เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นไม่กี่ครั้ง ก่อนจะมีเสียงเหนื่อยหอบของแม่ตอบรับสายมา
“ไอรีน... โทรมาทำไมตอนนี้ลูก? แม่กำลังจะออกไปคุยกับเจ้าหนี้เขาอีกแล้ว” น้ำเสียงของแม่เต็มไปด้วยความกังวลและเหนื่อยล้า
“ไม่ต้องไปแล้วค่ะแม่... หนูโอนเงินให้แล้ว” ไอรีนพูดนิ่งๆ แต่ชัดเจน เธอนั่งอยู่ในห้องพักของตัวเอง มือยังคงถือโทรศัพท์แนบหู ในใจยังเต้นแรงจากสิ่งที่เธอเพิ่งตัดสินใจทำ
“ฮะ... อะไรนะ? โอนอะไรลูก?” น้ำเสียงแม่สั่น
“เงินหนี้ของพ่อเลี้ยง... หนูจัดการให้แล้วค่ะ” เธอเน้นย้ำคำว่า ‘พ่อเลี้ยง’ อย่างฝืนใจ
มีเพียงความเงียบที่ตามมาอีกเกือบสิบนาที ก่อนเสียงแม่จะดังแผ่วเหมือนคนกำลังกลั้นน้ำตา
“ไอรีน... หนูไปเอาเงินมาจากไหนลูก? อย่าบอกแม่นะว่าไปกู้หนี้นอกระบบมาอีกคนน่ะ แม่ไม่อยากให้หนูลำบากเพราะเรื่องของแม่กับเขาเลยจริงๆ”
“หนูไม่ได้กู้ค่ะแม่ หนูแค่... ทำงานพิเศษ” ไอรีนโกหกเสียงเรียบ
“แม่ไม่ต้องห่วง หนูดูแลตัวเองได้ แล้วก็... ยินดีที่ได้ดูแลแม่กับน้อง หนูเต็มใจทำ เ
อ้อมแขนแกร่งโอบรัดร่างบอบบางของไอรีนไว้แน่นใต้ผ้าขนหนูที่ชื้นแนบผิว เขาอุ้มเธอกลับมาที่เตียงช้า ๆแผ่นหลังเปลือยเปียกชื้นแนบกับแผ่นอกของเขา ไม่มีคำพูดใด—มีเพียงลมหายใจร้อนระอุแนบซอกคอที่ยังมีรอยแดงจากจูบก่อนหน้าเตียงนุ่มดูดร่างเธอลงทันทีที่เขาวางเธอลงบนผืนผ้าใหม่ ผ้าขนหนูหลุดล่นอย่างง่ายดายราวกับไม่เคยมีอยู่คิรันโน้มตัวลงคร่อม พร้อมทั้งไล้ปลายนิ้วจากปลายคางลงมาถึงกระดูกเชิงกรานเขาไม่เร่งรีบ ไม่มีการเร่งจังหวะแต่ทุกสัมผัสกลับเจตนาชัดเจนเกินกว่าที่เธอจะรับไหวเขาโน้มลงจูบที่แอ่งท้องต่ำ ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วสัมผัสที่กลางเรียวขาไอรีนสะดุ้งวาบ ริมฝีปากเผยอโดยไร้เสียง"อย่าหลบ"เขากระซิบเสียงต่ำตรงหน้าอกแล้วดูดปลายยอดอกแรง ๆ ราวกับลงโทษที่เธอพยายามเบี่ยงตัวหนีมือเธอจิกบ่าเขาแน่นก่อนที่เขาจะตวัดลิ้นลงไปต่ำกว่าเดิม…เสียงหอบถี่ดังขึ้นสลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ หัวใจเธอเต้นแรงราวจะระเบิด มือข้างหนึ่งของเธอเลื่อนไปโอบท้ายทอยเขาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไปลิ้นร้อนแตะช้า ๆ
แสงแดดยามสายสาดกระทบผิวน้ำทะเลจนระยิบระยับ สายลมอุ่นหอบกลิ่นเกลือจาง ๆ พัดผ่านปลายเส้นผมนุ่มของเธอที่ปลิวไสวตามแรงลม ไอรีนก้าวเท้าเปล่าไปตามแนวหาดทรายละเอียดสีขาวสะอาด รอยยิ้มเล็ก ๆ ประดับอยู่บนใบหน้าเมื่อเธอหันกลับไปมองคนที่นั่งนิ่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นมะพร้าว"พี่คิรัน! รีบตามมาสิ!"เสียงใสเรียกพร้อมกับโบกมือให้เขาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ ลงไปในน้ำตื้นที่ใสจนมองเห็นพื้นทรายเบื้องล่าง ฝูงปลาตัวเล็ก ๆ ว่ายอยู่รอบข้อเท้าของเธอ เธอหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงเหมือนเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่คิรันยืนขึ้นช้า ๆ สะพายกล้องไว้บนคอ ปรายตามองคนตัวเล็กที่เล่นน้ำอย่างไร้พิษภัยด้วยสายตาที่ซ่อนรอยยิ้มไม่มิด…เขาไม่เคยคิดเลยว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวจะทำให้โลกของเขาเงียบสงบได้ถึงเพียงนี้แม้ภายนอกจะยังเป็นชายหนุ่มที่สุขุม เย็นชา พูดน้อยอย่างเคยแต่ตั้งแต่วันนั้น…วันที่ไอรีนกลายเป็น ‘เมีย’ อย่างถูกต้องตามกฎหมายและหัวใจความเย็นชากลายเป็นความอ่อนโยนที่มีให้เธอเพียงคนเดียว“ขอบคุณที่เธอเข้ามาเปลี่ยนชีวิตฉันไปตลอดกาล…&rdquo
เสียงคลื่นซัดกระทบหาดทรายเบา ๆ พร้อมกับลมทะเลอ่อน ๆ พัดโชยผ่านใบหน้า ไอรีนหลับตารับแสงแดดอุ่นยามเช้า ปล่อยให้ตัวเองซึมซับบรรยากาศของมัลดีฟส์ในยามเช้าอย่างเต็มที่ รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากเมื่อหันไปมองคนข้างตัว—สามีหมาด ๆ ที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ริมระเบียงเมื่อคืน...คือคืนเข้าหอที่เธอไม่มีวันลืมเขาทำให้เธอแทบขาดใจ แต่หัวใจก็พองโตด้วยความสุข"เหนื่อยไหม?" เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นโดยไม่ละสายตาจากเอกสาร"เหนื่อยจะตาย..." ไอรีนตอบตามตรงก่อนจะหันมายิ้มหวาน ยกมือขึ้นลูบท้องเบา ๆ"แต่ก็ยังไม่ตาย ยังเดินไหวค่ะพี่คิรัน"เขาเหลือบตามองเธอ ริมฝีปากกระตุกขึ้นนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับไปสนใจเอกสารตรงหน้าเหมือนเดิม ไอรีนแอบเบะปาก ก่อนจะเดินไปซุกแขนเขาอย่างออดอ้อน"พี่ขา...เรามาฮันนีมูนนะ ไม่ใช่มาประชุม""สามีคุณมีงานที่ยังต้องเคลียร์""งั้นขอแค่ชั่วโมงเดียว ให้ฉันไปเล่นน้ำทะเลหน่อยนะคะ..."เธอเขย่าแขนเขาเบา ๆ ทำเสียงออดอ้อนจนคนที่พยายามไม่สบตาต้องถอนหายใจแล้วหันมาเผชิญหน้า"ใส่เสื้อผ้าดี ๆ""รับทราบค่ะ!" ไอรีน
เสียงคลาสสิกจากเปียโนไหลลื่นไปทั่วห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ แชนเดอเลียร์ระยิบระยับเหนือศีรษะ แสงไฟนวลอบอุ่นตัดกับผ้าคลุมสีขาวนวลของเจ้าสาวที่ยืนเด่นอยู่กลางเวที ราวกับเทพธิดาเดินทางลงมาจากสวรรค์เพื่อเขาเพียงคนเดียวคิรันยืนแน่วแน่อยู่ตรงหน้าเธอในชุดทักซิโด้สีดำเข้ม ทรงผมถูกจัดเรียบไร้ที่ติ ท่าทางสุขุม เย็นชา... แต่แววตา—กลับร้อนแรงจนน่าหวาดหวั่น"พี่คิรัน…" ไอรีนกระซิบเสียงเบา คำเรียกถูกเปลี่ยนไปจากเจ้านายกลายเป็นสามี เมื่อเห็นดวงตาคมดุดันของเขาไม่ละไปจากเธอแม้แต่วินาทีเดียวไม่มีคำตอบใดจากเขา มีเพียงมุมปากที่ยกขึ้นน้อย ๆ ขณะเจ้าหน้าที่ประจำพิธียื่นกล่องแหวนมาให้ทันทีที่เขาหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมา...เขาก็โน้มตัวลงกระซิบข้างหูเจ้าสาวคนสวย“คืนนี้เธอไม่รอดแน่… เจอศึกหนักชัวร์” น้ำเสียงของเขาแหบต่ำ แฝงแววข่มขู่แสนเจ้าเล่ห์“คนบ้า…” ไอรีนหน้าแดงแปร๊ด สะบัดเสียงดุเบา ๆ แต่มือกลับสั่นน้อย ๆ ตอนที่คิรันสวมแหวนให้เธอท่ามกลางเสียงปรบมือจากแขกนับร้อย รอยยิ้มของผู้เป็นแม่และน้องชายของไอรีนที่น
เสียงดนตรีหวานคลอเบา ๆ ประกอบกับแสงแฟลชที่สาดส่องเข้ามาทั่วทั้งงาน…งานหมั้นของ ‘คิรัน’ และ ‘ไอรีน’ กลายเป็นข่าวใหญ่ในวงสังคมและโลกออนไลน์ทันทีหลังภาพแรกหลุดออกไปชายหนุ่มในชุดสูทตัดเข้ารูปสีดำสนิท ที่แม้ใบหน้านิ่งเรียบแต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความหวงแหนยืนเคียงข้างหญิงสาวในชุดหมั้นลูกไม้สีขาวสะอาดที่งดงามราวนางฟ้ามือของเขากระชับมือเธอไว้แน่น เหมือนจะประกาศให้โลกรู้ว่า—เธอเป็นของเขา และจะไม่มีใครแย่งไปได้อีก“คุณคิรันวางแผนไว้หมดแล้วสินะคะ...” ไอรีนกระซิบขณะยิ้มรับกล้องจากนักข่าวชายหนุ่มเหลือบมองต่ำ ไม่ตอบคำ แต่กระชับมือเธอแน่นขึ้นอีกนิด ราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยินเสียงหัวใจของเขา—ที่เต้นแรงเพราะผู้หญิงคนนี้คนเดียว—ในขณะที่ความรักเบ่งบานสำหรับใครบางคน โลกของใครอีกคนก็กำลังพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดีเสียงโทรทัศน์ดังสนั่นอยู่กลางห้องคอนโดฯ หรูมายด์เหวี่ยงรีโมตออกไปสุดแรงเมื่อเห็นภาพคู่หมั้นในจอเธอกรีดร้องลั่น กัดฟันกรอดจนกรามสั่น&l
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในห้องพักผู้ป่วยยังคงอบอวลในอากาศ ทว่าไม่ได้กลบกลิ่นหอมอ่อนๆ จากปลายผมนุ่มของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มได้เลย"คุณยังไม่กินข้าว"เสียงใสเอ่ยเตือนเบาๆ ขณะยื่นกล่องอาหารที่เพิ่งซื้อมาให้ชายหนุ่มบนเตียงคิรันหรี่ตาลงนิด มองใบหน้าที่เริ่มซูบลงของหญิงสาวที่เฝ้าไข้เขามาเกือบอาทิตย์ "แล้วเธอล่ะ?""ฉันกินแล้วค่ะ" ไอรีนตอบเรียบๆ แต่คนฟังก็ไม่ได้เชื่อเสียทีเดียวเขาไม่พูดอะไรต่อ ยื่นมือไปหยิบเอกสารที่ธันวาเพิ่งเอามาให้เซ็น พอไอรีนจะช่วย เขากลับส่ายหน้า"แค่นี้ฉันทำเองได้ เธอไปพักเถอะ"“แต่คุณยังมีไข้ต่ำอยู่เลยนะ”“ฉันไม่ใช่คนป่วยกระจอก จะให้ใครมาตามดูแลตลอดเวลาแบบนี้” เขาว่าด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงแววดุ หากสายตากลับทอดมองเธออย่างลึกซึ้ง“แต่ก็ขอบใจที่อยู่ตรงนี้”แค่ประโยคสั้นๆ นั้น ทำเอาหัวใจไอรีนเต้นถี่ เธอไม่ได้ตอบอะไร แค่ส่งยิ้มบางให้ แล้วเดินไปเทน้ำใส่แก้วให้เขาแทนคิรันออกจากโรงพยาบาลในอีกสองวันถัดมา และในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีแค่