Home / รักโบราณ / พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง / ตอนที่ 4  ทำหน้าที่พระสนม

Share

ตอนที่ 4  ทำหน้าที่พระสนม

last update Last Updated: 2025-02-26 23:59:22

 

อาจูไม่กล้ามองพระพักตร์ท่านอ๋องพวกนางก้มหน้าและพากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หลินเย่จะลุกแต่กลับถูกเขากดไหล่ให้นั่งลงพร้อมกับก้มตัวลงมา

“ทำไม เจ้าไม่อยากแต้มกลีบดอกไม้ห้ากลีบนี่เพื่อแสดงว่าแต่งงานแล้วงั้นหรือ”

หลินเย่เลือกที่จะไม่ตอบ เฟิ่งอ๋องเมื่อเห็นท่าทางอวดดีของคนตรงหน้ายิ่งทำให้เขานึกโมโหนางขึ้นมา เขาเดินไปจับตรงคางเพื่อเชยขึ้นมาพร้อมกับหยิบพู่กันเพื่อวาดกลีบดอกไม้ลงไปที่หน้าผากของนางทันที 

“เจ้าจะมองข้าเช่นนี้อีกนานหรือไม่ แม้ว่าจะเกลียดข้าแค่ไหนสุดท้ายก็หนีไม่พ้นว่าพวกเราก็คือคู่แต่งงานใหม่อยู่ดี ไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไรกัน หึ เลือกที่จะเงียบงั้นหรือ ดี เช่นนั้นข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะเงียบไปได้ถึงเมื่อใด เอาล่ะ...เสร็จแล้ว”

หลินเย่สะบัดหน้าหนีเขาออกมาด้วยความเกลียดชังเขาสุดชีวิต นางเกลียดจนอยากฆ่าเขาเสียตรงนี้เสียด้วยซ้ำ แม้ว่ารูปหน้าที่หล่อเลาของเขาจะต้องตาผู้คนที่พบเห็นอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ใช่กับนาง

ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่นางก็เกลียดเขาอยู่แล้ว ยิ่งมาพบเจอและสิ่งที่เขาทำกับนางยิ่งทำให้นางเกลียดเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก

“โอ้ ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้เราจะดุเดือดกันไม่ใช่น้อยเลยนะพระสนม ข้าคิดว่าอาจูปกปิดร่องรอยแห่งรักของข้าไม่หมด หรือว่าเจ้า…จงใจจะเปิดยั่วข้ากันแน่”

“ต่ำช้า หยาบคาย”

เฟิ่งจื่อหลิงดึงตัวนางขึ้นมาพร้อมกับสบตานางกลับไป เขาพยายามแล้วที่จะข่มอารมณ์โกรธเอาไว้เพราะเห็นว่านางเป็นสตรี

แต่ว่าทุกครั้งที่พบหน้านางทุกครั้ง แต่ละคำที่ออกมาจากปากที่เขาจูบอยู่เมื่อคืนนี้กลับพูดแต่คำที่ยั่วยุอารมณ์โกรธของเขาเสียยิ่งนัก 

“อย่ามาท้าทายความอดทนของข้าอีก ได้เวลาแล้ว ไปท้องพระโรงกับข้า”

“เหตุใดข้าต้องไป!!”

“เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง ไป!! ได้เวลาแสดงละครแล้ว ทำให้ดีให้เหมือนคู่แต่งงานใหม่ที่เขาทำกัน มิเช่นนั้น…สาวใช้ของเจ้า…”

“ข้ารู้แล้ว ปล่อยมือข้า ข้าเจ็บ”

“ได้ เช่นนั้นก็….”

มือหนาของเขาคว้าไปที่รอบเอวของนางเพื่อให้เดินมากับเขาแทนการจูงมือ หลินเย่แทบอยากจะดึงแขนนั้นมากัดเสียให้แหลกคาปากเสียยิ่งนัก

ท้องพระโรง

เขาส่งนางไปยังห้องข้างๆที่มีม่านสีขาวและม่านลูกปัดบดบังอยู่ คนด้านนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ แต่นางยังเห็นเหตุการณ์ด้านนอกได้อยู่เพียงแต่ไม่สามรถมองหน้าผู้ใดชัดเจนมากนัก

เมื่อหันไปมองด้านซ้ายมือก็จะพบเฟิ่งอ๋องที่นั่งอยู่ที่บัลลังก์อ๋องเพื่อประชุมเช้ากับเหล่าขุนนาง เมื่อเขานั่งลงทักทายขุนนางแล้วก็หันมามองนางพร้อมกับแสยะยิ้มส่งมาให้ แม้ว่านางจะแอบหวั่นไหวกับรอยยิ้มนั่นแต่นางก็ไม่ลืมว่านางเกลียดเขาเพียงใด

“เอาล่ะขุนนางทุกท่าน ข้อราชกิจของเราก็ตกลงกันได้แล้ว…..”

หลินเย่หันไปมองหน้าเขาระหว่างที่เขาพูดคุยและประชุมขุนนาง การพูดคุยและการตอบคำถามและการประชุมในวันนี้กลับมีแต่การวางแผนการปกครองแคว้นที่ไม่ได้เหมือนหรือใกล้เคียงกับข่าวลือที่ว่าฉีอ๋องแห่งฉีโจวนั้นเป็นผู้ที่ไม่สนใจราชกิจ มักมากในกามและเป็นคนละโมบ

เหตุใดท่านอ๋องในยามนี้เอาแต่พูดถึงเรื่องพัฒนาแคว้นเพื่อประชาชน หรือว่านี่คือละครฉากใหญ่ที่เขาตั้งใจแสดงให้นางดูกันแน่

“เอาล่ะ เช่นนั้นมีผู้ใดมีข้อเสนอเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากไม่มีก็เลิกประชุม”

เหล่าขุนนางเองก็ดูเหมือนจะกล้าถกประเด็นร่วมกับเขาซึ่งหลินเย่เองถึงกลับแปลกใจแม้ว่านางจะเคยเข้าร่วมประชุมในราชสำนักไม่กี่ครั้งที่ชุนฮัวแต่การประชุมก็ไม่ได้ดุดันและเด็ดขาดอย่างเฟิ่งอ๋อง

“พระสนม กลับกันเถอะ”

หลินเย่ลุกขึ้นและเดินตามเขาออกไปเพื่อเดินกลับตำหนัก หากว่านางมิได้มีความแค้นกับเขาเรื่องพี่สาวของนางมาก่อน นางก็คงคิดว่าบุรุษหนุ่มที่เดินข้างนางตอนนี้เป็นคนที่น่านับถือคนหนึ่ง

 ทั้งวิธีการพูดคุยและความเด็ดขาดในการตัดสินใจของเขาไม่ต่างกับแม่ทัพหยางบิดาของนางเพียงแต่เขาและนาง มิอาจอยู่ร่วมกันได้…..

“เจ้าเงียบไปตั้งแต่เข้าประชุม ตอนนี้ไม่มีอะไรจะคุยกับข้างั้นหรือ”

“ไม่….มี….ข้าอยากพบมี่อิน”

“หึ ที่เงียบมาตลอดนี่เพราะเรื่องนี้งั้นหรือ เช่นนั้นข้าขอคิดดูก่อนนะ”

“มี่อินคือสาวใช้ ที่นางทำไปล้วนเพราะเป็นคำสั่งของข้า ท่านคงมีมโนธรรมมากพอที่จะไม่ดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย”

เฟิ่งอ๋องหยุดเดินและหันมามองหน้าผู้ที่เหมือนกำลังจะขอร้องเขาอยู่ หลินเย่เองก็ดูเหมือนจะหันไปมองหน้าเขาเล็กน้อยเพื่อฟังการตัดสินใจของเขาเช่นกัน

“หากอยากให้ข้าปล่อยนาง ก็ต้องดูพฤติกรรมของเจ้าก่อน หากเจ้าทำตัวดีๆไม่พยศอีก ข้าก็จะเอาไปคิดดู”

“หึ สุดท้ายก็ได้แค่ข่มขู่สินะ ท่านไม่คิดจะปล่อยพวกเราไปด้วยซ้ำเหตุใดจึงไม่ฆ่าพวกเราเสียเล่า”

"นั่นเพราะว่าพวกเจ้าไม่ควรตายง่ายเกินไป ความทรมานที่เจ้าได้รับมันยังน้อยเกินไปที่พี่สาวเลวของเจ้าทำเอาไว้"

“แต่ดีร้ายเช่นไรนางก็เป็นพระสนมของท่าน เป็นท่านที่ปกป้องนางแล้วทำให้ผู้อื่นรับเคราะห์แทน พวกท่านล้วนสมควรตายไปด้วยกันทั้งคู่”

เฟิ่งอ๋องมองหลินเย่ด้วยความรู้สึกแปลกใจ นี่นางกำลังพูดสิ่งใดกัน เหตุใดจึงบอกว่าพี่สาวของตัวเองก็สมควรตาย นางไปรู้อะไรมากันแน่

“เจ้ามิได้รักและห่วงใยพี่สาวของตนเองงั้นหรือ ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าเป็นพี่น้องร่วมบิดากันจะรักใคร่กันมากกว่านี้เสียอีก”

หลินเย่ไม่ตอบเขา ใบหน้านางตอนนี้นิ่งเฉยและพยายามข่มใจเพื่อไม่ให้ทำร้ายเขาเพราะนางต้องช่วยมี่อินออกมาให้ได้ก่อน มี่อินอยู่ในมือของเขาทำให้นางไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก 

“เรื่องนี้…ไม่เกี่ยวกับท่าน”

“ชุนฮัวคงมิได้คิดไม่ซื่อส่งองค์หญิงปลอมมาแต่งงานกับข้าหรอกกระมัง เพราะหากเป็นเช่นนั้น….ข้าก็จะไม่ปล่อยเอาไว้เช่นกัน”

นี่ท่าน!! ….หึ สุดท้ายก็เป็นดังตามคำร่ำลือ ท่านก็แค่คนมักมากที่ต้องการสตรีรายล้อมไม่ขาด ที่พาข้าไปประชุมด้วยในวันนี้เพียงเพื่อแสดงละครให้ข้าดูสินะ”

เฟิ่งอ๋องหันมารวบตัวนางเอาไว้ ท่ามกลางสายตาของสาวใช้ที่เดินตามพวกเขามา แต่ว่าแต่ละคนต่างก็ก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้ามองพวกเขา จื่อหลิงก้มหน้าลงมาแทบจะชิดหลินเย่เพื่อให้นางได้ยินเพียงคนเดียว

“ข้าจะมักมากหรือไม่ เจ้าอยู่ไปก็จะรู้เอง แต่หากเมื่อใดที่ข้าต้องการ พระสนมก็ต้องปรนนิบัติตามหน้าที่ มิให้บกพร่องเจ้าเข้าใจหรือไม่”

“ฝันไปเถอะ จะไม่มีวันเกิดเรื่องเช่นเมื่อคืนนี้อีกเป็นอันขาด”

“เช่นนั้นพระสนมก็รอรับแขนข้างซ้ายของสาวใช้เจ้าในตอนบ่ายนี้ได้เลย”

“คนต่ำช้า รังแกคนไม่มีทางสู้ ท่านมันทรราช คนสารเลว”

“พระสนม!!”

“ท่านอ๋อง มีรายงานด่วนพ่ะย่ะค่ะ”

หลงอี้ องครักษ์คนสนิทของเฟิ่งอ๋องรุดหน้าเข้ามาเพื่อรายงานข่าวสำคัญแม้ว่าตอนนี้ทั้งท่านอ๋องและพระสนมจะเอาแต่จ้องสบตากันราวกับว่าจะให้อีกฝ่ายตายลงไปตรงหน้าเสียให้ได้ 

“มีสิ่งใดเร่งด่วน”

“รายงานด่วนพ่ะย่ะค่ะ”

เฟิ่งจื่อหลิงละสายตาจากหลินเย่ไป เขาทราบในทันทีด้วยน้ำเสียงขององครักษ์ที่มาแจ้งข่าว เขาจึงยอมปล่อยพระสนมออกจากวงแขน

“พวกเจ้าพาพระสนมกลับตำหนักก่อน ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามนางออกไปเดินเพ่นพ่านข้างนอกโดยเด็ดขาด”

“เพคะ”

“ทางที่ดีท่านควรขังข้าพร้อมกับมี่อิน มิเช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยท่านเอาไว้แน่”

“พาตัวนางไป”

สาวใช้รีบพาตัวหลินเย่ออกจากที่นั่นโดยเร็ว พวกนางทั้งขอร้องทั้งลากและดันให้หลินเย่ยอมเดินกลับตำหนัก นางไม่ทิ้งโอกาสส่งสายตาเกลียดชังให้เขาแม่แต่ครั้งเดียว 

“หึ เกลียดข้าถึงเพียงนี้เชียว คิดว่าข้าสนหรืออย่างไร เจ้ามีอะไรหลงอี้”

“ท่านอ๋องคนของเรารายงานมาว่าผู้ที่ถูกส่งมาครั้งนี้มิใช่องค์หญิงจินลั่วเฟยพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าว่าอะไรนะ!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 3  งานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่  

    งานอภิเษกองค์หญิงจินลั่วเฟยงานอภิเษกยิ่งใหญ่ดังคำประกาศที่ฝ่าบาทได้แจ้งเอาไว้จริงๆ บัดนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงของชุนฮัวต่างพากันตกแต่งซุ้มดอกไม้และประดับธงมงคลทั่วทุกบ้าน และทางวังหลวงยังจัดให้มีขบวนรถม้าเพื่อแห่ขบวนคู่บ่าวสาวของราชวงศ์ตามธรรมเนียมของชุนฮัวด้วยเช่นกันบ่าวสาวในชุดสีขาวบริสุทธ์ปักด้วยเพชรและทองทั้งตัวจากช่างฝีมือดีของในวังที่เพียรตัดชุดนี้ขึ้นมาอย่างประณีต องค์ชายฟงเจ้าหนานจับมือองค์หญิงจินลั่วเฟยขึ้นรถม้าที่ประดับด้วยดอกไม้พร้อมกับรับตะกร้ามาจากสาวใช้ ในนั้นบรรจุแผ่นทองเต็มสองตะกร้า เพื่อให้ทั้งคู่โปรยแจกราษฎรในเมืองหลวงระหว่างที่ขบวนแห่เริ่มออกจากวังหลวง“ข้าน่าจะมาแต่งที่ชุนฮัวบ้างนะ พิธีการของที่นี่ช่างน่าสนใจยิ่งนัก”“พระองค์อยากแต่งที่ชุนฮัวหรืออยากได้พระสนมที่ชุนฮัวเพิ่มเพคะ”“เปล่านะๆ ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าอย่าเข้าใจข้าผิด เจ้าดูสิ พวกเขานั่งรถม้าโบกมือให้ประชาชนที่มารอร่วมยินดีกับพวกเขาทั้งสองข้างทาง ช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ในฉีโจวเราไม่มีพิธีแบบนี้เกิดขึ้นเลยสักครั้ง”“ชุนฮัวเป็นเช่นนี้มานานแล้วเพคะ เพียงแต่ว่านานๆถึงจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เหล

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 2  พิธีสู่ขอองค์หญิง    

    แคว้นชุนฮัว“หลินเย่ ถึงแล้ว”“จื่อหลิง เหตุใดจึงหนาวเช่นนี้เพคะ”“ตอนนี้ชุนฮัวคงเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว มาเถอะ ข้าจะสวมเสื้อคลุมกับถุงมือให้”“ขอบพระทัยเพคะ”“หลินเย่ พี่เฟิ่งพวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง”“อ้อ เจ้าหนานหลินเย่คงไม่ค่อยชินเท่าไหร่น่ะ เห็นบ่นว่าหนาวลั่วเฟยล่ะ”“พานางไปดื่มชาร้อนด้านในก่อนเถอะ ลั่วเฟยบอกให้กข้ามารับพวกท่านเข้าไปด้านในก่อน อีกห้าสิบลี้กว่าจะถึงชุนฮัว ต้องพักที่นี่ก่อน”“ได้สิ อีกเดี๋ยวข้าจะตามเข้าไป แล้วเนี่ยฝานกับลั่วเจินเล่า”“พวกเขาเข้าไปแล้วขอรับ”“ได้ เช่นนั้นข้าจะรีบพาหลินเย่ตามเข้าไป”“ได้ขอรับ”“หลินเย่ ไหวหรือไม่”“จื่อหลิง หนาวจังเลยเพคะ หม่อมฉันไม่อยากออกไปเลย”“มาเถอะ ข้าพยุงเจ้าไปเองนะ ลั่วเฟยให้เจ้าหนานมาตามเราเข้าไปด้านใน อยู่ตรงนี้จะหนาวนะ ไปเถอะหลินเย่ค่อยๆเดินออกมาด้านนอกรถม้าที่จอดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมก่อนถึงแคว้นชุนฮัว นางเดินลงจากรถม้าและรีบโผเข้ากอดเฟิ่งอ๋องทันทีเพราะความหนาวเย็นเขาพยุงนางและพาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมที่คนที่เหลือนั่งดื่มชารออยู่ ลั่วเฟยเมื่อเห็นหลินเย่เดินเข้ามาจึงรีบนำเตาอุ่นมือวิ่งเอาไปให้นาง“หลินเย่ นี่เตาอุ่นมื่อ เจ้าอุ้มเอ

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 1 เดินทางกลับแคว้นชุนฮัว

    “พี่หญิงข้าจะรีบไปรีบกลับนะเจ้าคะ ท่านอยู่ที่นี่ต้องดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ”“ไปเถอะเจ้าไม่ต้องห่วงข้ากับท่านพ่อนะ เที่ยวให้สนุก”“แม่ชีหลาน ไว้พบกันวันขึ้นเขานะ”“ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”ท่านอ๋องหันไปมองหน้าสหายที่ตะโกนบอกกับหลานผิงอันอยู่ข้างรถม้าของเขา เฟิ่งจื่อหลิงรู้สึกว่าท่าทีของสหายข้างๆแปลกไป หลายวันมานี้เขาขอตัวไปเฝ้าและรับอาสาส่งยาของท่านหมอไปที่จวนสกุลหลานนอกเมืองและมักจะหายไปหลายชั่วยามในแต่ละวัน“เจ้าจะรอจนนางกลับไปบำเพ็ญเพียรก่อนจึงจะยอมบอกความรู้สึกหรืออย่างไร”“ท่านอ๋อง พระองค์ทรงตรัสอะไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแต่....”“อย่ามาใช้คำพวกนี้กับข้า เป็นสหายกับเจ้ามาหลายปี มาตอนนี้จะมาเรียกข้าเช่นนี้ บอกข้ามาเจ้ากำลังตกหลุมรักเข้าแล้วสินะ”“จื่อหลิงเจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล ข้าน่ะ...”“พี่ใหญ่ ท่านพี่ พวกท่านคุยอะไรกันอยู่เพคะ”“อ้อ...หลินเย่ข้ามีอะไรจะบอกเจ้าด้วย คือว่า..”“ก็ได้ๆ เฟิ่งจื่อหลิงเจ้าคนเจ้าเล่ห์ ข้ายอมรับ เจ้าอย่าพึ่งบอกหลินเย่นะ นางหวงหลานผิงอันยิ่งกว่าผู้ใดเสียอีก”“เรื่องนี้น้องรองของเจ้าก็รู้สินะ”“ใช่ นางรู้”“แล้วเหตุใดให้หลินเย่รู้ไม่ได้เล่า”“น้องสามไม่เหมื

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 40 สัญญาใต้ดวงดาว  (ตอนจบ )

    “หม่อมฉันเองก็มีความสุขมากเพคะ ที่พวกเราอยู่กันพร้อมหน้าเช่นนี้ เสียดายที่ท่านพ่อหลานมาไม่ได้”“ใต้เท้าหลานคงต้องรักษาตัวอีกสักพัก เขาตามไปอยู่ที่วัดกับแม่ชีหลานอาจจะทำให้สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นมาก็เป็นได้”“ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเพคะ”พวกเขาเข้ามาร่วมวงสนทนาเป็นวงใหญ่เมื่อท่านอ๋องและพระชายามาร่วมด้วยทำให้กลุ่มของพวกเขาเสียงดังกว่าผู้ใดในงานเลี้ยงจนเป็นที่จับตามอง“องค์ชาย หากว่าท่านกลัวว่าฝ่าบาททของชุนฮัวไม่ยกองค์หญิงให้ เช่นนั้นข้าจะเป็นตัวแทนฝ่ายเจ้าบ่าวไปสู่ขอให้ท่านดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง พระองค์ตรัสจริงหรือไม่เรื่องนี้กล่าวเล่นๆไม่ได้นะเพราะข้าจริงจังมาก”“ข้าไม่ได้กล่าวเล่นๆ ในเมื่อช่วยให้พวกท่านสมหวังได้เหตุใดจึงจะช่วยไม่ได้กันเล่า ถือโอกาสพาหลินเย่กลับไปเยี่ยมบ้านด้วย ใช่หรือไม่เนี่ยฝาน”“ดี ยอดเยี่ยม ขบวนรถม้าครั้งนี้คงราวกับคาราวานขนส่งสินค้าข้ามแดนเลยกระมังดูจากผู้ที่ร่วมเดินทางแล้วมีมากเหลือเกิน”“เป็นหน้าที่ท่านกับหลงอี้แล้วล่ะที่ต้องดูแลพวกเราตอนเดินทาง ว่าอย่างไรองค์ชายฟงเจ้ายังกลัวอยู่หรือไม่”“หากว่าท่านอ๋องเอ่ยปากขนาดนี้ มีทุกคนช่วยพูด ข้าเชื่อว่างานนี้ฝ่าบาททไม่ยอมก็ต้

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 39 ข่าวดีล่าสุด

    งานแต่งตั้งพระชายาท่านอ๋องชุดสีแดงสลับขาวปักเลื่อมลายนกยูสีทองบนฉลองพระองค์พร้อมกับเครื่องประดับสีทองถูกสวมลงบนเรือนร่างของพระสนมหยางหลินเย่ เมื่อเกี้ยวจอดอยู่หน้าตำหนักเพื่อมารับพระสนมไปที่ท้องพระโรงเพื่อทำพิธีแต่งตั้งพระชายา “เมื่อขึ้นเกี้ยวนี้ไปกลับเข้ามาอีกครั้งต้องเป็นพระชายาแล้วนะหลินเย่ เจ้าต้องจำเอาไว้ว่าภารกิจหลังจากนี้เจ้ากับท่านอ๋องต้องร่วมใจกันทำเพื่อชาวฉีโจว”“เจ้าค่ะพี่รอง พี่ใหญ่เล่าเพคะ”“พวกเขาไปรออยู่ที่ท้องพระโรงแล้ว เหลือข้ากับผิงอันรอส่งเจ้าที่ตำหนัก”“พี่หญิง”“น้องพี่…วันนี้เจ้างดงามมากจริงๆ ใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดีเชื่อใจและมั่นใจในกันและกัน เจ้ากับท่านอ๋องคือคู่ที่สวรรค์ลิขิต ไปได้แล้วข้ากับลั่วเจินจะไปรอเจ้าที่ท้องพระโรง”“เจ้าค่ะ”หยางหลินเย่เดินขึ้นเกี้ยวอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นพระราชพิธีเพื่อแต่งตั้งนางขึ้นเป็นพระชายา ชุดแดงขาวปักนกยูงสีทองยางลากพื้นเมื่อนางเดินถือหนังสือแต่งตั้งสีทองเดินขึ้นยังท้องพระโรงด้านในนั้นมีเฟิ่งอ๋องที่สวมชุดสีเดียวกันกับนางนั่งที่ประทับรออยู่แล้วเพื่อสวมรัดเกล้าพระชายาให้กับพระชายา เมื่อเดินไปยังหน้าพระที่นั่งที่รายล้อมไปด้วยเหล่าข

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 38  บทรักข้ามคืน

    หลินเย่กลับมาที่ห้องบรรทมอีกครั้งในตอนค่ำเพื่อเสวยมื้อค่ำกับท่านอ๋อง ซึ่งตอนนี้ทำท่านั่งโกรธอยู่ที่โต๊ะเสวยพร้อมกับสีหน้าเรียบเฉยอย่างที่เขาเคยทำเมื่อเริ่มโกรธ“ท่านอ๋องเพคะ เนื้อไก่นี่อร่อยนะเพคะ พระองค์ลองชิมดูเพคะ”เขาทำเพียงแค่มองและขยับเนื้อไก่นั้นเอาวางไว้ริมชาม คนที่ตักให้ถึงกับขำกับท่าทางของคนตัวโตตรงหน้าที่งอนราวกับเด็กๆพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่สนใจนาง“ท่านอ๋อง…..”“จื่อหลิง….”หลินเย่งัดไม้ตายสุดท้ายมาเมื่อนางขยับตัวเข้ามาใกล้เขาและจงใจใช้อกอวบแน่นนั้นบดเบียดแขนของเขาอย่างจงใจจนคนที่ถูกยั่วนั้นใบหูเริ่มแดงขึ้น“ท่านพี่….ไม่สนใจหม่อมฉันจริงหรือเพคะ”คำว่า “ท่านพี่” ของนางเกือบทำให้เขาใจอ่อน แม้ว่าจะรีบยกชามข้าวขึ้นมาบดบังรอยยิ้มนั้นเกือบไม่ทันแต่ไม่นานเขาก็กลับมาตีหน้าเฉยชาอีกครั้ง“ข้าจะกินข้าว”“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์อยากจะกิน….อย่างอื่นเสียอีก…เฮ้อ เช่นนั้นก็เชิญพระองค์เสวยไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน”“จะ…เจ้าไม่กินหรือ…”เสียงที่เริ่มสะอึกเพราะคำว่า “อาบน้ำ” ที่นางบอกทำให้คนฟังคิดไปไกลจนเตลิดแต่ยังไม่เท่ากับสิ่งที่นางกำลังจะทำ“ใช่เพคะ วันนี้ร้อนอบอ้าว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status