ภายในเดือนนี้ก็ครบกำหนดการคลอดของหยุนชิงพอดี เรื่องห้องทำคลอด หมอตำแย หรือแม้แต่แม่นมหวังอี้หลินจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มจัดแม่นมไว้ถึงสี่คนให้ สลับกันให้นมเจ้าแฝดที่เขามั่นใจเหลือเกินว่าต้องมีบุตรมากกว่าหนึ่งคนเป็นแน่
เพื่อไม่ให้ภรรยาของเขาเหนื่อยมากจนเกินไป และยังจัดการต่อเติมห้องเพิ่ม ให้ติดกันกับห้องของเขาและหยุนชิง แล้วทำประตูเชื่อมต่อกันเผื่อเวลาที่เด็ก ๆ ร้องไห้งอแง ทั้งเขาและภรรยาจะได้สามารถเข้าไปดูแลพวกเขาได้ทุกเมื่อ
เรื่องเสื้อผ้าหรือผ้าอ้อมสำหรับเด็ก ๆ ได้ถูกจัดเตรียมไว้มากมาย มันมากเสียจนหยุนชิงคิดว่าเจ้าก้อนแป้งจะใส่ครบทุกตัวทุกสีหรือไม่ บางทีอาจจะโตก่อนที่จะใส่ครบก็เป็นได้ ซึ่งผู้ที่เป็นคนเลือกหานั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแม่ทูนหัวอย่างพระชายาหนานเจียอี
“น้องสาวเจ้าว่าผ้าสีเหลืองหรือสีฟ้าดี” หนานเจียอีที่กำลังให้นางกำนัลยกหีบใส่ผ้าพับเนื้อดี เข้ามา เพื่อเลือกสีสำหรับทำชุดให้เด็ก ๆ ที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลกอย่างอารมณ์ดี ยกผ้าผืนนั้นผืนนี้หลายสิบพับออกมาให้ผู้ที่ตนรักดั่งน้องสาวแท้ ๆ ช่วยเลือก
“พี่สาวข้าว่าที่มีอยู่ก็มากแล้วนะเจ้าคะ” นางก็ไม่ได้อยากจะขัดความสุขหรอก แต่นี่มันมีเยอะมากแล้วจริง ๆ ภายในห้องเก็บของเด็ก ๆ มีเป็นสิบหีบเข้าไปแล้ว
“เชื่อพี่สิไม่เยอะหรอกดูสิ มีแต่สีสวย ๆ ทั้งนั้น พี่ว่าสีเหลืองแล้วกันเผื่อว่าพี่จะได้หลานสาว นางใส่ต้องน่ารักเป็นแน่”
“เจ้าค่ะข้าตามใจพี่สาว อ๊ะ อาเล่อเจ้าเป็นอะไรเหตุใดเดินเช่นนั้น” หยุนชิงกำลังคุยกับหนานเจียอีอยู่นั้น บังเอิญเหลือบไปเห็นสาวใช้คนสนิทเดินผ่านไป ดูเหมือนเดินไม่ถนัดนักราวกับว่าเจ็บขาอย่างไรอย่างนั้น จึงได้เอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
อาเล่อกำลังถือถาดของว่างนำไปให้คุณหนู ที่กำลังเรียนดนตรีกับท่านอาจารย์ที่ศาลาด้านนอกถึงกับหยุดชะงัก นางค่อยเอี่ยวตัวทีละนิดเนื่องจากตกต้นไม้เมื่อวันก่อน ทำให้ตั้งแต่บั้นท้ายไปจนถึงน่องขาทั้งสองเจ็บร้าวระบมไปหมด จะขยับทีก็เจ็บแปลบไปหมด แล้วจะให้นางบอกใครได้อย่างไร ว่านางไปแอบมองบุรุษจนตกต้นไม้เดินขาเป๋อย่างนี้ มีหวังโดนสหายรักอย่างอาลี่ล้อยันลูกโต
“ลื่นล้มเมื่อเช้าตอนไปตักน้ำเจ้าค่ะ” อาเล่อได้แต่หัวเราะแหะ ๆ อย่างเขินอาย ก็ละอายใจอยู่หรอกที่ต้องโกหกอย่างนี้
“แล้วเจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่ อย่าลืมทายาเล่า”
“ขอบคุณเจ้าค่ะนายหญิงที่เป็นห่วง บ่าวทายาแล้วขอตัวเอาของว่างไปให้คุณหนูก่อนนะเจ้าคะ”
“อืม เจ้ารีบไปเถิด” แม้จะสงสัยว่าอาเล่อไปตักน้ำทำไมทั้ง ๆ ที่ก็มีบ่าวชายคอยตักน้ำไว้จนเต็มถังเสมอ แต่ก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะเห็นสีหน้าลำบากใจของสาวใช้คนสนิท
อาเล่อเดินออกไปไม่นานอาลี่ก็ถือถาดนมและผลไม้เข้ามาให้นายหญิงและพระชายา เพราะนับแต่นายหญิงตั้งครรภ์นางจะหิวบ่อยมาก จนต้องนำของว่างระหว่างมื้ออาหาร มาให้ทานรองท้องก่อนจะถึงอาหารมื้อหลัก
“ของว่างเจ้าค่ะ”
“จริงสิอาลี่เจ้าเห็นนายท่านหรือไม่ ข้าไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว” หยุนชิงเอ่ยถามขึ้นหลังจากยกถ้วยนมขึ้นจิบ
“นายท่านออกไปส่งสุรากับพวกท่านหานลู่ตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ”
ทางด้านหวังอี้หลินเข้าไปค้นหาหลักฐานผู้มีส่วนร่วมกับการก่อกบฏในจวนผู้มียศสูงผู้หนึ่ง โดยการอ้างว่ามาส่งสุรา แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของคนผู้นั้นทำให้เขาและพวกถูกจับได้ โชคยังเข้าข้างตนอยู่บ้างที่สามารถนำบัญชีรายชื่อผู้ที่สนับสนุนอ๋องหนานจิ้งขึ้นเป็นฮ่องเต้คนต่อไป
"แค๊ก แค๊ก"เสียงไอของบุรุษเจ้าของห้องทำให้อาลี่รีบวางถ้วยยาตรงหัวเตียง และเข้าไปนั่งข้างชายหนุ่มช่วยลูบหลังให้อีกฝ่ายอย่างลืมตัว"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ดีขึ้นหรือไม่""ข้ารู้สึกคอแห้ง""เช่นนั้นจิบน้ำสักนิดก่อนนะเจ้าคะ" อาลี่รีบผละออกไปรินน้ำให้ชายหนุ่ม ก่อนจะยื่นถ้วยน้ำให้อีกฝ่ายรีบดื่ม"ข้าเจ็บมือยกมิไหว" หยงเจาหลุบตาลงทำท่าทางเศร้าสร้อย"เอ่อ เช่นนั้นข้าป้อนเจ้าค่ะ" ถึงแม้จะเขินอายอยู่บ้างแต่นางก็เต็มใจ"ยาเจ้าค่ะ"หยงเจามองถ้วยยาที่มีน้ำสีดำส่งกลิ่นเหม็น ถึงกับหันหน้าหนีไปอีกทาง เขาไม่ถูกกับรสขมเสียจริงหากไม่เจ็บปางตาย อย่างไรเสียเขาก็จะมิดื่มมันโดยเด็ดขาดอาลี่ที่เห็นชายหนุ่มเม้มปากแน่นหันหน้าไปอีกทาง ราวกับเด็กน้อยที่มิยอมกินยา มันช่างดูน่ารักซะจริง"ยาเจ้าค่ะ รีบดื่มเสียเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน""ข้าหายแล้วไม่ดื่มได้หรือไม่ ทาแค่ภายนอกก็พอ" หยงเจายังมิวายหันมาต่อรอง เพื่อหวังว่าแม่กวางน้อยของเขาจะยินยอม"มิได้เจ้าค่ะ ท่านหมอบอกว่าจะต้องกินและทายาคู่กันด้วยถึงจะหาย" หญิงสาวถึงกับส่ายหน้าอย่างระอา กับคนดื้อที่สรรหาข้อต่อรองเพื่อให้ตนมิต้องดื่มยาขมเมื่อหาข้อต่อรองไม่ได้ชายหนุ่มจำต้องด
ก๊อก ๆ"ผู้ใด" เสียงเคาะประตูทำให้หานลู่ถึงกับสะดุ้ง เพราะมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้ ที่พวกเขาสามคนสามารถรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์"ข้าอาเล่อเจ้าค่ะ ข้านำยามาให้" อาเล่อยืนเอาหูแนบกับประตูเพื่อหวังว่าจะได้ยินสิ่งใดภายในห้องนั้น แต่ก็กลับเงียบสนิทจนนางแอบผิดหวังอยู่นิด ๆ"เช่นนั้นก็เข้ามาเถิด" หานลู่ขานรับเมื่อรู้ว่าเป็นผู้ใด อีกทั้งยังรีบจัดชุดให้ดูเรียบร้อยและรัดกุมขึ้นพร้อมทั้งสำรวจความเรียบร้อยของตนเอง และกลับมานั่งหลังตรงบนเตียงเพื่อรออีกฝ่ายเดินเข้ามาเมื่อได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในห้อง อาเล่อจึงไม่รอช้า รีบนำถ้วยยาที่อุ่นกำลังดีมาให้ชายหนุ่มในทันที แต่มีหรือจะเร็วเท่าหานลู่ผู้มีวรยุทธ์ เขารีบคว้าถ้วยยาภายในถาดมาดื่มอย่างรวดเร็ว จนคนที่หมายจะป้อนยาให้มองแทบไม่ทัน รู้ตัวอีกทีถ้วยยาว่างเปล่าก็ถูกวางลงถาดเป็นที่เรียบร้อย อาเล่อได้แต่มองกะพริบตาปริบ ๆ อ้าปากค้างผู้ที่หวังจะป้อนยาถึงกับกลอกตามอง จะกลัวนางอะไรขนาดนั้น ราวกับว่าตนจะกลืนกินเขาลงท้องได้อย่างไรอย่างนั้น แต่ถ้าหากยินยอมก็เป็นอีกเรื่องนางมิขัด"เอ่อ ยาเลอะปากเจ้าค่ะ ข้าเช็ดให้" อาเล่อรีบก้มดึงผ้าเช็ดหน้าตรงเ
หวังอี้หลินและเหล่าผู้ติดตามกลับมาถึงจวนในเย็นวันนี้ด้วยความเหนื่อยอ่อน คนที่เห็นจะเจ็บหนักสุดคือหยงเจาเนื่องจากเขาเข้าปัดลูกธนูให้กับหวังอี้หลินในช่วงชุลมุนส่วนหานลู่นั้นมีเพียงบาดแผลและรอยช้ำไม่กี่แห่งบนร่างกาย ยิ่งหวังอี้หลินนั้นแทบจะไม่มีร่องรอยใดเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้ระหว่างการต่อสู้พวกเขาได้ส่งหลักฐานที่นำมาได้ส่งให้กับองครักษ์เงาเรียบร้อยแล้ว ป่านนี้คาดว่าคงจะถึงมือของฝ่าบาทแล้วเช่นกัน ในตอนนี้จึงได้พักรักษาตัวให้หายดีเสียก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นเกินรับมือ“อาลี่นั่นเจ้าจะไปที่ใด” อาเล่อที่กำลังถือถาดถ้วยยาในมือเดินผ่านมา เห็นสหายรักทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าประตูห้องท่านหยงเจา ถามขึ้นอย่างนึกสนุก“ข้า ข้าไม่ได้จะไปไหนสักหน่อย” อาลี่พูดขึ้นอย่างติดขัด นางก็อุตส่าห์หลบดีแล้วเชียว“เจ้าไม่ได้จะไปไหนแล้วนั่นในมือเจ้าถืออันใดอยู่เล่า” นาน ๆ ทีจะได้เห็นมุมนี้ของสหายขอสักนิดแล้วกัน“ข้าแค่จะเอายามาให้ท่านหยงเจาตามคำสั่งของนายหญิงเท่านั้นเหตุใดเจ้าต้องกล่าวหาข้า” อาลี่รีบก้มหน้าลงเก็บซ่อนใบหน้าที่ที่เริ่มเปลี่ยนสี เพื่อมิให้สหายได้เห็น“เจ้าร้อนตัวแล้
ไม่ว่าลูกธนูจะถูกปล่อยออกมาเท่าไร แต่ก็ไม่มีลูกธนูดอกไหนสามารถโดนตัวหวังอี้หลินได้ บางดอกพุ่งมาแล้วร่วงหล่นพื้น บางดอกก็หันกลับพุ่งเข้าใส่ผู้ที่ยิงมันออกมาจนสิ้นลม สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนเหล่านักฆ่าต่างมองซ้ายขวา ในป่าเช่นนี้จะมีผู้ใดสามารถทำได้นอกจากสิ่งลี้ลับ ถึงแม้จะมิเคยเห็นแต่ก็ไม่อาจจะลบหลู่ได้เลยนักฆ่าที่มากกว่าสิบคนในตอนแรก ต่างล้มตายกันจนเหลือเพียงไม่กี่คน พวกมันต่างถอยร่นไปรวมกันกับหัวหน้า สีหน้าแต่ละคนราวกับกำลังหวาดกลัวสิ่งใดอยู่นั้น ช่างน่าเวทนาเสียจริงในสายตาของบุรุษทั้งสามในตอนนี้บ้างพร่ำเพ้อบอกกลัวแล้ว บ้างก็ยกมือขึ้นกราบไหว้แล้วบอกจะไม่ทำอีก บ้างร้องขอชีวิต เพียงไม่นานนักฆ่าทั้งหมดกลับล้มลงและสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาทั้งสามคนมองภาพตรงหน้าอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดออกมา พลางคิดว่าไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดพวกเขาทั้งสามก็ขอขอบคุณในน้ำใจครั้งนี้"ท่านหลิงอี้ ท่านเอ้อหลาง และท่านซานเซียง ท่านยมเรียกพบเจ้าค่ะ” ยายเมิ่งที่รับคำสั่งจากท่านยมมาเรียกตัวผู้คุมทั้งสามเข้าพบ พร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ดูจากสีหน้าและอารมณ์ของท่านยมแล้วคงจะมิใช่เรื่องดีสินะ ถึงได้ทำให้อีกฝ่ายมีโทสะไ
แต่กว่าหวังอี้หลินจะหลบหนีออกมาจากอาณาเขตของจวนนั้นได้ พวกเขาก็เกือบจะได้รับบาดเจ็บอยู่หลายครั้ง เพราะไม่คิดว่าพวกมันจะชุบเลี้ยงผู้มีฝีมือไว้มากถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังมีช่องทางลับสามารถทะลุออกได้ทุกที่ภายในจวนไม่ว่าพวกเขาจะหลบไปทางไหนพวกมันก็ตามทันเกือบเสียทุกครั้ง ถึงแม้จะหลบหนีออกมาได้ พวกเขาก็ยังถูกไล่ล่าออกมาจนถึงชายป่า“หัวหน้าข้าว่าท่านหนีไปก่อน ทางนี้ข้ากับหยงเจาจะต้านไว้เอง” หานลู่พูดขึ้นอย่างเหนื่อยหอบ พวกเขาหนีกันออกมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว สามคนต่อนักฆ่าอีกนับสิบต่อให้มีฝีมือเยี่ยมยอดแค่ไหนก็มีสิทธิ์ตายได้“ข้าเห็นด้วยขอรับ ท่านรีบไปเถิดก่อนที่พวกมันจะตามเราทัน” หยงเจาเห็นด้วยกับความคิดของสหายอย่างหานลู่ ให้เขาหลบหนีต่อไม่ไหวแล้ว เพราะกว่าจะสู้และวิ่งหลบหนีไปด้วยก็ใช้พลังไปมาก เรี่ยวแรงตนเริ่มจะลดน้อยถอยลง ดังนั้นพลังเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่เขาจะขอสู้ตายกับพวกมัน“พวกเจ้าเอาบันทึกนี้ไปแล้วรีบหนีไปซะ คนที่พวกมันตามมิใช่พวกเจ้าแต่เป็นข้า ข้าจะล่อพวกมันไปอีกทางเอง” หวังอี้หลินไม่เห็นด้วยกับความคิดของทั้งสองคนฟิ้ววตึก ตึก ตึกเสียงคนนับสิบวิ่งเข้ามารายล้อมตรงที่พวกเขาทั้งสา
ภายในเดือนนี้ก็ครบกำหนดการคลอดของหยุนชิงพอดี เรื่องห้องทำคลอด หมอตำแย หรือแม้แต่แม่นมหวังอี้หลินจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มจัดแม่นมไว้ถึงสี่คนให้ สลับกันให้นมเจ้าแฝดที่เขามั่นใจเหลือเกินว่าต้องมีบุตรมากกว่าหนึ่งคนเป็นแน่เพื่อไม่ให้ภรรยาของเขาเหนื่อยมากจนเกินไป และยังจัดการต่อเติมห้องเพิ่ม ให้ติดกันกับห้องของเขาและหยุนชิง แล้วทำประตูเชื่อมต่อกันเผื่อเวลาที่เด็ก ๆ ร้องไห้งอแง ทั้งเขาและภรรยาจะได้สามารถเข้าไปดูแลพวกเขาได้ทุกเมื่อเรื่องเสื้อผ้าหรือผ้าอ้อมสำหรับเด็ก ๆ ได้ถูกจัดเตรียมไว้มากมาย มันมากเสียจนหยุนชิงคิดว่าเจ้าก้อนแป้งจะใส่ครบทุกตัวทุกสีหรือไม่ บางทีอาจจะโตก่อนที่จะใส่ครบก็เป็นได้ ซึ่งผู้ที่เป็นคนเลือกหานั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแม่ทูนหัวอย่างพระชายาหนานเจียอี“น้องสาวเจ้าว่าผ้าสีเหลืองหรือสีฟ้าดี” หนานเจียอีที่กำลังให้นางกำนัลยกหีบใส่ผ้าพับเนื้อดี เข้ามา เพื่อเลือกสีสำหรับทำชุดให้เด็ก ๆ ที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลกอย่างอารมณ์ดี ยกผ้าผืนนั้นผืนนี้หลายสิบพับออกมาให้ผู้ที่ตนรักดั่งน้องสาวแท้ ๆ ช่วยเลือก“พี่สาวข้าว่าที่มีอยู่ก็มากแล้วนะเจ้าคะ” นางก็ไม่ได้อยากจะขัดความสุขหรอก
หม่าเย่าเดินไปหยิบของในหีบออกมาให้หนานฟาหยางได้ชม มันเป็นลูกธนูผูกติดกับระเบิดอย่างแน่นหนา มีน้ำหนักพอดีที่ไม่เบาหรือไม่หนักจนเกินไป ตรงปลายชนวนทาด้วยน้ำมันเคลือบเอาไว้ เพื่อเวลาที่จุดไฟจะได้ติดง่าย และเวลาลูกธนูพุ่งออกไปไม่ทำให้ไฟดับกลางอากาศเดิมทีพวกเขาไม่รู้จักว่าเจ้าน้ำที่เรียกว่าน้ำมันมีกลิ่นฉุนนี้ นายหญิงบอกว่านางได้มาจากชาวต่างชาติที่นำของมาค้าขาย พอได้ทำการทดลองดูมันกลับติดไฟง่ายจริง“เป็นของเล่นใหม่ที่นายหญิงนำมาให้พระองค์ลองใช้พ่ะย่ะค่ะ อีกไม่เกินห้าวันจะมีมาเพิ่มอีกห้าสิบเกวียน เพราะเดินทางลำบากและกลัวเป็นจุดสนใจ นายหญิงจึงให้แบ่งเป็นสองขบวน และทำทีเป็นขบวนสินค้าพ่ะย่ะค่ะ”“ดี แล้วนางมีอะไรฝากบอกข้าอีกหรือไม่”“บอกเพียงว่าพระชายาสบายดีท่านอ๋องมิต้องเป็นห่วง”“อืม พวกเจ้ามาเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนก่อนเถิดข้าให้คนจัดที่พักไว้ให้แล้ว”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”“อาเล่อเจ้าได้สิ่งใดมา” หยุนชิงเห็นสาวใช้คนสนิทเดินถือตะกร้าใบใหญ่ เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี ร่างอุ้ยอ้ายที่ใหญ่โตเกินคำว่าครรภ์สาว ถามขึ้นอย่างสงสัย อะไรที่ทำให้สาวใช้นางเดินยิ้มหน้าบานมาได้ปานนั้น“ท่านโอเว่นให้คนนำอาหารทะเลมาให้
ผ่านไปกว่าสามเดือนแล้ว นับตั้งแต่มีราชโองการให้ทัพหลวงออกเดินทางไปปราบเผ่าซ่งหนูผู้คิดจะรุกราน สถานการณ์ตอนนี้ยังตึงเครียดเนื่องจากมีการร่วมมือกันของเผ่าซ่งหนูและห้าชนเผ่าที่ต้องการเขตพื้นที่ไว้สำหรับการดำรงเลี้ยงชีพของคนในเผ่า เนื่องจากพวกเขาต่างก็ไม่มีที่ให้ทำมาหากิน ต้องย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยหากเมื่อพื้นที่ตรงนั้นไม่มีอาหารให้ล่าแล้ว ก็จะย้ายไปอีกที่เพื่อหาอาหารดำรงชีพต่อไปเดิมทีหัวหน้าชนเผ่าทั้งห้าไม่คิดที่จะต่อกรกับใคร เนื่องจากพวกเขาชอบอยู่อย่างสงบไม่ชอบรุกรานผู้อื่น เมื่อมีผู้มายื่นข้อแลกเปลี่ยนเพื่อให้ช่วยทำศึกกับแคว้นหนาน หากเมื่อชนะสิ่งที่พวกเขาจะได้เป็นการตอบแทนนั้นก็คือ ผืนแผ่นดินบางส่วนให้เป็นของพวกเขาได้จับจองเป็นเจ้าของ นั้นจึงทำให้ทั้งห้าชนเผ่าร่วมมือด้วยทั้งสองฝ่ายต่างมีปะทะกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดแพ้หรือชนะ ต่างก็หยั่งเชิงกันรอเวลาที่อีกฝ่ายจะหลงกลและเพลี่ยงพล้ำ ด้วยความแข็งแกร่งของแคว้นหนานและกลยุทธ์ทางกลศึกที่ดี ถึงแม้ว่าจำนวนกำลังพลจะแตกต่างกันอยู่มาก ก็สามารถต้านไว้ได้แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างฝ่ายแคว้นหนาน เพราะมีข่าวออกมาว่าท่านอ๋องผู้เป็นแม่ทัพให
“ศึกนี้ก็คงจะลำบากสักหน่อย เพราะพวกเราต้องรับทั้งศึกนอกและศึกใน อีกทั้งพวกมันคงเตรียมการมาดีแล้ว การจะไม่ให้เสียกำลังพลเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้” สีหน้าของอ๋องหนุ่มมีความกังวลมากขึ้น เนื่องจากฝ่ายนั้นได้ตระเตรียมอาวุธไว้ทำศึกและวางแผนไว้นานเป็นปีแล้ว พวกเขาเองไม่ได้มีเวลาในการเตรียมพร้อม จึงทำให้กังวลอยู่มาก“ทางนี้ท่านมิต้องกังวลฝ่าบาททรงมีแผนรับมือไว้แล้วขอรับ”“เช่นนั้นข้าก็สบายใจ” หากฝ่าบาทมั่นใจว่ารับมือได้ เขาผู้เป็นน้องย่อมไม่ต้องห่วงอะไร เพราะเชื่อมั่นในฝีมือของผู้เป็นพี่“ท่านพ่อต้องรีบกลับมาหาจูกับท่านแม่นะเจ้าคะ” เจ้าเด็กน้อยนั่งมองผู้ใหญ่พูดคุยกันอยู่นาน ถึงนางจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ท่านแม่บอกว่าท่านพ่อจะไม่อยู่กับนาง อีกนานกว่าจะได้กลับมาเจอกันเพียงเท่านั้นเจ้าเด็กน้อยก็รู้สึกเศร้า ท่านพ่อตามใจนางเป็นที่สุด และนางก็รักท่านพ่อมากที่สุดอีกด้วย“พ่อต้องรีบกลับมาหาเจ้ากับแม่แน่นอน”ในคืนวันนี้พวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกต่างใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด พูดคุยกันอย่างสนุกสนานหยอกเย้ากันไปมา จนทั้งห้องมีแต่เสียงหัวเราะและหลับไปพร้อมกันอย่างมีความสุขชายแดนเป็นเวลาสิบห้าวันแล้วที่ทัพหลวงอ