Главная / รักโบราณ / พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่ / บทที่ 4 สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร (3/4)

Share

บทที่ 4 สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร (3/4)

last update Последнее обновление: 2024-12-03 10:29:38

“ซืออี้ เจ้าจะล่อลวงสตรีที่ใดก็เชิญตามสบาย แต่อย่ามาล่อลวงน้องสาวข้า เข้าใจหรือไม่”

            “ข้าเคยล่อลวงสตรีที่ใดกัน เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เอ๊ะ! นั่นยุเหวียนเซียวนี่ ข้าขอกินด้วยคนสิ” หากเคยทำก็คงเป็นตอนล้วงเอาความลับจากผู้อื่นเพียงเท่านั้น

            “เจ้าอยากกินก็ขอจากซีซีสิ จะมาแย่งของข้าด้วยเหตุใด” ฟ่านไห่ถิงกล่าวพลางแย่งชามในมือสหายคืนมา

            “ซีอิ๋ง ยุเหวียนเซียวของพี่เล่า”

            “ท่านอยากกินหรือเจ้าคะ”

            “ย่อมอยากกิน ขอยุเหวียนเซียวของเจ้าให้พี่สักถ้วยได้หรือไม่” กล่าวจบก็ส่งสายตาอ้อนวอนให้นาง

            พรึ่บ! เป็นคุณชายฟ่านที่วางถ้วยขนมแล้วยกมือปิดตาพลางรั้งสหายให้ถอยห่างจากน้องสาว ไอ้ท่าทางออดอ้อนนั้นคืออันใด ช่างน่าขนลุกนัก

            “ซีซีรีบตักยุเหวียนเซียวใส่ถ้วยให้สหายพี่เถิด”

            “ปล่อยข้านะ เจ้าคนหวงน้อง”

            “คิก ๆ” เสียงหัวเราะของสตรีตัวน้อยทำให้ทั้งสองหยุดยื้อแย่งกันก่อนจะหันไปมองดวงหน้าหวานที่ประดับรอยยิ้ม

            “เจ้าอย่ามองน้องสาวข้า” กล่าวจบก็ใช้มือปิดตาสหายอีกรอบ รอยยิ้มของฟ่านซีอิ๋งงดงามยิ่งกว่ามารดาเสียอีก หากสหายสูงศักดิ์ผู้นี้ได้เห็นคงมิแคล้วอยากเสนอตัวเป็นน้องเขย

            เขาไม่อยากได้น้องเขยที่สูงศักดิ์ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเชื้อพระวงศ์อย่างไรก็ต้องมีสตรีในเรือนหลังมากมาย

            “คิก ๆ พวกท่านเล่นกันเหมือนตอนเป็นเด็กเลย” มันคล้ายกับเป็นภาพที่นางเห็นมาตั้งแต่จำความได้

            “ซีอิ๋งเจ้าหยุดยิ้มได้หรือไม่”

            “เพราะเหตุใดเจ้าคะ ข้ายิ้มแล้วดูขี้ริ้วขี้เหร่หรือ”

            “ตรงกันข้ามต่างหาก รอยยิ้มของเจ้าแม้ไม่นับว่างามล่มเมืองเช่นท่านแม่ แต่ทว่าน่ามองยากละสายตา พี่เชื่อว่าหากมีบุรุษใดมาเห็นคนพวกนั้นย่อมถูกเจ้าล่อลวงได้ในยิ้มเดียว”

            “พี่ใหญ่ก็เยินยอข้าเช่นนี้ตลอด” นางที่ถูกคนรอบข้างดูแคลนว่าเป็นอีกาในฝูงหงส์น่ะหรือจะสามารถล่อลวงบุรุษได้ในยิ้มเดียว

            “พี่พูดจริง คราวหน้าหากจะออกไปนอกจวนเจ้าควรใส่ผ้าปิดหน้าด้วย มิเช่นนั้นเตรียมเปิดประตูจวนต้อนรับแม่สื่อจนบันไดหน้าจวนสึกได้เลย”

            “นี่! พวกเจ้าพี่น้องสนทนากันเสร็จแล้วหรือ ข้าอยากกินยุเหวียนเซียวแล้ว”

            “พี่ใหญ่เลิกแกล้งสหายได้แล้วเจ้าค่ะ รีบกินยุเหวียนเซียวเถิด ประเดี๋ยวเย็นชืดไปจะไม่อร่อย”

            “อืม แต่จงจำคำพี่เอาไว้เข้าใจหรือไม่”

            “เจ้าค่ะ” ฟ่านซีอิ๋งยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางหวงแหนน้องสาวเช่นดังเมื่อก่อน

            “...” คังซืออี้จ้องมองสองพี่น้องด้วยสายตาครุ่นคิด

            “นี่เจ้าค่ะยุเหวียนเซียวของท่าน” นางกล่าวพลางวางถ้วยขนมตรงหน้าสหายของพี่ชาย

            “ขอบคุณ”

            “พี่ใหญ่ก็กินให้มาก ๆ นะเจ้าคะ”

            “เจ้านำมาให้ทั้งที พี่ต้องกินให้มากอยู่แล้ว”

            “ยุเหวียนเซียวนี่รสชาติดีไม่หวานมาก เจ้าเข้าครัวทำเองหรือ” เป็นชินอ๋องซื่อจื่อเอ่ยถาม

            “ซีซีของข้าน่ะหรือจะเข้าครัว เพียงแค่ย่างกรายไปแถวนั้น พ่อครัวแม่ครัวก็รีบยัดขนมใส่มือแล้วเชิญออกมา”

            “พี่ใหญ่อย่าได้หยอกเย้าข้าเช่นนั้น”

            “พ่อครัวแม่ครัวคงไม่อยากให้คุณหนูเพียงคนเดียวต้องลำบาก”       

            “ได้ยินว่าหลังจากข้าเดินทางไปเมืองจินเฟิ่งได้ไม่นาน ซีซีมีใจอยากฝึกทำอาหารแต่ดันทำไฟไหม้ครัว กว่าจะซ่อมห้องครัวเสร็จ คนครัวทั้งหลายต้องย้ายมาตั้งครัวที่ลานด้านนอกท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย”

            “พี่ใหญ่หยุดเล่าเรื่องอับอายของข้าได้แล้วเจ้าค่ะ” ฟ่านซีอิ๋งดวงหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย ตอนนั้นเมื่อเห็นไฟลุกในกระทะด้วยความตกใจจะหยิบน้ำมาสาดเพื่อดับไฟ มือกลับไปหยิบถ้วยน้ำมันสาดออกไป สุดท้ายโรงครัวไหม้ทั้งหลัง ตั้งแต่นั้นมาในกลุ่มบ่าวไพร่ก็จะคอยระแวดระวังพร้อมทั้งส่งข่าวบอกต่อกันทันทีที่เห็นนางเดินมุ่งหน้ามาทางโรงครัว ทำให้นางแทบไม่อยากย่างกรายไปที่นั่นหากไม่จำเป็น

            แต่ท่านแม่กลับเห็นเป็นเรื่องขำขัน ถึงกับเขียนจดหมายไปเล่าให้พี่ใหญ่ฟัง จนพี่ใหญ่เขียนจดหมายหยอกล้อตอบกลับมา น่าอับอายยิ่งนัก

            “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เจ้าช่างน่าเอ็นดูนัก” มุมปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย

            “ตอนที่ข้าได้อ่านจดหมายจากท่านแม่ ข้าหัวเราะจนล้มกลิ้งไปหลายวัน ช่างน่าขำขันยิ่งนัก”

            “หัวเราะเรื่องน่าอายของข้าไปเถิด อย่าให้ถึงทีท่านก็แล้วกัน” นางสะบัดหน้าหนีเล็กน้อยคล้ายแง่งอน

            “พี่ขอโทษ ๆ แต่ยามใดที่นึกถึงเรื่องนี้มันก็อดไม่ได้จริง ๆ” ฟ่านไห่ถิงพยายามกลั้นยิ้ม

            โป๊ก! คังซืออี้กำหมัดแล้วเขกหัวสหายไปหนึ่งครั้ง “หยุดหัวเราะได้แล้วสงสารซีอิ๋ง”

            “ขอบคุณเจ้าค่ะพี่ซืออี้ แต่จะดีมากหากท่านเขกหัวพี่ใหญ่แก้แค้นให้ข้าอีกสักครั้ง”

            “ซืออี้เจ้าอย่าเชียวนะ”

            โป๊ก! เพราะเขาเก่งกาจและฉลาดกว่าอีกฝ่าย เขาจึงสามารถทำตามที่นางขอได้ไม่ยาก

            “ขอบคุณเจ้าค่ะพี่ซืออี้ เอาไว้หากครั้งหน้ามีขนมอร่อย ๆ ข้าจะนำไปมอบให้ท่านถึงเรือนรับรอง” นางกล่าวกับเขาก่อนจะหันไปสะบัดหน้าใส่พี่ชายตนคล้ายแง่งอน

            “แล้วพี่จะรอ”

            “อย่าลืมของพี่ด้วยนะซีซี”

            “วันนี้ข้าขอตัวลาก่อนนะเจ้าคะ ส่วนของพี่ใหญ่นั้น เอาไว้ครั้งหน้าของครั้งหน้าของครั้งหน้าเจ้าค่ะ แบร่!” กล่าวจบก็รีบวิ่งออกจากเรือนของพี่ชายทันที

            ท่าทางห่างไกลจากการเป็นสตรีที่กิริยามารยาทเรียบร้อยทำให้มุมปากของชินอ๋องซื่อจื่อยกยิ้มยามมองตามหลังนางไปก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อหันกลับมาสนทนากับสหาย

.........................

คำเตือน!!! อ่านเรื่องนี้ระวังเบาหวานขึ้นตา

เพราะพระเอกหวานมาก คลั่งรักมาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : โปรดปรานจนวาระสุดท้าย (จบบริบูรณ์)

    โปรดปรานจนวาระสุดท้าย เวลาผ่านไปนานถึงยี่สิบห้าหนาว ฮ่องเต้คังเฟยหลงในวัยสี่สิบเจ็ด ป่วยและจากไปด้วยโรคประจำตัว แม้ในวังหลังจะมีสนมมากมาย แต่ทว่าฮ่องเต้กลับมีโอรสและธิดากับฮองเฮาเพียงสามพระองค์โดยสนมทุกคนจะถูกบังคับให้ดื่มน้ำแกงไร้บุตรก่อนที่จะเข้าถวายการรับใช้ ซึ่งฮ่องเต้จะเป็นผู้ยืนดูความเรียบร้อยด้วยตนเอง แม้จะมีฎีกาคัดค้านเรื่องนี้จากขุนนางมากมาย แต่ทว่าขุนนางเหล่านั้นก็จะโดนฮ่องเต้กล่าวหาว่ามักใหญ่ใฝ่สูงหวังอยากเป็นพระอัยกาของฮ่องเต้พระองค์ถัดไปทั้งคิดจะกลืนกินราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าโต้แย้งพระประสงค์ของฮ่องเต้ด้วยกลัวว่าจะต้องโทษกบฏ องค์ไท่จื่อที่ได้รับการแต่งตั้งจึงเป็นองค์ชายใหญ่ ส่วนองค์ชายรองก็รับหน้าที่ส่งเสริมพี่ชายโดยได้รับตำแหน่งอ๋อง และองค์หญิงก็ได้แต่งกับท่านราชบุตรเขยซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ ทั้งสามพี่น้องรักใคร่เกื้อกูลกันเนื่องจากประสูติจากครรภ์ของฮองเฮา “ชินอ๋องซื่อจื่อแจ้งว่ายามได้รับทราบข่าวของพระองค์ ชินอ๋องและพระชายารีบเร่งเดินทางออกจากเมืองจิ่นเฟิงเพคะ” “อืม...แต่เจิ้นคงรอพวกเขาไม่ไหวหรอก อย่างไรฝากขอโทษพวกเขาด้ว

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (4/4)

    “อืม” คังซืออี้หน้าตึงไม่ค่อยพอใจอยู่บ้างที่เห็นพระชายาของตนส่งยิ้มให้โอรสสวรรค์ “ซีถิง อากลับก่อนนะ เอาไว้วันหน้าอาจะนำของเล่นมามอบให้” “พ่ะย่ะค่ะ” เด็กน้อยวัยห้าหนาวตอบรับเสียงอ่อน “ฟู่กงกง ส่งเสด็จฮ่องเต้” “เชิญพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่กงกงรีบมาทำหน้าที่ พลางคิดว่าคงจะมีแต่ตำหนักนี้กระมังที่ให้ขันทีเป็นคนออกไปส่งฮ่องเต้ที่หน้าตำหนักหาใช่เจ้าของตำหนัก คล้อยหลังโอรสสวรรค์แล้ว พระชายาฟ่านก็หันหน้ามาจ้องหนึ่งบุรุษ หนึ่งเด็กน้อยที่หน้าตาคล้ายคลึงกันยิ่งนัก ไหนจะท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยแล้วช้อนตาขึ้นมองเพื่อเรียกร้องความน่าสงสารนั่นอีก ‘สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน’ นางเกือบเผลอยิ้มออกมาก่อนจะแสร้งทำหน้าเคร่งขรึม “ท่านแม่ขอรับ เรื่องนี้เป็นท่านพ่อที่ผิดนะขอรับ ลูกเพียงแต่น้อยใจ...” “บิดาเจ้าเพียงห่วงใยมารดา จึงไม่อยากให้เจ้าไปรบกวน พ่อผิดที่ใด” “หยุดเอ่ยวาจาเลยเจ้าค่ะ นับตั้งแต่นี้ชินอ๋องและชินอ๋องซื่อจื่อจะต้องย้ายไปอยู่เรือนท้ายตำหนักและถูกกักบริเวณเป็นเวลาสามวันห้ามก้าวเท้าออกจากเรือนท้

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (3/4)

    “ข้าคิดดีแล้วขอรับ ท่านอามาเป็นสามีใหม่ของมารดาข้าเถิด ข้ายินดีจะเรียกท่านว่าบิดาอย่างไม่อิดออด” “หน๊อย! เจ้าเด็กนี่ เฟยหลงเจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” ชินอ๋องร้องโวยวายเมื่อถูกน้องชายจับตัวไว้หวังช่วยเหลือเจ้าเด็กมากมารยา “ท่านพี่ใจเย็น ๆ ก่อนเถิด ซีถิงยังเยาว์วัยนักท่านอย่าได้ถือสาเขาเลย” “ท่านพ่อคนใหม่ ช่วยข้าด้วยขอรับ เห็นหรือไม่ บิดาคนเก่าของข้าใจร้ายเพียงใด” ท่าทางก้มหน้าเล็กน้อยพลางตอบเสียงอ่อน ทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูได้ไม่อยาก แต่ยกเว้นบุรุษที่เจ้ามารยาไม่แพ้กันเช่นชินอ๋อง “หยุดเอ่ยเรียกผู้อื่นว่าบิดาได้แล้ว มิเช่นนั้นข้าจะลงโทษเจ้า” คังซืออี้รู้สึกอยากลงโทษบุตรชายก็คราวนี้ จะมารยาเรียกร้องความสนใจเช่นไรเขาไม่นึกถือสา แต่หากคิดจะหาบุรุษมาให้ชายาของเขา เขามีหรือจะยอม “จะลงโทษซีถิงด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ฟ่านซีอิ๋งเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง นางถูกสาวใช้คนสนิทปลุกให้ตื่นหวังให้มาห้ามทัพระหว่างบุรุษทั้งสอง ด้วยกลัวว่าท่านอ๋องน้อยจะถูกลงโทษเพราะไปยั่วโทสะบิดาเข้า เรื่องที่แตะเกล็ดมังกรย้อนของชินอ๋องผู้นี้เห

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (2/4)

    “ท่านอ๋องสั่งไว้ว่าไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวนขอรับ” “บังอาจ! พวกเจ้าไม่เห็นข้าเป็นนายหรือ” เด็กน้อยวัยห้าหนาวยืนกอดอกจ้องทหารยามด้วยสายตาดุ แต่ในสายตาผู้อื่นกลับดูน่ารักไปเสียได้ “ย่อมเห็นขอรับจึงไม่อยากให้ท่านอ๋องน้อยต้องถูกท่านอ๋องลงโทษที่ขัดคำสั่ง” “ปล่อย...” ชินอ๋องซื่อจื่อตัวน้อยยังส่งเสียงร้องโวยวายไม่ทันจบก็ถูกบุรุษตัวโตปิดปากแล้วอุ้มให้ออกห่างจากเรือน “ชายาข้ากำลังพักผ่อน เจ้าอย่าได้ส่งเสียงรบกวนนาง” เรียกได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อตะวันฉายแสงจะดีกว่า ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาทั้งรักและโปรดปรานนางยิ่งนัก ทันทีที่ร่างเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เจ้าตัวน้อยก็กอดอกแล้วต่อว่าผู้เป็นบิดาทันที “ท่านพ่อใจร้าย ไม่ยอมให้ข้าเจอท่านแม่เลย” “ซีถิง เจ้าโตแล้ว เป็นบุรุษจะทำตัวเป็นลูกแง่เกาะติดมารดาตลอดไปไม่ได้ ในภายหน้าเจ้าจะได้เป็นชินอ๋องที่น่าเกรงขาม เห็นหรือไม่ บิดาทำไปเพื่อฝึกฝนเจ้า” คังซืออี้กล่าวพลางตีหน้าเคร่งขรึมหวังหลอกล่อบุตรชายให้หลงเชื่อ ทั้งที่จริงแล้วยามเดินทางเขาไม่ได้ใกล้ชิดนางดั่งใจต้องการ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : หาคนรักให้มารดา (1/4)

    หาคนรักให้มารดา เสียงร้องโวยวายของเจ้าก้อนแป้งวัยห้าหนาวดังลั่นเรือนพร้อมเจ้าตัวที่กำลังดีดดิ้นและพยายามช่วยเหลือตนเองจากการถูกหิ้วคอเสื้อจากทางด้านหลัง “ท่านพ่อ ปล่อยข้านะขอรับ ข้าจะไปหาท่านแม่” เด็กน้อยเอื้อมแขนสั้น ๆ ของตนพยายามแกะมือที่จับยึดคออาภรณ์ของเขา “ท่านแม่เจ้ากำลังพักผ่อนให้คลายจากความเหน็ดเหนื่อยเจ้าอย่าได้ไปรบกวน” “นี่มันยามโหย่ว (17.00-18.59) แล้วนะขอรับ” “แล้วอย่างไร มีกฎข้อใดไม่ให้ชายาข้าพักผ่อนในยามโหย่ว (17.00-18.59)” “ก็มันใกล้จะมืดค่ำแล้วขอรับ” ประเดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วยามก็ต้องเตรียมตัวเข้านอนอีก “เจ้ายังเด็กนัก บิดาจึงไม่อาจบอกได้ว่าแท้จริงยามค่ำคืนคนที่เติบโตแล้ว ไม่ต้องเข้านอนก็ได้” “ท่านพ่อกำลังโกหกข้า อีกอย่างหากท่านแม่ทราบว่าข้ากำลังร้องเรียกหา ท่านแม่หรือจะเมินเฉย” “ที่เจ้ากล่าวมาก็ไม่ผิด ด้วยเหตุนี้พ่อจึงได้พาเจ้ากลับมาที่เรือนแยก แม่นม จือไห่ จือซวน จือหม่า จือหมิง” “เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ” คนที่รออยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาพลางโค้งตัวรอรับคำส

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (5/5)

    “ในเมื่อพี่ตกลงกราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ชั่วชีวิตไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขพี่ย่อมมีเจ้าเป็นสตรีเพียงคนเดียวในเรือนหลัง หากเจ้าลองสังเกตดี ๆ เจ้าจะพบว่านอกจากบิดาของพี่จะมีฮูหยินเพียงคนเดียวแล้ว สหายของพี่ที่เป็นถึงชินอ๋อง ก็ยังแต่งพระชายาคือน้องสาวของพี่เพียงคนเดียว ไร้อนุฯ หรือสาวใช้อุ่นเตียง บ่งบอกว่าพวกเราคนตระกูลฟ่านต้องการมีรักเดียวชั่วชีวิต” “นี่ท่าน!” หูเซียงเฟยตกใจยิ่งนัก มิคิดว่าเขาจะคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด “เช่นนั้นเจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องข้อเสนอนั่นอีกเลย ในเมื่อการกราบไหว้ฟ้าดินของเราเกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ” สิ้นเสียงเขาก็เชยคางมนขึ้นก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาจงใจทำให้นางคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาจึงทำเพียงกินเต้าหู้นางเล็ก ๆ น้อย ๆ ลิ้นร้อนลิ้มรสความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นเรียวเล็กของนางพยายามตอบรับสัมผัสของเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ยิ่งทำให้เข้าปรารถนาอยากจะกดนางลงบนเตียงแล้วทำให้นางกลายเป็นฮูหยินของเขาเต็มตัว “เซียงเซียง เจ้าหวานเหลือเกิน” เขากล่าวพลางจ้องมองนางด้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status