลุงเลยนะ ที่หนูพูดมาน่ะมันก็จริง ชีวิตของลุงมันไม่ได้มีความสุขอะไรมากมายนักหรอก ลุงแบ่งทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตอย่างชัดเจน เรื่องไหนคือเรื่องส่วนตัว และเรื่องไหนคือเรื่องของหน้าที่การงาน”
“แล้วหนู…เป็นเรื่องส่วนตัว หรือเป็นเรื่องหน้าที่ของลุงคะ?” ปวีณาเอ่ยถามลุงจอมตามตรง ดวงตาของเธอกระจ่างใส แต่แฝงไปด้วยความเศร้าหมอง
“หนูปลา…” เจนรบเอ่ยเรียกชื่อเด็กสาวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและอ่อนโยน
“ลุงคะ…” ปวีณามองหน้าเจนรบอย่างอ้อนวอน “ได้โปรดนะคะลุง เปิดหัวใจของลุงให้หนูได้เข้าไปอยู่ข้างในนะคะ หนูรู้ค่ะ ว่าลุงไม่ยอมทำอะไรที่มากกว่านี้ เพราะลุงรักและเป็นห่วงอนาคตของหนู”
ปวีณาไม่ได้โง่เขลา เธอรับรู้ได้ว่าความจริงแล้วเจนรบพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองเผลอทำในสิ่งที่อาจจะทำให้เธอต้องเสียใจในภายหลัง ความบริสุทธิ์ของปวีณามีค่าเกินกว่าที่เจนรบจะประเมินได้ หนุ่มใหญ่อยากให้เธอเก็บรักษาสิ่งนี้ไว้ เพื่ออนาคตที่เธออาจจะได้พบกับคนที่เหมาะสมและดีพร้อมกว่าคนแก่อย่างเขา
“แค่นี้ลุงก็รู้สึกผิดมากพอแล้วนะ” เจนรบสารภาพด้วยน้ำเสียงด้วยโทนเสียงและใบหน้าที่ดูเศร้าหมองลง
“ลุงไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกค่ะ” ร่างบางซบลงบนอกเปลือยเปล่าของหนุ่มใหญ่อย่างแนบชิด “นะคะ…ปลาอยากเป็นภรรยาของลุง”
“หนูปลา…” เพียงแค่ได้ยินคำพูดนี้ ร่างกายของเจนรบก็รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว ดวงตาของลูกปลาช่างออดอ้อน กลิ่นกายของเธอก็หอมหวานเย้ายวนใจ แม้จะยึดมั่นในศีลธรรมหรืออุดมการณ์มากเพียงใดก็ตาม แต่เจนรบก็ยังคงเป็นผู้ชายคนหนึ่ง และปวีณาก็เป็นผู้หญิง มันเหมือนกับน้ำมันกับไฟ ที่เมื่ออยู่ใกล้กันย่อมเกิดการลุกไหม้เป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรงจนยากจะต้านทาน
ปวีณาหลับตาพริ้ม รอคอยให้เจนรบเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้มอบจุมพิตอันแสนหวานให้กับเธอ หนุ่มใหญ่ได้แต่จ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ภาพความทรงจำอันแสนหวานในอดีตของเขากับปิยะวรรณหวนกลับมาฉายซ้ำในความคิด
“ลุงต้องปล่อยวางอดีตนะคะ ลุงจอมยังมีปลาอยู่ตรงนี้เสมอนะคะ” ปวีณารับรู้ได้ว่าหนุ่มใหญ่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอยู่ในใจ “ใช้ความรู้สึกนำหน้าเหตุผลบ้างก็ได้นะคะ”
“ลุงจะพยายามนะ” เจนรบเอื้อมมือไปลูบแก้มของปวีณาอย่างอ่อนโยน ก่อนโน้มตัวลงจูบหน้าผากมนของเด็กสาว ตามด้วยพวงแก้มใส และริมฝีปากอิ่ม ทั้งคู่คลอเคลียกันด้วยความรักและเสน่หาที่เอ่อล้นอยู่ในหัวใจ เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เจนรบก็พบว่าร่างกายของเขาเริ่มตอบสนองต่อสัมผัสอันแสนหวานนี้มากขึ้น
“ถ้าลุงต้องการ…ปลาก็ยอมนะคะ” สาวน้อยครางเสียงหวานแผ่วเบา “อือออ...”
“ขอลุงชื่นใจอีกสักทีนะ เป็นยาชูกำลังคนแก่นะคะ คนดีของลุง” เจนรบซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นของลูกปลาตัวน้อย ความรู้สึกที่อยากจะทะนุถนอมเด็กสาวเริ่มเลือนราง เมื่อหนุ่มใหญ่เริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความสุขกับลิซ่า เขาแค่อยากเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนสักหน่อย
“ฟ่อด…ฟ่อด…ฟ่อด”
“ลุงจอม…อ๊ะ…อ๊ะ”
“ฟ่อด…ฟ่อด…ฟ่อด”
“อ๊า…ลุงจอม!!” สาวน้อยร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่อเจนรบเปลี่ยนไปเป็นโหมดที่เร่าร้อนและรุนแรงมากขึ้น หนุ่มใหญ่ซบใบหน้าลงตรงกลางอกอวบอิ่มแล้วดูดเลียปทุมถันของปวีณาอย่างหลงใหล เจนรบขบเม้มยอดอกที่ชูชันขึ้นมาด้วยความหมั่นเขี้ยว มือของเขาก็ลูบไล้ไปตามสะโพกมนและหน้าท้องแบนราบของลูกปลาที่บิดเร้าด้วยความเสียวซ่านและเจ็บปวด
มือของเจนรบเลื่อนลงต่ำ นิ้วกลางของทนายความหนุ่มบดคลึงจุดที่เปียกชื้นอย่างชำนาญ ปวีณาครางเสียงหวาน ร่างกายของเธอกระตุกเกร็ง หนุ่มใหญ่เปลี่ยนตำแหน่งการโจมตีจากทรวงอกมาเป็นบริเวณกลางหน้าท้องของสาวน้อย เขาสูดดมและโลมเลียจุดที่บอบบางนั้น โดยเฉพาะบริเวณรอบสะดือที่บุ๋มลงไปเล็กน้อย จนลูกปลาน้อยต้องเกร็งหน้าท้องและแอ่นตัวขึ้นด้วยความเสียวซ่าน แต่มันยังไม่เพียงพอสำหรับทนายความหนุ่มใหญ่ ที่เลื่อนต่ำลงไปอีกจนถึงท้องน้อย แล้วเลื่อนลงต่ำไปอีก จนกระทั่งปลายจมูกของสุภาพบุรุษทนายความสัมผัสได้ถึงแผงขนอ่อนนุ่มบริเวณเนินสาว
“ลุงจอม!! อือออ!!” ปวีณาเงยหน้าขึ้น อ้าปากค้างด้วยความตกใจและเสียวซ่าน เมื่อเจนรบกำลังลิ้มรสความหวานของความเป็นหญิงด้วยปลายลิ้นอย่างอ่อนโยน
ในเมื่อปวีณาเอ่ยปากถึงขนาดนี้แล้ว คงไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะต้องยึดมั่นในกฎเกณฑ์หรือค่านิยมทางสังคมอีกต่อไป จากนี้ไปเขาจะปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามธรรมชาติ เป็นไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจ
“อือ…ลุงจอม…” ร่างเล็กของลูกปลาตัวน้อยกระตุกด้วยความเสียวซ่าน เธอใกล้จะถึงจุดสุดยอดจากการเล้าโลมของเจนรบผู้มากประสบการณ์ เจนรบที่อดกลั้นความรู้สึกมาเป็นเวลานาน เมื่อได้ปลดปล่อยออกมาก็เหมือนกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดยั้งได้อีกต่อไป เมื่อมั่นใจว่ากลีบเนื้อของปวีณาชุ่มฉ่ำมากพอแล้ว เขายกเรียวขาขวาของเด็กสาวขึ้น แล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง ก่อนดันท่อนเนื้อขนาดเจ็ดนิ้วครึ่งของเขาแหวกเข้าไปในช่องทางแคบและตอดรัดของลูกปลาตัวน้อยให้นุ่มนวลที่สุด
“ลุงจอม…อือออ…” สาวน้อยหลับตาปี๋ด้วยความเจ็บปวด “เบาๆ หน่อยนะคะลุงจอม หนูไม่เคยจริงๆ ค่ะ”
“จ๊ะ…” เจนรบโน้มตัวลงจูบริมฝีปากของสาวน้อยอย่างอ่อนโยน เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ก่อนลุกขึ้นแล้วแหวกเรียวขาของปวีณาออก เพื่อให้ง่ายต่อการนำพาความเป็นชายของเขาเข้าไปสำรวจภายในร่างกายของลูกปลาตัวน้อย
“อืออ…ฮือ…” ลูกปลาตัวน้อยสะอื้น เมื่อความเป็นชายของเจนรบแทรกเข้าไปภายในตัวเธอ และความเจ็บปวดก็เริ่มทวีคูณมากขึ้น เมื่อท่อนเนื้อของลุงเจนรบกำลังบาดเนื้ออ่อนภายในช่องทางของเธอ “อ๊า…ลุงจอม…เจ็บ….”
“อูยยย….” ลุงจอมถึงกับเป่าปาก ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสความบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิต หนุ่มใหญ่เหลือบมองลงไปด้านล่าง ก็พบคราบเลือดสีแดงสดติดออกมาจากแก่นกายของเขา “หนูปลาเจ็บมากไหม?”
“เจ็บค่ะ…ฮือ…ปลาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเจ็บแบบนี้” ลูกปลาครวญด้วยความเจ็บปวด “ทำเบาๆ นะคะลุงจอม”
เจนรบแช่ท่อนเนื้อของเขาค้างไว้เช่นนั้นสักพัก เพื่อให้ช่องทางของลูกปลาได้ปรับตัว เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่ หนุ่มใหญ่เริ่มโยกเอว เมื่อเห็นว่าสาวน้อยเริ่มพร้อมแล้วสำหรับบทรักบทต่อไป
“อือ…อือ…อืมมม” ลูกปลาตัวน้อยครางเสียงหวานปนสะอื้น เธอเม้มริมฝีปากแน่นและดูดนิ้วโป้งของตัวเองเพื่อระบายความเจ็บปวดและความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับจากการถูกลุงจอมเปิดบริสุทธิ์เป็นครั้งแรก สาวน้อยมองหนุ่มใหญ่ด้วยสายตาปรือปรอยและรอยยิ้มแห่งความสุข ที่ได้เห็นเจนรบมีความสุขเสียที
ขณะเดียวกัน เจนรบก็ส่งยิ้มหวานให้กับลูกปลา หนุ่มใหญ่ลูบไล้หน้าท้องของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจว่าจากนี้ไปปวีณาจะไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เมื่อร่างกายและหัวใจของทั้งคู่จะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวนับจากนี้ไป
ในค่ำคืนนั้น แทนที่ลุงกับหลานจะได้นอนหลับพักผ่อน ต่างฝ่ายต่างหยอกล้อกันด้วยความรักและความเสน่หาที่เปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจ ปลดเปลื้องหน้ากากและบทบาททางสังคม ไม่สนใจว่าในอนาคตใครจะนำเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร
“ลุงจอม…ลุงต้องรับผิดชอบหนูด้วยนะคะ” ปวีณาครวญทั้งน้ำตาบนแผงอกเปลือยเปล่าของเจนรบ ที่โอบกอดสาวน้อยไว้แนบกับตัว
“แน่นอน…” หนุ่มใหญ่จูบหน้าผากของเด็กสาวในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา “ลุงต้องขอบคุณหนูปลานะ ถ้าไม่ได้หนู ลุงคงไม่มีวันได้รู้ว่าความสุขที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร”
“แต่ลุงน่ะ ทำให้หนูเจ็บ…” สาวน้อยค้อนให้ลุงจอมเล็กน้อย เพราะยังคงรู้สึกเจ็บปวดจากการเสียความบริสุทธิ์เป็นครั้งแรกอยู่ไม่หาย
“ลุงขอโทษนะ” เจนรบยิ้มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับขยี้ฝ่ามือเบาๆ ที่กลางศีรษะของเด็กสาวด้วยความเอ็นดู “ก็อยากมายั่วลุงทำไมล่ะคะ? ลุงอุตส่าห์วางตัวดีๆ แล้ว หนูมาทำให้ลุงเสียผู้ใหญ่หมดเลย”
“ก็ช่วยไม่ได้นี่คะ ใครใช้ให้ลุงใจง่ายเอง” ปวีณาหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข “อือ!!!! ลุงจอม!!! พอได้แล้วนะคะ!!!”
เจนรบรู้สึกราวกับว่าได้ปลดปล่อยพันธนาการที่ผูกมัดเขาไว้กับความทุกข์และความผิดหวังจากความรักครั้งเก่ากับปิยะวรรณ หนุ่มใหญ่ดูผ่อนคลายและมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เขาคลอเคลียเด็กสาวในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม โลกที่เคยเป็นสีเทาและน่าเบื่อของเขากลับมาสดใสอีกครั้งด้วยรอยยิ้มและคำหวานจากปวีณา ลูกสาวของปิยะวรรณ อดีตคนรักที่เคยสร้างบาดแผลในใจเมื่อวันวาน ทั้งสองต่างหยอกเย้าและคลอเคลียกันในวงแขนอย่างอบอุ่น จนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด
ในยามสาย เจนรบตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น เขาเห็นคราบสีแดงสดและรอยเปรอะเปื้อนที่ผ้าปูที่ที่นอน เลยยอมให้ปวีณานอนหลับพักผ่อนต่อ เพราะเธอยังคงรู้สึกอ่อนเพลียจากเหตุการณ์เมื่อคืน
“นอนพักผ่อนไปก่อนนะหนูปลา” เจนรบจูบที่หน้าผากของสาวน้อยที่ยังคงนอนงัวเงียอยู่บนเตียง “เดี๋ยวลุงออกไปซื้ออะไรอร่อยๆ มาฝากนะ”
“ค่ะ…” สาวน้อยส่งยิ้มหวานให้กับเขา “อย่าไปนานนะคะลุงจอม”
เจนรบยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างของบ้าน แล้วแวะมองตัวเองในกระจกเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมก่อนออกจากบ้านไป ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือไม่ แต่เจนรบรู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อน หรือว่านี่จะเป็นผลพวงของความรักกันนะ
“บ้าจริง…คิดอะไรของมึงวะไอ้จอม” เจนรบนึกขำให้กับความคิดของตัวเอง บางทีนี่อาจจะเป็นอานุภาพของความรักก็เป็นได้ ปีนี้เจนรบก็ห้าสิบกว่าแล้ว แต่กลับมาตกหลุมรักสาวน้อยวัยยี่สิบต้นๆ อย่างปวีณา ลูกสาวของแฟนเก่าและเพื่อนรักของเขาเอง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าในวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เจนรบต้องการทำในตอนนี้ก็คือ การดูแลน้องปลาให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น ที่เจนรบและปวีณาได้เปิดใจและมอบความรู้สึกให้แก่กัน ทั้งคู่ก็แอบคบหากัน และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับโดยไม่ให้ใครรู้ โดยเฉพาะภาคภูมิและปิยะวรรณ ที่บางครั้งก็จะแวะมาเยี่ยมลูกสาวที่กรุงเทพฯ และบางครั้งก็ชวนเจนรบไปพบปะสังสรรค์กันตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อรำลึกถึงความหลังในสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา
“ปีหน้าลูกสาวคนโตของกูก็จะแต่งงานแล้ว” ภาคภูมิเอ่ยขึ้น “แล้วเมื่อไหร่มึงจะแต่งงานสักทีวะเจนรบ?”
“นั่นสินะจอม” ปิยะวรรณเสริม “จอมจะอยู่คนเดียวแบบนี้ตลอดไปจริงๆ เหรอ?”
“ก็…” เจนรบเหลือบมองไปยังลูกปลาที่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ก่อนหันกลับมามองเพื่อนรักและคนรักเก่าด้วยยิ้มละมุน เพราะรู้แล้วว่าใจตนเองอยู่ที่ใคร “มันยังไม่ถึงเวลา จะให้ทำยังไงได้ล่ะ?”
“ไม่ถึงเวลา ตลกละไอ้จอม กูชักเป็นห่วงมึงแล้วว่ะ” ภาคภูมิตักเนื้อย่างใส่จานของเจนรบด้วยความเป็นห่วง “กูรู้จักนักศึกษาสาวสวยหลายคนเลยนะ สนใจจะลองผูกปิ่นโตเลี้ยงต้อยดูไหมล่ะ? กูติดต่อให้ได้ หรือถ้าไม่ชอบเด็ก ก็มีแม่หม้ายทรงเครื่อง อยากได้แบบไหน กูจัดให้แกได้หมดนะเพื่อน”
“นี่ภาค!!! พูดจาอะไรเกรงใจชั้นหน่อยสิ ลูกเราก็นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ!!!” ปิยะวรรณทักท้วงสามีด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย ทำเอาเจนรบเผลอยิ้มขึ้นมา ส่วนปวีณาคนลูกก็ทำหน้าเลอหลาตาแป๋วไปตามเรื่อง
“กูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว…” เจนรบสารภาพขณะที่กำลังคีบเนื้อย่างชิ้นที่ภาคภูมิส่งมาให้กินอย่างเอร็ดอร่อย
“ใครวะไอ้จอม?” ภาคภูมิถามด้วยความสงสัย “สาวที่ไหนกัน?”
“สักวันหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กูจะบอกมึงเอง ไอ้ภาค” เจนรบยิ้มให้กับภาคภูมิอย่างมีเลศนัย
เจนรบพยายามสบตาปวีณาให้น้อยที่สุด ตอบคำถามของภาคภูมิและปิยะวรรณอย่างระมัดระวัง ทุกคำพูดเหมือนต้องชั่งน้ำหนัก กลัวว่าจะเผลอแสดงอะไรออกไปให้อีกฝ่ายสงสัย บรรยากาศที่ควรจะอบอุ่นกลับแฝงไปด้วยความอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“ฮั่นแน่!! กูว่าผู้หญิงที่มึงชอบ ต้องไม่ธรรมดาแน่” ภาคภูมิแซวเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่ได้สวยเพอร์เฟ็คแบบเปิ้ลสมัยเรียน กูว่ามึงคงไม่มองผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว จริงไหม?”
“ภาค….” ปิยะวรรณทำเสียงดุใส่สามีที่ อยู่ดีๆ ก็พูดถึงเรื่องในอดีตที่ทั้งสามคนอยากจะลืมเลือนไปแล้ว “จะไปรื้อฟื้นอดีตทำไม!?”
“เอ่อ…” นักธุรกิจหนุ่มใหญ่จากเชียงใหม่ขยับแว่นตาด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจ “ขอโทษทีว่ะไอ้จอม กูไม่ได้ตั้งใจ”
“อืม…ช่างมันเถอะ” เจนรบดูสงบนิ่งกว่าที่เคยเป็น “เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว ปล่อยวางบ้างก็ดี”
แน่นอนว่าคำตอบของเจนรบทำให้ภาคภูมิและปิยะวรรณรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ในขณะที่สาวน้อยอย่างปวีณาที่นั่งฟังอยู่ด้วยท่าทีสำรวม นั้นแอบยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดลุงจอมของเธอก็สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการแห่งความเจ็บปวดในอดีตได้เสียที
ปวีณาได้แต่นั่งเงียบๆ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจเต้นระรัว เธอกลัวเหลือเกินว่าพ่อกับแม่จะจับได้ หรือสังเกตเห็นสายตาที่ลุงจอมแอบส่งมาให้... เมื่อไหร่กันนะ ที่เราจะสามารถแสดงความรักต่อกันได้อย่างเปิดเผยเสียที
“ก็ดีแล้วล่ะ” ภาคภูมิสารภาพด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “กูเองก็รู้สึกเสียใจนะกับสิ่งที่กูเคยทำลงไป กูไม่เคยรู้สึกดีเลยที่ทำแบบนั้นกับมึงนะไอ้จอม”
“อะไรของมึงวะไอ้ภาค?” เจนรบเงยหน้ามองเพื่อนรักด้วยความสงสัย “เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว กูบอกแล้วไง ว่าให้ปล่อยผ่านไปเถอะ”
“กูรู้…” ภาคภูมิตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “กูเห็นมึงเป็นแบบนี้มาสามสิบกว่าปีแล้ว กูบอกตามตรงนะเพื่อน กูไม่สบายใจเลยว่ะ”
“ภาค…จอม” ปิยะวรรณเริ่มทำเสียงดุขึ้น “ถ้าจะเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจแบบลูกผู้ชายอะไรยังไง เกรงใจชั้นกับลูกบ้างก็ดีนะ”
“ดุไม่เปลี่ยนเลยนะเปิ้ล” เจนรบอดแซวอดีตคนรักไม่ได้ “อย่าไปซีเรียสขนาดนั้นเลยน่า จอมไม่ได้โกรธไอ้ภาคหรอก เรื่องมันตั้งนานนมแล้ว คนเราเกิดมาจะมีวันพรุ่งนี้สักกี่วัน ทำตัวให้มีความสุขดีกว่า เวลาเห็นเพื่อนเก่ามีชีวิตที่ดี เราก็ต้องยินดีไปกับเพื่อนด้วย จริงไหมไอ้ภาค” ทนายความหนุ่มหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาเพื่อขอชนแก้วกับเพื่อนรัก “ชนแก้วหน่อยเพื่อน”
“ชนแก้ว” ภาคภูมิยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
บรรยากาศในการพบปะสังสรรค์ของเพื่อนเก่าสมัยเรียนอบอวลไปด้วยความสุข เจนรบทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายมากขึ้น ตอนแรกปิยะวรรณก็ดูลำบากใจ เพราะรู้ตัวดีว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เจนรบต้องเสียใจ ไม่ต่างอะไรจากภาคภูมิ เพียงแต่เจนรบในวันนี้กลับดูสบายใจและมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็น แต่คนที่ดูมีความสุขมากที่สุดเห็นจะไม่พ้นปวีณา ที่ได้เห็นรอยยิ้มและใบหน้าที่ดูผ่อนคลายของลุงจอม แม้จะไม่สามารถแสดงความรักออกมาต่อหน้าได้ แต่ทั้งคู่ต่างก็แอบเหลือบมองกันด้วยความรักใคร่อย่างหวานชื่นเมื่อมีโอกาส
ก่อนเดินทางกลับ เจนรบโบกมือทักทายภาคภูมิ ปิยะวรรณ และปวีณาด้วยท่าทีอารมณ์ดี
“เดินทางดีๆ นะไอ้ภาค เปิ้ล” เจนรบยิ้มให้กับเพื่อนและคนรักเก่า “แล้วเจอกัน น้องปลา ตั้งใจเรียนนะ อีกไม่กี่เทอมก็จะจบแล้ว”
“ไว้วันไหนว่างๆ มึงขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่บ้างสิ” ภาคภูมิตบบ่าเพื่อนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย “เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง อุดอู้อยู่แต่ในกรุงเทพฯ น่าเบื่อจะตาย”
“ขอรับไว้พิจารณาแล้วกัน” เจนรบพยักหน้า “แล้วเจอกันไอ้ภาค”
ในช่วงเวลาปกติ ปวีณาก็ยังคงทำหน้าที่เป็นนักศึกษาที่ดี เธอตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ อาจจะมีบ้างที่เธอไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงตามประสาวัยรุ่น แต่เธอเลือกใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ด้วยความน่ารักสดใสของเธอ ทำให้มีหนุ่มๆ จำนวนไม่น้อยเข้ามาขายขนมจีบและตามจีบเธออย่างไม่ขาดสาย
ปวีณาเป็นมิตรกับเพื่อนทุกคน ทั้งเพื่อนผู้ชายและเพื่อนผู้หญิงของเธอ แต่เมื่อใดก็ตามที่หัวข้อสนทนาเริ่มเกี่ยวกับเรื่องความรักและหัวใจ ลูกปลามักจะรีบเปลี่ยนเรื่องไปเป็นเรื่องอื่น เพราะเธอไม่อยากทำให้ลุงจอมไม่สบายใจ
ยังมีเด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของปวีณา เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า อาร์ต อภิวัฒน์ หนุ่มนิเทศศาสตร์หน้าตาดีที่เป็นเพื่อนร่วมกลุ่มของปวีณา แน่นอนว่าอาร์ตเป็นอีกคนที่แอบชอบลูกปลามาตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่ง เพียงแต่เขาไม่กล้าเข้าไปจีบ ในขณะที่ปวีณาเองก็รู้ถึงความรู้สึกของอาร์ต เพียงแต่เธอเห็นความดีของเขา และอยากเก็บเขาไว้ในสถานะเพื่อนต่อไป
“สวัสดีค่ะลุงจอม” ปวีณาส่งยิ้มหวานให้กับเจนรบที่ขับรถมารับเธอตรงสถานีรถไฟฟ้าสยาม
“เสาร์ที่แล้วไปเที่ยวบางแสนมาเหรอ?” เจนรบเอ่ยปากถามเด็กสาวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “สนุกไหม?”
“ใช่ค่ะลุง” ปวีณายิ้มหวานให้กับเขา “ก็ไปเฮฮาปาจิงโกะกับเพื่อนมาน่ะคะ”
“หนุ่มคนที่ถ่ายรูปกับปลาน่ะ ชื่ออะไรเหรอ?” เจนรบถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบเฉย “เหมือนลุงเคยเห็นหน้าเขาตอนที่ไปบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัยนะ”
ใจมันร้อนวูบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แม้จะรู้ว่าไม่ควรแสดงออก แต่ภาพนั้นมันบาดตาเหลือเกิน... เด็กหนุ่มรุ่นเดียวกัน หน้าตาดี... มันตอกย้ำความจริงที่ว่าเขากับปลาแตกต่างกันมากแค่ไหน... กลัวเหลือเกินว่าสักวัน เธอจะมองเห็นความจริงข้อนี้แล้วเดินจากไป
“อ่อ…นั่นอาร์ตค่ะลุง” ปวีณายิ้มให้กับเจนรบ “เป็นเพื่อนกันน่ะคะลุง อยู่สาขาเดียวกันค่ะ”
“แต่ลุงเห็นมีบางรูปที่หนูไปคล้องคอกับไอ้หนุ่มคนนั้นด้วยนะ” เจนรบพยายามข่มความรู้สึกหึงหวงเอาไว้ “เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ เหรอ?”
“ฮึๆๆ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปวีณาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ทำเอาเจนรบขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“มันน่าขำตรงไหนกัน?” น้ำเสียงของหนุ่มใหญ่เริ่มดุขึ้นเล็กน้อย “ไปเที่ยวแบบนั้นได้ยังไงหาปลา กินเหล้ากินเบียร์ ถ้าเกิดเมาขึ้นมาดูแลตัวเองไม่ได้จะทำยังไง?”
“ลุงจอมนี่น่ารักจังเลยค่ะ” ปวีณาพยายามกลั้นหัวเราะ “หนูคิดเอาไว้อยู่แล้วล่ะค่ะ ว่าถ้าเพื่อนแท็กรูปมา คุณลุงถ้ำมองแถวนี้จะต้องมาส่องแล้วคิดไปไกลแน่นอน”
“นี่ปลากล้าว่าลุงเหรอ?” เจนรบเริ่มรู้สึกไม่พอใจ “ให้มันน้อยๆ หน่อยนะ ยังไงลุงก็เป็น...”
“เป็นอะไรคะลุง?” ปวีณาแกล้งหยอกเจนรบ “ตอบมาให้ดีๆ นะคะว่าเป็นอะไร”
“เป็น…เป็นลุงของหนูไง” เจนรบตอบด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักเล็กน้อย
“เหรอคะ? จริงเหรอ?” ลูกปลาพับแขนเสื้อขึ้นมากอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “แต่หนูว่าลุงกำลังพูดไม่ตรงกับใจนะคะ?”
“จะยังไงก็ช่างเถอะ ลุงไม่เห็นด้วยที่หนูจะไปเที่ยวที่แบบนั้นอีก แล้วเพื่อนผู้หญิงที่ไปด้วยกันเยอะไหม?” เจนรบพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“ก็ตามรูปที่เห็นนั่นแหละค่ะลุงจอม เพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น” ปวีณาตอบด้วยรอยยิ้ม “ก็ไปเที่ยวกันตามภาษาเพื่อนนี่แหละค่ะ”
“ลุงก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่ลุงแค่อยากให้หนูระมัดระวังตัวให้มากๆ หน่อยนะ” หนุ่มใหญ่ออกปากเตือนขณะที่กำลังชะลอรถตรงสี่แยกไฟแดงด้านหน้า “เหล้าเบียร์ก็กินแต่พอเหมาะ อย่ากินมากเกินไป มันไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วก็ระวังพวกผู้ชายไว้ให้ดีๆ คนสมัยนี้ไว้ใจยากนะ”
“นี่ลุงเป็นพ่อหนูหรือเปล่าคะเนี่ย?” ปวีณาหรี่ตามองเจนรบด้วยความสงสัย “หนูว่าลุงกำลังหึงหนูอยู่นะคะ?”
เธอมองท่าทางของลุงจอมแล้วก็อดขำระคนเอ็นดูไม่ได้ คนแก่ขี้หึงจริงๆ เลย... แต่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าลุงรักและแคร์เรามากแค่ไหน เธอตัดสินใจอธิบายเรื่องอาร์ตให้ชัดเจน เพื่อให้เขาสบายใจ
“ลุงไม่ได้หึงนะ!! ลุงเป็นห่วงต่างหาก!!” เจนรบรีบปฏิเสธด้วยท่าทางที่ดูเลิ่กลั่กเล็กน้อย
“ยอมรับความจริงเถอะค่ะ ลุงน่ะหึงหนู” ปวีณาส่งยิ้มหวานให้กับเขา “อ๊ะ หนูจะบอกอะไรให้ก็ได้ค่ะ เอาแบบชัดเจน ตรงไปตรงมาเลยนะคะ รูปที่หนูถ่ายกับเพื่อนผู้ชายที่ชื่ออาร์ตน่ะ ที่จริงแล้ว อาร์ตน่ะแอบชอบหนูมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งแล้วล่ะค่ะ”
“แล้วหนูชอบเขาไหมล่ะ?” เจนรบถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ก็ชอบนะคะ” ปวีณายิ้ม “อาร์ตเป็นผู้ชายที่นิสัยดีคนหนึ่งเลยนะคะ”
“ถ้าชอบแล้ว จะลองคบกันก็ได้นะ” เจนรบหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ยังคงมีความกังวลอยู่เล็กน้อย “ลุงเคยบอกหนูไปแล้วนี่ ว่าถ้าหนูเจอใครที่ดีกว่า ลุงพร้อมหลีกทางให้เสมอ ยังไงเรื่องของเรามันก็อาจจะเป็นไปไม่ได้”
“แหม…คิดมากไปหรือเปล่าคะลุงจอม” ลูกปลาแซวด้วยรอยยิ้มขี้เล่น “จริงอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ ด้วยนะคะ ว่าคนแก่ขี้น้อยใจทุกคนเลยอ่ะ”
“แล้วจะให้ลุงทำยังไงล่ะ?” เจนรบตัดพ้อด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความอ่อนใจ “หนูยังสาว ยังสวยสดใส แล้วลุงล่ะ มีแต่จะแก่ลงทุกวัน หนูไม่อายบ้างเหรอ? เวลาเดินไปไหนมาไหนกับลุงแล้วถูกคนมองว่าหนูเป็น…”
“เป็นอะไรคะ? พูดให้มันดีๆ หน่อยนะคะ” สาวนิเทศเริ่มรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “หนูแค่หยอกลุงเท่านั้นเอง ไม่เห็นลุงจะต้องจริงจังกับเรื่องแค่นี้เลย”
“ลุงไม่สนุกกับเรื่องแบบนี้นะปลา!!” เจนรบหันไปทำหน้าบึ้งใส่เด็กสาวอย่างจริงจัง “หนูไม่รู้หรอกว่าลุงรักหนูมากแค่ไหน อย่าเอาความรู้สึกของลุงมาล้อเล่นแบบนี้ ลุงไม่ชอบ”
“ขอโทษค่ะ…” ปวีณาทำหน้าเศร้าสร้อยเหมือนเด็กที่ถูกดุ “หนูแค่อยากจะมั่นใจว่าลุงยังรักหนูอยู่หรือเปล่า ก็เลยลองหยอกลุงดู ไม่คิดว่าลุงจะโกรธขนาดนี้”
เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เจนรบก็เหยียบคันเร่งแล้วเลี้ยวซ้ายตามเส้นทางที่ตกลงกันไว้แต่แรก เพื่อพาเด็กสาวไปทานอาหารเย็นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ปวีณาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่เพื่อคลายความเบื่อหน่าย เพราะคิดว่าลุงจอมยังคงโกรธเธออยู่
“ถ่ายรูปแล้วก็อย่าเอาไปโพสต์สุ่มสี่สุ่มห้านะ” เจนรบเตือนด้วยความเป็นห่วง “ถ้าเกิดไอ้ภาคกับเปิ้ลมาเห็นเข้า เรื่องมันจะยุ่งเอาได้”
“ฮั่นแน่!! หายโกรธหนูแล้วเหรอคะ?” ปวีณายิ้มหวานให้กับเขา
“ก็ยังโกรธอยู่นั่นแหละ” หนุ่มใหญ่สารภาพด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขุ่นเคือง “ต่อไปอย่าเอาความรู้สึกของลุงมาล้อเล่นอีกนะ”
“หนูขอโทษค่ะ” สาวนิเทศศาสตร์ปิดหน้าจอมือถือแล้ววางลงบนตัก “หนูแค่อยากรู้ว่าลุงรักหนูมากเท่าที่หนูรักลุงหรือเปล่า?”
“นี่หนูกำลังจะง้อลุงอยู่ใช่ไหม?” เจนรบเผลอยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทำท่าทางเคร่งขรึมเพื่อรักษามาดเอาไว้
“ถ้าลุงหึงหนูเรื่องอาร์ตละก็ บอกเลยนะคะว่าหนูไม่ได้คิดอะไรกับอาร์ตนอกจากคำว่าเพื่อน ให้ได้แค่เพื่อนเท่านั้นค่ะ เพราะเพื่อนหนูอีกคนชอบอาร์ตอยู่ หนูไม่อยากเสียเพื่อนดี ๆ ไปทีเดียวสองคน” ปวีณาสารภาพด้วยความจริงใจ “หนูขอโทษด้วยนะคะที่รูปนั้นมันทำให้ลุงไม่สบายใจ แต่หนูแค่อยากบอกลุงว่า หนูเองก็มีสังคมของหนูเหมือนกัน หนูอยากให้ลุงเข้าใจหนูในเรื่องนี้บ้างนะคะ”
“ลุงเข้าใจนะ แต่บางทีลุงก็…” หนุ่มใหญ่เริ่มมีท่าทีที่ผ่อนคลายลง “ลุงก็คิดมากเกินไปจริงๆ นั่นแหละ”
“หนูไม่มีใครนอกจากลุงคนเดียวแล้วค่ะ” ปวีณาส่งยิ้มหวานให้กับเขา “มันก็แปลกเหมือนกันนะคะ ทั้งๆ ที่มีหนุ่มๆ เยอะแยะเข้ามาชอบหนู แต่หนูกลับไม่สนใจใครเลย หนูกลับมาชอบคนแก่ๆ แบบลุงซะอย่างนั้น คิดว่ามันแปลกไหมล่ะคะ?”
เมื่อปวีณาพูดเช่นนั้น เจนรบที่พยายามทำท่าทีเงียบขรึม เลยหลุดยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจและดีใจที่สาวน้อยยังคงมั่นคงในความรู้สึกที่มีต่อเขา
“ยิ้มแล้วเห็นไหมคะ? ยิ้มอีกสิคะ ยิ้มอีกหน่อย” เมื่อเห็นลุงจอมเริ่มคลายมาดลง ลูกปลาตัวน้อยก็ได้ทีหยอกล้อพ่อปลาขี้น้อยใจให้กลับมาอารมณ์ดี “ทำหน้าบึ้งตึงเดี๋ยวปลาก็ไม่รักหรอกนะคะ ลุงจอม”
เมื่อได้เจอกับความน่ารักและลีลาการออดอ้อนของลูกปลา เจนรบก็ต้องยอมพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชายอกสามศอกอย่างเขาจะต้องมาหลงเสน่ห์สาวน้อยรุ่นราวคราวลูกคราวหลานอย่างลูกปลาได้ถึงเพียงนี้
เมื่อเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้า ทนายความหนุ่มใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็คสีดำ และรองเท้าหนังขัดเงาสีดำ สวมทับด้วยสูทสีดำ เดินจูงมือกับนักศึกษาสาวสวยที่ทำสีผมไฮไลท์สีน้ำตาลอ่อนตามสมัยนิยมอย่างไม่แคร์สายตาใคร เพราะสำหรับพวกเขามันเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น คนอื่นไม่เกี่ยว
เจนรบพาเด็กสาวไปทานบุฟเฟต์หมูย่างเกาหลี ทั้งสองต่างช่วยกันปิ้งย่างเนื้อบนเตา และคอยตักอาหารให้อีกฝ่ายอย่างเอาใจใส่ จนเจนรบอดขำออกมาไม่ได้
“ขำอะไรคะลุง?” ปวีณาเอ่ยถามขณะที่กำลังเคี้ยวเนื้อย่างอยู่ในปาก
“ลุงว่าอีกหน่อยเราสองคนคงจะอ้วนเป็นหมูตอนแน่ๆ เลย” เจนรบยิ้มให้กับเธอ “กินแต่บุฟเฟต์แบบนี้เกือบทุกมื้อเนี่ย”
“ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่คะ ถ้าจะอ้วน ก็อ้วนไปด้วยกันนะคะลุงจอม” ปวีณาส่งยิ้มหวานขณะที่กำลังคีบหมูย่างใส่จานของเจนรบ “เอ้า!! กินเยอะๆ นะคะลุง”
เจนรบใช้ตะเกียบคีบเนื้อหมูย่างชิ้นนั้นขึ้นมากิน รสชาติของมันช่างหวานฉ่ำลิ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ทานของอร่อยกับสาวน้อยที่เขารักอย่างปวีณา
พอคู่รักลุงกับหลานอิ่มท้อง ลุงจอมก็ใช้บัตรเครดิตจ่ายเงิน แล้วเดินจูงมือเด็กสาวเที่ยวชมร้านค้าภายในห้าง โดยเฉพาะร้านกระเป๋าหนังแบรนด์เนมต่าง ที่ลูกปลาให้ความสนใจเป็นพิเศษตามประสาผู้หญิงและลูกคุณหนูที่พ่อกับแม่ค่อนข้างตามใจ
“ขอหนูดูหน่อยนะคะลุง” ปวีณาหันไปขออนุญาตเจนรบด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
“กระเป๋าตัวนี้เป็นสินค้านำเข้าจากอิตาลีเลยนะคะ” พนักงานขายกระเป๋าสำหรับสุภาพสตรีกล่าวแนะนำสินค้าอย่างคล่องแคล่ว “ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษอยู่ด้วยนะคะ”
“ราคาเท่าไหร่คะ?” ปวีณาถามพนักงานขายด้วยความสนใจ
“ราคาอยู่ที่ 25,000 บาทค่ะ” พนักงานขายยิ้มให้กับเธอ
“อือ…แพงไปหน่อยค่ะ!!!” ลูกปลาครางออกมาอย่างเสียดาย “น่าเสียดายจังเลยค่ะ สวยมาก อยากได้ แต่ไม่มีเงินซื้อ!!”
“ที่นี่รับบัตรเครดิตไหมครับ?” เจนรบหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเตรียมยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานขาย “ผมขอใบนี้ครับ”
“ทางร้านรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตค่ะ” พนักงานขายยิ้มรับบัตรเครดิตจากเจนรบ “รับใบนี้เลยนะคะ”
“ลุงจอม!!” ปวีณาหันไปมองค้อนเจนรบด้วยความตกใจ “มันแพงมากเลยลุง แพงพอๆ กับค่าเทอมของหนูเลยนะคะ!!”
“ไม่เป็นไรหรอก ลุงอยากซื้อให้หนู” เจนรบยิ้มอย่างอบอุ่น “รับไปเถอะนะ”
จากนั้นเจนรบก็พาปวีณาไปยังเคาน์เตอร์เพื่อรับสินค้าและบัตรเครดิตคืน ตอนแรกปวีณาก็มีท่าทีประหม่าและดูเขินอายเล็กน้อย เพราะสายตาของพนักงานขายเริ่มจับจ้องมองพฤติกรรมของลุงกับหลานคู่นี้ด้วยความสงสัย แต่เนื่องจากไม่ใช่เรื่องของพวกเขา สุดท้ายเมื่อเจนรบและปวีณาได้รับสินค้าแล้ว ก็รีบเดินออกจากร้านไปทันที
“อ๊ะ!! ลุงซื้อให้แล้วนะ” เจนรบยื่นกระเป๋าให้กับเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณมากค่ะลุง” ปวีณายิ้มและยกมือไหว้รับของด้วยความเกรงใจ “แต่คราวหลังลุงไม่น่าทำแบบนี้เลยนะคะ มันเหมือนหนูเป็นเด็กเสี่ยยังไงก็ไม่รู้”
“แล้วมันไม่ดีตรงไหนกันล่ะ? เป็นเด็กของลุงจอมไง เด็กเสี่ยจอม” หนุ่มใหญ่ส่งยิ้มหวานให้กับเธอ “อะไรที่หนูชอบและอยากได้ ถ้ามันไม่ได้เกินกำลังของลุง ลุงยินดีหามาให้หนูทุกอย่าง ถ้ามันจะทำให้หนูมีความสุข”
“ขอบคุณค่ะลุง” ปวีณาซบศีรษะลงบนไหล่ของเจนรบอย่างออดอ้อน สาวน้อยยิ้มออกมาด้วยความสุข “ลุงคะ…ว่าแต่คืนนี้จะพาปลาไปเที่ยวที่ไหนต่อดีคะ?”
“ไปเที่ยวบ้านลุงไหม?” เจนรบหันไปยิ้มให้กับเธออย่างมีเลศนัย “ลุงมีเกมสนุกๆ ให้หนูเล่นด้วยนะ”
“ลุงก็!!!” ปวีณาหน้าแดงระเรื่อ ใช่ฝ่ามือตบที่ตนแขนของเจนรบแก้เขิน “พูดอะไรของลุงคะเนี่ย!! พักหลังลุงทะลึ่งขึ้นเยอะเลยนะคะ!!”
แล้วในคืนนั้นเจนรบก็พาปวีณาไปค้างคืนที่บ้านของเขา ทั้งคู่ต่างหยอกล้อกันอย่างมีความสุขตามประสาคู่รักที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก เรียกได้ว่าความหวานของพวกเขาหวานจนน้ำตาลยังต้องยอมแพ้ ต่างฝ่ายต่างมอบความรักและความเสน่หาให้แก่กันอย่างเต็มหัวใจ
ตอนแรกเจนรบยังคงใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิด แต่ด้วยรสสัมผัสที่ไม่เร้าใจเท่าที่ควร ปวีณาเลยกินยาคุมกำเนิดแล้วก็อาศัยนับวันแทน แล้วก็ให้ลุงจอมเสร็จข้างนอก เธอรู้สึกว่าพักหลังร่างกายของเธอเริ่มอวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดแต่อย่างใด กลับกัน เพื่อนฝูงและเจนรบต่างก็ชมว่าปวีณาดูสวยขึ้นและมีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อน และเจนรบเองก็ให้สัญญาว่า หากปวีณาตั้งครรภ์ขึ้นมา เขาจะแสดงความรับผิดชอบต่อลูกในท้องของเด็กสาวอย่างเต็มที่
“หนูว่าถ้าพ่อกับแม่รู้เรื่องของเราสองคน เราคงตายแน่ๆ เลยค่ะ” ปวีณาในอ้อมกอดของเจนรบพึมพำด้วยความกังวล “เราจะปิดบังเรื่องของเราได้อีกนานแค่ไหนคะลุงจอม?”
“รอให้หนูเรียนจบก่อน บางทีลุงอาจจะบินขึ้นไปเชียงใหม่แล้วบอกความจริงกับไอ้ภาคและเปิ้ล” เจนรบตอบพลางจูบกลางหน้าผากของเด็กสาวเพื่อยืนยันความรักที่ตนมีให้อย่างเต็มหัวใจ
“หนูว่ามันไม่ง่ายเลยนะคะลุง” สาวน้อยขมวดคิ้วด้วยความกังวล “พ่อกับแม่หวงหนูจะตาย ลุงก็เห็นว่าพ่อกับแม่หนูชอบโทรศัพท์มาเช็คว่าหนูอยู่ที่ไหนตลอดเวลาเลยอ่ะ”
เจนรบเริ่มกังวล ในใจก็คิดว่าเขาจะสามารถปิดบังเรื่องนี้ได้อีกนานแค่ไหน หากวันหนึ่งภาคภูมิและปิยะวรรณรู้ความจริง ทั้งสองคนนั้นจะรู้สึกอย่างไร เขาเริ่มมองเห็นแล้วว่าความรักระหว่างเขากับลูกปลาอาจจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด
“ถึงเวลานั้น เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันอีกทีแล้วกันนะ” เจนรบยิ้มให้กับเธอ ก่อนโน้มตัวลงหอมแก้มเด็กสาวอีกหนึ่งที กลิ่นกายหอมหวานของเธอนั้นช่างเย้ายวนใจสุภาพบุรุษอย่างเจนรบเหลือเกิน
คู่รักลุงกับหลานปลดเปลื้องเสื้อผ้าของกันและกันออกจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า เจนรบโน้มตัวลงหอมแก้มเด็กสาวอย่างอ่อนโยน แล้วเลื่อนลงมาหอมที่ทรวงอกอวบอิ่ม สาวน้อยโอบกอดหนุ่มใหญ่แล้วกดศีรษะของเขาให้แนบชิดกับหน้าอกของเธอ
“อือออ….” ร่างของปวีณากระตุก สาวน้อยเผยอปากครางออกมาขณะกำลังถูกเจนรบผู้เจนรักดูดดื่มความหอมหวานของเธอตรงยอดอก จึงตอบแทนด้วยการลูบไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าของหนุ่มใหญ่ด้วยความรัก ก่อนทิ้งตัวและปล่อยกายปล่อยใจให้ชายสูงวัยกว่าได้เชยชนมบนเตียงนอนสีฟ้า
เจนรบลิ้มรสความหวานของทรวงอกอวบอิ่มของปวีณา ที่กำลังครางเสียงหวานแผ่วเบา มืออีกข้างของหนุ่มใหญ่ก็ลูบไล้และบีบเคล้นหน้าอกของเด็กสาวอย่างทะนุถนอม จนฝ่ามืออันอบอุ่นของเจนรบสัมผัสได้ถึงความแข็งตึงของยอดอกสีน้ำตาลอ่อนที่ชูชันขึ้นเหนือฐาน
หนุ่มใหญ่สลับริมฝีปากลิ้มรสยอดปทุมถันของปวีณาไปมาทั้งข้างซ้ายและข้างขวา เด็กสาวเม้มริมฝีปากด้วยความเขินอาย มือน้อยของเธอลูบไล้บริเวณท้ายทอยของลุงจอมยอดรักอย่างอ่อนโยน จนเจนรบเงยหน้าขึ้นมาสบตากับปวีณาคนสวย ทั้งคู่ส่งยิ้มหวานให้กัน ก่อนมอบจุมพิตอันดูดดื่มเพื่อเชื่อมต่อความรู้สึก
เจนรบแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากอันหอมหวานของเด็กสาว ฝ่ายเด็กสาวก็ยินยอมเปิดรับให้ปลายลิ้นของเจนรบได้เข้าไปสัมผัสและทักทายกับลิ้นของเธออย่างอ่อนโยน ทั้งสองต่างแลกเปลี่ยนรสหวานของกันและกันอย่างลึกซึ้ง เมื่อความเคลิบเคลิ้มจากรสรักเริ่มครอบงำ เจนรบผละริมฝีปากออกจากปวีณา แล้วเลื่อนตัวลงต่ำ แหวกเรียวขาของปวีณาออกอย่างเบามือเพื่อสำรวจดินแดนอันลี้ลับของสาวน้อย
หนุ่มใหญ่สูดดมกลิ่นหอมหวานของกลีบกุหลาบที่กำลังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานอย่างลุ่มหลง จนลูกปลาตัวน้อยยกมือขึ้นมาเพื่อปกปิดความลับของความเป็นหญิง แต่ก็ถูกห้ามปรามโดยผู้มีอำนาจเหนือกว่าอย่างลุงจอม
“ลุงจอมคะ…อือออ” ปวีณาร้องครางเสียงหวานแผ่วเบา ขณะที่กำลังถูกเจนรบลิ้มรสชาติน้ำหวานที่ไหลออกมาจากร่างกายของเธอ หน้าท้องของเธอเกร็งเป็นลอนคลื่น สาวน้อยปล่อยกายปล่อยใจให้หนุ่มใหญ่ได้ดื่มด่ำกับความเป็นสาวของเธออย่างเต็มที่โดยไม่รู้สึกขัดเขิน
“ซู๊ด…ซู๊ด…ซู๊ด”
“อ๊ะ…อ๊ะ…อ๊ะ”
“แผล๊บ…แผล๊บ…แผล๊บ”
เจนรบโลมเลียกลีบดอกไม้งามอย่างอ่อนโยน นิ้วโป้งของเขาก็คลึงเคล้นปุ่มสยิวที่ชุ่มฉ่ำและเปียกชื้น พร้อมกับฟังเสียงครางแผ่วเบาของปวีณาที่หลับตาพริ้ม หนุ่มใหญ่ละเลียดกลีบเนื้ออ่อนนุ่มของปวีณาด้วยปลายลิ้น ราวกับกลัวว่าสาวน้อยจะไม่ได้รับความสุขอย่างเต็มที่ เจนรบจึงสอดปลายนิ้วชี้เข้าไปสำรวจภายในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำและคับแน่นของเด็กสาว
เจนรบเหลือบมองเห็นเนื้ออ่อนนุ่มสีชมพูหวานที่เผยออกมา เขารู้ดีว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้สาวน้อยพึงพอใจมากที่สุด หนุ่มใหญ่ใช้ริมฝีปากครอบคลุมเนินเนื้อที่ยื่นออกมาแล้วหยอกเย้ามันด้วยปลายลิ้นอย่างนุ่มนวล พร้อมกับสอดใส่นิ้วชี้เข้าออกภายในช่องทางที่เริ่มตอดรัดแน่นขึ้นทุกที
ปวีณาแอ่นกายขึ้น สาวน้อยร้องครางเสียงหวานแผ่วเบาพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อยด้วยความเสียวสะท้าน เจนรบใช้มือประคองร่างของปวีณาไว้ด้วยความทะนุถนอม หนุ่มใหญ่รอจนกระทั่งเด็กสาวรู้สึกตัวดีขึ้น ก่อนกระซิบขอให้เธอหยอกล้อท่อนเนื้อของเขาด้วยริมฝีปาก
สาวน้อยคล้อยตามคำขอของเจนรบอย่างเต็มใจ สัมผัสและลิ้มรสความแข็งแกร่งแห่งความเป็นชายของเจนรบอย่างอ่อนโยนและไม่รู้สึกเขินอายอีกต่อไป เจนรบเผยอปากเล็กน้อยด้วยความรู้สึกเสียวซ่านที่พลุ่งพล่านขึ้นมา และเพื่อเป็นการตอบแทนความน่ารักของปวีณา หนุ่มใหญ่จับร่างของเด็กสาวพลิกกลับด้านอย่างนุ่มนวล เพื่อมอบความสุขด้วยการสัมผัสกลีบเนื้ออ่อนหวานของเธอเป็นการตอบแทน
“ซู๊ด…ซู๊ด…ซู๊ด”
“อ๊ะ…อ๊ะ…อ๊ะ”
“แผล๊บ…แผล๊บ…แผล๊บ”
ทั้งสองต่างปรนนิบัติซึ่งกันและกันด้วยความรักใคร่ ปลายลิ้นของพวกเขาโลมเลียและสัมผัสแก่นแท้แห่งความเป็นชายและหญิงอย่างอ่อนโยน ต่างส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาอย่างสุขสม ราวกับกำลังแข่งขันกันด้วยความปรารถนาที่เอ่อล้น จนรับรู้ได้ถึงความชุ่มฉ่ำที่เพิ่มมากขึ้น
“ลุงจอมคะ พอก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเสร็จก่อนพอดี” ปวีณาร้องขอด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความปรารถนา “หนูอยากขึ้นไปทำให้ลุงบ้าง”
“งั้นก็เชิญเลยจ๊ะ” เจนรบนอนหงายลงบนเตียงอย่างผ่อนคลาย ปล่อยให้ปวีณาที่เริ่มเรียนรู้และกล้าแสดงออกมากขึ้น เป็นฝ่ายควบคุมเกมรักด้วยตัวเอง เธอหย่อนกายลงนั่งคร่อมบนหน้าตักของหนุ่มใหญ่ มือเรียวแหวกกลีบเนื้อหวานที่กำลังโอบรัดท่อนเนื้อของเจนรบจนเกือบมิด
ร่างของปวีณาเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างนุ่มนวล เจนรบมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้มของเธออย่างรักใคร่ ขณะที่เธอสวมบทบาทเป็นจ๊อกกี้สาวขี่ม้า ทรวงอกอวบอิ่มของปวีณาสั่นไหวขึ้นลงตามจังหวะการเคลื่อนไหว ทำให้เจนรบรู้สึกถึงความเย้ายวนที่ยากจะต้านทาน เขาจึงเอื้อมมือไปประคองทรวงอกของเธอด้วยความเสน่หา
“เอี๊ยด…เอี๊ยด…เอี๊ยด”
“เก่งมากเลยจ๊ะ ลูกปลาของลุง”
“ปลารักลุงนะคะ”
หนุ่มใหญ่มองสาวน้อยที่เคลื่อนไหวร่างกายขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทั้งสองต่างก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมาอย่างเต็มที่ เด็กสาวสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นร้อนที่ไหลทะลักออกมาจากท่อนเนื้อของเจนรบภายในร่างกายของเธอ ปวีณาปิดตาลงด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนทิ้งตัวลงนอนทับร่างของหนุ่มใหญ่อย่างอ่อนแรง
“ลุงก็รักปลานะ…” เจนรบกระซิบข้างหูเด็กสาวอย่างอ่อนโยน พร้อมกับหอมแก้มเธอ ก่อนดึงผ้าห่มผืนนุ่มมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างโอบกอดกันอย่างแนบแน่น เพื่อสัมผัสถึงไออุ่นแห่งความรักที่อบอวลอยู่รอบกาย
“ลุงจอมคะ…ถ้าวันไหนลุงจอมว่าง สอนหนูขับรถหน่อยสิคะ” ลูกปลาออดอ้อนด้วยน้ำเสียงหวาน “หนูจะขึ้นปีสามแล้ว ยังขับรถไม่เป็นเลยค่ะ หนูอยากจะไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ยอมให้ไป แล้วจะไปเรียนขับรถก็ไม่มีเงินอีกนะคะ สอนหนูขับรถหน่อยนะคะ”
“ได้สิจ๊ะ” เจนรบยิ้มหวานให้กับเธอ “วันไหนลุงว่าง เดี๋ยวลุงจะสอนให้หนูเองนะ”
แล้วทั้งคู่ก็ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกันอย่างมีความสุข ต่างฝ่ายต่างมีรอยยิ้มละไมปรากฏอยู่บนใบหน้า บรรยากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยความรักและความเสน่หาของคู่รักต่างวัยคู่นี้
เวลาผ่านไปอีกราวสองปี น้องอุ้มบุญ กันยกร ในวัยสามขวบ กำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และพลังงานอันล้นเหลือ บ้านหลังใหญ่ของเจนรบและปวีณาที่เคยมีแต่ความสงบ (หรือความหวานชื่นของคู่รัก) บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงเรียก “พ่อจ๋า” “แม่จ๋า” และเสียงวิ่งตึงตังของเจ้าตัวเล็กที่พร้อมจะสำรวจโลกกว้างตลอดเวลาเช้าวันเสาร์ เจนรบในวัยใกล้จะเกษียณอายุราชการ ถ้าหากเขารับราชการ แต่ในความเป็นจริงคือทนายความอาวุโสชื่อดังวัย 56 ปี ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียง“พ่อจ๋า...ตื่น...เล่น...” น้องอุ้มบุญในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังใช้มือป้อมๆ เขย่าแขนพ่อปลุก ดวงตากลมใสแป๋วแหววไร้เดียงสา“อุ้มบุญเหรอลูก?” เจนรบลืมตาขึ้น ปากก็ยิ้มรับลูกสาว แต่ร่างกายกลับประท้วงเบาๆ ด้วยความปวดเมื่อยหลังจากโหมงานเอกสารและเตรียมตัวสำหรับรายการทีวีมาทั้งสัปดาห์ “จ๊ะลูก...พ่อตื่นแล้ว...แต่อุ้มบุญให้พ่อพักอีกแป๊บได้ไหมจ๊ะ?”“ม่ายอาววว...เล่นเยย...” เด็กน้อยไม่ยอมง่ายๆ เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียง ทิ้งตัวลงบนอกพ่ออย่างแรง“โอ๊ย!! จุกนะลูก!!” เจนรบร้องเบาๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คว้าตัวลูกสาวมากอดฟัด จั๊กจี้จนเสียงห
เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอเพียงชั่วพริบตาเดียว นางฟ้าตัวน้อยของบ้านทนายเจนรบและปวีณา—เด็กหญิงกันยกร หรือน้องอุ้มบุญ—ก็อายุครบหนึ่งขวบพอดิบพอดี จากทารกน้อยที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขน วันนี้กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เริ่มตั้งไข่ หัดเดินเตาะแตะ และส่งเสียงอ้อแอ้เรียก “ป้อ” “แม่” ได้เป็นคำๆ สร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์“ป้อ!! ป้อ!! แม่!!”“น่ารักน่าชังจริง ๆ ลูกพ่อ!!”“หนึ่งขวบแล้วน๊า น้องอุ้มบุญ!!”เช้าวันเกิดขวบปีแรกของน้องอุ้มบุญอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของแพนเค้กฟักทองเนื้อนุ่มที่ปวีณาตั้งใจทำให้ลูกสาวเป็นมื้อพิเศษ เจนรบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาจับจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข หนึ่งปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ จากทนายความผู้เคยใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มีแต่งานเป็นเพื่อน ตอนนี้เขากลายเป็น “พ่อ” เต็มตัว เป็นสามีของหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ และเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังใช้มือเล็กๆ พยายามหยิบแพนเค้กเข้าปากอย่างเงอะงะ“ค่อย ๆ ซิจ๊ะลูกแม่ เลอะหมดแล้วเห็นไหม” ปวี
พาดหัวข่าวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ และฟีดข่าวที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย ต่างประโคมข่าว ‘วิวาห์หวานชื่น…ทนายดังต่างวัยคว้าลูกสาวเพื่อนสนิทเข้าประตูวิวาห์’ ภาพของเจนรบ ทนายความชื่อดังขวัญใจคนยากจน วัย 54 ปี ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ยืนเคียงข้าง ปวีณา เจ้าสาวแสนสวยวัย 22 ปี ทายาทคนเล็กของนักธุรกิจรีสอร์ตหรูแห่งเชียงเหนือ ในชุดไทยล้านนาประยุกต์อันงดงาม กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืนคอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับสายน้ำหลาก บ้างแสดงความยินดี บ้างตั้งคำถามถึงความเหมาะสม บ้างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวสูงวัยที่ได้ภรรยาสาวสวยราวกับนางฟ้ามาครองไม่ได้“อิจฉาคนแก่ว่ะ! มีดีอะไร สาวสวยถึงได้ยอมแต่งด้วย?”“สายเปย์รึเปล่า? แต่บ้านฝ่ายหญิงก็รวยนะ”“ไม่แน่...ฝ่ายชายอาจจะเกาะฝ่ายหญิงก็ได้ ใครจะรู้”“หรือว่าเขารักกันจริงๆ ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกน่า อย่าคิดอกุศลเลย”เจนรบและปวีณาเตรียมใจรับมือกับกระแสสังคมเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งคู่เลือกให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงไม่กี่แห่งเท่าที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสองมีให้กัน และการยอมรับจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่ได
“ทำไมหนูไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าจะทำงานอยู่กรุงเทพ?” เจนรบเอ่ยปากถามปวีณา“หนูบอกแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม” ปวีณาตอบ “ลุงจะให้หนูทำยังไงละคะ?”ปวีณาบอกกับเจนรบว่าหลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ภาคภูมิและปิยะวรรณเรียกเธอกลับไป ช่วยงานธุรกิจรีสอร์ตทางบ้านที่เชียงใหม่ระหว่างรอรับปริญญาตรีและไปเรียนต่อปริญญาโทที่ อเมริกา เจนรบเริ่มรู้สึกว่ามันคือแผนการที่เพื่อนรักทั้งสองคิดเอาไว้ คือไม่ปฏิเสธ การคบหากันของเจนรบและปวีณา แต่จะใช้วิธีแยกให้คนทั้งคู่ห่างกันไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเจนรบและปวีณาก็ห่างจนต่อกันไม่ติดในวันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง ภาคภูมิส่งคนมาช่วยขนของกลับบ้านที่เชียงใหม่ และไม่เปิดโอกาสให้ปวีณาได้ร่ำลาเจนรบ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ช่วงเวลาที่แสนหวานของเจนรบและปวีณากำลังจะจบลง แต่โชคยังดีที่มีสื่อโซเชียล เลยทำให้เจนรบและปวีณาได้พูดคุยกันผ่านทางไลน์ เด็กสาวบอกกับเจนรบว่าพ่อกับแม่ต้องการให้เธอไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านระหว่างรอรับปริญญา“ลุงจอม…” ปวีณาไลน์คุยกับเจนรบ “หนูว่าพ่อกับแม่กำลังพยายามกีดกันหนูจากลุง”“ไม่ต้องกลัวนะปลา” เจนรบไลน์ตอบ “ลุงจะขึ้นไปเชียงใหม่อีกครั้ง ไปคุยกับไอ้ภาคและเปิ้ล ลุง
ตอนนี้ปวีณากำลังศึกษาอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ในชั้นปีที่สี่ อีกแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น สาวน้อยก็จะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรี และเตรียมพร้อมสู่การเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาภาคภูมิและปิยะวรรณตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการยอมเปิดทางให้เจนรบและปวีณาได้คบหากัน พอได้รับไฟเขียวจากเพื่อนรักและอดีตแฟนเก่าเช่นนั้น เจนรบก็รับปากว่าจะขอดูแลลูกปลาเป็นอย่างดี และจะรอคอยจนกว่าเธอจะเรียนจบปริญญาโท เมื่อถึงตอนนั้น คู่สามีภรรยาทั้งสองถึงจะยินยอมให้เจนรบและปวีณาได้ครองคู่กันฟังดูความรักระหว่างเจนรบและปวีณากำลังไปได้สวย แต่ว่าด้วยระยะทางและภาระหน้าที่ของแต่ละคน เจนรบวุ่นวายกับการเดินทางไปถ่ายทำรายการกฎหมายน่ารู้ทางโทรทัศน์ และล่าสุดเจนรบได้เปิดช่องยูทูบเพื่อทำเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายเพื่อให้ความรู้ผู้คนทั่วไปเพื่อหารายได้เสริม ส่วนหนังสือกฎหมายที่เพิ่งตีพิมพ์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนอ่าน ด้วยภาษาเขียนที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็เลยทำให้หนังสือกฎหมายของเจนรบได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สองและสามตามลำดับฝ่ายเจนรบเอง ก็ครุ่นคิดว่าช่วงนี้แทบไม่ได้เจอปลาเลย งานของเขาก็ยุ่ง ส
หลังจากสอบเสร็จปลายภาคในช่วงชั้นปีที่สาม เจนรบตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่รอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป หนุ่มใหญ่ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งตรงสู่เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยกับเพื่อนรักทั้งสองอย่างตรงไปตรงมาเสียที“ลุงจอม? ไหนลุงว่าจะรอให้หนูเรียนจบปริญญาตรีก่อนไง?” ปวีณาที่กลับเชียงใหม่ไปก่อนแล้วถึงกับตกใจ เมื่อทราบข่าวว่าลุงจอมตัดสินใจจะเดินทางตามมาด้วยเพื่อพูดคุยกับภาคภูมิและปิยะวรรณถึงเรื่องขอหมั้นหมายกับเธอก่อน “ถ้าพ่อกับแม่หนูรู้ หนูตายแน่!!”“ไม่ต้องกลัวหรอก ลุงคิดว่าไอ้ภาคกับเปิ้ลน่าจะมีเหตุผลพอ” เจนรบตอบ ขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง “แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวลุงต้องขึ้นเครื่องก่อน แล้วเจอกันที่เชียงใหม่นะคนดีของลุง”สุดท้ายปวีณาก็ไม่อาจทัดทานความต้องการของเจนรบได้ สาวน้อยเลยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับปิยะวรรณผู้เป็นแม่ ที่รับรู้ทุกอย่างและมีเหตุผลมากพอที่จะรับฟังเธอ“มีอะไรเหรอจ๊ะปลา?” ปิยะวรรณที่กำลังง่วนอยู่กับการตรวจเอกสารในห้องทำงานของตัวเองเอ่ยปากถามลูกสาว“เอ่อ…หนูมีเรื่องสำคัญจะมาบอกแม่ค่ะ” ปวีณาเดินเข้ามาด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ