นางยังคิดว่าฉู่จวินสิงไม่ใช่คนที่จะต่อต้านเรื่องนี้ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่ฉู่จวินสิงทำเช่นนั้น คงจะเป็นเพราะว่าอยากให้ร่างกายของตนเองดีขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วให้เขาได้กราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับนางโดยเร็วเมื่อคิดว่าผ่านไปอีกไม่กี่วัน ร่างกายของฉู่จวินสิงก็จะฟื้นฟูได้เต็มที่เมื่อถึงเวลานั้น นางก็จะแต่งงานกับฉู่จวินสิงใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็ค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมาเมื่อดื่มยาติดต่อกันสามวัน ฟางอิ๋งก็พบว่าร่างกายของตนเองในตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บตรงหน้าอกอีกดูเหมือนว่าพิษที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของนางจะหายไปกว่าครึ่งแล้วผลยาของเจี่ยนอันอันนั้นช่างน่าประหลาดจริงๆ เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ สามวันเท่านั้น นางก็ดีขึ้นเยอะมากแล้วหากว่าดื่มยาขมๆ นี้ต่อไปอีกไม่กี่วัน เกรงว่าพิษในร่างกายของนางก็คงจะสลายหายไปจนหมดฟางอิ๋งหยิบชามยาขึ้นมา ดื่มยาเหลวๆ ในนั้นไปจนหมดเจี่ยนอันอันมอบลูกกวาดผลไม้ให้ฟางอิ๋งชิ้นหนึ่งฟางอิ๋งกินลูกกวาดผลไม้ลงไป แล้วพูดออกมาอย่างงงงวย “อันอัน ในถุงเฉียนคุนของเจ้า ตกลงแล้วมีของกี่อย่างกันแน่” “ทำไมข้าถึงได้มองเห็นเจ้านำของที่แตกต่างกันออกมาตลอดเลย?” “นอกจากนี้แล้วของบางอย่า
เขาเป็นคนที่ต่อต้านการดื่มยามากที่สุด แต่เพื่อที่จะฟื้นตัวได้โดยเร็ว เขาจะต้องบังคับตนเองให้ดื่มมันเจี่ยนอันอันมองท่าทีต่อต้านของเขาออก ในใจของนางก็ลอบขบขันขึ้นมาที่แท้ฉู่จวินสิงไม่เพียงแต่กลัวแมลง ยังกลัวการดื่มยาอีกด้วยดูเหมือนว่าไม่ว่าผู้ชายจะหล่อเหลาแค่ไหน และถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอ๋อง ก็ยังมีด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบอยู่ไม่นานก็มาถึงตอนค่ำ ทุกคนเพิ่งจะกินข้าวกันเสร็จท้องฟ้าก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเป็นระยะๆไม่นานฝนก็ตกเสียงดัง ‘เปาะแปะ’ ลงมาดีที่เรือนหลังนี้ถูกซ่างชิวและอวี๋ว่านปรับปรุงใหม่แล้วรอบหนึ่งถึงแม้ว่าฝนจะตกหนัก ก็ไม่พบว่ามีตรงจุดไหนที่ฝนรั่วลงมาสำหรับครอบครัวของฉู่จวินสิงแล้ว ฝนตกหนักก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรแต่สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยแล้ว กลับเป็นเพราะว่าจู่ๆ ที่เกิดฝนตกหนักขึ้นมา ทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นเป็นอย่างมากฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนเดิมทีที่ดินในหมู่บ้านชิงสุ่ยแห้งแล้งเป็นอย่างมาก ก็ถูกฝนตกหนักครั้งนี้ทำให้ชุ่มชื้นขึ้นมาเมื่อถึงเช้าวันถัดมา ฝนตกหนักก็หยุดลงชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ย ทั้งหมดพากันเดินออกมาจากในห้องด้วยความตื่นเต้น“สวรรค์
ฉู่จวินสิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนอันอัน เขาพูดออกมาเสียงอ่อนโยน “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นกังวลไป หากว่าเจ้าสามารถเสกเป็นอิฐหินบางส่วนจากจวนเยียนอ๋องได้ ข้าก็จะสามารถช่วยเจ้าโกหกได้”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินคำนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาในตอนที่นางย้ายจวนเยียนอ๋องมานั้น ไม่ว่านางจะพบอะไรก็หยิบเอามาจนหมดนางมองเห็นอิฐหินจำนวนมากที่วางเรียงกันชิดติดผนังอยู่ ก็รวบรวมย้ายทั้งหมดนั้นเข้าไปในห้วงมิติในตอนนั้นเจี่ยนอันอันคิดว่า หากว่าที่เนรเทศนั้นไม่มีเรือนให้อยู่นางก็สามารถนำอิฐหินเหล่านี้ออกมาสร้างเรือนได้กลับไม่คิดเลยว่า วันนี้สามารถใช้อิฐหินเหล่านั้น มาปูพื้นดินภายในลานบ้านได้เจี่ยนอันอันมองไปยังฉู่จวินสิงด้วยความตื่นเต้น “พูดเป็นเล่นไป ข้าเอาอิฐหินมาจากจวนเยียนอ๋องด้วยจริงๆ”ฉู่จวินสิงเมื่อได้ยินคำนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียง “พรืด” หัวเราะออกมาอิฐหินเหล่านั้นเขาคิดจะใช้เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศรอจนเมื่อเขาแต่งงานกับเจี่ยนอันอันแล้ว เขาจะไปอยู่บ้านพักตากอากาศนั้นทว่าบ้านพักตากอากาศนี้ยังไม่ทันได้สร้างขึ้นมา เขาก็ถูกส่งไปสังหารศัตรูที่สนามรบรอจนเมื่อเขากลับมาแล้ว ก็ถูกฮ่อ
ฉู่อันเจ๋อกลอกตาไปมา แล้วพูดกับฮูหยินว่า “แม่ใหญ่ พี่รองพูดถูกแล้ว” “อิฐหินเหล่านั้น เป็นข้าที่เคลื่อนย้ายเข้าไปในถุงเฉียนคุนเองขอรับ” “ภายหลังพี่สะใภ้รองมายังจวนอ๋อง ข้าก็ค่อยๆ นำถุงเฉียนคุนมอบให้กับนาง”ฮูหยินใหญ่เมื่อเห็นว่าพวกเขาสองพี่น้องพูดออกมาเช่นนี้ ถึงได้วางความสงสัยที่มีในใจคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินฮูหยินใหญ่ถามออกมาพวกเขาก็มองไปยังในเรือนที่จู่ๆ ปูทางเดินเล็กๆ เสร็จแล้ว ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทว่าเมื่อได้ยินคำของฉู่อันเจ๋อแล้ว พวกเขาก็คลายความสงสัยในใจทั้งหมดทันทีในตอนนี้เจี่ยนอันอันมายังด้านนอกเรือนแล้ว ก็เห็นชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยกำลังยืนพูดคุยกันเสียงดังตรงหน้าประตูพวกเขากำลังตื่นเต้นที่จู่ๆ เมื่อคืนก็เกิดฝนตกหนักขึ้นมีชาวบ้านหลายคนที่มองเห็นเจี่ยนอันอัน ก็หยุดพูดคุยกันมาทันทีเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจชาวบ้านเหล่านั้น นางมองไปยังทางทิศทางบ้านก็เห็นว่าซ่างชิวไม่ได้ออกมาโชคดีที่อวี๋ว่านมองเห็นเจี่ยนอันอัน ก็รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้ามีรอยยิ้มทันที“แม่นาง เมื่อคืนวานนี้เรือนของท่านไม่มีฝนรั่วใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าอวี๋ว่านยัง
อวี๋ว่านเดินเข้ามาแล้วกล่าวแนะนำกับเจี่ยนอันอัน “แม่นาง นี่คือภรรยาของข้า หลิวซื่อ”“เมื่อวานนางยังต่อว่าข้าอยู่เลย ว่าเหตุใดถึงรับค่าแรงจากท่านมากมายขนาดนั้น”เจี่ยนอันอันฟังแล้วก็ส่งยิ้มให้กับหลิวซื่อ“ค่าแรงนั้นเป็นสิ่งที่พี่อวี๋สมควรได้รับ พวกท่านเก็บไว้ใช้เถิด อย่าโทษพี่อวี๋อีกเลย”หลิวซื่อฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเขินอาย นางเริ่มรู้สึกมีไมตรีต่อเจี่ยนอันอันมากขึ้นขณะที่ซ่างตงเยว่เห็นว่าเจี่ยนอันอันมาแล้ว นางรีบก้าวลงจากเตียงอุ่นแล้วโผเข้ามากอดเจี่ยนอันอันแน่น“ท่านอา ท่านพ่อของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่างตงเยว่ที่กำลังโศกเศร้า พอได้เห็นเจี่ยนอันอัน ก็ร้องไห้หนักขึ้นเจี่ยนอันอันลูบหลังนางเบาๆ พลางเอ่ยปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน “เรื่องนี้ข้าได้ยินมาแล้ว เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ ข้าจะหาทางช่วยเอง”ตอนนี้ซ่างตงเยว่เชื่อใจเจี่ยนอันอันมากที่สุดฟังนางบอกว่าจะคิดหาทางช่วย ซ่างตงเยว่ก็หยุดร้องทันทีนางใช้ปลายแขนเสื้อเช็ดน้ำตาบนใบหน้า แล้วเงยหน้ามองเจี่ยนอันอัน“ท่านอา ท่านจะช่วยหาท่านพ่อของข้ากลับมาได้จริงๆ ใช่ไหมเจ้าคะ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าอย่างหนักแน่น “เจ้าอย่าได้
เจี่ยนอันอันเห็นซ่างตงเยว่นั่งอยู่ที่โต๊ะโดยที่ไม่ได้กินข้าวแม้แต่เม็ดเดียวดวงตาของนางบวมช้ำจากการร้องไห้ เห็นได้ชัดว่านางร้องไห้มาทั้งคืนเจี่ยนอันอันจึงพูดปลอบอย่างอ่อนโยนว่า “ตงเยว่ อย่าเสียใจไปเลย เจ้ากินข้าวเถิด”“พ่อของเจ้าจะไม่ได้ถูกขังอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอนานนัก ข้าจะพาพ่อของเจ้ากลับมาให้ได้”ทุกคนในที่นั้นก็พากันช่วยกันปลอบซ่างตงเยว่ ให้นางกินข้าวเสียก่อนเมื่อซ่างตงเยว่ได้ยินเจี่ยนอันอันยืนยันซ้ำๆ ว่านางจะพาซ่างชิวกลับมาให้ได้ในที่สุดนางก็ยอมยกตะเกียบขึ้นและเริ่มกินข้าวฉู่จวินสิงพูดเสียงเข้มว่า “เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ข้าก็จะไปที่ว่าการอำเภอพร้อมกับอันอันด้วย”“ข้าอยากเห็นนักว่า นายอำเภอผู้นั้นมีกี่หัวให้ข้าฟันออกมาได้”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าฉู่จวินสิงจะไปด้วย นางก็รีบตอบรับทันทีไม่นานทุกคนก็กินข้าวเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็เตรียมตัวออกเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเซิ่งฟางในฐานะอดีตเจ้าเมืองอินเป่ยย่อมตามไปด้วย ส่วนเหยียนเซ่าก็กลัวว่าฉู่จวินสิงไปที่ว่าการอำเภอแล้วจะถูกนายอำเภอกลั่นแกล้งเขาในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของฉู่จวินสิง จึงขอตามไปที่ว่าการอำเภอด้วย
เจ้าหน้าที่เฝ้ายามทั้งสองมองดาบในมืออย่างตะลึงงัน มันถูกกระบี่ของเซิ่งฟางฟันขาดเป็นสองท่อนพวกเขาโกรธจนคำรามลั่น จากนั้นก็ใช้ดาบที่หักนั้นพุ่งเข้าหาเซิ่งฟางอีกครั้งเซิ่งฟางกล่าว “ช่างไม่รู้จักเป็นรู้จักตายจริงๆ”เขาหลบคมดาบในมือของเจ้าหน้าที่เฝ้ายามอย่างง่ายดาย จากนั้นหนึ่งกระบี่แทงเข้าไปที่แขนของเจ้าหน้าที่เฝ้ายามคนหนึ่งทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ผู้นั้นร้อง “โอ๊ย” หนึ่งเสียงดาบก็พลันหลุดร่วงลงสู่พื้นเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งเห็นดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเขารีบหันตัวกลับไปวิ่งตรงไปยังหน้าประตูที่ว่าการอย่างรีบร้อน เคาะประตูอย่างรุนแรง“เปิดประตูเร็ว ฆ่าคนแล้ว!”ทันใดนั้น ประตูที่ว่าการก็เปิดออก ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่อีกห้าหกคนวิ่งออกมาในมือพวกเขาแต่ละคนถือดาบใหญ่ จ้องมองเซิ่งฟางด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยโทสะเจ้าหน้าที่คนนั้นที่ถูกกระบี่แทงเข้าที่แขน เห็นสหายกรูกันออกมาเขาก็ชี้นิ้วไปยังเซิ่งฟางพลางตะโกนด้วยโทสะ “วันนี้เจ้าไม่มีทางหนีรอดไปได้ จงยอมจำนนเสียโดยดี บางทีใต้เท้าของเราจะเมตตาไว้ชีวิตเจ้า!”เจ้าหน้าที่อีกผู้หนึ่งก็ตวาดเสียงดังด้วยความเดือดดาล “พวกเราบุกไปพร้อม
นายอำเภอกล่าวพลางก้าวลงจากบันไดด้วยความรวดเร็วเขาคว้าดาบจากมือของเจ้าหน้าที่แล้วฟันใส่เซิ่งฟางทันใดนั้นเอง ฉู่จวินสิงที่นั่งอยู่บนรถม้าก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศเขามาถึงตรงหน้านายอำเภอแล้วเตะดาบในมือของนายอำเภอกระเด็นออกไปนายอำเภอถูกเตะจนถึงกับตะลึงงันในทันทีขณะที่เขายังตะลึงอยู่ ฉู่จวินสิงก็ได้คว้าดาบใหญ่ขึ้นมาพาดบนลำคอของเขานายอำเภอตกใจจนขาสั่นและเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาบนหน้าผากเขารีบขอความเมตตา “ท่านจอมยุทธ์โปรดไว้ชีวิต ท่านจอมยุทธ์มีอะไรก็พูดกันดีๆ เถิด”เหล่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เห็นใต้เท้าของตนเองถูกจับ ต่างก็ตกใจจนหน้าซีดเผือดพวกเขามองหน้ากัน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยนายอำเภอเจี่ยนอันอันมองการเคลื่อนไหวของฉู่จวินสิงที่คล่องแคล่วราวกับสายน้ำ นางอดไม่ได้ที่จะตะลึงอยู่ครู่หนึ่งฉู่จวินสิงร้ายกาจนักนะ ถึงกับใช้วิชาตัวเบาได้แล้วก่อนหน้านี้เขายังทำท่าว่าเดินไม่ไหว ให้นางช่วยพยุงเขาขึ้นรถม้าตอนแรกเจี่ยนอันอันก็ยังสงสัยอยู่ ว่าร่างกายของฉู่จวินสิงไม่ใช่ว่าฟื้นฟูจนเกือบสมบูรณ์แล้วหรือเหตุใดเขายังทำท่าเหมือนเดินไม่ไหวอยู่อีกแท้จริงแล้วทั้งหมดที่เขาทำไปล้วนแสร้งแสดงทั้งส
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ