/ รักโบราณ / พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ / 2. จากลูกเจ้าพ่อสู่บทนางเอกแสนอาภัพ

공유

2. จากลูกเจ้าพ่อสู่บทนางเอกแสนอาภัพ

last update 최신 업데이트: 2025-06-22 10:36:47

“ฮูหยินเจ้าคะ ออกแรงอีกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”

“แต่ข้าจะไม่ไหวอยู่แล้วท่านหมอ อื้อออ” ลู่ซูเมิ่งหรือฮูหยินลู่ครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด นางคลอดบุตรมาถึงสามคน นางมิเคยเจ็บปวดถึงเพียงนี้มาก่อน ลู่หวังเหล่ยหรือใต้เท้าลู่ผู้เป็นสามีก็ยืนรออยู่นอกห้องอย่างร้อนรน ร่างสูงเดินวนอยู่หน้าประตูไปมาหลายรอบ แต่ก็มิมีท่าทีว่าฮูหยินของเขาจะคลอดบุตรเสียที บุตรชายทั้งสามของเขาก็มานั่งรออยู่หน้าห้องด้วยเช่นกัน

“เหตุใดท้องนี้ถึงคลอดยากนักเล่าเจ้าคะ” แม่นมลี่บ่าวคนสนิทของฮูหยินลู่และเป็นแม่นมให้กับคุณชายสกุลลู่ทั้งสามได้เอ่ยถามท่านหมอด้วยความกังวลใจ

“ใกล้แล้วเจ้าค่ะ ออกแรงอีกนิดเจ้าค่ะ อีกนิดเดียวเท่านั้น”

“อื้ออออ กรี๊ดดดดดด” ซูเมิ่งออกแรงเฮือกสุดท้ายจนแทบจะสิ้นสติ และในที่สุด…

อุแว้ อุแว้ อุแว้! เสียงทารกร้องดังไปทั่วเรือน แต่เพียงไม่นานเสียงนั้นก็เงียบไป

เยว่ชิงมองไปรอบๆ อย่างคุ้นคิด ที่ไหนกันเนี่ย แล้วนี่มันอะไรกัน ผู้คนที่เธอเห็นตอนนี้ไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด หรือจะเป็นหมอ แต่เธอจำได้ว่ารถของเธอและครอบครัวตกลงไปในเหว ซึ่งไม่น่าจะมีใครรอดพ้นความตายมาได้

“เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน เป็นคุณหนูเจ้าค่ะใต้เท้า!” แม่นมลี่ร้องตะโกนขึ้นมาเมื่อรู้ว่าฮูหยินได้คลอดคุณหนูเสียที หลังจากที่ใต้เท้าลู่พยายามมาหลายครั้งหลายครา

ใครฮูหยิน ใครใต้เท้า มั่วซั่วกันไปใหญ่แล้ว เยว่ซิงที่เริ่มหงุดหงิดพยายามเอ่ยปากเรียกคนในห้อง แต่ทว่าเสียงที่เธอเปล่งออกไปกลับเป็น…

“แอ้ แอ๊ะ บื้อออ”

เยว่ชิงยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำไมเสียงเธอเป็นแบบนั้น แต่แล้วสายตาของเยว่ชิงดันเหลือบไปเห็นว่ามือของเธอตอนนี้เป็นเพียงมือของทารกที่ทั้งเล็กและแดง หรือว่า…นี่เธอมาเกิดใหม่แล้วงั้นหรอ

“โถ่ คุณหนูของบ่าวช่างรู้ความยิ่ง เกิดมามิร้องให้โยเย ไม่เหมือนเหล่าคุณชายที่ร้องไห้จนเรือนแทบพัง” แม่นมลี่รับคุณหนูของนางไปอุ้มและส่งต่อให้ซูเมิ่งได้โอบอุ้มบุตรสาวของตน

“ลูกแม่ น่ารักน่าชังเหลือเกิน” ซูเมิ่งมองดวงตากลมของบุตรสาวที่ตอนนี้จ้องมองมาที่นางตาแป๋ว

“ข้าเข้าไปได้หรือยังท่านหมอ!” เสียงตะโกนจากด้านนอกลอดเข้ามาภายในห้อง จนแม่นมลี่ต้องรีบออกไปเปิดประตูให้ เพราะกลัวว่าใต้เท้าลู่จะพังประตูเข้ามา

เยว่ซิงที่ตอนนี้กำลังช็อคและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทารกน้อยนิ่งงันในหัวคิดไปเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ว่าต้องทำสิ่งใดก่อนหลัง แน่นอนว่าเธอได้ตายไปแล้ว และดูเหมือนว่าตอนนี้เธอก็ได้มาเกิดใหม่ แล้วคุณพ่อและคุณแม่ของเธอจะเป็นยังไงบ้าง มีชีวิตอยู่…หรือว่าได้ไปเกิดใหม่เหมือนที่เธอได้มาเกิด

“ลูกสาวพ่อ ในที่สุดเราก็มีบุตรสาวจนได้ ขอบใจเจ้ามากซูเมิ่งของพี่” ลู่หวังเหว่ยก้มลงจุมพิตหน้าผากของภรรยาและบุตรสาว ทำให้เยว่ชิงได้สติขึ้นมา

เห้อ! อย่างน้อยก็ได้เกิดใหม่ในครอบครัวที่ครบสมบูรณ์ ทั้งพ่อและแม่ในชีวิตนี้ยังดูรักใคร่กันดี

“เจ้าค่ะ ลูกๆ ก็เข้ามาดูน้องสาวพวกเจ้าเถิด” ซูเมิ่งกวักมือเรียกบุตรชายทั้งสาม บรรดาพี่ชายจึงรีบปีนขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างมารดาที่กำลังอุ้มน้องสาวของพวกเขาอยู่

ดูเหมือนว่าเยว่ชิงจะมีพี่ชายถึงสามคน เธอมองใบหน้าของพี่ชายทั้งสาม ในใจพลันรู้สึกว่าบรรดาพี่ชายต่างหน้าตาน่ารัก แสดงว่าถ้าเธอโตขึ้นก็คงสวยไม่ต่างกัน เยว่ชิงคิดแล้วอดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ว่าแต่…ทำไมเธอยังจำทุกอย่างในชีวิตก่อนได้ ตายไปแล้วต้องดื่มน้ำแกงยายเมิ่งก่อนมาเกิดไม่ใช่หรอ หรือคุณพ่อเธอเล่ามั่วๆ กันหล่ะเนี่ย แต่ก็ดีแล้วที่จำได้…

‘คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องห่วงหนูแล้วนะคะ หนูคงได้มาเกิดใหม่แล้ว ครอบครัวนี้ถือว่ารักกันดีแถมหนูโตขึ้นคงจะสวยมากแน่ ขอให้คุณพ่อกับคุณแม่โชคดีเหมือนหนูนะ หนูจะคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ตลอดไป’ ต่อจากนี้เธอคงจะทำได้เพียงระลึกถึงเรื่องราวในอดีต ต่อจากนี้ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป จะใช้ชีวิตเป็นคุณหนูสกุล…

ลู่เยว่ชิง พวกเจ้าชอบนามนี้หรือไม่” ลู่หวังเหว่ยเอ่ยนามที่ตนนั่งคิดนอนคิดมาตลอดเก้าเดือนที่ซูเมิ่งตั้งครรภ์ให้ทุกคนได้ฟัง

อ่อ คุณหนูสกุลลู่ นามว่าลู่เยว่ชิง- ห๊า!!!! ลู่เยว่ชิง คงไม่ใช่หรอกมั้ง เธอคงไม่ได้มาเกิดในนิยายเรื่องชะตาร้ายที่พึ่งอ่านจบไปหรอก ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่!

ทารกน้อยเปลี่ยนอารมณ์ไปมาก หากมีผู้ใดทันได้เห็นภาพเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเบิกตากว้างของทารกน้อยคงจะอดหัวเราะออกมาไม่ได้เป็นแน่

“ท่านพ่อนามว่าลู่หวังเหล่ย ท่านแม่นามว่าลู่ซูเมิ่ง มีบุตรนามว่าเฉินกง หมิงยู่ ลี่อัน เยว่ชิง…มิเห็นจะเข้ากันสักนิด” ลู่หมิงยู่เด็กชายวัยห้าหนาวชี้นิ้วไล่เอ่ยนามไปทีละคน เพื่อหาความเชื่อมโยงกันจนทุกคนในห้องถึงกับหัวเราะให้กับท่าทีน่าเอ็นดูนั้น แต่คำพูดหมิงยู่กลับทำให้เยว่ชิงที่นอนอยู่ในอ้อมกอดมารดาถึงกับเบิกตาโพล่งขึ้นมา

ครบ! มากันทั้งเรื่อง นี่…นี่ลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอต้องมาเกิดใหม่เป็นนางเอกแสนอาภัพหรอเนี่ย โอ๊ยยยย! ชีวิต! เยว่ชิงร้องโวยวายออกมาอย่างไม่ยินยอม

“แอ๊ๆ ฮึก แงงง~”

“ไอโยว! ร้องไห้เสียแล้ว นางคงไม่ชอบนามที่ท่านพ่อตั้งให้” ทั้งบิดามารดาต่างหัวเราะให้กับการคาดเดาของหมิงยู่ แต่หารู้ไม่ว่าที่หมิงยู่พูดนั้นเป็นจริงเต็มสิบส่วน!

“คงจะเพราะหิวมากกว่า เจ้าป้อนนมนางเถิด” แม้เยว่ชิงจะโกรธเกรี้ยวหรือคร่ำครวญเพียงใด ภาพที่ผู้อื่นเห็นกลับเป็นทารกน้อยที่ร้องไห้โยเยเพราะหิวนมเท่านั้น

“มาๆ แม่จะป้อนนมลูกเดี๋ยวนี้แล้ว อย่าได้ร้องไห้ไปเลย ชู่วๆ” ซูเมิ่งอุ้มบุตรสาวตัวน้อยเข้าอกทันที

ปากเล็กๆ ของเยว่ชิงขยับดูดนมตามสัญชาตญาณ เสียงจ๊วบจ๊าบประกอบกับปากเล็กที่ขยับไปมาทำให้บิดาและบรรดาพี่ชายอดที่จะยิ้มเอ็นดูน้องสาวตัวน้อยไม่ได้ โดยเฉพาะลู่เฉินกงพี่ชายคนโตในวัยเจ็ดหนาวและลู่ลี่อันวัยสามหนาวที่เป็นพี่ชายคนที่สาม คงจะมีแต่พี่รองอย่างลู่หมิงยู่เท่านั้นที่มักจะก่อกวนน้องสาว

นิ้วป้อมของเด็กชายแหย่เท้าเล็กๆ ของน้องสาวเล่นจนเยว่ชิงทนไม่ไหวกระตุกเท้าเตะกลับไป หากทารกน้อยพูดได้คงจะไล่ตะเพิดพี่ชายคนรองไปเสียแล้ว

เยว่ชิงตั้งหน้าตั้งตาดูดนมจากอกมารดาอย่างหิวโหย หน้าตาทารกน้อยเศร้าโศก ปลงตกว่าอย่างไรคงจะมุดกลับเข้าไปในท้องมารดาไม่ได้แล้ว ฉะนั้นนางคงต้องใช้ชีวิตในฐานะลู่เยว่ชิง นางเอกนิยายเรื่องชะตาร้าย แต่ว่าลู่เยว่ชิงคนนี้จะไม่ยอมเป็นนางเอกแสนอาภัพเป็นแน่ มือน้อยๆ ของเยว่ชิงกำเข้าหากันแน่นอย่างมุ่งมั่น ขณะเดียวกันปากเล็กก็ดูดนมไม่หยุด

จะพรหมลิขิตหรือนักเขียนเป็นคนลิขิตก็มาเถิด ลู่เยว่ชิงจะป่วนให้วุ่นไปเลย! แต่…ตอนนี้ขอนอนก่อนละกัน หาว~

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   100. บทเรียนจากมารดา (ตอนพิเศษ)

    “เสด็จพ่อ มิอยู่หรือเพคะ อื้ม” เสียงเล็กของเด็กหญิงวัยหกหนาวเอ่ยถามมารดาทั้งที่มือยังคงนำขนมเข้าปากน้อยๆ ไม่หยุด“ฉิเงอ๋อร์ เจ้าเรียบร้อยให้สมกับเป็นสตรีเสียบ้างเถิด” เยว่ชิงนำผ้ามาเช็ดปากให้บุตรสาวตัวน้อย ดูทีเถิดอันเอ๋อร์บุตรสาวของพี่ใหญ่กับเสี่ยวจูอายุเพียงสี่หนาวยังนั่งกินเรียบร้อยมิเลอะเทอะแม้แต่น้อย“มิจำเป็นเพคะ ท่านลุงรองเอ่ยว่ายามเสด็จแม่เด็กก็แก่นเซี้ยวเช่นฉิงเอ๋อร์” แม้จะถูกมารดาดุ แต่เด็กหญิงตัวน้อยกลับมาใส่ใจ เอาแต่กัดกินขนมด้วยท่าทีสบายอารมณ์“เสด็จแม่คงต้องทำใจเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ บุตรของผู้ใดย่อมเหมือนผู้นั้น ฉิงเอ๋อร์ย่อมซุกซนเหมือนเสด็จแม่ อันเอ๋อร์ย่อมเรียบร้อยเหนียมอายดั่งท่านป้าเผิงจู ส่วนอาหรานเองก็ปากเก่งเช่นท่านลุงรอง” อาหรานที่จางหย่งเอ่ยถึงคือ ลู่ห่าวหราน บุตรชายของพี่รองและพี่ฟางเอ๋อร์ที่อายุได้เพียงสี่หนาว แต่กลับช่างพูดช่างเจรจาดั่งพี่รองมิมีผิด“คิกๆ”“เสี่ยวจู เจ้าหัวเราะข้าหรือ”“มิได้เพคะพระชายา เพียงแต่หม่อมฉันนึกถึงยามที่พระชายาเป็นเด็ก ท่านหญิงมิมีสิ่งใดต่างจากพระชายาเลยเพคะ” เผิงจูยกมือปิดปากหัวเราะ ท่านหญิงช่างเหมือนพระชายาเหลือเกิน ส่วนท่านชายใหญ่ก็

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   99. ขอบคุณ

    “ปล่อยอาหย่งกับฉิงเอ๋อร์ไว้กับเหล่าองค์ชายจะดีหรือเพคะ เยว่ชิงกลัวว่าเจ้าก้อนของเราจะไปทำให้เหล่าองค์ชายลำบากเอาได้” บุตรชายและบุตรสาวของนางนั้นแม้จะเลี้ยงไม่ยาก ทว่าเอาแต่ใจตนเองเป็นที่หนึ่ง อยากร้องก็ร้อง อยากหยุดก็หยุด ชอบเล่นสนุกจนบางครั้งทำให้ขันทีฟ่งหรานถึงกับเหนื่อยหอบลมแทบจับ นางเกรงว่าเจ้าก้อนทั้งสองของนางจะทำให้เหล่าองค์ชายปวดหัวเอาได้“ฮ่าๆ มิได้ห่วงเจ้าก้อนหรอกหรือ” หลิวหยางพาเยว่ชิงควบม้าออกมาห่างจากเมืองหลวงพอควร เพื่อพาร่างบางไปยังสถานที่หนึ่ง ที่เขาได้ตระเตรียมเอาไว้นานแล้ว“เจ้าก้อนทั้งสองของเรา หากว่ามีพี่สามอยู่ เยว่ชิงก็มิห่วงอันใดแล้วเพคะ ทั้งเหล่าองค์ชายเองก็เอ็นดูอาหย่งและฉิงเอ๋อร์ของเราถึงเพียงนั้น จะต้องห่วงอันใดอีกเล่า…ว่าแต่ท่านพี่จะพาเยว่ชิงไปที่ใดหรือเพคะ” นัยน์ตาสดใสมองไปรอบข้างอยู่นาน แต่ก็มิคุ้นกับที่ทางเหล่านี้สักเท่าใด“พี่พาเจ้าออกมาเที่ยวเล่นอย่างไรเล่า จะได้มิน้อยใจ หาว่าพี่สนใจแต่บุตรมิสนใจมารดา”“โถ่~ เรื่องเพียงเท่านี้ ผู้ใดจะน้อยใจเล่าเพคะ” แขนเล็กถูกยกขึ้นกอดอก ดวงหน้างดงามเชิดขึ้นดั่งถือดี เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายที่ถูกสวามีจับได้ว่าแอบน้อย

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   98. พบปะเสด็จอา (3)

    “อู้ๆ คิก เจี่ยมๆ”“โอ้ ฉิงเอ๋อร์ของลุงวาดภาพได้งดงามยิ่ง หากอาหย่งก็กลับมาแล้ว เราเอาไปอวดเขาดีหรือไม่ หืม” หมิงยู่ว่า พลางนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบสีที่ติดใบหน้าหลานสาวตัวน้อยออก อีกสองเดือนข้างหน้าก็จะถึงฤกษ์แต่งของเขากับฟางเอ๋อร์แล้ว ถึงครานั้นเขาจะรีบมีบุตรให้ทันใช้ เดิมทีมีการกำหนดฤกษ์แต่งก่อนหน้านี้ แต่ทว่าพี่ชายของฟางเอ๋อร์ออกเรือไปส่งสินค้าต่างแคว้นมิอาจมาร่วมงานได้ พวกเขาจึงเลื่อนออกไป เพราะอยากให้ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าในวันสำคัญ“คารวะองค์ชายทั้งห้าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพาอาหย่งไปเปลี่ยนอาภรณ์ตัวใหม่มาแล้ว รับรองว่ากลิ่นหอมฉุย” ลี่อินอุ้มจางหย่งเข้ามาในศาลาที่เหล่าองค์ชายนั่งอยู่ รอยยิ้มหวานหยดของคุณชายรองลู่ทำเอาใครบางคนถึงกับหันมองมิวางตา จนเหล่าพี่น้องจับสังเกตได้“เชิญคุณชายรองและคุณชายสามลู่ตามสบาย ถือว่าพวกข้ามาพักผ่อนดั่งครอบครัวทั่วไป ใช่หรือไม่น้องสี่” จ้านฉือที่เห็นว่าน้องชายยังมิละสายตาจากใบหน้างามจึงได้เอ่ยเรียกสติ“พ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่ คุณชายลู่พาอาหย่งมานั่งเถิด” เมื่อองค์ชายสี่เอ่ยเรียกคุณชายลู่ ทำให้ทั้งลี่อินและหมิงยู่ชะงักมองหน้ากัน เพราะมิรู้ว่าองค์ชายเอ่ยเรี

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   97. พบปะเสด็จอา (2)

    “ข้าฝากเจ้าพวกเจ้าด้วย มิถึงสองชั่วยามข้าก็กลับมาแล้ว หากว่ามีสิ่งใดก็เรียกฟ่งหราน หรือไม่ก็ขอคุณชายสามลู่ช่วยได้” ในยามเว่ย (13:00 – 14.59 น.) หลิวหยางตั้งใจจะออกไปที่หนึ่งกับเยว่ชิงตามลำพัง ทั้งบรรดาน้องชายอยากออกมาสังสรรค์กันที่จวนอ๋องของเขา เขาจึงใช้โอกาสนี้ขอให้น้องชายมาช่วยอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับบุตรทั้งสองเดิมทีเฉินกงและเผิงจูคิดจะตามไปด้วย แต่เขาคิดว่าควรจะให้เฉินกงได้พักเสียบ้าง จึงให้คู่บ่าวสาวที่พึ่งจะตบแต่งกันไปเมื่อสามเดือนก่อนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เฉิงกงจึงพาเผิงจูออกไปอารามเพื่อขอบุตร“เสด็จพี่ใหญ่ไว้ใจข้าได้ ข้าน่ะเลี้ยงเด็กมามาก เพียงแค่หลานสองคนจะยากสักเท่าใดกันเชียว” องค์ชายห้าเฉิงเฟยฟาตบอกตนเองอย่างมั่นอกมั่นใจ“หึ เด็กที่เจ้าเลี้ยงมิใช่เด็กทารกนะเจ้าห้า” องค์ชายสี่ส่ายหัวอย่างเอือมระอา เด็กที่น้องชายเขาว่าคงมิพ้นสาวงามในหอนางโลมเป็นแน่เหล่าองค์ชายต่างหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าองค์ชายสี่หมายถึงเรื่องใด เว้นก็แต่ผู้ที่ถูกว่าอย่างองค์ชายห้า“เอาเถิดๆ บุตรของข้าเลี้ยงง่าย มิทำให้พวกเจ้าหนักใจเป็นแน่ ถือเสียว่าออกมาพักผ่อนนอกวังเสียบ้าง” หลิวหยางว่าพลางก้มลงจุมพิตบุตร

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   96. พบปะเสด็จอา (1)

    กว่าเจ็ดเดือนที่หลิวหยางและเยว่ชิงแทบจะมิอยู่ห่างบุตรทั้งสอง โดยเฉพาะหลิวหยางที่ถึงขั้นหอบงานมาทำด้วยยามที่บุตรหลับ“บู้ๆ เอิ้ก แอ๊!” เสียงทารกน้อยวัยเจ็ดเดือนกำลังนอนสนทนากันอยู่บนเตียงสองคนเบาๆ ทั้งจางหย่งและอ้ายฉิงเป็นเด็กเลี้ยงง่าย มีร้องไห้งอแงตามประสาเด็กบ้าง แต่เมื่อได้ดื่มนมจากอกมารดาก็หยุดงอแงทันใด เพราะเหตุนี้ทารกน้อยทั้งสองจึงได้อ้วนท้วมสมบูรณ์ ประกอบกับผิวที่ขาวราวหิมะ ทำให้ผู้เป็นบิดามารดาและข้ารับใช้ในจวนอ๋องต่างเอ็นดูท่านชาย ท่านหญิงเป็นที่สุด“หึๆ ฉิงเอ๋อร์กับอาหย่งพูดคุยเรื่องใดกันอยู่หรือ ให้พ่อพูดคุยด้วยได้หรือไม่ หืม” หลิวหยางยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตแก้มกลมของบุตรทั้งสองคนละทีให้หายคิดถึง เขาพึ่งจะกลับมาจากการประชุมในท้องพระโรงจึงได้ตรงกลับจวนทันที แต่ก็มิทันได้ทานมื้อเช้ากับชายาและบุตรอยู่ดี ร่างสูงจึงรีบทานอาหารและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเข้ามาหาเยว่ชิงและบุตรทั้งสอง“ท่านพี่” เยว่ชิงเมื่อเห็นว่าสวามีหอมแก้มบุตร จึงได้ยื่นแก้มของตนเองให้สวามีได้หอมบ้าง ตั้งแต่มีบุตร ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะมิสนใจเยว่ชิงแล้ว เมื่อก่อนกลับมาจากการทำงานจะต้องมาหานางเป็นคนแรก แต่บัดนี้กลับมุ่ง

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   95. เจ้าก้อนตัวน้อย

    “โอ๊ยยย ฮื่อ! เหตุใดจึงเจ็บเช่นนี้ ฮึก ท่านแม่ช่วยเยว่ชิงที” เสียงกรีดร้องของเยว่ชิงทำให้ผู้เป็นสวามีนั่งไม่ติด ร่างสูงเดินไปมาอยู่หน้าห้องอย่างร้อนรน เยว่ชิงมิใช่สตรีที่อ่อนแอ แต่บัดนี้นางกลับกรีดร้องออกมา ย่อมตีความได้ว่านางกำลังลำบากอยู่เป็นแน่“ท่านอ๋องนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ มารดาของพระชายาเข้าไปอยู่ด้วยเช่นนี้ พระชายาย่อมอุ่นใจแล้ว” ลู่หวังเหล่ยและครอบครัวสกุลลู่กำลังเตรียมตัวเข้านอน แต่กลับมีทหารองครักษ์ของฮ่องเต้มาแจ้งข่าวถึงหน้าเรือน พวกเขาจึงได้รีบกลับมาที่จวนอ๋องอีกครั้ง“ท่านพ่อตา เยว่ชิงจะไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” ใบหน้าคมของชินอ๋องแคว้นเฉิงซีดเผือด ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังลอดออกมาเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาขลาดกลัวมากขึ้น“พระชายาจะปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าอย่าได้วิตกไปหลิวหยาง สตรีคลอดลูกก็เป็นเช่นนี้ รอไม่นานบุตรของเจ้าก็จะคลอดแล้ว” ฮ่องเต้เจี้ยนกั๋วเข้ามาโอบบ่าของโอรส บีบเคล้นบ่าแกร่งเบาๆ ให้หลิวหยางได้คลายกังวลลงบ้าง“อื้ออออ กรี๊ดดดดดด”อุแว้! อุแว้! อุแว้!“นั่นอย่างไร ได้ยินหรือไม่ ฮ่าๆ ข้าได้หลานชายหรือหลานสาว!” ฮ่องเต้เจี้ยนกั๋วหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงทร

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status