Home / โรแมนติก / ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์ / บทที่8:สไตล์ลอฟต์และรอยร้าวในใจ

Share

บทที่8:สไตล์ลอฟต์และรอยร้าวในใจ

Author: Jigsaw wave
last update Last Updated: 2025-10-11 10:55:50

รถ BMW รุ่นใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนเข้ามายังบริเวณบ้านขนาด 200 ตารางเมตร ตัวบ้านเป็น สไตล์ลอฟต์ (Loft Style) ผนังอิฐเปลือยสองชั้นให้กลิ่นอายคลาสสิกของโรงงานเก่า ดูดิบ เท่ และมีเอกลักษณ์ กรรณ เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไป พื้นที่ภายในเปิดโล่งและเพดานสูง (Open Space & High Ceiling) ทำให้บ้านดูโปร่ง กว้างขวาง และอากาศถ่ายเทดี โครงสร้างถูกโชว์ไว้โดยไม่มีฝ้าเพดาน แถมยังมี ชั้นลอย (Loft Area) เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว หน้าต่างและกระจกบานใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติยามค่ำคืนสาดส่องเข้ามาสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเน้นความสะดวกในการปรับเปลี่ยน ส่วนวัสดุที่ใช้ก็กลมกลืนในสไตล์อินดัสเทรียล เน้นโทนสีธรรมชาติ เช่น ดำ น้ำตาล และสีส้มอิฐ

“บ้านสวยดีนะ... เหมือนอยู่นิวยอร์กเลย” หญิงสาวเอ่ยปากชมหลังจากที่เงียบมานาน

“พูดได้แล้วเหรอ?” ชายหนุ่มหลุดปากแซว ก่อนจะอยากตบปากตัวเองที่ไม่น่าไปกวนโมโหเธอเลย

“ไม่ต้องมากวนประสาทเลยนะ เดี๋ยวนี้ลุงอยู่คนเดียวเหรอ?” กรรณถามออกไปด้วยความสงสัย

“ใช่ ฉันอยู่คนเดียว พี่อู๊ด ผู้จัดการของฉันอยู่คอนโดข้างนอก แต่ช่วงนี้แกไปญี่ปุ่น ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงไปรับไปส่งฉันแล้วล่ะ บ้านหลังนี้เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของฉันนะ” นพสูรย์พูดอย่างภาคภูมิใจ

“เจ๋งดีนะ บ้านสวยด้วย มีสไตล์” หญิงสาวเอ่ยชมทั้งที่ยังมีน้ำตาคลอ นพสูรย์เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา ด้วยความเอ็นดู

“ทำไมวันนี้ถึงร้องไห้ล่ะ... แต่ถ้าเธอไม่สบายใจ ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ฉันฟังตอนนี้ก็ได้นะ” ชายหนุ่มบอกอย่างเข้าอกเข้าใจ และกรรณก็พยักหน้ารับอย่างซาบซึ้ง

“เธอไปนอนห้องรับรองแขกแล้วกันนะ ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง” นพสูรย์พูดออกมาอย่างเป็นห่วง

“ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไปนอนไหนล่ะลุง... นอนเตียงเดียวกับลุงยังไงก็ได้นะ ยังไงฉันก็เกิดมาเป็นผู้ชาย” กรรณพูดออกไปอย่างจำยอม

“ฉันไม่เถียงกับเธอดีกว่า... เอาเป็นว่า เธอเข้าไปพักเถอะ ห้องเธออยู่ขวามือ ห้องฉันอยู่ซ้ายมือ ข้าวของผ้าขนหนูอยู่ในห้องนะ มีอะไรก็เคาะห้องฉันได้” นักแสดงหนุ่มเอ่ยก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง

กรรณ ตรงไปหยิบผ้าเช็ดตัวในห้องพัก ซึ่งตกแต่งด้วยผนังอิฐ โครงเตียงเหล็กสีดำ ผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนสีขาวสะอาดตา ห้องน้ำสุขภัณฑ์สีขาวล้วน เธอคิดในใจว่า "บ้านของตาลุงกอริลลาก็ตกแต่งสวยไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย น่าอยู่ ดูเท่ และมีสไตล์มาก" ทันทีที่ลงแช่ในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับเปิดฝักบัว หญิงสาวก็ปลดปล่อยความทุกข์ใจเมื่อตอนเย็นออกมาจนหมดสิ้น ความคิดเรื่องที่พ่อไม่ยอมรับในตัวตนของเธอวนเวียนไม่หยุดหย่อน แต่เธอทำได้เพียงแค่ระบายมันออกมาพร้อมกับหยดน้ำตา

หลังจากเช็ดตัวเดินออกมา เธอก็พบ ชุดนอนเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีขาว วางอยู่บนเตียง ไม่ต้องเดาเลยว่าใครเป็นคนนำมาให้ คืนนี้เธอตั้งใจจะรีบเข้านอน เพราะวันรุ่งขึ้นยังมีเรียนแน่นไปจนถึงสุดสัปดาห์ แต่ด้วยความเครียดบวกกับอาการร้องไห้อย่างหนัก ทำให้กรรณไม่สามารถข่มตาหลับได้ อาจเป็นเพราะนอนแปลกที่ด้วยมั้ง หญิงสาวจึงเดินออกมายืนตรงระเบียง มองท้องฟ้าเพื่อหาความสงบร่มเย็นให้กับจิตใจที่ว้าวุ่น

“ยังไม่นอนเหรอ?” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้หญิงสาวได้สติ เธอกลับไปมอง นพสูรย์ ชายหนุ่มเจ้าของบ้าน และสังเกตเห็นว่า ระเบียงห้องของเธอกับระเบียงห้องของเขา เชื่อมต่อกัน สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้

“นอนไม่หลับอะค่ะ แล้วลุงล่ะ ช่วงนี้ไม่มีถ่ายละครหรือซีรีส์เหรอคะ ที่ต้องตื่นเช้าพรุ่งนี้” หญิงสาวตอบพร้อมถามกลับด้วยความสงสัย

“พรุ่งนี้ก็มีถ่ายละคร แต่ฉันเห็นเธอยังไม่นอน ก็เลยออกมาคุยด้วยเนี่ย” นพสูรย์เอ่ยอย่างเป็นห่วง

ทว่าอารมณ์ของกรรณยังไม่กลับมาเต็มร้อย เธอยังคงมีอาการร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ ชายหนุ่มถึงกับแอบตกใจ เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ พร้อมกับ ก้มลงจูบประทับบริเวณริมฝีปาก ในตอนนี้เอง... กรรณไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืนใดๆ ปล่อยให้มันเป็นไปตามอารมณ์และความรู้สึก ณ ขณะนั้น ทั้งคู่จูบสลับกันไปมาอย่างดูดดื่ม จนกระทั่งมือของเธอเริ่มปลดกระดุมชุดนอนของนักแสดงหนุ่ม ขณะที่นพสูรย์ก็ไม่ขัดขืน เขากอดเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วอุ้มเธอขึ้น ถึงแม้กรรณจะเป็นผู้ชายแต่ร่างกายของเธอก็เบาหวิว พอดิบพอดีสำหรับเขา... และทั้งคู่ก็พากันกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างอ่อนโยน.

………………………………………

แสงแดด ยามเช้าสาดส่องเข้ามาอย่างอบอุ่นผ่านกระจกบานใหญ่ของห้องสไตล์ลอฟต์ ความสว่างที่แยงตานั่นเองที่ทำให้ กรรณ เริ่มได้สติและตื่นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตา สิ่งแรกที่ทำคือรีบหันไปมองคนข้างเตียง... แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ เปลือยเปล่า ของตัวเอง หญิงสาวรีบหยิบชุดนอนที่ร่วงอยู่ใต้เตียงมาสวมใส่อย่างทุลักทุเล ความรู้สึกสับสน ตื่นตระหนก และความเขินอายตีกันจนมั่ว เธอรีบส่งตัวเองกลับไปยังห้องรับรองแขกที่เธอควรจะพักตั้งแต่แรก และทรุดตัวลงนั่งอย่างสับสน

“เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไปเนี่ย... เป็นเพราะความเศร้า ความเสียใจแท้ ๆ” เธอพึมพำกับตัวเอง แต่เมื่อเห็นว่า นพสูรย์ ไม่อยู่แล้ว ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้น “ช่างเถอะ อย่าไปคิดมากเลย แค่คืนเดียว...”

เมื่อกลับมาถึงห้องพักปีกขวา กรรณรีบคว้าโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วโทรหา กันยา ทันที ตอนนี้เป็นเวลา 06:10 น. ถ้าหากน้องสาวรีบนำเสื้อผ้ามาให้ เธอก็คงจะไปเรียนทัน

“พี่เหรอคะ!” ปลายสายพูดด้วยความตื่นเต้นปนโล่งใจ

“ใช่จ้ะ... ช่วยหยิบ ชุดนักศึกษา ของพี่ออกมาให้หน่อยได้ไหม” กรรณเอ่ยความต้องการของตัวเอง

“เมื่อคืนพี่ไปไหนมาคะ หนูเป็นห่วงแทบแย่” กันยาพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือราวกับจะร้องไห้

“เอาไว้เดี๋ยวพี่ค่อยเล่าให้ฟังนะ แต่เรา... เอาเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นมาให้พี่หน่อย อย่าให้พ่อรู้ล่ะ” กรรณรีบเน้นย้ำเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะเธอไม่อยากคิดถึงเรื่องที่เพิ่งทะเลาะกับพ่อ

“เดี๋ยวพี่จะหนีออกจากบ้านเหรอคะ?” กันยาถามต่อด้วยความเป็นกังวล

“เอาน่า... เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันทีหลัง” กรรณรีบตัดบทสนทนา

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย กรรณชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย

“ไงเธอ...” คำทักทายแรกของปลายสายทำเอาหญิงสาวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนจนใบหน้าร้อนผ่าว

“...ค่ะ” กรรณไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี เธอรู้สึกประหม่า ไม่แน่ใจว่านพสูรย์จะพูดถึงเรื่องเมื่อคืนหรือไม่

“เธอได้ยินฉันหรือเปล่า?” นพสูรย์ถามด้วยความร้อนใจ ในใจเขาก็กำลังคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่าเมื่อคืนนี้

“ได้ยินค่ะ ลุง มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เย็นนี้กลับมากินข้าวด้วยกันนะ เธอคงยังไม่กลับบ้านใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยปากถามเพื่อความแน่ใจ

“ค่ะลุง” ตอนนี้ในหัวของกรรณว่างเปล่า เธอคิดอะไรไม่ออกเลยว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี เพราะมีหลายเรื่องถาโถมเข้ามาพร้อมกัน

“เธอเรียนเสร็จกี่โมง ฉันจะไปรับ” ชายหนุ่มถามกลับ

“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวฉันกลับมาเองก็ได้” กรรณตอบด้วยความเกรงใจ

“ไม่ได้หรอก เธอยังไม่คุ้นเส้นทาง ให้ฉันไปรับดีกว่า” เขาพูดออกไป เพราะในใจลึก ๆ แล้ว เขากำลังอยากจะ เทคแคร์ เธออย่างใกล้ชิด

“หนูเลิกเรียนประมาณบ่ายสองค่ะ เจอกันที่ร้านของพี่ภีมแล้วกันนะคะ ลุงคงรู้จัก” กรรณพูดออกไปอย่างจำยอม เมื่อรู้ว่าคงขัดความตั้งใจของเขาไม่ได้

“ได้! เจอกันที่ร้านของ ไอ้ภีม” นพสูรย์ตอบตกลงทันที เพราะเขารู้จักกับภุมเรศเจ้าของร้านในระดับหนึ่ง

……………………………

หลังจากวางสาย กรรณรีบเดินทางไปยังคอนโดเพื่อรับเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นจาก กันยา น้องสาวแจ้งว่า พ่อเลี้ยงนล ยังไม่ตื่น ทำให้เธอสามารถอาบน้ำแต่งตัวและรีบออกจากคอนโด ตรงดิ่งไปยังมหาวิทยาลัยได้อย่างรวดเร็ว

ตลอดทั้งวันในห้องเรียน กรรณ เหม่อลอยอย่างหนัก ความเครียดจากเรื่องที่ทะเลาะกับพ่อ ผสมกับความรู้สึกสับสนและประหลาดใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ นพสูรย์ เมื่อคืน ทำให้เธอไม่สามารถมีสมาธิกับการเรียนได้เลยแม้แต่น้อย เพื่อนสนิทสองคนอย่าง กะทิ และ ลูกไม้ สังเกตเห็นความผิดปกติและความหม่นหมองของเธอ ก็ได้แต่ทนใส่ใจและเป็นห่วงอยู่เงียบ ๆ โดยไม่กล้าเอ่ยถามใด ๆ ในห้องเรียน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์    บทที่ 18: วันแห่งความสำเร็จ และรสชาติแห่งความรักที่หอมหวาน

    สามปีต่อมา...ผ่านไปอย่างรวดเร็วนับจากวันที่ นพสูรย์ สวมแหวนให้กรรณ ชีวิตของทั้งคู่เข้าสู่ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุข ความมั่นคง และการวางแผนสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง ทั้งคู่กำลังเตรียมงานแต่งงานอย่างเงียบ ๆ ควบคู่ไปกับการทำภารกิจสุดท้ายของ กรรณ คือการเรียนจบคณะบริหารธุรกิจวันนี้คือวันสำคัญยิ่งในชีวิตของกรรณ—วันรับปริญญาบัตร คณะบริหารธุรกิจ ณ หอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง แสงแดดยามบ่ายสาดส่องกระทบชุดครุยสีดำขลิบทองของเธอ กรรณยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่รักเธอที่สุด หัวใจของเธอพองโตด้วยความภาคภูมิใจรอบตัวเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัวและเพื่อนสนิทที่เดินทางมาแสดงความยินดี“ถ่ายรูปกลุ่มกันก่อนเลยค่ะ! กะทิอยากได้รูปครอบครัวใหญ่แบบเต็ม ๆ!” กะทิ ผู้เป็นเพื่อนรักสนิทและเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของกรรณกล่าวอย่างตื่นเต้น มือของเธอกำช่อดอกกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่จัดให้กรรณเองกับมือลูกไม้ เพื่อนรักอีกคน ซึ่งวันนี้แต่งตัวมาในชุดที่ดูดีเป็นพิเศษ ยืนอยู่ข้างกะทิและยิ้มอย่างยินดี “วันนี้แกสวยมากเลยนะกรรณ! เก่งที่สุด!”นพสูรย์ เจ้าบ่าวในอนาคตของกรรณ ยืนอยู่ข้างเธอในชุดสูทสีเทาอ่อน ดูโดดเด่นและส

  • ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์    บทที่ 17: คำตอบแห่งรักและหมากฝรั่งสีขาว

    แสงอรุณยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านเนื้อดีเข้ามาใน ห้องนอนใหญ่ ของ นพสูรย์ ละเลียดไปบนผิวเปลือยเปล่า สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นจนแทบจะกลืนกินทุกสิ่ง กรรณ ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่เธอรู้สึกว่าปลอดภัยและเป็นของเธออย่างสมบูรณ์ ความรู้สึกอิ่มเอมใจจากค่ำคืนที่ผ่านมายังคงซึมซาบอยู่ในทุกอณูของร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะแห่งความสุขนพสูรย์ลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาคมกริบของเขามีประกายแห่งความรักและความเสน่หาที่ไม่อาจปกปิด เขาใช้ปลายนิ้วที่ยังคงสั่นเทาเล็กน้อยเกลี่ยเส้นผมสีดำขลับที่ปรกใบหน้าสวยหวานของเธอออกอย่างอ่อนโยน“ตื่นแล้วเหรอ เจ้าหญิง ของฉัน” เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและเต็มไปด้วยความเสน่หา รอยยิ้มของเขาทำให้ดวงตาโค้งลงอย่างอบอุ่นกรรณซบหน้าลงกับแผงอกที่แข็งแกร่งของเขา สูดดมกลิ่นกายที่คุ้นเคย “ค่ะ... ฉันรู้สึกเหมือนกำลังฝันไปเลย เหมือนกำลังอยู่ในเทพนิยาย”“นี่ไม่ใช่ความฝัน ที่รัก” นพสูรย์กระชับอ้อมแขนรอบเอวบางของเธอแน่นขึ้น ราวกับต้องการตอกย้ำความจริง “นี่คือความจริงของเรา... ความจริงที่ฉันเฝ้ารอมานานแสนนาน”หมากฝรั่งกับการสารภาพรัก: สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์นพสูรย์ยันตัวขึ้น

  • ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์    บทที่ 16: ปีกที่สมบูรณ์และพายุที่คลี่คลาย

    สองเดือนต่อมา ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ความสัมพันธ์ระหว่าง กรรณ และ คุณมาลี ผู้เป็นแม่แท้ ๆ รวมถึง กันยา น้องสาว ก็แน่นแฟ้นขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณมาลีเต็มใจที่จะชดเชยเวลาที่สูญเสียไปทั้งหมดวันหนึ่ง คุณมาลีชวนกรรณไปที่คลินิกศัลยกรรมชื่อดังแห่งหนึ่ง“ไหนบอกว่าจะพามาเดินเล่นคะคุณแม่” กรรณถามอย่างสงสัยคุณมาลีจับมือกรรณอย่างอ่อนโยน “วันนี้แม่มีของขวัญให้ลูก... เป็นของขวัญที่แม่รู้ว่าลูกอยากได้มาตลอด”กรรณเบิกตากว้าง เมื่อคุณมาลีแนะนำให้เธอรู้จักกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเริ่มอธิบายถึงการผ่าตัด เสริมหน้าอก และขั้นตอนของการ ผ่าตัดแปลงเพศ ที่ทันสมัยที่สุด“แม่จะทำให้ลูกได้เป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด... ทั้งร่างกายและจิตใจ” คุณมาลีกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก “นี่คือสิ่งที่แม่ควรจะทำให้ลูกนานแล้ว”น้ำตาของกรรณไหลอาบแก้มด้วยความตื้นตัน สิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดชีวิตกำลังจะเป็นจริงด้วยมือของแม่แท้ ๆ ที่เพิ่งค้นพบกัน“ขอบคุณค่ะคุณแม่... ขอบคุณจริงๆ ค่ะ” กรรณโผเข้ากอดมารดาอย่างแน่นหนา ความรู้สึกของการได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงเติมเต็มทุกช่องว่างในหัวใจไม่นานหลังจากนั้น กรรณ

  • ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์    บทที่ 15: ความจริงที่เปิดเผย ณ งานวันเกิด

    หนึ่งสัปดาห์หลังจากการเปิดตัวความสัมพันธ์อย่างกล้าหาญ กรรณ ต้องไปร่วมงานอีเวนต์วันเกิดของ น้องเขตแดน ลูกชายคนเล็กของเพื่อนสนิทในวงการของ นพสูรย์ แม้ว่านพสูรย์จะอาการดีขึ้นมากจนออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ก็ยังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน และให้กรรณไปร่วมงานพร้อมกับ ลูกไม้ และ กะทิ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่แน่วแน่ขณะเดินทางในรถ กันยา น้องสาวก็โทรมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง แต่สีหน้าของกรรณยังคงมีความกังวลฉายชัด“แกอย่าไปคิดมากนะ กรรณ” ลูกไม้ตบบ่าเพื่อนเบาๆ “พ่อแกจะว่าอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้แกมี คุณนพสูรย์ และ คุณหญิงฤดี หนุนหลังแล้วนะ”“นั่นสิ กรรณ” กะทิเสริม “เรามาฉลองให้เขตแดนกันเถอะ อย่าให้คำพูดของคนใจร้ายมาทำลายวันดีๆ ของแก”กรรณพยักหน้า พยายามยิ้ม แต่ความกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับ พ่อเลี้ยงนล ยังคงกัดกินหัวใจเธอเมื่อกรรณ ลูกไม้ และกะทิเดินทางมาถึงงานวันเกิดที่จัดขึ้นอย่างหรูหราที่บ้านหลังใหญ่ของเจ้าภาพ พ่อเลี้ยงนลก็ปรากฏตัวขึ้นทันที เขาคงทราบล่วงหน้าว่ากรรณจะมา และตั้งใจมาเพื่อสร้างความวุ่นวาย“คิดจะมาแสดงความสวยงามเพื่อโปรโมตตัวเองอีกแล้วเหรอ ไอ้กรรณ” พ่อเลี้ยงนลเดินตรงเข้ามาหาเธอทันที สีห

  • ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์    บทที่ 14: ศูนย์บัญชาการรับมือพายุสื่อ

    เช้าวันรุ่งขึ้น บ้านสไตล์ลอฟต์ของ นพสูรย์ กลายเป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราว มีเพียง นพสูรย์ (ที่ยังมีร่องรอยบาดเจ็บเล็กน้อย), กรรณ, และ พี่อู๊ด เท่านั้นที่อยู่ร่วมกัน พี่อู๊ดวางเอกสารและกราฟวิเคราะห์กระแสข่าวอย่างเคร่งเครียดบนโต๊ะกลางห้อง“ข่าวโจมตีหนักมาก นพ” พี่อู๊ดเปิดฉาก “Gossip Boy มันเขียนเหมือนถูกจ้างมาให้ฆ่ามึงเลย ทั้งเรื่องภาพลักษณ์ การถอนตัวของสปอนเซอร์ และโดยเฉพาะการขุดคุ้ยเรื่องครอบครัวของ น้องกรรณ”กรรณกำมือแน่นด้วยความรู้สึกผิด นพสูรย์รีบจับมือเธอไว้เพื่อส่งกำลังใจ“แผนของผมครับพี่” นพสูรย์พูดอย่างหนักแน่น “เราจะไม่หนี และจะไม่ตอบโต้ด้วยความโกรธ เราจะสู้ด้วย ความจริงใจ และ ความรัก”พี่อู๊ดพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ดี! พี่ก็คิดแบบนั้น เราจะไม่จัดแถลงข่าว แต่เราจะปล่อย วิดีโอสัมภาษณ์แบบควบคุม”กลยุทธ์ "ความจริงจากหัวใจ"พี่อู๊ดอธิบายแผนการของตนเองอย่างละเอียด โดยมีใจความสำคัญคือการใช้ 'วิกฤต' เป็น 'โอกาส'1. จุดเปลี่ยนจากอุบัติเหตุ: ใช้ฉากเหตุการณ์รถชนเป็นจุดศูนย์กลางของการสื่อสาร เพื่อแสดงให้เห็นว่าความรักของทั้งคู่ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย แต่เป็นความผูกพันระดับชีวิต โดยเน้นย้ำ

  • ปีกที่สมบูรณ์ของซุปตาร์    บทที่ 13: เครือญาติและคำอวยพร

    ห้องพักผู้ป่วยพิเศษของ นพสูรย์ ดูหรูหราผิดกับห้องพักผู้ป่วยทั่วไป แต่มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นจากการดูแลของ กรรณ ที่ไม่ยอมห่างไปไหนขณะที่กรรณกำลังปอกผลไม้ให้เขาอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูที่มาพร้อมกับร่างของคนสองคน คือ คุณหญิงฤดี มารดาของนพสูรย์ และ ท่าน ส.ส. บิดาของเขา โดยมี พี่อู๊ด ผู้จัดการส่วนตัวของนพสูรย์เดินนำหน้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“นพ! ลูกแม่! เกิดเรื่องแบบนี้ทำไมไม่รีบบอกแม่!” คุณหญิงฤดีรีบเดินเข้าไปที่เตียงด้วยความเป็นห่วงสุดขีด เธอจับมือลูกชายพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ“ผมสบายดีครับแม่” นพสูรย์ตอบด้วยรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองกรรณที่ยืนอยู่ห่าง ๆ ด้วยความเกรงใจ “แม่ครับ... นี่ กรรณ ครับ”คุณหญิงฤดีหันไปมองกรรณอย่างพิจารณา ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก่อนจะหันมามองนพสูรย์อย่างสับสนและตำหนิเล็กน้อย ส่วนท่าน ส.ส. พยักหน้าให้กรรณอย่างสุภาพ แต่ก็มีแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“อู๊ด! แกปล่อยให้เรื่องบ้าอะไรมันเกิดขึ้นได้ยังไง!” คุณหญิงฤดีหันไปตวาดใส่ผู้จัดการส่วนตัวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด “ลูกพี่ลูกน้องของฉัน! เธอรู้ไหมว่าการที่นพขับรถหนีออกมาเพราะเรื่องผู้หญิงมันจะกระทบงานข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status