แชร์

5.หรือเธอควรจะหนีไป

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 10:43:41

“นายหญิงครับ..”

เสียงเรียกนั้นดึงความสนใจของทั้งเฟรญ่าและมาร์เซลไปไว้ที่ชายผู้เดินเข้ามาใหม่ แน่นอนว่าชายผู้นั้นมองหน้ามาร์เซลอย่างไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่

“อ่า..มาพอดีเลยสินะเบน ฝากเจ้าพาแขกของเราไปที่ห้องพักหน่อยสิ”

เฟรญ่ารีบกล่าวออกมาพร้อมกับเดินออกไปจากเคาน์เตอร์ต้อนรับในทันที มาร์เซลมองตามแผ่นหลังบางของเธอ และเมื่อเห็นจังหวะการก้าวเดินที่มันผิดปกติ บวกกับมือที่ถือไม้เท้าช่วยพยุงแววตาของมาร์เซลก็หรี่ลงมาเล็กน้อย ได้โอกาสหนีพอดีเลยสินะ พอมีคนเข้ามาใหม่เธอถึงได้ไม่หันมองหน้าเขาแม้แต่นิดเดียว

ฉับพลันดวงตาของมาร์เซลก็เปลี่ยนเป็นประกายแวววาว เขาว่าจะอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย เห็นทีว่าระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนคงจะไม่นานพอให้ได้เล่นสนุกซะแล้วสิ

เฟรญ่าเดินออกมาจากโรงแรม เธอมีบ้านอยู่ที่นี่เป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากโรงแรมไปอีกหน่อย ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเธอติดตามข่าวของแกรนด์ดยุคจามินอย่างใกล้ชิด ปกติแล้วในช่วงเวลานี้เขาจะต้องเดินทางไปที่เมืองหลวงเพื่อไปอยู่ที่เมืองหลวงนานแรมปีเพราะคำสั่งขององค์จักรพรรดิ ทว่าเธอไม่ได้ยินข่าวเรื่องการเดินทางนั้นของแอชตันเลย ไม่ได้ยินคำสั่งขององค์จักรพรรดิด้วย

หมายความว่าพอเธอไม่ได้แต่งงานกับเขา เรื่องราวบางอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างนั้นสินะ ในยามนี้ต่อให้เธอไม่ได้ยื่นมือเข้าไปทำร้ายจามินแต่ที่แกรนด์ดัชชีของเขาก็อยู่กันอย่างยากลำบากมากทีเดียว เพราะเงินทุนที่ขาดแคลน และอีกไม่นานจะเกิดโรคระบาดขึ้นที่นั่น..ในยามนั้นแกรนด์ดัชชีการปกครองของแอชตัน น่าจะเข้าใกล้คำว่าล่มสลายมากกว่านี้ไปอีก เพราะครั้งที่แล้วมันผ่านมาได้จากเงินทุนในการว่าจ้างหมอและนักบุญของทีเซียสนี่

เธอพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะชื่อของมาร์เซลทำให้เธอคิดถึงเรื่องเก่าในอดีตอีกครั้งหนึ่ง ชายผู้ชวนให้เธอหลบหนีไปและส่งมอบกริชเอาไว้ให้เธอ.. เรื่องน้ำเสียงเธอจำไม่ค่อยได้แล้วแต่เธอจำชื่อของเขาได้แม่นยำมากทีเดียว อาจจะเพราะว่าชื่อของเขาเป็นชื่อสุดท้ายในชีวิตที่เธอกล่าวออกมา

เฟรญ่าแย้มยิ้มออกมาจางๆ เมื่อเธอเดินมาถึงเทศกาลเก็บเกี่ยว ที่นี่เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่ทุกคนในหมู่บ้านรู้จักกันเป็นอย่างดี

“เฟรญ่า ท่านก็มาด้วยเหรอครับ”

เฟรญ่าส่งยิ้มที่ผลิบานราวกับดอกไม้ให้แก่บารอนดีแลน ผู้ดูแลที่นี่ เขาคือเจ้าเมืองผู้ดูแลเดียลอร์ล

“วันนี้งานที่โรงแรมเสร็จไวค่ะ ข้าก็เลยมาเที่ยวเล่นสักหน่อย”

มือของเฟรญ่ากระชับไม้เท้าที่เธอกำลังถืออยู่ อีกเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกว่าที่นี่อบอุ่นมากๆ คือไม่มีใคร มองว่าขาข้างซ้ายของเธอที่มันเดินไม่ค่อยสะดวก เป็นเรื่องแปลกประหลาดเลย ราวกับตำหนิบนร่างกายของเธอไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลยสำหรับพวกเขา ทั้งๆที่นี่คือปัญหาใหญ่มากพอสมควรกับชีวิตของเธอแท้ๆ หากว่าในยามนี้เธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าของชนชั้นสูง พวกเขาจะยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วก็หัวเราะออกมาในช่วงเวลาที่เธอเดินผ่าน เธอเปิดตัวในแวดวงสังคมช้ามากกว่าสตรีในวัยเดียวกัน สาเหตุมาจากความไม่มั่นใจของตัวเอง เพราะหวาดกลัวสายตาของผู้อื่น..แต่เมื่อพบเจอแอชตัน เขา..ไม่ได้มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ มันทำให้เธอประทับใจและตกหลุมรักกับท่าทีจอมปลอมพวกนั้นอย่างง่ายดาย

“มาเถอะครับ ไปทางด้านนั้นกัน ชาวบ้านกำลังออกมาเต้นรำที่ท้องถนน ท่านจะต้องอยากชมการเต้นรำในช่วงเก็บเกี่ยวเป็นแน่”

ดีแลนยื่นมือมาเพื่อทำท่าจะจับมือของเฟรญ่า ทว่าเธอกลับไม่ได้ยื่นมือออกไปเพื่อจับมือของเขา เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะใช้ไม้เท้าในมือเพื่อพยุงตัวในการเดินไปยังลานเต้นรำ

เธอไม่อยากพึ่งพาใครอีกแล้ว เฟรญ่าอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง เพราะหากว่าเธอแข็งแกร่งมากพอ จะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเธอได้อีก

บารอนดีแลนส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้กับเฟรญ่า ทั้งๆ ที่หัวใจของเขามันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

เขาไม่เคยเชื่อเรื่องรักแรกพบ จนมาพบเจอกับสตรีผู้นี้ เธองดงาม..มากกว่าสตรีทุกคนที่เขาเคยเห็นมา แต่ความงดงามนั้นเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น เพราะว่าเธอซื้อโรงแรมที่ใกล้จะเจ๊งมาทำให้เป็นโรงแรมที่มีผู้เข้าพักมากที่สุดในเดียลอร์ล ความสามารถของเธอมันมากเกินกว่ารูปลักษณ์ที่สวยงามในภายนอก เขาพยายามเข้าหาแต่ทว่าในทุกครั้งเขาล้วนแล้วแต่ถูกปฏิเสธ..

ดีแลนไม่คิดยอมแพ้หรอก ตราบใดที่เธอยังไม่มีสามีก็นับว่าเขายังมีโอกาสอยู่

“ดูเหมือนว่าบารอนผู้นั้นจะสนใจในตัวเจ้าของโรงแรมนะครับหัวหน้า..แบบนี้เราลองสืบจากเจ้าของโรงแรมดีไหมครับ”

ไอเดนมือขวาของมาร์เซลเอ่ยถามออกมาด้วยสายตาที่จริงจัง เพราะไอเดนไม่เคยทำงานผิดพลาดมาก่อน เขาถึงได้ตั้งใจจะรักษาชื่อเสียงของกลุ่มทหารรับจ้างของเราต่อไป

“นั่นสินะ เรื่องเจ้าของโรงแรมข้าจะไปสืบเอง เจ้าไปสืบเรื่องของบารอนดีแลนเถอะ หมอนั่นน่าจะถึงวัยที่ต้องแต่งงานแล้วไม่ใช่รึไง แล้วทำไมถึงยังไม่มีภรรยา หรือว่าเขาซุกลูกซุกเมียเอาไว้ที่ไหน แล้วเขา..มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ว่าจ้างเรารึเปล่า”

ไอเดนขมวดคิ้วเล็กน้อย ปกติแล้วทางกลุ่มของเราจะไม่มีการสืบเรื่องของผู้ว่าจ้าง แต่นี่นายท่านกำลังสั่งให้เขาละเมิดกฎอย่างนั้นหรือ

แต่หน้าที่ของเขาคือการเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของหัวหน้าอย่างเคร่งครัด

“ครับหัวหน้า”

“ข้าเองก็ควรจะไปเหมือนกันสินะ..”

เขามาที่นี่ในฐานะนักเดินทาง เพราะอย่างนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรที่เขาจะออกมาเที่ยวในงานเทศกาลเช่นนี้

งานเทศกาลในฤดูเก็บเกี่ยว คือการเฉลิมฉลองให้กับการทำงานของเหล่าเกษตรกร เพราะฤดูหนาวกำลังจะเดินทางมาถึง จะต้องรีบเก็บเกี่ยวให้เสร็จสิ้นก่อนที่หิมะแรกจะตกลงมา

การเฉลิมฉลองที่ถูกจัดขึ้นอย่างยาวนานสองสัปดาห์..ช่างเป็นความสนุกที่เขาตั้งตารอพบเจอในแบบที่หัวใจแทบจะเต้นผิดจังหวะเลยล่ะ

เสียงเพลงถูกบรรเลงออกมาด้วยเครื่องดนตรีของชาวบ้าน มีเสียงตบมือดังออกมาช่วยทำให้บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมา มีนักเดินทางมากมายเดินเข้ามาเที่ยวในหมู่บ้าน นี่คือเรื่องปกติในเดียลอร์ลเพราะว่าที่นี่คือเมืองท่องเที่ยว

ทว่าในวินาทีที่เฟรญ่ามองเห็นเส้นผมสีน้ำเงินเข้มที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในจักรวรรดิแห่งนี้เพราะมันคือสัญญาลักษณ์ที่เด่นชัดของตระกูลจามิน

คราแรกเธอคิดว่าตัวเองตาฝาด อาจจะเพราะเธอคิดมากเกินไปทำให้เธอมองเห็นภาพหลอนของสามีเก่า แต่เมื่อเรามองสบตากัน..

ท่ามกลางเสียงเพลงและการเต้นรำในฤดูเก็บเกี่ยว ฝีเท้าที่แสนมั่นคงของแอชตันกำลังวิ่งฝ่าฝูงชนเข้ามาหาเธอ ดวงตาเขาเบิกกว้างขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่บิดเบี้ยวจนมองดูไม่รู้ว่าตกลงแล้วเขาโกรธหรือว่ากำลังดีใจกันแน่

อ่า..หรือว่าในเวลานี้เธอควรจะหนีไปก่อนดี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พี่สาวครับ ไหนบอกว่าจะรับผิดชอบไง   2.20 ตามใจข้าหน่อยสิครับ (จบบริบูรณ์)

    มาร์เซลพึ่งรู้ว่าการนั่งเรือสำเภามันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยแม้แต่นิดเดียว เขาออกเดินทางมายังเมืองทางใต้พร้อมกันกับเฟรญ่า นี่คือการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของเราก่อนที่เขาจะกลับไปทำงานในตำแหน่งดยุคอย่างเป็นทางการ เราทั้งคู่เคยพูดเอาไว้ว่าอยากจะล่องเรือมาเที่ยวที่เมืองทางใต้มาชมทะเลที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และในยามนี้เราก็กำลังอยู่กลางทะเลบนเรือสำเภาที่ค่อนข้างจะเป็นพื้นที่ส่วนตัว เพราะว่าเขาเหมาเรือลำนี้เอาไว้ เพื่อมากับเฟรญ่าเพียงแค่สองคนเท่านั้นแต่เขาอาเจียนไปสิบรอบแล้วเห็นจะได้ เพราะเขาไม่เคยนั่งเรือมาก่อน“ออกมานั่งมองทะเลดูไหม เผื่ออาการของเจ้าจะดีขึ้น”อันที่จริงแค่ได้มองหน้าสวยๆ ของเธอก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแบบมากๆ แล้ว เขาจับมือของเฟรญ่าเอาไว้ก่อนจะซบใบหน้าลงไปบนไหล่ของเธอ“รักนะครับ..รักที่สุดเลย”เฟรญ่าไม่รู้ว่าเพราะอายุที่เขาเด็กกว่ามันเกี่ยวข้องด้วยรึเปล่า แต่เขาทำให้เธอรู้สึกราวกับมีลูกสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังออดอ้อนเธอตลอดเวลา มาร์เซลติดการสัมผัสมากๆ เขาจะต้องจับมือหรือไม่ก็กอดและหอมแก้มเธอตลอดเวลา และเธอเองก็ชื่นชอบการแสดงความรักเช่นนั้นมากทีเดียว เฟรญ่าจึงไม่เคยผลักไสหรือว่าดุเขาในเร

  • พี่สาวครับ ไหนบอกว่าจะรับผิดชอบไง   2.19 เดี๋ยวข้าจะทำต่อเอง NC

    บอกตามตรงว่านี่คงจะเป็นงานแต่งที่เจ้าสาวสบายมากที่สุดในจักรวรรดิแห่งนี้ เฟรญ่าแทบไม่ต้องจัดเตรียมอะไรเลยเพราะว่าพี่เจนนีสและลิเวียจัดเตรียมเอาไว้ให้อย่างเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว เธอเพียงสวมชุดเจ้าสาวที่แสนงดงามและเข้าร่วมงานแต่งเท่านั้นเองเฟรญ่าหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อมาร์เซลพาเธอออกมาจากงานแต่งที่แสนยิ่งใหญ่ เขาพาเธอมาที่คฤหาสน์ฮอร์ตันที่เราพึ่งได้รับมาเป็นของขวัญแต่งงาน และในห้องนอนก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ มันทั้งหอมหวานและเย้ายวนมากทีเดียว“เจ้ากำลังข้ามขั้นพิธีแต่งงานอยู่นะมาร์เซล เราไม่ควรด่วนชิงเข้าหอก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่ม..”เขาส่งยิ้มให้เธอในขณะที่กำลังถอดกระดุมเสื้อของตัวเองออกมา เขาอดทนมานานมากพอสมควร อดทนแล้วอดทนอีกเพราะว่าเฟรญ่าพึ่งจะฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่ได้แตะต้องเธอเลย แต่วันนี้เขาอดทนไม่ไหวอีกแล้ว“ไม่เห็นจะต้องสนใจแขกที่เข้ามาร่วมงานเลยนี่ นี่คืองานแต่งของเราและข้าอยากอยู่กับท่าน..เข้าหอเร็วหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกครับ หรือว่าพี่กังวล"เฟรญ่าดึงผ้าคลุมหน้าของเธอออกไป เธอไม่ได้ยืนมองมาร์เซลถอดชุดอยู่เฉยๆ แต่เธอเองก็ถอดชุดเดรสแต่งงานออกเช่

  • พี่สาวครับ ไหนบอกว่าจะรับผิดชอบไง   2.18 จะรีบไปไหน

    บัตรเชิญของงานแต่งเลดี้ทีเซียส วีรสตรีที่ร่วมการกอบกู้เดียลอร์ลนั้นถูกส่งให้แก่ขุนนางมากมายในจักรวรรดิ บอกตามตรงว่าในตอนที่เฟรญ่าเห็นชื่อและรูปวาดของตัวเองเด่นหราอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์เธอค่อนข้างตกใจมากพอสมควร เพราะเธอไม่คิดว่าเรื่องที่มาร์เซลกล่าวออกมานั้นมันจะเป็นเรื่องจริง“ให้ตายเถอะ ข้ารับมือกับคำว่าวีรสตรีอะไรพวกนั้นไม่ไหวจริงๆ”ลิเวียหัวเราะออกมา“เจ้าคู่ควรกับมันนะเฟร เรื่องความรักที่แสนอบอุ่นนี้ก็ด้วย มาร์เซลคือบุรุษที่ดีมากทีเดียว”ลิเวียกล่าวพร้อมกับสวมสร้อยคอที่มีสีเดียวกับดวงตาของเฟรญ่าลงไปบนลำคอยาวระหง เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอแต่งงานแล้ว เฟรญ่าคือสตรีที่งดงามมากๆ ในสายตาของลิเวีย เราพบเจอกันเพราะพี่เจนนีสมาทำงานที่ทีเซียสและพี่สาวก็ร้องขอให้เธอมาเป็นเพื่อนกับเฟรญ่า เพราะสงสารที่เฟรญ่าอยู่คนเดียวในคฤหาสน์ที่แสนกว้างใหญ่ และนั่นทำให้ลิเวียได้มาพบเจอกับคาร์เตอร์ จนได้แต่งงานและเป็นจักรพรรดินีทุกวันนี้เพราะความสามารถของเฟรญ่าเลยเธอถึงได้มีความสุขมากๆ ในช่วงเวลาที่เฟรญ่ากำลังจะได้แต่งงาน เพราะมันเหมือนกับว่าครั้งนี้เป็นเธอแล้วนะที่ได้ส่งเฟรญ่าไปให้ถึงฝั่งฝันกับความรักที่ดีงา

  • พี่สาวครับ ไหนบอกว่าจะรับผิดชอบไง   2.17 ท่านอา

    มาทอสพาเฟรญ่าและเจนนีสเดินทางกลับมาที่เมืองหลวงพร้อมกันในอีกสองสัปดาห์ต่อมา คาร์เตอร์ตั้งขบวนเพื่อรอรับการกลับมาของเฟรญ่า ทันทีที่เธอเดินลงมาจากรถม้า คาร์เตอร์ก็พุ่งตัวเข้าไปกอดเฟรญ่าเอาไว้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นมา และหนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้นมันกำลังสั่นคลอนพี่ชายที่แสนกล้าหาญของเธออย่างหนักเลยสินะเฟรญ่าพบเจอคาร์เตอร์ในครั้งแรกตอนที่เธออายุสิบสี่ปี เขาคือองค์รัชทายาท ตามสายเลือดแล้วท่านพี่มาทอสคือน้องชายขององค์จักรพรรดิผู้เป็นพ่อของคาร์เตอร์ เราทั้งคู่จึงถูกเลี้ยงดูมาด้วยกันและสนิทสนมกันมากทีเดียว เพราะแผลในใจที่เคยได้รับจากแม่เลี้ยงทำให้เฟรญ่านั้นหวาดกลัวผู้คนเป็นอย่างมาก อีกทั้งท่านพี่มาทอสก็งานยุ่งมากเพราะในช่วงเวลานั้นท่านพี่มาทอสรับตำแหน่งดยุคมาจากท่านพ่อแล้ว ทำให้เขาไม่มีเวลามาคอยดูแลน้องสาวต่างแม่สักเท่าไหร่นัก ผู้ที่ดูแลและสนิทสนมกับเฟรญ่ามากที่สุดคือคาร์เตอร์ ลูกพี่ลูกน้องของเธอ เขาพยายามเข้าหาเธอในทุกวัน ชวนเธอออกไปข้างนอก และเป็นผู้ที่พาเธอก้าวเดินไปยังงานเลี้ยงในแวดวงสังคม“ฟังนะเฟร จะไม่มีใครหน้าไหนกล้าดูถูกเจ้าทั้งนั้น พี่จะปกป้องเจ้าเองเพราะอย่างนั้นไม่ต้องกังวลหรื

  • พี่สาวครับ ไหนบอกว่าจะรับผิดชอบไง   2.16 เหมาะสม

    เมื่อเฟรญ่าทำท่าไม่เชื่อ มาร์เซลก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เขาจับมือเธอพร้อมกับพาเธอวิ่งไปยังงานเทศกาลของเดียลอร์ลที่ในยามนี้มีชาวบ้านมากมายกำลังเต้นรำอยู่ตามท้องถนน บนใบหน้าหล่อเหลานั้นมีรอยยิ้มฉายชัดอยู่ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ดวงตาของเฟรญ่านั้นพร่ามัวไปในทันทีราวกับว่ารอยยิ้มของเขามันแฝงไปด้วยเวทมนตร์แค่เขายิ้มก็ทำให้หัวใจของเธออ่อนลงยวบยาบ ฝ่ามือของเราเกาะกุมกันไว้โดยไร้คำพูด มาร์เซลหยุดเดินพร้อมกับหมุนตัวมาหาเธอ เขายกมือขึ้นมาจับเอวของเธอเอาไว้ ก่อนจะยกขึ้นเล็กน้อยแล้วพาเธอหมุนตัวตามจังหวะของเครื่องดนตรีพื้นเมือง เฟรญ่าหยักยิ้มขึ้นมาในทันที หัวใจของเธอมันเต้นผิดจังหวะในทุกครั้งที่อยู่กับเขา มันคือความรักที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายเช่นไร แต่ในยามที่เธอมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา มันทำให้เธอมีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย บางทีความหวังของเธอก็เป็นเรื่องง่ายๆอย่างเช่นการคาดหวังให้มาร์เซลมีความสุขตลอดไป..“เวลาที่ท่านยิ้มออกมามันสวยมากเลยนะครับ..”ในวันที่พบเจอกันครั้งแรก เขาก็เชื่อมั่นในพรหมลิขิตในทันทีว่าคนรักของเขาจะต้องเป็นเธอเท่านั้น บางสิ่งในอกค่อยๆ แผ่ซ่านออกมา หัวใจที่เย็นย

  • พี่สาวครับ ไหนบอกว่าจะรับผิดชอบไง   2.15 อย่าเสียใจเลย

    งานเทศกาลในครั้งนี้จัดขึ้นมาในฤดูที่กำลังปลูกพืชผล เมืองเดียลอร์ลนั้นได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างเพราะอย่างนั้น บารอนดีแลนจึงหารือกับชาวบ้านจัดงานนี้ขึ้นมา เพื่อให้บรรยากาศในเดียลอร์ลนั้นดีขึ้นมา ก่อนหน้านั้นกับบางคนที่เผชิญหน้ากับความสูญเสีย พวกเขาไม่อยากแม้แต่จะหายใจต่อไปดีแลนรู้สึกผิดกับชาวเมืองมากทีเดียว กับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขา เพราะอย่างนั้นเขาจึงพยายามที่จะฟื้นฟูเดียลอร์ลขึ้นมาใหม่เพื่อให้ที่นี่กลับมามีบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเช่นเดิมเฟรญ่าเดินไปบนถนนหนทางที่เต็มไปด้วยนักเดินทาง ไม่ว่าจะถามเธอสักกี่ครั้ง เฟรญ่าก็ยังคงตอบได้ในทันทีว่าเดียลอร์ลคือเมืองที่เธอชอบมากที่สุด ความธรรมดาของที่แสนพิเศษ“ไม่เจอกันนานเลยนะเฟร..”ดีแลนเดินเข้ามาทักทายเฟรญ่าด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม“อื้ม ที่นี่เหมือนเดิมเลยนะคะ เหมือนเดียลอร์ลที่ข้ารู้จัก”เฟรญ่าจุดยิ้มที่แสนงดงามบนใบหน้าของเธอ เธอคิดว่าดีแลนเองก็คงจะได้รับผลกระทบทางจิตใจเช่นเดียวกัน“ขาของเจ้า..มันหายดีเป็นปกติแล้วสินะ”เฟรญ่าก้มมองเท้าของตัวเอง เธอพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างในยามที่ไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status