เฮือก !!!! ช่วยด้วยลูกชิ้นติดคอ
ซันนี่สูดหายใจเข้าปอดอย่างแรง แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมารับแสงสีทองที่เริ่มสาดส่องตาจนแทบมองไม่เห็นรอบข้าง นี้เราตายแล้วหรือที่นี่ที่ไหนทำไมถึงแปลกแบบนี้ล่ะ เมื่อปรับสายตา รับแสงพร้อมกับลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าเต็มไปด้วยบ่อน้ำหลายร้อยหลายพันบ่อ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีสัตว์สักตัว มีแต่คนแต่งตัวคล้าย ๆ คนจีนโบราณ ยืนประจำอยู่ทุกบ่อ บ้างก็มีใบหน้าเป็นม้า บ้างก็มีใบหน้าเป็นนก หรือควายแต่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ และแต่ละบ่อก็ยังมีผู้ชาย เด็ก ผู้หญิง คนแก่ บ้างร้องไห้ หัวเราะดีใจ โกรธแค้น บ้างก็ไม่ยินยอมที่จะลงบ่อ หรือว่าเธอจะตกนรกแล้ว พอคิดแบบนั้นซันนี่ก็ยกมือขึ้นทาบอกตาโตทันที
แต่พอนึกถึงสาเหตุการตายของตัวเองขึ้นมา ก็ทำให้รู้สึกหดหู่ใจ คนบ้าอะไรตายเพียงเพราะลูกชิ้นติดคอ จะตายทั้งทีขอตายแบบดี ๆ สวย ๆ หน่อยก็ไม่ได้ และที่สำคัญระดับชาติคือ ผู้ที่แอ๊ว ไหนจะผู้ทิพย์จะอยู่กันยังไงเสียใจอะ แฟนก็ยังไม่มีอย่าให้รู้นะว่าคนไหนมันบังอาจมาเดินชน แม่จะสวดให้ยับด่าให้หูแตก จะแช่งให้มันเป็นหมันพ่อแม่ไม่รัก ผู้ไม่สนใจกินข้าวไม่ได้สักสามวันสาธุ คิดได้ดังนั้นซันนี่ก็พนมมือไหว้ทันที ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังตกอยู่ในการสาปแช่งของตัวเอง ก็รู้สึกว่ามีใครบางคนสะกิดที่ไหล่
“นังหนูเจ้าจะยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม” ยายเมิ่ง ผู้ที่มีหน้าที่ทำน้ำแกงลืมเลือนให้กับผู้ที่ต้องไปเกิดใหม่กิน เอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้า เพราะนางทนมองท่าทางประหลาดเช่นนั้นมานานแล้ว
ซันนี่ที่โดนสะกิดไหล่ หันกลับไปมองผู้ถามทันที พร้อมกับทำหน้าสงสัยว่าหญิงวัยกลางคนที่ใส่ชุดจีนสีขาวทั้งตัวท่านนี้คือใครกัน
“ป้าเรียกหนูหรือคะ” หญิงสาวตอบคำถามพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“เอ่อ เรียกข้าว่าพี่สาวเมิ่งเถอะข้ายังไม่แก่” นางยังไม่แก่ซะหน่อยมาเรียกว่าป้าได้อย่างไร นังเด็กปากเสีย
“แหะ ๆ พี่สาวเมิ่งเรียกหนูมีอะไรหรือคะ แล้วที่นี่ที่ไหน นรกหรือสวรรค์ แล้วหลังจากนี้หนูต้องไปที่ไหนคะ”
ยายเมิ่งมองเด็กสาวตรงหน้าที่เอาแต่ถามอย่างเดียว ไม่เปิดช่องให้นางได้พูดแทรกเลย ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“ที่นี่ไม่ใช่นรกหรือสวรรค์ แต่เป็นปลายทางของผู้ที่จะต้องไปเกิดใหม่ เพื่อชดใช้กรรมของแต่ละคน และที่เจ้าถามข้าว่าเจ้าจะต้องไปไหนข้าจะให้เจ้าเป็นผู้เลือกเอง ข้าให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ”
และด้วยความสงสัยว่าทำไมเธอต้องได้เป็นกรณีพิเศษด้วยล่ะ ซันนี่จึงถามออกไป
“พี่สาวเมิ่งทำไมหนูต้องได้เป็นกรณีพิเศษด้วยล่ะคะ”
“นั่นก็เพราะดวงชะตาของเจ้ายังไม่ถึงที่ตาย แต่ด้วยร่างของเจ้านั้นได้ถูกเผาไปแล้วจึงทำให้ไม่สามารถกลับไปยังร่างเดิมได้อย่างไรล่ะนังหนู” ยายเมิ่งอธิบายถึงสาเหตุที่เด็กสาว ไม่สามารถกลับไปยังโลกเดิมของตัวเองได้ ก่อนเด็กสาวจะสงสัยและถามอะไรมากกว่านี้ ยายเมิ่งจึงรีบบอกข้อเสนอให้แก่เด็กสาว
ที่นางยกให้เป็นกรณีพิเศษน่ะหรือ ก็เพราะคนที่ทำให้ชายผู้นั้นเดินชนจนแม่หนูนี่ตายก็คือนางเอง เพราะนางแอบไปเที่ยวยังโลกมนุษย์ เมื่อหลายวันก่อน ในระหว่างที่นางมัวแต่มองหนุ่มหล่อพ่อค้าขายขนม จนทำให้นางเผลอสะดุดขาตัวเองไปชนชายผู้หนึ่ง ทำให้แม่หนูนี่ที่กำลังกินลูกชิ้นอยู่พอดี ต้องติดคอตาย เพื่อไม่ให้เด็กสาวคนนี้ และท่านยมทูตรู้ว่านางหนีเที่ยว ต้องให้เด็กคนนี้รีบไปเกิดก่อนจะเกิดเรื่อง
“เอาล่ะนอกจากนี้ข้ายังมีพรให้เจ้าขอ ได้สามข้อก่อนที่เจ้าจะไปเกิด และข้ายังให้เจ้าเลือกเองด้วยว่าเจ้าอยากไปเกิดที่แบบใด”
เมื่อซันนี่ได้ยินข้อเสนอถึงกับตาโตทันที ขอพรได้สามข้องั้นหรือจะเป็นอะไรก็ได้ ฮิ ฮิ ขออะไรดีน้า ขอให้ตัวเองเทพเก่งเหมือนในหนังในนิยายที่เคยอ่านหรือ ไม่ดีกว่าเก่งขนาดนั้นชีวิตจะไปมีสีสันอะไร เป็นคนรวยหรือก็น่าเบื่อเกินไป ยศถาบรรดาศักดิ์หรือก็ยุ่งยากวุ่นวาย สู้เป็นคนธรรมดาจะดีกว่า เมื่อคิดพรได้ หญิงสาวจึงบอกความต้องการของตัวเองออกไป
“ข้อหนึ่งหนูขอไปเกิดแบบโตเป็นผู้ใหญ่ค่ะ คือหนูไม่อยากกลับไปเป็นเด็กอีกแล้วค่ะ”
“ข้อสองหนูขอคนรักสักคนที่รักหนูคนเดียวไม่นอกใจค่ะ”
นอกจากการมีครอบครัวที่อบอุ่นแล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือคนรัก เพราะชาติก่อนเธอโสดได้แต่แอ๊วผู้ไปวัน ๆ
“และข้อสุดท้ายหนูขอความทรงจำเดิม และความสามารถทุกสิ่งทุกอย่างของชาติเดิมค่ะ”
ถ้าหากมีความทรงจำเก่าและความสามารถเก่า เธอก็มั่นใจว่าตัวเองสามารถเอาตัวรอดกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน
“ได้ข้าให้เจ้า แล้วเจ้าอยากไปเกิดที่แบบไหน”
“หนูขอไปในที่ที่อุดมสมบูรณ์ไม่ขาดแคลนอาหาร ไม่ขาดแคลนน้ำใจ ผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุขค่ะ”
ยายเมิ่งมีสีหน้าพึงพอใจที่ได้ยินสิ่งที่เด็กสาวตรงหน้าต้องการ ไม่มีความโลภ หากเป็นผู้อื่นคงไม่พ้นขอเงินทอง ลาภยศ เป็นแน่
“ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าตามข้ามา”
ซันนี่ที่เห็นยายเมิ่งเดินตรงไปยังบ่อน้ำบ่อหนึ่ง มีน้ำสีฟ้าสดใสแวววาว แต่เมื่อมองลงไปจึงได้เห็นภาพ ภาพหนึ่งที่มีหญิงสาวนางหนึ่งกำลังนอนหลับใหลใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนป่วยหนัก และยิ่งน่าตกใจไปกว่านั้นคือใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวอมชมพู ดวงตาเรียวเล็ก คิ้วได้รูปนั้นมันเธอชัด ๆ มันน่าแปลกเกินไปแล้ว
และข้าง ๆ ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งกุมมือเธอด้วยท่าทางที่เศร้าหมอง ใบหน้าอิดโรย เหมือนคนอดหลับอดนอนเป็นเวลานาน แถมมีเด็กน้อยคนหนึ่งยืนกอดเขาคนนั้น พร้อมทั้งเบะปากทำท่าเหมือนกำลังจะร้องไห้อีกด้วย
“ที่นั่นคือที่ไหนคะ พี่สาวเมิ่ง” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ที่นั่นคือครอบครัวที่เจ้าต้องไปอยู่อย่างไรล่ะ เมื่อเจ้าพร้อมแล้วเจ้าก็กระโดดลงไปเสีย”
ในขณะที่ซันนี่กำลังคิดว่าจะกระโดดลงไปในบ่อน้ำสีฟ้านั้นอย่างไรดี ลงท่าไหนเธอถึงจะดูดีที่สุด แต่ยายเมิ่งก็ได้เรียกเด็กสาวไว้ก่อน เหมือนนางเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“เดี๋ยวก่อนนังหนูเรื่องคนที่ทำให้เจ้าตาย เจ้าก็ให้อภัยเขาเถอะคนผู้นั้นไม่ได้ตั้งใจ อย่าแช่งกันอีกเลยสำนึกผิดไม่ทัน”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ตอบอะไรก็โดนฝ่าเท้าของยายเมิ่งสะกิดเข้าอย่างจัง จนทำให้ซันนี่ไม่ได้ตั้งตัวแต่แรกตกลงไปในบ่อน้ำทันที
กรี๊ดดดดดดดดด..........ตู้มมมมมมมมม
"อภัยให้ข้าเถอะนังหนูเจ้าลีลาเกินไป หากเจ้าอยู่นานกว่านี้เห็นทีข้าจะโดนจับได้" แล้วยายเมิ่งก็เดินจากไปเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
'อยากเรียกข้าว่าป้าดีนัก ขอสักทีเถอะ'
แล้ววันงานบวงสรวงก็มาถึง ปะรำพิธีได้ถูกจัดขึ้น ณ ลานกว้างของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ กลางลานมีแท่นพิธียกขึ้นสูงบนโต๊ะรูปมังกรเหยียบเมฆา มีผลไม้และอาหารมงคล ตรงกลางมีกระถางสำหรับปักธูปลวดลายอ่อนช้อย สถานที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงามงานนี้เจ้ากรมพิธีการได้หน้าไปเต็ม ๆ ต่างถูกชมจากผู้คนมิขาดปากแต่ผู้ที่รับหน้าที่สำคัญที่สุดในวันนี้กลับนั่งเหงื่อตกรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ คิดจะหนีงานดีหรือไม่ แต่เมื่อมองไปยังที่ประทับของฮ่องเต้ ใบหน้าที่คาดหวังของท่านแม่และท่านพ่อ ไหนจะท่านลุงฮ่องเต้อีกคน จะถอยก็มิได้จะเดินต่อก็ไม่ได้และแล้วพิธีสำคัญได้ถึงเวลาที่เหมาะสมชาวบ้านที่เข้ามารอชมอย่างคาดหวัง หวังเยี่ยนฟางแต่งตัวด้วยชุดสีแดงอลังการ เดินนวยนาดออกมายังหน้าแท่นพิธีก่อนสายตาจะมองไปรอบ ๆ นางไม่พบเหล่าพี่ชายพี่สาวแฝดสามและอ๋องน้อยพวกนั้นหายไปที่ใดกัน“แด่ท่านเทพพิรุณเทพแห่งสายฝนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ท่านได้โปรดทรงประทานหยาดฝนเพื่อดับทุกข์ร้อนของเหล่ามวลมนุษย์ด้วยเถิด” หวังเยี่ยนฟางกล่าวจบจึงได้ทำการปักธูปลงในกระถางทันใดนั้นเองท้องฟ้าแปรปรวนร้องสนั่นหวั่นไหว หมู่เมฆมืดครึ้มลมพัดแรง จนมงกุฎที่หวังเยี่ยนฟา
ในปีหนึ่งแคว้นหนานได้เกิดปัญหาภัยแล้งฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรและใช้สำหรับอุปโภคบริโภคองค์ฮ่องเต้ทรงมองเห็นในความเดือดร้อนของพสกนิกร ทรงมีรับสั่งช่วยเหลือแจกจ่ายอาหารและสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยลดความอดอยากของประชาชน แต่เมื่อนานวันเข้าภัยแล้งกลับไม่มีท่าว่าจะดีขึ้นหัวข้อประชุมเช้าอันดุเดือดประจำท้องพระโรงคงจะหนีไม่พ้นเรื่องภัยแล้ง"ทูลฝ่าบาทหากเรายังคงเบิกจ่ายข้าวสารและตำลึงเงินอีกไม่เกินปีนี้ กระหม่อมเกรงว่าท้องพระคลังคงจะหมดในไม่ช้าพ่ะย่ะค่ะ" เจ้ากรมคลังกราบทูลถึงปัญหาที่เกิดขึ้น"ทูลฝ่าบาท จากที่กระหม่อมส่งคนออกสำรวจแหล่งน้ำทั่วแคว้น ปริมาณน้ำลดน้อยลงไปมากพ่ะย่ะค่ะ" เจ้ากรมโยธาก้าวออกมา ชี้แจงปัญหาที่ได้รับมอบหมายให้ออกสำรวจแหล่งน้ำ"มีผู้ใดจะเสนอความคิดในการแก้ปัญหาบ้างหรือไม่" หนานหยางจง เจ้าแห่งแคว้นถามขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองทั่วทั้งท้องพระโรง แต่ก็ไม่มีผู้ใดก้าวออกมาเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาอย่างเช่นเคยเหล่าเสนาอำมาตย์ต่างมองหน้ากันไปมา แต่ละคนต่างก็หาทางออกไม่ได้ เนื่องจากเป็นภัยธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่เคยเจอปีไหนเลย ที่ภัยแล้งจะหนั
“ข้อหนึ่งหนูขอไปเกิดแบบโตเป็นผู้ใหญ่ค่ะ คือหนูไม่อยากกลับไปเป็นเด็กอีกแล้วค่ะ”อืม ข้อนี้ไม่ยากถือว่ายังให้ได้อยู่“ข้อสองหนูขอคนรักสักคนที่รักหนูคนเดียวไม่นอกใจค่ะ”ข้อนี้ก็ยังถือว่าง่ายไม่พิเศษอะไรนังหนูนี่ช่างมักน้อยซะจริง“และข้อสุดท้ายหนูขอความทรงจำเดิม และความสามารถทุกสิ่งทุกอย่างของชาติเดิมค่ะ”“ได้ถ้าอย่างนั้นเจ้าตามข้ามา” ยายเมิ่งตอบตกลงทุกเงื่อนไขที่ขอมาอย่างไม่ต้องคิด เพราะคำขอแต่ละข้อไม่ได้ถือว่าผิดต่อศีลธรรมอันใดแต่ก่อนจะให้เด็กสาวผู้นี้ลงไปเกิดนางอยากจะเอ่ยปาก พูดอะไรสักอย่างกับสตรีน้อยผู้นี้สักหน่อย“เดี๋ยวก่อนนังหนูเรื่องคนที่ทำให้เจ้าตาย เจ้าก็ให้อภัยเขาเถอะคนผู้นั้นไม่ได้ตั้งใจ อย่าแช่งกันอีกเลยสำนึกผิดไม่ทัน”สตรีผู้นั้นตอบรับด้วยสีหน้างุนงง แต่ก็ช่างเถอะไม่รู้เรื่องอันใดก็ดีแล้วกรี๊ดดดดดตู้มมมม"อภัยให้ข้าเถอะนังหนูเจ้าลีลาเกินไป หากเจ้าอยู่นานกว่านี้เห็นทีข้าจะโดนจับได้" แล้วยายเมิ่งก็เดินจากไปเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน"อยากเรียกข้าว่าป้าดีนักขอสักทีเถอะ" ว่าจะไม่ทำอันใดแล้ว คำก็ป้าสองคำก็เรียกป้าแค่ถีบตกบ่อยังน้อยไปหลังจากนั้นข้าคิดว่าชีวิตจะสงบสุขส
ข้ามีนามว่าหวังเยี่ยนฟางเป็นบุตรสาวคนเล็กของบ้านตระกูลหวัง ทุกคนในบ้านต่างรักและตามใจข้าเป็นที่สุด ข้าคือสิ่งมหัศจรรย์และน่าเหลือเชื่อเพราะแม้ว่าท่านพ่อดื่มยาห้ามบุตรที่มีฤทธิ์แรงที่สุด แต่ตัวข้าหวังเยี่ยนฟางผู้นี้สามารถฝ่ายาห้ามบุตรมาเกิดได้ฮะฮ่าทุกคนต่างเอ่ยชมความสามารถของท่านพ่อหวังอี้หลินมิได้หยุด เขาคือสุดยอดแห่งบุรุษของแคว้นเป็นลูกรักของเทพพระเจ้า บางคนร่ำรวยอำนาจล้นฟ้าหรือแข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังไม่สามารถมีบุตรได้ดั่งใจสั่งเช่นท่านพ่อของข้าได้ แต่ก็นะคนเหล่านั้นพูดเกินจริงไปมากโข เป็นเพราะข้าผู้นี้อยากมาเองต่างหากหากจะถามว่าข้าผู้ที่มีรูปโฉมงดงามราวกับเทพเซียน พูดจาไพเราะราวกับนกน้อยร้องรับอรุณยามเช้า ความสามารถหรือก็มิแพ้ใคร รูปร่างสูงโปร่งอกเป็นอกเอวเป็นเอว ข้าผู้นี้มีนามว่า เมิ่ง เมิ่ง หรือก็คือยายเมิ่งที่เหล่ายมโลกเรียกขานกัน หุ หุอะ แฮ่ม เอาล่ะกล่าวชมตนเองมามากพอแล้ว ข้าจะเล่าให้ฟังก็แล้วกันว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ย้อนไปเมื่อกาลก่อน"เมิ่ง เมิ่ง เจ้าฟังข้าก่อน งานข้ายุ่งมากไปกับเจ้ามิได้จริง ๆ อย่าโกรธข้าเลยนะ" ผู้คุมนรกชั้นอเวจีคอยควบคุมเหล่าวิญญาณชั้นเลว ชดใช้บาปกรรมโ
"อั๊กกก" ไม่ได้การแล้วมันช่างทรมานยิ่งนัก คงต้องหาอะไรที่ทำให้เขาหายจากอาการนี้หยงเจาฝืนทนพยายามลุกขึ้นยืนให้มั่น แต่ด้วยขาที่ไร้เรี่ยวแรงทำให้เซถลาชนเข้ากับโต๊ะกลางห้องจนกวาดเอาถ้วยน้ำชาร่วงลงกับพื้น"ท่านหยงเจาเป็นอะไรหรือเจ้าคะ ท่านรออยู่นี่ก่อนข้าจะไปตามหมอให้" อาลี่ที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินเสียงดังจากห้องของชายหนุ่ม จึงรีบเดินเข้ามาดู ไม่รู้ว่าภายในห้องเกิดอะไรขึ้น หากเมื่อเดินเข้ามาสิ่งที่เห็นทำให้นางยิ่งตกใจ"ข้าไม่เป็นไร เจ้ารีบออกไปเถิดข้าขอร้อง" ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว หากช้ากว่านี้คงได้หน้ามืดล่วงเกินสตรีที่หลงรักตรงหน้าแน่"ทะ ท่านเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนบอกข้าสิ" เพราะความเป็นห่วงอาลี่จึงไม่ยอมขยับไปไหนยาที่หยงเจาได้รับในปริมาณมาก ทำให้ชายหนุ่มครองสติไม่ได้แล้ว เขาคว้าคอหญิงสาวโน้มลงมาพร้อมกับจุมพิตอันร้อนแรงอาลี่พยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงของชายหนุ่มได้ จากขัดขืนในตอนแรกกลับกลายเป็นคล้อยตาม จนนางได้ตกเป็นของหยงเจาในคืนนั้น"ข้าจะรับผิดชอบเจ้า" หยงเจายังคงยืนยันคำเดิม เพราะตั้งแต่รู้สึกตัวตื่น เขาพยายามจะหว่านล้อมให้ร่างบางตรงหน้ายินยอม แต่นางก็ใจแข็งเหลือเกิน
"หาา! นี่ท่านยังเกี้ยวอาลี่ไม่สำเร็จอีกหรือ จิ๊ก จิ๊ก ช่างไร้ฝีมือ" อาเล่อมองหน้าหยงเจาอย่างดูแคลน ขนาดว่านางเปิดโอกาสให้อยู่กันลำพังบ่อยครั้งก็ยังทำไม่สำเร็จ"แล้วเจ้าเล่าเกี้ยวหานลู่สำเร็จแล้วหรือ ทำมาเป็นเย้ยข้า" ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ"ข้าไม่อยากจะคุย ข้ากับท่านหานลู่ตกลงศึกษาดูใจกันแล้วเจ้าค่ะ ไม่แน่ปลายปีนี้อาจจะมีข่าวดี" อย่างหลังไม่เป็นความจริงสักนิด นางก็แค่ใส่สีตีไข่เข้าไปให้ดูเหนือกว่าเท่านั้นเอง"จริงหรือ ข้าขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ได้หรือไม่" นางช่างเก่งกาจ"เรื่องเช่นนี้ขึ้นอยู่ที่ฝีมือของแต่ละคนเจ้าค่ะ มิใช่เรื่องที่จะสอนได้โดยง่าย" นางลงทุนไปตั้งเยอะยังได้เพียงแค่ศึกษาดูใจเลย"ถ้าเจ้ามีแผนอะไรดี ๆ แนะนำข้าทีเถิด" ตนได้ลองมาหลายวิธีแล้ว สาวเจ้ายังไม่แม้แต่จะใจอ่อนเลย จะล้มเลิกไม่ตามเกี้ยวต่อก็ไม่ได้ ก็คนมันรักไปหมดใจแล้วจะให้ทำเช่นไร โอ๊ย ข้ากลุ้ม"อย่างนี้ดีหรือไม่ คืนนี้พวกท่านเปิดใจคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่ต้องห่วงเรื่องอาลี่ข้าจะเป็นธุระให้เอง" อาเล่อพอจะรู้ว่าสหายผู้นี้มีใจให้กับท่านหยงเจาไม่มากก็น้อย และท่านหยงเจาก็ใจตรงกันอีกด้วย แล้วเพราะอะไรสหายรักถึงได้ไม่ใจอ