LOGINเช้าวันใหม่
“สวัสดีค่ะพี่” เสียงใสเอ่ยทักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าที่กำลังซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งตรงข้ามกับร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่
“อือ” ทันศิลาตอบมาสั้นๆ เมื่อเห็นว่าสาวคนเดิมที่มาซ่อมมอเตอร์ไซค์กับเขาบ่อยๆ แต่วันนี้แปลกที่วันนี้ไม่เห็นว่าเธอจะขี่มอเตอร์ไซค์มา
“แคนดี้ ขึ้นรถเร็วเดี๋ยวสายนะ” เสียงผู้หญิงที่อยู่ในรถยนต์คันหรูนั่งอยู่ด้านหลังฝั่งคนขับลดกระจกลงมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวของตัวเองลงมาทักรักแรกที่เธอเคยเอาบอกไว้
“ไปเดี๋ยวนี้แหละ” หญิงสาวตะโกนบอกไป
“พี่กินแค่นี้จะอิ่มเหรอคะ” แคนดี้เอ่ยถามทันศิลาเมื่อเห็นเขาหยิบข้าวเหนียวมาแค่หนึ่งห่อและหมูเพียงสองไม้เท่านั้น ทันศิลาหันมามองหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่อยู่ในชุดนักศึกษาอีกครั้งอย่างสงสัย
“จะสนิทให้ได้เลยสินะ” ทันศิลารู้ว่าการตั้งคำถามแบบนี้อาจทำเธอตกใจไม่น้อยแต่สิ่งที่เขาสงสัยมาตลอดว่าทำไม จู่ ๆ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้มาทำดีกับเขานัก ไม่ว่าจะเป็นแกล้งเอารถมอเตอร์ไซค์มาซ่อมบางทียางก็รั่วจริงๆ แต่บางทีก็เหมือนโดนปล่อยลมยางมาแล้วก็คงเหมือนกับครั้งนี้ที่เธอวิ่งไปเอาบางสิ่งในรถยนต์ที่มีผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาขับอยู่มองจ้องเขามา
“นี่ค่ะ ขนมร้านนี้อร่อยมากนะคะอยากให้พี่ลองชิมดู” แคนดี้ส่งถุงขนมให้ทันศิลาโดยที่ชายหนุ่มเองก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ นี่เธอคงไม่คิดจะจีบเขาจริงๆ ใช่ไหม เป็นคำถามที่เขาคิดแค่ในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
“ใช่ ฉันจีบพี่ทันจริงๆ” หญิงสาวเอ่ยกับเพื่อนในรถยนต์ในขณะที่พวกเขากำลังไปเรียนด้วยกัน
เอี๊ยดดด
“เป็นไร นนท์ นายเบรกรถทำไม หัวฉันฟาดเบาะแล้วเนี่ย” มิ้นต์ที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังคนขับร้องขึ้นที่เพื่อนชายของเขาเบรกรถราวกับว่าจะชนบางสิ่งอยู่
“หมามันวิ่งตัดหน้า หมาตัวใหญ่ด้วย” นนท์พูดจบก็ค่อยๆ ขับเคลื่อนรถออกไป
ทั้งนนท์และมิ้นต์ต่างก็เป็นเพื่อนของแคนดี้ตั้งแต่ปีหนึ่งตอนเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้
“จริงๆ พี่ทันอะไรนั่นก็หล่อมากนะ ไม่ใช่ว่าพี่เขามีแฟนแล้วเหรอ” มิ้นต์ถาม
“ไม่น่ามีมั้ง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแต่พี่ทันเขาก็หล่อจริงๆ เนอะ สเปกฉันเลย” แคนดี้พูดสมทบจนทำเอาคนที่ขับรถนั้นถึงกับพูดออกมาเบาๆ
“ซกมกน่ะสิไม่ว่า”
“พี่เขาออกเซอร์ๆ จ้ะ” แคนดี้รีบพูดแก้ต่างให้ หญิงสาวนึกถึงช่วงไหล่ที่กว้างของทันศิลาพลางอมยิ้มแค่นี้ก็ทำให้เธอถึงกับเขินอาย น้ำเสียงทุ้มต่ำท่าทางเย็นชา แววตาคมเข้มชวนมองจนน่าหลงใหลยิ่งทำให้เธออยากรู้จักเขามากขึ้น แล้วยิ่งรอยแผลเป็นที่หลังของเขาก็ยิ่งทำให้เธออยากครอบครองและดูแลผู้ชายคนนี้มากมายเหลือเกิน ใช่เธออยากเป็นเจ้าของเขาทั้งตัวและหัวใจ
แคนดี้สาวสวยวัยยี่สิบที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักราวกับตุ๊กตานั่งคิดอะไรไปเรื่อยจนเผลอสลัดความคิดของตัวเองออกมาด้วยท่าทางจนหัวสั่นหงึก ๆ
“ทำไมสลัดความหล่อของช่างซ่อมคนนั้นเหรอ” มิ้นต์แซวอีก
“ไม่เห็นจะหล่อเลย เนื้อตัวก็มอมแมม” นนท์พูดขึ้นมาอีก พร้อมกับจอดรถยนต์ของตัวเองเข้าช่องจอดของมหาวิทยาลัย
“นายก็รอให้พี่เขาอาบน้ำก่อนไม่ได้หรือไง” แคนดี้เสียงแว้วใส่
“แตะไม่ได้เลยนะ คนสะอาดๆ มีก็ไม่ชอบ” นนท์พูดอีก
“นายจะให้พี่ทันใส่ชุดสูทซ่อมมอ’ ไซค์หรือไงกัน” แคนดี้หน้ามุ่ยที่เพื่อนชายว่าผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธอ จริงอยู่รักแรกมักไม่สมหวัง แต่เธอนี่แหละจะทำให้มันสมหวังให้ได้
หลังจากเลิกเรียนแคนดี้ก็รีบตรงดิ่งไปยังร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเธอตั้งใจมาซื้อปากกาและสมุดน่ารักๆ สักเล่มไว้จดโน้ตตอนที่เข้าเรียน
หญิงสาวในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอรัดรูปผมยาวถึงกลางหลังเดินเข้าไปในร้านที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนและหนังสือมากมายอยู่ภายใน แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับชายร่างสูงที่แต่งตัวเซอร์ๆ เสื้อยืดสีดำแขนสั้นถูกคลุมด้วยเสื้อยีนตัวบางอีกทีกางเกงยีนส์ขาดเข่า รองเท้าผ้าใบมัดเชือกหลวมๆ กำลังยืนอ่านหนังสือเกี่ยวกับกฎหมายอยู่
“สวัสดีค่ะพี่” หญิงสาวเดินยิ้มแฉ่งไปทักทาย ไม่รู้ทำไมว่าเวลาที่เธอเจอเขาถึงทำตัวราวกับว่าหมาเห็นน่องไก่ทอดอย่างนั้น ตอนนี้เธอคงทำท่าเหมือนหมากระดิกอยู่สินะ ชายหนุ่มที่เธอทักเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่เขาอ่านอย่างช้าๆ
“อือ หวัดดี” แล้วเขาก็ก้มลงอ่านหนังสือต่อ ทั้งที่มีผู้หญิงสวยมายืนยิ้มหวานให้เขาขนาดนี้ทำไมยังเอาแต่สนใจหนังสือที่อยู่ตรงหน้าอยู่ล่ะ พอมาเจอแบบนี้ยิ่งทำให้แคนดี้ไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว จะหันหลังเดินหนีหรือว่าจะชวนเขาคุยต่อดี มันจะดูเสร่อเกินไปไหมถ้าหากว่าเธอจะอยากสนิทกับเขาจริงๆ
“พี่มาที่นี่ทุกวันเลยเหรอคะ” แคนดี้ถามต่อ
“ก็ไม่บ่อย แล้วแต่อารมณ์” เขาพูดในขณะที่สายตายังคงจับจ้องกับหนังสือกฎหมายอยู่
“เย็นแล้ว พี่ทานข้าวหรือยังคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับชะโงกหน้าชำเลืองมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างรอลุ้นคำตอบ แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับจ้องมองเธอด้วยสายตาคาดคั้นคืนกลับมา
“คือ หนูชื่อแคนดี้อยากจะสนิทกับพี่ค่ะ” หญิงสาววัยยี่สิบพูดออกมาดื้อๆ พร้อมกับยิ้มจนแก้มจะแตกทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ายืนเกาท้ายทอยราวกับว่ากำลังเขินเธออยู่
“อือ เอาสิ” เขาตอบกลับมาสั้นๆ พร้อมทั้งปิดหนังสือที่เขาอ่านอยู่แล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์
“พี่ทันจะไปไหนคะ” แคนดี้หลุดปากเรียกชื่อของเขาออกมา
“รู้จักชื่อพี่ด้วยเหรอ” เขาหันมามองหญิงสาวที่ถือปากกาอยู่หลายแท่งพร้อมกับสมุดโน้ตเล่มสวยที่เธอหยิบออกมาอย่างรีบๆ
“เห็นเพื่อนพี่เรียกค่ะ”
“อย่างนั้นสินะ”
“แล้วพี่จะไปไหนคะ” แคนดี้รีบวิ่งตามเขาออกมาในขณะที่เขากำลังนั่งคร่อมรถบิ๊กไบค์สีดำอยู่
“ไหนบอกว่าอยากสนิทกันไง ไม่ขึ้นมาเหรอ” เขาพยักหน้าให้หญิงสาวขึ้นรถซ้อนท้ายเขามา
ร่างเล็กเกิดอาการลังเลนิดๆ แต่ก็ซ้อนไปแต่โดยดี ทันศิลาจึงถอดหมวกกันน็อกส่งให้เธอใส่เพื่อความปลอดภัย
ไม่กี่นาทีทันศิลาก็พาเธอมายังห้องเช่าที่อยู่ไม่ไกลจากร้านซ่อมรถที่เขาทำงานมากนัก
ห้องเช่าที่นี่มีสามชั้นแต่ละชั้นก็ประมาณเกือบยี่สิบห้องมีริมระเบียงที่พอให้เห็นรถที่จอดอยู่ชั้นล่างได้ ที่นี่แออัดมากเสื้อผ้าถูกตากอยู่ริมระเบียงมีทั้งถุงเท้าและชุดชั้นในที่ห้อยโตงเตงอยู่ริมระเบียง ร่างบางเงยขึ้นไปมองสลับกับมองหน้าของชายหนุ่มที่เธอนั่งซ้อนท้ายมา
“จะขึ้นไปไหม” เขาเอ่ยถามเสียงต่ำ
“ขึ้นไปทำไมคะ เรามาหาข้าวกินไม่ใช่เหรอคะ” หญิงสาวพูดพร้อมทั้งมองขึ้นไปยังบนนั้น
“ไหนบอกว่าอยากสนิทกัน ฮึ ๆ” ทันศิลายกยิ้มมุมปาก
“พี่คงไม่ทำอะไรหนูใช่ไหมคะ” แคนดี้ถอยหลังไปนิดหน่อย
“แล้วคิดว่าไงล่ะ” เขาชำเลืองมองหญิงสาวอีกครั้ง
“เอ่อ..งั้นขึ้นไปก็ได้ค่ะ” หญิงสาวเดินตามร่างสูงขึ้นไปยังชั้นสามด้วยใจกังวลแต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ เพราะเธออยากสนิทและรู้จักกับเขา จึงเดินตามขึ้นไปอย่างว่าง่าย
“เข้ามาก่อนสิ” ทันศิลาไขประตูเข้าไปภายในห้องขนาดเล็กสี่เหลี่ยม มีเพียงแค่เตียงนอนสามฟุตผ้าห่มถูกพับอย่างเรียบร้อย เสื้อผ้าบนราวตากถูกแขวนและพับอย่างเป็นระเบียบ มีโต๊ะกินข้าวขนาดเล็กและบนโต๊ะนั้นก็ยังมีหนังสือวางอยู่หลายเล่ม
หญิงสาวถอดรองเท้าผ้าใบไว้ตรงประตูห้องและปิดประตูเบาๆ เมื่อเดินเข้ามาก็กลับได้กลิ่นแปลกๆ ที่คล้ายๆ กับกลิ่นห้องนอนของพี่ชายของเธอที่ถูกปิดไว้นาน
‘กลิ่นชายโสด’ คำนี้ไม่เกินจริงหญิงสาวถึงกับย่นจมูกใส่นิดหน่อยก่อนจะเดินไปนั่งตรงเก้าอี้พลาสติกที่เขาลากมาให้นั่ง
ชายหนุ่มเดินไปเสียบกระติกน้ำร้อนและจัดการแกะบะหมี่คัพสองถ้วยและตัวเองก็เดินเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวที่อยู่ในห้องไม่ได้พูดหรือถามอะไรเขาเลยแต่กลับสังเกตภายในห้องอย่างเงียบๆ
คนน้องก็ลุกหนักเกิน อะไรจะเห็นภาพเท่ายัยน้องบอกเวลาเห็นพระเอกแล้วเหมือนหมาเห็นน่องไก่ เก็บทรงไม่อยู่จริงๆ แต่ว่ากลิ่นชายโสดหอมไหม บอกหน่อยสิ
“นั่นใครน่ะ มายืนกอดกัน” รุ่นพี่สองคนเดินฉายไฟมาทางที่ทันศิลาและแคนดี้ยืนกอดกันทำให้ทั้งสองคนรีบหันไปมองต้นเสียงแล้วผงะออกจากกัน“พี่บอกว่ายังไงครับรุ่นน้อง ถ้าเที่ยงคืนใครไม่เข้านอนจะถูกทำโทษ รุ่นพี่พูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาทั้งคู่และฉายไฟไปที่ใบหน้าของทันศิลาที่ยืนขมวดคิ้วแววตาดุดันอยู่“เอ่อ ถ้างั้นพี่ทันก็ลงโทษรุ่นน้องของผมเลยละกัน ผมขอไปรายงานพี่เพชรก่อน ไปแล้วนะครับ” แล้วรุ่นพี่ทั้งสองก็พากันรีบเดินออกไป“ทำไมเขาต้องรายงานพี่เพชรคะ” หญิงสาวถาม“ก็พี่ขอให้น้องชายของเพชรจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา” ทันศิลาเกาท้ายทอยแก้เขิน“แผนเด็กน้อยมากค่ะพี่ทัน” หญิงสาวหัวเราะเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย“ก็มาง้อเด็กน้อยของพี่เนอะ ก็ต้องใช้แผนแบบนี้แหละ” ชายหนุ่มหัวเราะ“พี่ทันทำอะไรที่หนูคาดไม่ถึงเยอะมากเลยนะคะ”“แล้วรักไหมล่ะ’ เขากระซิบถาม“อือ รักมั้งคะ” หญิงสาวพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้เขา“งั้นคืนนี้ไปนอนเต็นท์ของพี่ไหม” ทันศิลาเอ่ยชวนพลางมองท้องฟ้ามองต้นไม้ไปทั่ว“คิดอะไรไหมคะ”“คิดสิ”“ถ้างั้นหนูไม่ไปค่ะ ฝันดีนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบเดินจะกลับเต็นท์แต่ก็โดนชายหนุ่มอุ้มจนตัวลอยแล้วดันหญิง
สามวันต่อมามีกิจกรรมอาสาปลูกป่าของคณะที่แคนดี้เรียนและกินเลี้ยงเล็กๆ น้อยๆ ในตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน “แคนดี้ มานี่เร็ว” หญิงสาวเดินไปหาเจ้าของเสียงคือมิ้นต์ที่เรียกเธอให้มาถ่ายรูป เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปในกลุ่มนักศึกษาที่กำลังรวมกลุ่มกันถ่ายรูปอยู่“เหนื่อยไหมแคนดี้ดูเธอหน้าซีดๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า” นนท์ถามพร้อมกับเอามือแตะหน้าผากของเธออย่างห่วงใย“ไม่เป็นไรหรอก แค่แดดมันร้อนน่ะแล้วอีกอย่างก็เพิ่งปลูกป่ากันเสร็จด้วยเหนื่อยเหมือนกัน” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้เพื่อนชายตรงหน้าที่เธอเริ่มจะรู้แล้วว่านนท์มีใจให้เธอนั่นเองแล้วก็ได้เวลาเที่ยงที่พวกนักศึกษาเริ่มทานข้าวกลางกัน นนท์จึงไปหยิบข้าวกล่องที่พวกรุ่นพี่เอามาแจกแต่ก็เจอกับผู้ชายที่เขาไม่อยากเจอเลยสักนิด“ทันศิลา” นนท์เลิกคิ้วทำหน้าแปลกใจที่อยู่ ๆ ไอ้เจ้าของผับบ้านั่นกลายมาเป็นคนส่งข้าวให้นักศึกษา ป่านี้ก็ใช่จะเดินทางมาสะดวกสบายขนาดนั้นยังถ่อมาถึงที่นี่อีก นนท์ยืนมองชายหนุ่มที่กำลังขนข้าวกล่องลงมาจากรถออฟโรดคันใหญ่สีดำสลับกับมองหน้าของหญิงสาวที่เขาแอบชอบกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่“ไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนขายข้าวด้วยเหมือนกัน คิดว่าจะขายเหล้าอย่างเด
“ผู้หญิงอะไรมือหนักจริงๆ ทุบตีมาไม่ยั้งดูสิร่างกายบอบบางของพี่บวมช้ำหมดแล้ว” ชายหนุ่มถอดเสื้อแล้วมองดูร่างกายของตัวเองในกระจกที่มีรอยฟกช้ำหน่อยๆ ตรงต้นแขนเพราะเธอใช้ด้ามร่มที่อยู่หน้าห้องสมุดมาตีเขาราวกับไล่ตีหมา‘คงกะจะตีให้ตายเลยสิยัยเด็กแสบ’ เขาบ่นอุบอิบพร้อมกับทายาที่ต้นแขนและช่วงหัวไหล่พร้อมกับสำรวจแผ่นหลังกว้างผ่านกระจก“โชคดีหน่อยที่หน้าไม่เป็นอะไร คอยดูนะถ้าพี่ง้อได้พี่จะทำให้เธอคลานลงจากเตียงเลยพี่สัญญา” ชายหนุ่มเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มเพราะเขาไม่เคยคิดว่าแคนดี้จะกล้าทุบตีเขาถึงขนาดนี้แบบนี้ทำร้ายร่างกายกันชัดๆ ยัยคุณหนูนักเลงน่าจะรับเข้ามาเป็นลูกน้องของเสี่ยบอมอีกคนจริงๆ ดุขนาดนี้มีหวังคุมคนได้หลายสิบคนแน่ ๆ ชายหนุ่มร่างสูงบ่นอุบอิบอยู่หน้ากระจกที่คอนโดหลังจากหนีหญิงสาวที่ใช้ด้ามร่มไล่ตีเขามาได้ที่ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณทันศิลา ห้องที่จองไว้เชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานสาวเดินนำชายหนุ่มร่างสูงที่แต่งตัวใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกับเซททรงผมอันเดอร์คัทเปิดข้างที่มีใบหน้ากังวลอยู่เข้ามาด้านในห้องที่จองไว้“เสี่ยบอมมาแล้วเหรอ” เขาถามพนักงานสาว“มาแล้วค่ะพร้อมกับลูกสาว” พอได้ยินพนักงานบอกว่า
หลังจากที่ทันศิลากลับมาจากส่งแคนดี้และพี่ชายของเธอเขาก็ตรงมาที่ผับทันทีและแน่นอนว่าเสี่ยบอมกำลังรอเขาอยู่ผัวะ! เสียงตบหน้าฉาดใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสี่ยบอมที่ไล่ลูกน้องออกไปจากห้องให้หมดเหลือไว้เพียงแค่เขากับชายหนุ่มที่เพิ่งถูกตบหน้าไปเท่านั้น“กูให้เกียรติมึงนะไอ้ทัน ที่กูไม่เอาตีนกระทืบมึงเพราะอะไรรู้ไหมมึงมันเรียนทนายมา มึงจะได้ออกไปใช้ชีวิตอาชีพทนายของมึงไง” เสี่ยบอมพูดพร้อมกับยืนหันหลังให้เขา“ผมขอโทษครับเสี่ย” ทันศิลายกมือไหว้“แต่ถ้านายอยากอยู่ทำงานที่นี่ต่อก็แต่งงานกับยัยเบลล์ลูกสาวของฉันนายถึงจะอยู่รอด” เสี่ยบอมพูดออกมาอย่างใจเย็นเมื่อเห็นว่าทันศิลารู้สึกผิดจริงๆ และเขาไม่เคยคิดจะงัดข้อกับเสี่ยเลยสักครั้ง“ผมไม่ได้ชอบเธอนี่ครับ” เขาตอบสั้นๆ“แต่เธอชอบนายมาก แล้วคืนนี้ก็ช่วยไปส่งเธอกลับบ้านด้วยล่ะเห็นเพชรมันว่ากำลังนั่งดื่มอยู่ในร้าน” เสี่ยบอมพูดพร้อมกับเดินออกมาทิ้งแต่ความกล้ำกลืนและลำบากใจให้ชายหนุ่มที่เขาแทบจะไม่มีทางเลือกอะไรเลย เพราะมันเดิมพันด้วยชีวิตของแคนดี้นั่นเองหนึ่งอาทิตย์ต่อมาที่บ้านของแคนดี้“แคนดี้ลงมาเร็วๆ เพื่อนมารับแล้ว” เสียงไทป์ตะโกนขึ้นไปเรียกน้อง
“กูบอกมึงว่าไงไอ้ทัน ว่าอย่าเอาปัญหาส่วนตัวมาทำให้ผับกูปิด กูบอกให้มึงเคลียร์ดีๆ แล้วไอ้นี่โผล่มายังไง” เสี่ยบอมชี้ไปที่ไทป์ที่นอนหมดสภาพอยู่ทันศิลาไม่พูดอะไรเพราะที่เสี่ยพูดมามันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด“คือเสี่ยครับ ไอ้นี่มันเอายามาซ่อนไว้ที่ผับครับ” เพชรรีบพูดขึ้นมา“มึงหุบปากไปไอ้เพชร กูอุตส่าห์ไว้ใจมึงให้ช่วยไอ้ทันดูผับ แล้วพอมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้มึงกลับไม่บอกกูต้องให้กูรู้เองสินะ” เสี่ยบอมยืนชี้หน้าผู้ชายทั้งสองคนตรงหน้าที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่“เสี่ยไม่ต้องไปว่าเพชรมันหรอก ผมผิดเองที่เคลียร์ปัญหาไม่จบสักที”“มึงเคลียร์ไม่จบหรือมันไม่จบ” เสี่ยพูดพร้อมกับชี้ไปที่ไทป์ที่นอนจมเลือดอยู่“พี่ทัน” เสียงที่เขาคุ้นเคยอย่างดีกำลังเรียกเขาอยู่หน้าประตู“แคนดี้มาได้ไง” ทันศิลารีบเดินไปหาหญิงสาวแล้วลูบแขนของเธออย่างห่วงใย“ฉันให้คนไปรับมา เธอจะได้พาพี่ชายกลับบ้าน มาสิมาเอาตัวพี่ชายเธอไป” เสี่ยบอมพูด“เสี่ย ไม่ได้นะ ผมไม่ให้แคนดี้ไปไหนทั้งนั้น” ทันศิลารีบเดินเข้ามาหาเสี่ยท่าทางขึงขัง“ทำไมจะไม่ได้ก็มันมาตามเอาน้องสาวมันกลับ ตั้งแต่ที่มหาลัยแล้วแต่มึงไม่ส่งคืนนี่หว่า”“เสี่ย นี่มันไม่ใช่แล้วเสี่ยดูไม
“พี่ทันไม่เห็นจะต้องดุขนาดนี้เลยคะ” แคนดี้จับต้นแขนของเขาเบาๆ ในขณะที่ชายหนุ่มขับรถอยู่“ก็ดูมันสิ ต่อยหน้าลูกน้องพี่แถมยังตามมาวอแวกับเธออีก” ชายหนุ่มที่หน้างออยู่แล้วยิ่งบึ้งตึงบอกบุญไม่รับไปกันใหญ่เพราะเขาไม่คิดเลยว่าไทป์จะมาหาแคนดี้เร็วถึงเพียงนี้ถ้าวันนี้เขามาไม่ทันไม่รู้ว่าหมอนั่นจะเอาเธอไปทำอะไรบ้างแถมเมื่อกี้ยังฉุดกระชากเธอแรงๆ อีก“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ” หญิงสาวพูดเพื่อให้ชายหนุ่มเบาใจลงเพราะไม่อยากให้เขากังวลหรือเป็นห่วงเรื่องเธอเลย“ในแง่มุมของเธอ เธออาจจะคิดว่าพี่ดุไม่มีเหตุผลใช้ความรุนแรง แต่ในแง่มุมของพี่ที่มองดูอยู่พี่คิดว่าเธอไม่ปลอดภัยหากต้องไปกับพี่ชายของเธอจริงๆ” ทันศิลาจอดรถเข้าข้างทางแล้วหันมาพูดกับหญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ“ถึงขนาดต้องถอนหายใจให้หนูเลยเหรอคะ” หญิงสาวมองค้อนเขา“พี่ไม่อยากทะเลาะกับเธออีก แล้วเมื่อกี้พี่ขอโทษด้วยที่อารมณ์เสียใส่เธออาจเพราะว่าพี่เป็นห่วงเธอมากไปหน่อย” เขายิ้มมุมปากให้หญิงสาวแต่แววตายังคงเป็นกังวลอยู่ แม้ว่าทั้งไทป์และแคนดี้จะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กแต่เขาเองไม่ไว้ใจพี่ชายของเธอเลยสักนิดเ







