Masuk“เงียบ!” เขาสั่งเสียงดุ“อื้อ!”หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก เมื่อถูกดันให้นอนราบกลับลงไปตามเดิม ชยุตม์ไม่ได้ละมือห่างออกไป แต่ขยับตัวกางขาคร่อมทับร่างบอบบางเอาไว้ กักขังเธอให้ตกอยู่ในการควบคุมของเขาอย่างง่ายดาย เพราะเมื่อเทียบสภาพร่างกายแล้ว เขาได้เปรียบกว่าเธอมากจนน่าตกใจ“บอกให้เงียบ! ถ้าไม่เงียบ อดได้ฉันเป็นผัวไม่รู้ด้วยนะ ไหนบอกว่าอยากให้ฉันรับผิดชอบไง” เขาก้มลงกระซิบข้างหู ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ ทำให้อัญรสแทบไม่กล้าหายใจ เนื้อตัวของเธอเกร็งทื่อไปหมด ทว่าก็ยอมเงียบไปตามที่เขาบอก นั่นแหละชยุตม์ถึงได้ค่อยๆ ปล่อยมือออกห่างปาก“พี่ชิน ทำไม...”อัญรสกำลังจะถามว่าทำไมเขาถึงบุกรุกเข้ามาอย่างนี้“ผัวจะปีนบ้านเมีย มันแปลกตรงไหน”เขากระดากปากแทบตาย แต่ก็จงใจพูดอย่างถือสิทธิ์“พี่ชิน!”เธอดูตื่นตระหนกมาก ใบหน้าที่ซีดเผือดกำลังบอกอย่างนั้น“เมื่อคืนฉันจำไม่ได้เลยว่าเอากับเธอท่าไหน ไม่รู้ด้วยว่าระหว่างเรามันเร่าร้อนถึงใจหรือเปล่า ฉันเลยอยากกลับมาทบทวนความจำดูหน่อย แล้ววันพรุ่งนี้รับรองเลยว่าเธอจะได้นามสกุลของฉันไปเป็นการตอบแทนแน่ อยากให้ฉันรับผิดชอบเธอมากไม่ใช่เหรอ?” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเหี้ยม“ไม่ได
บ้านหลังงามยามนี้ปิดไฟหมดทุกดวง บ่งบอกให้รู้ว่าคนในบ้านต่างก็พากันหลับใหลไปหมดแล้ว ชยุตม์ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนตัวมากนัก ในตอนที่ปีนกำแพงแล้วกระโดดลงไปบนสนามหญ้าข้างบ้านอย่างคล่องแคล่ว บ้านของอนวัตอดีตเพื่อนรักนั้น ไม่มีส่วนไหนที่เขาไม่คุ้นเคย เขารู้ทุกทางเข้าออกรวมทั้งจุดด้อยทั้งหมด ทำให้การลักลอบเข้าไปบ้านยามค่ำคืนไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อยจุดหมายของชยุตม์คือห้องนอนของอัญรส ผู้หญิงที่เป็นตัวปัญหาใหญ่ในชีวิตตอนนี้ แรกทีเดียวเขาไม่เคยคิดกล่าวโทษเธอเลย รู้ว่าตัวเองก็ผิดที่ดื่มจนเมาแบบนั้น แต่พอได้ยินเธอพยายามใส่ร้ายมะปราง เพราะหวังอยากเข้ามาแทนที่ เขาก็มองสาวน้อยที่คุ้นเคยเปลี่ยนไป เหมารวมทันทีว่าเธอเองก็ต้องรู้เห็นเป็นใจกับวนิดา ที่ต้องการใช้มะปรางมาเป็นข้อต่อรองเรียกเงินจากเขา ส่วนที่บอกว่าอยากให้รับผิดชอบนั้น เธอคงแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาจริงจังแน่นอนแต่วนิดากับอัญรสเล่นผิดคนแล้ว!ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเหี้ยมในตอนที่นำชะแลงที่ถือติดมือมาด้วย งัดแงะประตูทางด้านหลังจนเปิดมันออกได้สำเร็จ เขาแทรกตัวผ่านความมืดเข้าไปในตัวบ้าน จากส่วนครัวด้านหลังย่องขึ้นบันไดไปสู่ชั้นบนอย
ชยุตม์หมดสติตั้งแต่ช่วงค่ำไปราวสองสามชั่วโมง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่านาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว เขาเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงสีขาวในโรงพยาบาล สถานที่ที่เขาเกลียดชังมากที่สุด ชายหนุ่มยกแขนขึ้นมองก็พบสายน้ำเกลือปรากฏอยู่บนหลังมือ เขาไม่ปวดหัวแล้ว ดวงตาไม่ได้พร่ามัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้วด้วย มันกระจ่างสว่างไสวดีเมื่อกวาดมองไปรอบห้องแล้วไม่พบใคร เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะกระชากสายน้ำเกลือออกไปจนมีเลือดไหลซึมออกมา ชยุตม์ดึงกระดาษทิชชูสองสามแผ่นจากโต๊ะข้างเตียงมากดห้ามเลือด ก่อนจะเดินไปค้นหาเสื้อผ้าของตัวเอง ซึ่งพบว่ามันถูกแขวนเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบชายหนุ่มคว้าทุกอย่างหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีก็พบว่ามารดากำลังเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับขนมจุกจิกหลายอย่าง เดาว่าท่านคงกลัวเขาตื่นมาหิว จึงลงไปมินิมาร์ตของโรงพยาบาลที่เปิดตลอดยี่สิบชั่วโมงเพื่อซื้อของกินขึ้นมาตุนเอาไว้ให้“ตายจริง! ชิน ทำไมถึงถอดสายน้ำเกลือเองแบบนี้ล่ะลูก!” บุหลันมองเห็นหยดเลือดบนผ้าปูสีขาวก็ถึงกับหน้าซีด ไม่กล้ามองมือของลูกชายด้วยซ้ำ เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างกลัวเลือด เห็นทีไรก็อยากจะเป็นลมเสียทุกที“
หากอัญรสท้องไส้ขึ้นมา เด็กในท้องก็คือลูกเขา ดังนั้นจึงไม่แปลกหากเขาจะโกรธเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ ตอนแรกก็อัญรส ถัดมาก็แม่ของเธอ คนบ้านนั้นไม่มีหัวใจกันเลยหรืออย่างไร ทำไมถึงได้คิดอะไรตื้นๆ กันนัก ถ้าเรื่องมันลงเอยแบบนั้นจริง เขานี่แหละที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ไม่ให้แปดเปื้อนมือสกปรกของคนที่คิดจะทำร้ายเด็กอย่างเด็ดขาด“แกสิใจต่ำ เมียเพื่อนก็ยังแย่งได้!” วนิดาสวนกลับดุเดือด“มะปรางไม่ใช่เมียไอ้อ้น!” ชยุตม์ก้าวออกมาโดยอัตโนมัติ ความโกรธทำให้หูตาพร่าพรายไปหมด“ใจเย็นก่อนชิน อย่าไปแลกกับอีหมาบ้านี่เลย เชื่อแม่” บุหลันคว้าแขนลูกชายแล้วกอดเอาไว้“ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำกับพวกแกแล้ว เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน ที่ฉันยอมลดตัวมาเหยียบที่เรือนหลังนี้ในวันนี้ มันก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าฉันต้องการค่าตัวของยัยเอม ลูกสาวของฉันเป็นสาวบริสุทธิ์ ไม่เคยหลับนอนกับใคร ฉะนั้นแกจะมาหลอกฟันไม่ได้นะไอ้ชิน แกต้องจ่ายมาสิบล้าน!”พูดแล้ววนิดาก็ยิ้มกว้าง หัวใจพองโตคับอก เมื่อจินตนาการว่าเงินทองจำนวนนี้จะทำให้ได้ไปลงทุนในวงการการพนันต่ออีกมากมายแค่ไหนแม้จะดูถูกคนบ้านนี้มาตลอดว่าเป็นเพียงแค่ชาวไร่ชาวสวนเนื้อตัวเหม็นสาบ แ
บุหลันถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มเกือบตลอดทั้งบ่าย...แรกทีเดียวชยุตม์ก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่หนีหน้าเข้าไปทำงานในไร่พร้อมกับนายเชิดคนสนิท กว่าจะยอมกลับมาตะวันก็คล้อยต่ำลับฟ้าไปเสียแล้ว ผู้เป็นมารดาที่กำลังนั่งรับประทานมื้อเย็นอยู่ตามลำพัง เห็นหน้าตาลูกชายดูเคร่งเครียดกว่าที่เคยก็รีบเรียกให้มานั่งร่วมโต๊ะ“มากินข้าวเถอะชิน” บุหลันรู้ดีว่ามีบางอย่างไม่ปกติ“ผมไม่หิวครับแม่ แต่ผมจะนั่งเป็นเพื่อนแม่นะครับ” ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหา ลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนกายนั่งลง“ไม่หิวได้ยังไง ออกไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง แล้วก็กลับจนทุ่มกว่า ยังไงก็ต้องหิว” สิ้นคำพูดนั้นหญิงสูงวัยก็หันไปพยักหน้าให้แม่บ้านที่ชื่อส้มโอทันทีเจ้าตัวค้อมศีรษะน้อยๆ แทนคำพูด ก่อนจะขยับเข้ามาตักข้าวจากโถกระเบื้องเคลือบใส่ลงในจานให้กับเจ้านายหนุ่มทันที จากนั้นก็รินน้ำเย็นใส่ลงในแก้วให้ด้วย ซึ่งชยุตม์เลือกยกมันขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้ว“ที่ไปคุยกับหนูเอมมาเมื่อเช้า มันไม่เข้าท่าใช่ไหม ถึงทำหน้ายักษ์ตลอดเวลาแบบนี้” มารดาถามโดยไม่สบตา ยังคงใช้ช้อนกลางตักแกงเทโพใส่จาน แล้วรับประทานต่อไปเหมือนไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล เห็นแบบนั้นชยุตม์ที่เพิ่งหยิบช้อนส้
“ฉันไม่เคยคิดให้ใครมาแทนที่มะปราง” เขาพูดโพล่งออกไป“เอมรู้ค่ะ แต่อดีตก็คืออดีต พี่มะปรางตายไปแล้ว แต่เรา...”“ไม่มีคำว่าเรา มีแค่ฉันกับเธอเท่านั้น แล้วฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันแต่งงานกับเธอไม่ได้”“งั้นพาเอมไปอยู่ด้วยก็พอ เอมกินน้อย ไม่เรื่องมาก เลี้ยงง่ายค่ะ”“เธอเป็นคนนะ ไม่ใช่หมาพุดเดิล” เขาสวนเสียงดุ“พี่ชินคงไม่รู้ว่าการเลี้ยงหมาสักตัวนี่ต้องเอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่เอมไม่ต้องการแบบนั้น ขอแค่ให้เอมได้ไปอยู่ใกล้ๆ พี่ชิน ได้คอยดูแลพี่ชินก็พอ เอมจะไม่เรียกร้องสถานะอะไรเลย เอมสัญญา” หญิงสาวยังคงอ้อนวอนไม่เลิก นั่นยิ่งทำให้ชยุตม์ยิ่งหัวเสีย“ไม่มีทางอื่นหรือไง ฉันไม่พร้อมให้ผู้หญิงคนไหนมายุ่งด้วยทั้งนั้น”“เพราะพี่มะปรางอีกแล้วสินะ” อัญรสแค่นยิ้ม เจ็บปวดจนอดตัดพ้อไม่ได้“ใช่ มะปรางตายไปยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ” ชยุตม์ไม่ปฏิเสธ“เวลาไม่สำคัญสำหรับการมูฟออนหรอกค่ะ”“แต่กับฉันมันสำคัญมาก ฉันไม่อยากให้เธอมาแทนที่มะปราง”“พี่มะปรางรักพี่ชินอย่างที่พี่ชินรักเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ” อัญรสหลุดปากพูดออกไป“หมายความว่ายังไง? นี่จะหาเรื่องออกรับแทนไอ้อ้นอีกใช่ไหม!”“ไม่ใช่ค่ะ เอมแค่จะบอกว่าพี่มะปรางไม่ได







