ฉู่อันเจ๋อเมื่อได้ยินเข้า ก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างตื่นเต้นทันที“พี่เซิ่งจะเป็นนายอำเภอแล้ว เช่นนั้นข้าคงต้องแสดงความยินดีกับพี่เซิ่งแล้ว”เซิ่งฟางยิ้มออกมาอย่างเขินอาย “เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัด ล้วนแต่เป็นเพียงแค่อันอันล้อเล่นเท่านั้น”เจี่ยนอันอันวางชามและตะเกียบลง แล้วพูดอย่างจริงจังออกมา “พี่เซิ่ง ข้าไม่ได้ล้อเล่น” “ข้าบอกว่าสามารถให้พี่เป็นนายอำเภอได้ พี่ก็จะได้เป็น”เมื่อถึงตอนนี้ ฉู่จวินสิงในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา“อันอัน เจ้ามีวิธีการอย่างไร ที่จะทำให้พี่เซิ่งได้เป็นนายอำเภอ?”ฉู่จวินสิงรู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นเพียงแต่พวกเขาตอนนี้ล้วนแต่มีสถานะเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป แล้วนางจะมีพลังอำนาจใด ที่จะให้เจ้าเมืองเห็นด้วยกับความคิดของนาง เจี่ยนอันอันกัดฟันยิ้มออกมา “เมื่อถึงเวลาท่านก็จะรู้เอง”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันยังคงปิดไว้ก่อน เขาก็ทำเพียงแค่ยิ้มออกมา ไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากที่คนทั้งหลายกินข้าวกันแล้ว เจี่ยนอันอันก็ไปปรุงยาถอนพิษให้ท่านปู่เฉิน ท่านปู่เฉินก็บังเอิญมาที่จวนในเวลานี้พอดีเจี่ยนอันอันยกชามยาเข้ามา ส่งให้ท่านปู่เฉิน
นางรีบดึงมือกลับมา แล้วลูบไปยังหน้าผากของฉู่จวินสิง ก่อนจะแตะไปที่หน้าผากตัวเอง“ท่านก็ไม่ได้มีไข้นี่ ทำไมถึงได้พูดจาไร้สาระตั้งแต่กลางวัน”รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่จวินสิงยิ่งกว้างขึ้น“เจ้าก็แค่พูดว่า ข้าฉลาดหรือไม่”เจี่ยนอันอันตะโกนออกมา นางเคยเห็นคนหน้าไม่อายมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นคนหน้าไม่อายจนถึงขนาดนี้มาก่อน“หากว่าไม่มีข้า อิฐหินที่ท่านเก็บไว้พวกนั้น เกรงว่าตอนนี้ก็คงจะถูกเก็บไว้ในจวนเยียนอ๋องเท่านั้น”เมื่อเห็นใบหน้าของเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยท่าทีไม่ยินยอม ฉู่จวินสิงก็หัวเราะออกมาเบาๆ“ท่านหัวเราะอะไรกัน ข้าพูดผิดไปอย่างนั้นหรือ?” เจี่ยนอันอันต่อยไปยังฉู่จวินสิงอย่างอารมณ์ไม่ดีนักฉู่จวินสิงคว้ามือเจี่ยนอันอันเอาไว้ในคราวเดียว ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าอก“หากไม่มีเจ้าคงจะไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ข้ายิ่งอยากจะแต่งงานกับเจ้ามากขึ้นแล้ว”ฉู่จวินสิงพูดออกมา ก่อนจะเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า แล้วจ้องมองเจียนอันอันด้วยสายตาลุกโชนทันใดนั้นใบหน้าเล็กๆ ของเจี่ยนอันอันก็แดงก่ำขึ้นมา นางรีบดึงมือกลับไป ก่อนจะเอียงหน้าไปอีกด้านหนึ่ง อย่างไม่กล้าสบสายตากับฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงยกมือขึ้น หยิบผมที่ร่วงลงมาต
เมื่อรถม้าออกจากหมู่บ้านชิงสุ่ย ก็มุ่งหน้าไปในทิศทางหนึ่งเจี่ยนอันอันถามด้วยความสงสัย “พี่เซิ่ง ที่นี่เป็นทางไปที่ว่าการมณฑลหรือ?”เซิ่งฟางฟาดแส้ไปที่ม้าพลางตอบโดยไม่หันกลับมามอง “ใช่แล้ว ที่นี่เป็นทางไปที่ว่าการมณฑล”“ที่ว่าการอำเภออยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการมณฑล อีกทั้งยังไกลกว่าที่ว่าการอำเภอด้วย”เจี่ยนอันอันรับคำ ก่อนจะเงียบไปนางเริ่มคิดแผนในใจ หากผู้ว่าการมณฑลเป็นขุนนางซื่อสัตย์ นางจะพูดจาด้วยดีๆหากฝ่ายตรงข้ามเป็นเหมือนนายอำเภอ เป็นขุนนางทุจริตที่รับสินบน เจี่ยนอันอันก็เตรียมท่าไม้ตายไว้แล้วรถม้าเดินทางมากว่าหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงหน้าประตูที่ว่าการมณฑลเมื่อรถม้าจอดลง ก็พอดีกับมีเกี้ยวหลังหนึ่งมาจอดอยู่หน้าที่ว่าการมณฑลเช่นกันคนผู้หนึ่งก้าวลงจากเกี้ยว สวมชุดขุนนางสีน้ำเงินเข้ม และสวมหมวกแพรดำเมื่อผู้ว่าการมณฑลก้าวลงมาแล้ว ก็หันไปมองรถม้า สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเซิ่งฟางเขาถึงกับชะงักอยู่ที่เดิมไปชั่วขณะแต่ไม่นานก็กลับคืนสติ ขมวดคิ้วและแค่นเสียงเย็นชาออกมาจากนั้นผู้ว่าการมณฑลสะบัดแขนเสื้อแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปในที่ว่าการมณฑลเซิ่งฟางลงจากรถม้า ในใจ
ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างๆ เห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที“พวกเจ้าช่างบังอาจนัก เห็นใต้เท้าแล้วเหตุใดยังไม่คุกเข่า?”“ทหาร จับพวกมันทุกคน!”เหล่าเจ้าหน้าที่ในที่ว่าการมณฑลกว่าสิบคนที่อยู่ในห้องโถงรับคำสั่งทันที พวกเขารีบรุดเข้ามาเพื่อจับตัวเจี่ยนอันอันและพรรคพวกทั้งสามคนแต่พอพวกเขาเข้ามาใกล้ เซิ่งฟางก็ร้องตวาดขึ้นด้วยความโกรธทันที “ดูสิว่าใครกล้าเข้ามา ข้าจะฆ่าคนผู้นั้นเดี๋ยวนี้”คำพูดของเซิ่งฟางทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ชะงักและหยุดฝีเท้าลงในทันทีผู้ว่าการมณฑลโกรธจัด ขว้างไม้เรียกสติที่อยู่ในมือไปทางเซิ่งฟาง“เจ้ามันโจรทรยศเมืองบังอาจนัก กล้าดีอย่างไรถึงมาป่วนที่ว่าการมณฑลของข้า““พวกเจ้ามัวทำอะไรกันอยู่ จับพวกมันให้หมด!”เซิ่งฟางคว้าไม้เรียกสติที่ถูกขว้างมาได้อย่างรวดเร็วจากนั้นเขายกเท้าขึ้นถีบเข้าที่ท้องของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งจนอีกฝ่ายปลิวกระเด็นไปเมื่อเจ้าหน้าที่คนอื่นเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็แสดงสีหน้าดุดันทันทีพวกเขาชักดาบจากเอวออกมาและพุ่งเข้าฟันใส่ทั้งสี่คน เจี่ยนอันอันเตะเข้าที่ข้อมือของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ดาบในมือเขากระเด็นลอยไปนางคว้าดาบนั้นไว้และเริ่มต่อสู้กับเจ
เมื่อผู้ว่าการมณฑลได้ยินดังนั้น ก็รีบสั่งให้คนไปตรวจสอบที่หมู่บ้านชิงสุ่ยทันทีส่วนนายอำเภอ เมื่อได้ยินว่าเจี่ยนอันอันเพียงแค่เอ่ยถึงหมู่บ้านชิงสุ่ย หัวใจที่เคยเต็มไปด้วยความกังวลของเขาก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้างเรื่องของหมู่บ้านชิงสุ่ย แม้ว่าเขาจะมีส่วนผิด แต่คนที่ลงมือวางยาพิษจริงๆ ไม่ใช่เขาถึงจะถูกตรวจสอบจนเจอความจริง เขาก็ไม่ถึงขั้นถูกตัดหัวเขาสามารถอ้างได้ว่า ที่ทำไปเพราะถูกน้องเขยอย่างจางต้าบีบบังคับอย่างไรจางต้าก็ตายไปแล้ว ไม่มีหลักฐานมายืนยันอีกต่อไปเขาจะพูดอะไรก็ได้ตามใจชอบเจี่ยนอันอันก้มลงมองนายอำเภอ และเห็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขานางก็รู้ถึงความคิดในใจของนายอำเภอทันทีเจี่ยนอันอันจึงพูดต่อไปว่า “หากใต้เท้าส่งคนไปสอบสวนเพียงแค่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ย ย่อมไม่สามารถค้นพบความผิดทั้งหมดของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้”“ใต้เท้าจำเป็นต้องส่งคนไปสอบถามชาวบ้านในอำเภอไถหยางด้วย เพื่อดูว่าพวกเขาจะว่าอย่างไรบ้าง”ผู้ว่าการมณฑลขมวดคิ้วแน่นขึ้นในฐานะผู้ว่าการมณฑล เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกเด็กสาวคนหนึ่งล้อเล่นนางบอกว่ามีหลักฐาน แต่กลับไม่ได้นำออกมาให้เห็น แถมยังบอกให้เขาส่งคน
นายอำเภอคิดหาทางแก้ตัวเอาไว้แล้ว เขาสั่นเทิ้มไปทั้งตัวและร้องแก้ต่างออกมาทันที“ใต้เท้า ข้าน้อยถูกน้องเขยบังคับ จึงต้องส่งมอบน้ำยาคูหยาให้ไป แต่ข้าน้อยไม่ได้เป็นคนลงมือวางยา ข้าน้อยถูกใส่ความจริงๆ ขอรับ!”เจี่ยนอันอันหัวเราะออกมาอย่างเหลือเชื่อกับคำพูดของนายอำเภอฉู่จวินสิงถีบนายอำเภอเข้าไปหนึ่งทีแล้วตวาดอย่างโกรธจัด “เจ้าเป็นถึงนายอำเภอ แต่กลับบอกว่าถูกน้องเขยข่มขู่”“เจ้าคิดว่าพูดออกมาแล้วจะมีใครเชื่อเจ้าอย่างนั้นหรือ?”แม้ว่าผู้ว่าการมณฑลจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรกับเจี่ยนอันอันและพรรคพวก แต่คำพูดของนายอำเภอก็เต็มไปด้วยช่องโหว่เขาย่อมไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของนายอำเภอเลยผู้ว่าการมณฑลตบโต๊ะอย่างแรงและตะโกนด้วยความโกรธ “ไร้สาระ!”“หากเจ้ายังไม่พูดความจริง ข้าจะปลดเจ้าจากตำแหน่งนายอำเภอเดี๋ยวนี้!”นายอำเภอรู้ว่าผู้ว่าการมณฑลกำลังพูดกับเขา ตกใจจนตัวสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง รีบหดคอด้วยความกลัวเดิมทีเขาคิดว่าคำพูดของตนไม่มีช่องโหว่ และผู้ว่าการมณฑลต้องเข้าข้างเขาอย่างแน่นอนแต่คิดไม่ถึงว่า ผู้ว่าการมณฑลจะไม่เชื่อในคำพูดของเขาเช่นกันนายอำเภออึกอักอยู่ครู่หนึ่ง สมองพยายามคิดหาทางออกอย่างร
ฉู่จวินสิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเจี่ยนอันอันจะมีป้ายคำสั่งลายมังกรอยู่ในครอบครองป้ายคำสั่งนี้เป็นของล้ำค่าที่เก็บไว้ในคลังหลวง แต่กลับมาอยู่ในมือของเจี่ยนอันอันได้ดูท่าทางเจี่ยนอันอันไม่เพียงแค่ขนสมบัติทั้งหมดจากจวนเยียนอ๋อง แต่ยังบุกไปขนสมบัติจากคลังหลวงอีกด้วยนางช่างกล้าบ้าบิ่นเกินคนจริงๆ!เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉู่จวินสิงก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากขณะเดียวกันบนใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็ปรากฏรอยยิ้มลำพองใจนางพูดกับผู้ว่าการมณฑลด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฮ่องเต้มีราชโองการ ปลดนายอำเภอออกจากตำแหน่งทันที แต่งตั้งเซิ่งฟางเป็นนายอำเภอแทน”แม้ว่าภายในใจของผู้ว่าการมณฑลจะไม่เต็มใจอย่างที่สุด แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรตอนนี้เมืองอินเป่ยตกอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นไท่ยวนแล้ว หากฮ่องเต้ออกคำสั่ง เขาในฐานะผู้ว่าการมณฑลจะกล้าขัดได้อย่างไร“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเขียนร่างคำสั่ง เพื่อแต่งตั้งเซิ่งฟางเป็นนายอำเภอ”ผู้ว่าการมณฑลพูดเสร็จแล้วก็ยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนเจี่ยนอันอันส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ แล้วพูดว่า “ยังคุกเข่าอยู่ทำไม รีบไปเขียนร่างคำสั่งเร็วเข้าสิ!”
เจี่ยนอันอันมองไปทางเจ้าเมือง “เจ้ามีอันใดไม่พอใจเกี่ยวกับการตัดสินใจของข้าหรือไม่?”เจ้าเมืองรีบค้อมกายตอบ “ข้าน้อยไม่กล้าไม่พอใจ”“หึ แค่ไม่กล้าเท่านั้นรึ?”เจี่ยนอันอันจ้องเจ้าเมืองเขม็งจนฝ่ายตรงข้ามต้องก้มศีรษะลง“ข้าน้อยมิกล้า แต่ข้าน้อยมีเรื่องหนึ่งไม่เข้าใจ เหตุใดพวกท่านจึงต้องการให้เซิ่งฟางเป็นนายอำเภอ?”ในเมื่อเซิ่งฟางกลับเมืองอินเป่ยมาพร้อมกับเหล่าเชื้อพระวงศ์ เขาไม่ควรได้รับตำแหน่งสูงกว่านั้นหรอกหรือไยจึงได้เป็นแค่นายอำเภอตัวเล็กๆ คนหนึ่งเล่า?นี่เป็นเรื่องที่เจ้าเมืองคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจเจี่ยนอันอันมองบนใส่เจ้าเมือง “พวกข้าทำเช่นนี้ยังต้องอธิบายต่อเจ้าอีกงั้นรึ”เจี่ยนอันอันกล่าวจบก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากโถงใหญ่ฉู่จวินสิงและเหยียนเซ่าก็ตามออกมาเช่นกันเจ้าเมืองรีบตามออกมาส่งเขามองส่งรถม้าจากไปแล้วค่อยเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากเวลานั้นเอง เจ้าหน้าที่ทางการที่ถูกเจ้าเมืองส่งไปหมู่บ้านชิงสุ่ยก็ก้าวออกมาตรงหน้าเจ้าเมือง“ใต้เท้า ข้าน้อยสืบได้ความแล้วขอรับ กลุ่มคนที่มาเมื่อครู่นี้เพิ่งมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชิงสุ่ยได้ไม่กี่วันนี่เอง”“ได้ยินคนหมู่บ้านชิงสุ่ยพูดกันว่า
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ