Masukเสียงกรีดร้องโวยวายดังลั่นปลุกชยุตม์ให้ได้สติ...
ทันทีที่ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ก็พบร่างของวนิดายืนกำหมัดและหายใจแรงอยู่ตรงประตูห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้าแค่ไหน ในขณะที่สาวน้อยอัญรส ซึ่งเป็นน้องสาวของคู่อริหมายเลขหนึ่ง กำลังยืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ต่อหน้ามารดา ในสภาพที่สวมชุดคลุมสีขาวไว้อย่างล่อแหลม
ส่วนเขา... กำลังนอนเปลือยโดยมีผ้าห่มผืนโตคลุมอยู่!
“เฮ้ย!” จากมึนเมาไม่ได้สติก่อนหน้านี้ ทำให้ชยุตม์สร่างและตั้งท่าจะลุกพรวดขึ้นทันที
“ว้าย! ระวังค่ะ พี่ชินไม่ได้ใส่อะไรเอาไว้เลยนะ” อัญรสทำตาโตขณะร้องห้าม เมื่อชายหนุ่มผู้พี่กำลังจะเปิดเปลือยร่างกายต่อหน้าเธอและแม่
“เวรเอ๊ย! นี่มันห่าอะไรเนี่ย!” คนที่เกือบเผลอสะบัดผ้าห่มออกจากตัว รีบดึงมันกลับมากอดไว้ทันที
“ใครกันแน่ที่ต้องถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น! แกทำอะไรลูกสาวฉันฮะไอ้ชิน ไอ้คนสารเลว!” วนิดาตวาดแหวดังลั่น ความโกรธที่ปนไปกับอาการตกตะลึงคลายลง ทำให้เท้าที่ก่อนนี้ตรึงแน่นอยู่กับที่ เร่งก้าวเข้าไปหาคนที่อยู่บนเตียงทันที
เผียะ!
วนิดาสะบัดฝ่ามือตบหน้าชยุตม์ไปเต็มแรง ชายหนุ่มขบกรามแน่น แสบแปลบบนผิวเนื้อแต่ก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรเลยสักคำ เขาก้มหน้าลงมองตัวเอง ตอนนี้อยู่ในสภาพที่สมควรโดนตบจริงๆ แต่คนที่จะให้คำตอบได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีเพียงแค่อัญรสคนเดียวเท่านั้น
“นี่มันอะไรกันเอม ทำไมฉัน...”
เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาแข็งกร้าวดุดัน
“นี่อย่าบอกนะว่าแกจำไม่ได้!” วนิดาไม่ปล่อยให้ลูกสาวได้ตอบอะไร “แกหลับนอนกับลูกสาวฉันแล้ว แต่กลับทำเป็นไม่รู้เรื่องเนี่ยนะ ไอ้ชิน! ไอ้หน้าตัวเมีย! ไอ้...” คนถนัดโวยวายด่าทอไม่หยุด จนชยุตม์ต้องตะโกนดังๆ เพื่อยุติความน่ารำคาญนั่นลงเสีย
“โธ่เว้ย! หยุดด่าก่อนได้ไหม” เขายกมือขึ้นขยุ้มผมอย่างหงุดหงิด
“จะปัดความรับผิดชอบใช่ไหม แกนี่มัน...”
“พอเว้ย! พอก่อน อย่างน้อยก็ให้ได้แต่งตัวก่อนได้ไหม! หรืออยากดูนักจะได้ลุกขึ้นโชว์ซะ!” คำขู่ในท้ายประโยคทำให้สองแม่ลูกถอยห่างออกไปทันที ทั้งคู่เดินออกไปรอที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก ปล่อยให้คนที่เพิ่งสร่างจากความเมาได้จัดการกับตัวเองเสียก่อน แต่ปรากฏว่าไม่มีเสื้อผ้าของเขาในบริเวณนั้นเลย จึงคว้าเสื้อคลุมสีขาวมาสวมปิดบังเรือนร่างเอาไว้แก้ขัดก่อน
“นี่มันอะไรกันยัยเอม! ทำไมแกถึงหิ้วมันมานอนที่ห้องแบบนี้ นังลูกไม่รักดี!” วนิดาตวาดถามลูกสาว
อัญรสหน้าซีดเผือด ปากคอสั่นระริกไปหมด ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายเรื่องทุกอย่างอย่างไรดี ตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้ แม้แต่ชยุตม์เองที่เมาจนไม่ได้สตินั่นก็ด้วย แต่ไม่คิดเลยว่ามารดาจะกลับมากลางดึกเสียก่อน ทำให้ทุกอย่างไม่ใช่ความลับอีกต่อไป
“แม่...” อัญรสเสียงสั่น ส่ายหน้าน้อยๆ กำลังจะเอ่ยต่อ
“ผู้ชายมีตั้งเยอะ ทำไมแกต้องมาเอาไอ้คนที่ทรยศนี่ด้วยฮะ! แกเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม!”
“พี่ชินไม่ใช่คนทรยศนะคะแม่” หญิงสาวออกหน้ารับแทน
“นังเอม!” เป็นเหตุให้วนิดาโกรธจัดจนปราดเข้าไปตบหน้าฉาดใหญ่
อัญรสทรุดฮวบลงไปกองบนพื้น แรงจากฝ่ามือของมารดาหนักหน่วงจนแม้แต่ชยุตม์ก็ยังตกใจ ไม่คิดว่าวนิดาจะลงไม้ลงมือกับลูกสาวแบบนี้ ชายหนุ่มรีบเดินออกมาจากห้อง เข้าไปประคองร่างของอัญรสให้ลุกขึ้นอย่างเสียมิได้ ถึงจะไม่ชอบพอคนบ้านนี้ แต่เขาก็มีความเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องก้มหน้ารับกรรมคนเดียวแน่
“ก่อนใช้กำลัง ผมว่าคุณควรถามความจริงจากปากของลูกสาวคุณก่อนนะ บางทีภาพที่เห็นมันอาจจะเป็นแค่การเข้าใจผิดก็ได้ ถ้าผมเมาจนไม่ได้สติจริง ผมจะเอาปัญญาที่ไหนไปหลับนอนกับลูกสาวของคุณ!”
ชายหนุ่มให้เหตุผล แล้วเบนสายตาลงมองคนข้างตัว
“พี่ชิน...” อัญรสพึมพำชื่อนั้นเสียงแผ่ว
ที่ผ่านมาเธอถูกมารดาขีดเส้นชีวิต คอยบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบอยู่ตลอด แม้แต่การเรียนหรือการคบเพื่อนก็ไม่เคยได้สิทธิ์ในการเลือกด้วยตัวเอง เวลาถูกด่าทอต่อว่า คนเป็นพี่ชายก็ไม่เคยออกหน้าช่วยเหลือ ทว่าเมื่อเห็นชยุตม์รีบรุดเข้ามาปกป้องอย่างนี้
เธอก็ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเต็มหน่วยตา…
“ไอ้ชั่ว! นี่แกกำลังจะบอกปัด ไม่รับผิดชอบในสิ่งที่แกทำใช่ไหม!” วนิดาอาละวาดไม่เลิก
“สติเว้ย! สติ! ผมพูดออกไปตอนไหนว่าจะไม่รับผิดชอบ แค่บอกให้ถามเรื่องทุกอย่างจากลูกสาวของคุณก่อนก็เท่านั้นเอง หูหนวกหรือไง!” เขาตวาดกลับคืนไปบ้าง คนอย่างวนิดาไม่ควรค่าแก่การพูดจาดีด้วย
ชยุตม์เป็นผู้ชายห่ามๆ ค่อนข้างโผงผางแต่จริงใจ เขาไม่ถนัดเรื่องพูดจาดีๆ กับคนที่เห่าเหมือนหมาบ้าอย่างนี้
“แก้ผ้านอนอยู่บนเตียงขนาดนี้ แกยังจะถามอีกเหรอไอ้ชิน!”
“ก็ต้องถามอยู่แล้วไหม คนมันจำอะไรไม่ได้นี่นา!”
“ไอ้หน้าตัวเมีย!” วนิดาปราดเข้าไปหา เงื้อมือขึ้นจะตบหน้าอีกฉาด
แต่อัญรสก้าวออกมารับแทนไปเต็มๆ เธอถูกตบจากมือของผู้ให้กำเนิดเป็นครั้งที่สอง แรงของความโกรธที่พุ่งเข้ามากระทบแก้มนวลเสียงดังเผียะ ทำให้ร่างบอบบางเซไปปะทะกับอกกว้าง ชยุตม์โอบรับเอาไว้ทันที
“ถนัดแต่ใช้กำลัง ไม่มีสมอง!” เขาก่นด่าอย่างเหลือทน
“ก็เพราะมีสมองน่ะสิ ฉันถึงโมโห! ตอนนี้สมองของฉันมันถามว่าทำไมนังลูกสารเลวนี่ถึงได้ไม่รู้จักเลือกกินของดีๆ บ้าง ฉันอุตส่าห์บอกกับครอบครัวท่านปลัดเอาไว้แล้วว่าถ้ามันเรียนจบ ฉันจะให้มันแต่งงานกับลูกชายของท่านปลัดทันที แล้วดูมันทำเรื่องงามหน้าสิ!”
ส่วนหนึ่งที่ทำให้วนิดาโกรธก็คือเรื่องอนาคตของอัญรส ซึ่งหมายมั่นว่าจะให้ออกเรือนไปกับตระกูลผู้ดีที่ร่ำรวยมากในละแวกบ้านเดียวกัน หากเรื่องฉาวนี้แพร่งพรายออกไป นั่นก็หมายความว่าวนิดาคงอดกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันกับครอบครัวปลัดวิชิต ภูวนัยไม่มีวันยอมรับเศษเดนของใครแน่
“เหอะ! คิดจะรวยทางลัดสินะ รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ภูวนัยมันเจ้าชู้ร้อยเมีย ยังอยากยัดเยียดลูกสาวไปให้มัน”
“ลูกฉัน! ฉันจะทำยังไงก็ได้ คนนอกอย่างแกอย่าเสือก!”
“พี่ชินไม่ใช่คนนอกนะคะแม่ แต่เขาเป็น... เขาเป็นสามีของเอมแล้ว!” ในที่สุดอัญรสก็ยอมรับออกมาตามตรง
แม้ทุกอย่างจะไม่ได้เกิดขึ้นจากความตั้งใจ แต่ในนาทีที่มารดาของเธอกำลังหน้ามืดตามัวด้วยความโกรธ ซ้ำยังคิดจะบังคับใจเธอให้แต่งงานกับคนเจ้าเล่ห์ชีกออย่างภูวนัย เธอก็จำเป็นต้องยอมรับออกมาเพื่อให้ทุกอย่างมันกระจ่างชัดเสียที
“อะไรนะ...”
ชยุตม์มองสบตากับคนในอ้อมแขน พึมพำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“เราสองคนมีอะไรกันแล้วค่ะ พี่ชินเมา กลับขึ้นห้องของตัวเองไม่ถูก เอมเลยพามาพักที่ห้องของเอมก่อน จากนั้น... มันก็เกิดขึ้น เป็นเพราะเอมใจง่ายเองค่ะ เอมไม่ได้คิดจะห้ามพี่ชินเลยสักคำ เพราะเอมแอบรักพี่ชินมานานแล้ว เอมตั้งใจให้พี่ชินเป็นคนแรกของเอมค่ะ”
“เอม”
ชยุตม์ตกใจจนหน้าซีด เมื่อได้ยินความในใจของสาวน้อยเต็มสองหู
“นังเอม!”
วนิดาได้ยินแบบนั้นก็ตวาดแหว ตั้งท่าจะปรี่เข้ามาอีกรอบ
“พอเว้ย! หยุด!” ชยุตม์ดึงคนตัวเล็กไปไว้ข้างหลัง ก่อนก้าวออกไปเผชิญหน้าแล้วยึดข้อมือของวนิดาไว้แน่น
เขามองสบตากับผู้สูงวัยกว่าอย่างไม่ยอมแพ้ สันกรามข้างแก้มกระตุกแน่นด้วยความโกรธ แม้จะยังคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้นสำหรับเรื่องนี้ แต่เขาจะไม่ยอมทนดูวนิดาตบตีอัญรสอีกเด็ดขาด
“ถอยไป!” วนิดาตะเบ็งเสียงดังลั่น
“ตะโกนทำไมนักหนา! อยากเรียกให้คนแห่กันมาดูมากใช่ไหมว่าลูกสาวของป้ามีผัวแล้ว!”
“ไอ้ชิน!”
“เงียบไปเลยนะป้า! ถ้าป้าไม่เงียบ ผมจะฟันลูกสาวป้าแล้วทิ้งแม่งเลย ไม่รับผิดชอบห่าเหวอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าอยากให้เรื่องนี้มันจบสวยๆ ป้าก็หัดระวังปากกับอารมณ์หมาบ้าของตัวเองบ้าง! อย่าให้ผมต้องสอนมากไปกว่านี้เลย อายแทน!”
“ไอ้...”
“ไปเอม! ไปคุยกันที่ห้องของฉันก่อนดีกว่า ขืนอยู่ต่อ ฉันว่าเธอคงโดนตบจนหน้าแหกแน่”
ชายหนุ่มคว้าข้อมือของอัญรสไว้แน่น แล้วฉุดให้เดินตรงไปที่ประตูห้องทันที ทำเป็นหูทวนลมต่อเสียงเรียกรั้งของวนิดา และไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเขาและเธอในตอนนี้สวมเพียงชุดคลุมสีขาวเอาไว้เท่านั้น
เจ้าของร่างแกร่งกำยำชะงักเล็กน้อย เมื่อเปิดประตูออกมาแล้วพบว่ามีคนที่ได้ยินเสียงเอะอะจนต้องเปิดประตูออกมาดูกลางดึก จ้องมองมาด้วยความประหลาดใจ พนักงานที่ถูกแจ้งให้ขึ้นมาดูความเรียบร้อยที่ห้องต้นเสียง ยิ้มเจื่อนไปเมื่อเห็นสายตาดุดันของชยุตม์ คำพูดที่เตรียมไว้เป็นอย่างดีถูกกลืนลงคอไปทันที
“ไม่มีอะไรครับ มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมขอโทษด้วยครับที่รบกวนเวลาพักผ่อน” ชายหนุ่มกล่าวเสียงดัง ค้อมศีรษะเล็กน้อยประกอบคำขอโทษ แล้วรีบพาอัญรสก้าวตรงไปยังลิฟต์ทันที
ตอนนี้สติของเขาครบถ้วนดี จำได้แม่นว่าตัวเองพักอยู่ชั้นไหนห้องไหน จึงเอื้อมมือไปกดเลือกชั้นอย่างรีบร้อน ไม่ได้หันมองคนข้างตัวเลยจนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดผ่างออก
“เงียบ!” เขาสั่งเสียงดุ“อื้อ!”หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก เมื่อถูกดันให้นอนราบกลับลงไปตามเดิม ชยุตม์ไม่ได้ละมือห่างออกไป แต่ขยับตัวกางขาคร่อมทับร่างบอบบางเอาไว้ กักขังเธอให้ตกอยู่ในการควบคุมของเขาอย่างง่ายดาย เพราะเมื่อเทียบสภาพร่างกายแล้ว เขาได้เปรียบกว่าเธอมากจนน่าตกใจ“บอกให้เงียบ! ถ้าไม่เงียบ อดได้ฉันเป็นผัวไม่รู้ด้วยนะ ไหนบอกว่าอยากให้ฉันรับผิดชอบไง” เขาก้มลงกระซิบข้างหู ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ ทำให้อัญรสแทบไม่กล้าหายใจ เนื้อตัวของเธอเกร็งทื่อไปหมด ทว่าก็ยอมเงียบไปตามที่เขาบอก นั่นแหละชยุตม์ถึงได้ค่อยๆ ปล่อยมือออกห่างปาก“พี่ชิน ทำไม...”อัญรสกำลังจะถามว่าทำไมเขาถึงบุกรุกเข้ามาอย่างนี้“ผัวจะปีนบ้านเมีย มันแปลกตรงไหน”เขากระดากปากแทบตาย แต่ก็จงใจพูดอย่างถือสิทธิ์“พี่ชิน!”เธอดูตื่นตระหนกมาก ใบหน้าที่ซีดเผือดกำลังบอกอย่างนั้น“เมื่อคืนฉันจำไม่ได้เลยว่าเอากับเธอท่าไหน ไม่รู้ด้วยว่าระหว่างเรามันเร่าร้อนถึงใจหรือเปล่า ฉันเลยอยากกลับมาทบทวนความจำดูหน่อย แล้ววันพรุ่งนี้รับรองเลยว่าเธอจะได้นามสกุลของฉันไปเป็นการตอบแทนแน่ อยากให้ฉันรับผิดชอบเธอมากไม่ใช่เหรอ?” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเหี้ยม“ไม่ได
บ้านหลังงามยามนี้ปิดไฟหมดทุกดวง บ่งบอกให้รู้ว่าคนในบ้านต่างก็พากันหลับใหลไปหมดแล้ว ชยุตม์ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนตัวมากนัก ในตอนที่ปีนกำแพงแล้วกระโดดลงไปบนสนามหญ้าข้างบ้านอย่างคล่องแคล่ว บ้านของอนวัตอดีตเพื่อนรักนั้น ไม่มีส่วนไหนที่เขาไม่คุ้นเคย เขารู้ทุกทางเข้าออกรวมทั้งจุดด้อยทั้งหมด ทำให้การลักลอบเข้าไปบ้านยามค่ำคืนไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อยจุดหมายของชยุตม์คือห้องนอนของอัญรส ผู้หญิงที่เป็นตัวปัญหาใหญ่ในชีวิตตอนนี้ แรกทีเดียวเขาไม่เคยคิดกล่าวโทษเธอเลย รู้ว่าตัวเองก็ผิดที่ดื่มจนเมาแบบนั้น แต่พอได้ยินเธอพยายามใส่ร้ายมะปราง เพราะหวังอยากเข้ามาแทนที่ เขาก็มองสาวน้อยที่คุ้นเคยเปลี่ยนไป เหมารวมทันทีว่าเธอเองก็ต้องรู้เห็นเป็นใจกับวนิดา ที่ต้องการใช้มะปรางมาเป็นข้อต่อรองเรียกเงินจากเขา ส่วนที่บอกว่าอยากให้รับผิดชอบนั้น เธอคงแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาจริงจังแน่นอนแต่วนิดากับอัญรสเล่นผิดคนแล้ว!ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเหี้ยมในตอนที่นำชะแลงที่ถือติดมือมาด้วย งัดแงะประตูทางด้านหลังจนเปิดมันออกได้สำเร็จ เขาแทรกตัวผ่านความมืดเข้าไปในตัวบ้าน จากส่วนครัวด้านหลังย่องขึ้นบันไดไปสู่ชั้นบนอย
ชยุตม์หมดสติตั้งแต่ช่วงค่ำไปราวสองสามชั่วโมง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่านาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว เขาเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงสีขาวในโรงพยาบาล สถานที่ที่เขาเกลียดชังมากที่สุด ชายหนุ่มยกแขนขึ้นมองก็พบสายน้ำเกลือปรากฏอยู่บนหลังมือ เขาไม่ปวดหัวแล้ว ดวงตาไม่ได้พร่ามัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้วด้วย มันกระจ่างสว่างไสวดีเมื่อกวาดมองไปรอบห้องแล้วไม่พบใคร เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะกระชากสายน้ำเกลือออกไปจนมีเลือดไหลซึมออกมา ชยุตม์ดึงกระดาษทิชชูสองสามแผ่นจากโต๊ะข้างเตียงมากดห้ามเลือด ก่อนจะเดินไปค้นหาเสื้อผ้าของตัวเอง ซึ่งพบว่ามันถูกแขวนเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบชายหนุ่มคว้าทุกอย่างหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีก็พบว่ามารดากำลังเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับขนมจุกจิกหลายอย่าง เดาว่าท่านคงกลัวเขาตื่นมาหิว จึงลงไปมินิมาร์ตของโรงพยาบาลที่เปิดตลอดยี่สิบชั่วโมงเพื่อซื้อของกินขึ้นมาตุนเอาไว้ให้“ตายจริง! ชิน ทำไมถึงถอดสายน้ำเกลือเองแบบนี้ล่ะลูก!” บุหลันมองเห็นหยดเลือดบนผ้าปูสีขาวก็ถึงกับหน้าซีด ไม่กล้ามองมือของลูกชายด้วยซ้ำ เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างกลัวเลือด เห็นทีไรก็อยากจะเป็นลมเสียทุกที“
หากอัญรสท้องไส้ขึ้นมา เด็กในท้องก็คือลูกเขา ดังนั้นจึงไม่แปลกหากเขาจะโกรธเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ ตอนแรกก็อัญรส ถัดมาก็แม่ของเธอ คนบ้านนั้นไม่มีหัวใจกันเลยหรืออย่างไร ทำไมถึงได้คิดอะไรตื้นๆ กันนัก ถ้าเรื่องมันลงเอยแบบนั้นจริง เขานี่แหละที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ไม่ให้แปดเปื้อนมือสกปรกของคนที่คิดจะทำร้ายเด็กอย่างเด็ดขาด“แกสิใจต่ำ เมียเพื่อนก็ยังแย่งได้!” วนิดาสวนกลับดุเดือด“มะปรางไม่ใช่เมียไอ้อ้น!” ชยุตม์ก้าวออกมาโดยอัตโนมัติ ความโกรธทำให้หูตาพร่าพรายไปหมด“ใจเย็นก่อนชิน อย่าไปแลกกับอีหมาบ้านี่เลย เชื่อแม่” บุหลันคว้าแขนลูกชายแล้วกอดเอาไว้“ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำกับพวกแกแล้ว เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน ที่ฉันยอมลดตัวมาเหยียบที่เรือนหลังนี้ในวันนี้ มันก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าฉันต้องการค่าตัวของยัยเอม ลูกสาวของฉันเป็นสาวบริสุทธิ์ ไม่เคยหลับนอนกับใคร ฉะนั้นแกจะมาหลอกฟันไม่ได้นะไอ้ชิน แกต้องจ่ายมาสิบล้าน!”พูดแล้ววนิดาก็ยิ้มกว้าง หัวใจพองโตคับอก เมื่อจินตนาการว่าเงินทองจำนวนนี้จะทำให้ได้ไปลงทุนในวงการการพนันต่ออีกมากมายแค่ไหนแม้จะดูถูกคนบ้านนี้มาตลอดว่าเป็นเพียงแค่ชาวไร่ชาวสวนเนื้อตัวเหม็นสาบ แ
บุหลันถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มเกือบตลอดทั้งบ่าย...แรกทีเดียวชยุตม์ก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่หนีหน้าเข้าไปทำงานในไร่พร้อมกับนายเชิดคนสนิท กว่าจะยอมกลับมาตะวันก็คล้อยต่ำลับฟ้าไปเสียแล้ว ผู้เป็นมารดาที่กำลังนั่งรับประทานมื้อเย็นอยู่ตามลำพัง เห็นหน้าตาลูกชายดูเคร่งเครียดกว่าที่เคยก็รีบเรียกให้มานั่งร่วมโต๊ะ“มากินข้าวเถอะชิน” บุหลันรู้ดีว่ามีบางอย่างไม่ปกติ“ผมไม่หิวครับแม่ แต่ผมจะนั่งเป็นเพื่อนแม่นะครับ” ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหา ลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนกายนั่งลง“ไม่หิวได้ยังไง ออกไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง แล้วก็กลับจนทุ่มกว่า ยังไงก็ต้องหิว” สิ้นคำพูดนั้นหญิงสูงวัยก็หันไปพยักหน้าให้แม่บ้านที่ชื่อส้มโอทันทีเจ้าตัวค้อมศีรษะน้อยๆ แทนคำพูด ก่อนจะขยับเข้ามาตักข้าวจากโถกระเบื้องเคลือบใส่ลงในจานให้กับเจ้านายหนุ่มทันที จากนั้นก็รินน้ำเย็นใส่ลงในแก้วให้ด้วย ซึ่งชยุตม์เลือกยกมันขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้ว“ที่ไปคุยกับหนูเอมมาเมื่อเช้า มันไม่เข้าท่าใช่ไหม ถึงทำหน้ายักษ์ตลอดเวลาแบบนี้” มารดาถามโดยไม่สบตา ยังคงใช้ช้อนกลางตักแกงเทโพใส่จาน แล้วรับประทานต่อไปเหมือนไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล เห็นแบบนั้นชยุตม์ที่เพิ่งหยิบช้อนส้
“ฉันไม่เคยคิดให้ใครมาแทนที่มะปราง” เขาพูดโพล่งออกไป“เอมรู้ค่ะ แต่อดีตก็คืออดีต พี่มะปรางตายไปแล้ว แต่เรา...”“ไม่มีคำว่าเรา มีแค่ฉันกับเธอเท่านั้น แล้วฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันแต่งงานกับเธอไม่ได้”“งั้นพาเอมไปอยู่ด้วยก็พอ เอมกินน้อย ไม่เรื่องมาก เลี้ยงง่ายค่ะ”“เธอเป็นคนนะ ไม่ใช่หมาพุดเดิล” เขาสวนเสียงดุ“พี่ชินคงไม่รู้ว่าการเลี้ยงหมาสักตัวนี่ต้องเอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่เอมไม่ต้องการแบบนั้น ขอแค่ให้เอมได้ไปอยู่ใกล้ๆ พี่ชิน ได้คอยดูแลพี่ชินก็พอ เอมจะไม่เรียกร้องสถานะอะไรเลย เอมสัญญา” หญิงสาวยังคงอ้อนวอนไม่เลิก นั่นยิ่งทำให้ชยุตม์ยิ่งหัวเสีย“ไม่มีทางอื่นหรือไง ฉันไม่พร้อมให้ผู้หญิงคนไหนมายุ่งด้วยทั้งนั้น”“เพราะพี่มะปรางอีกแล้วสินะ” อัญรสแค่นยิ้ม เจ็บปวดจนอดตัดพ้อไม่ได้“ใช่ มะปรางตายไปยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ” ชยุตม์ไม่ปฏิเสธ“เวลาไม่สำคัญสำหรับการมูฟออนหรอกค่ะ”“แต่กับฉันมันสำคัญมาก ฉันไม่อยากให้เธอมาแทนที่มะปราง”“พี่มะปรางรักพี่ชินอย่างที่พี่ชินรักเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ” อัญรสหลุดปากพูดออกไป“หมายความว่ายังไง? นี่จะหาเรื่องออกรับแทนไอ้อ้นอีกใช่ไหม!”“ไม่ใช่ค่ะ เอมแค่จะบอกว่าพี่มะปรางไม่ได







