Share

บทที่ 93

Auteur: Karawek House
last update Dernière mise à jour: 2025-09-20 11:26:41

คืนนั้นทุกอย่างดูเงียบสงัด ลมเย็นยามค่ำพัดผ่านเรือนใหญ่ เหล่าบ่าวไพร่ต่างพากันเข้านอน ทิ้งไว้เพียงแสงจันทร์นวลที่สาดลงมายังหอนอนสำหรับคฤหัสถ์ที่เข้าพักเมื่อเดินทางมาไหว้พระ

วัดถานฝอแม้อยู่ห่างไกลทว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียง ผู้มีตระกูลจึงมักจะแวะเวียนมาไหว้พระขอพรจากที่นี่เป็นประจำ หอนอนที่จัดเตรียมไว้จึงนับว่าสภาพดีและเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นอย่างยิ่ง

เซียงหรงนั่งอยู่ในห้อง อ่านตำราธรรมะที่มีอยู่ในชั้นหนังสือ

นางพยายามสงบจิตใจหลังจากรู้สึกอึดอัดจากสายตาของพี่ชายรองที่คอยจับจ้องในตลอดช่วงเย็น

“อะไรนักหนา...” เซียงหรงพึมพำเบา ๆ ก่อนหยิบถ้วยน้ำชาจวี๋ฮวาขึ้นจิบเพื่อคลายความกังวล

นางพยายามทำใจให้เป็นสมาธิ แต่กลับต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนดังมาจากด้านนอก ก่อนที่บานประตูจะถูกผลักออกอย่างแรง เผยให้เห็นคุณชายรอง เฉินจื้อเฉิง ที่ใบหน้าขึ้นสีแดงจัด ดวงตาดูราวกับมีไฟลุกโชนอยู่ในนั้น

“พี่รอง?!” เซียงหรงลุกขึ้นด้วยความตกใจ

คุณชายรอง เฉินจื้อเฉิง มองนางด้วยสายตาเจือความกระวนกระวายและร้อนรุ่ม

“หรงเอ๋อร์...ข้า...ข้าไม่ไหวแล้ว!”

“ท่านพูดอะไรน่ะ! ออกไปนะ!” เซียงหรงรีบถอยหนี แต่เฉินจื้อเฉิงกลับพุ่งเข้ามาอย่างกระชั้นชิด ท่าทางคลั่งไคล้ไร้สติโดยสิ้นเชิง

หลังจากทานมื้อเย็นร่วมกันแล้ว เฉินจื้อเฉิงก็นั่งดื่มอยู่ผู้เดียวอย่างอัดอั้น แม้ว่าเขาจะเพียรบอกตนเองกี่ครั้งว่าหรงเอ๋อร์เป็นน้องสาวของเขา แต่อีกใจหนึ่งก็กระซิบกระซาบล่อลวง

น้องสาวเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะไม่มีสิทธิเสียหน่อย

แม้ว่าเขาจะพยายามห้ามใจตนเองมานานหนักหนา แต่ใจที่ซื่อตรงกับตนเองยิ่งนัก ยังคงย้ำเตือนไม่หยุดว่าเขารักนาง

เขาหลงรักน้องสาวของตนเอง

น่าสมเพชชะมัด!

เฉินจื้อเฉิงดื่มไปจอกแล้วจอกเล่า แม้ว่ายามปกติหากดื่มมากถึงเพียงนี้ก็จะต้องหลับใหลไปแล้ว ทว่าตอนนี้ไม่เพียงเขาจะไม่หลับ กลับยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มราวกับมีกองไฟนับสิบมาสุมรวมกันอยู่ที่ท้องน้อย

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เห็นว่าบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งที่หานชิงเยว่จัดมาไว้ในขบวนไหว้พระเป็นผู้ผสมยาปลุกกำหนดลงไปในสุราที่เขาดื่ม

หานชิงเยว่ตั้งใจยิงธนูนัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัวใหญ่ๆ นางเกลียดชังเฉินเซียงหรง ซ้ำยังขยะแขยงเฉินจื้อเฉิงที่มีความคิดวิปริตกับน้องสาวของตนเองเช่นนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรทั้งหมดนี่ก็เป็นผลดีต่อนาง

หากเฉินจื้อเฉิงรวบหัวรวบหางเซียงหรงได้จริง เพียงนางใช้วิธีเช่นเดิม ค่อยๆ แพร่ข่าวออกไป ไม่นานนักชื่อเสียงของ ‘โฉมงามยอดเมธีที่หวงโฮ่วทรงโปรดปราน’ จะต้องฉาวโฉ่คาวคลุ้งยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เป็นแน่

            อีกทั้งบุรุษที่หน้ามืดคว้าเอาน้องสาวของตนเองมาบำบัดความใคร่อย่างเฉินจื้อเฉิง ก็จะไม่อาจเผยอหน้าขึ้นมาเป็นทายาทที่มีสิทธิในการเป็นผู้นำตระกูลอีกด้วย…

            ทั้งหมดนี้เฉินจื้อเฉิงไม่รู้ ความคิดของเขายังคงคอยวนเวียนถึงก็แต่โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับน้องสาม กระทั่งครั้งนี้ที่เขาได้อยู่ด้วยกัน ‘ตามลำพัง’ กับนาง โดยที่จะไม่มีผู้ใดมาห้ามปรามไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นทั้งนั้น

            ดังนั้น เมื่อความร้อนรุ่มสะสมอยู่ที่กลางลำตัว เฉินจื้อเฉิงจึงรู้แน่ชัด

เขาเติบใหญ่มาถึงเพียงนี้ ย่อมรู้ดีว่าร่างกายตนเองต้องการสิ่งใด แต่ติดที่ว่าตอนนี้ ที่นี่ ไม่มีสตรีใดอยู่เลยแม้แต่คนเดียว...ยกเว้นน้องสาวกับสาวใช้ของนาง

น้องสาวที่เขาลุ่มหลงมาตลอด

น้องสาว...

ไม่สิ...

หรงเอ๋อร์

หรงเอ๋อร์ของเขา

เฉินจื้อเฉิงโซเซมาถึงเรือนพักฝ่ายหญิง สติที่ยังคงมีอยู่เล็กน้อยไม่ได้หักห้ามใจตนเอง แต่เป็นการหันไปสั่งบ่าวไพร่ของตนมาคอยดูไว้ ไม่ให้หรงเอ๋อร์ของเขาหนีไปได้

ภาพจากที่เขาเห็นทางหน้าต่าง หรงเอ๋อร์กำลังนั่งอ่านหนังสือ เรียวคิ้วบางขมวดมุ่น ตาหงส์คู่งามฉายแวววิตกกังวล...เป็นแววตาที่เขาอยากปัดเป่าออกไปให้นางยิ่งนัก

เฉินจื้อเฉิงครวญคราง

หรงเอ๋อร์...หากแม้ว่าวันนี้ข้าทำถึงเพียงนี้แล้วยังไม่ได้เจ้าอีก...

ไม่! ร่างกายที่รุมร้อนราวกับเป็นไข้ตะโกนกลับดังลั่น เจ้าต้องได้นาง!

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 100

    เซียงหรงมองชายแปลกหน้าเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แม้จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่ลึกๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายร่างใหญ่ชุดดำสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าผู้นี้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ช่วยนาง...ทั้งในตอนที่นางเสี่ยงชีวิตกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงชัน และตอนนี้สายตาของเฉินเซียงหรงกวาดมองไปรอบๆ อีกครั้งกระท่อมหลังนี้ดูเหมือนจะถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว โต๊ะไม้ที่วางตะเกียงอยู่มีรอยถลอกลึก มุมหนึ่งของผนังมีช่องโหว่ที่ลมพัดผ่านเข้ามาได้ ดังนั้น นอกจากกลิ่นสาบภายในกระท่อมแล้ว ยามนี้นางได้กลิ่นสนเขาอ่อนๆ ลอยมากับสายลมนางเริ่มรู้สึกถึงความเย็นของกระแสลมที่กัดกินเนื้อหนัง“ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้จนวันตาย...ข้าจำได้ว่าคล้ายจะเห็นท่านพลิ้วตัวมารับร่างข้าไว้ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ท่านเป็นจอมยุทธ์ใช่หรือไม่ จึงสามารถช่วยข้าไว้ได้เช่นนี้” นางถาม น้ำเสียงเจือความขอบคุณเขาไม่ตอบไม่เพียงไม่ตอบ ยังเบนสายตาไปทางอื่นด้วยซ้ำดวงตาที่มองลอดหน้ากากนั้นยังคงนิ่งลึกท่าทางเช่นนี้...ดูๆ ไปแล้ว ก็คล้ายองครักษ์ที่รับหน้าที่ติดตามคุ้มกันนางเช่นกันหรือว่า...นางอดถามไม่ได้ “ท่านคือองครักษ์จากตำหนักจวิ้นหวังที่คอยติดตามคุ้มกันข้าหรือ?”“ไม่ใช

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 99

    ยามเมื่อเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา นางรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมผ่านผิวกาย แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันเล็กๆ บนโต๊ะไม้ส่องประกายริบหรี่สะท้อนเงามืดบนผนังไม้ที่แตกร้าวราวกับภาพเขียนที่น่าขนลุกภาพหนึ่ง รอบตัวนางในยามนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกระท่อมเก่าคร่ำคร่า“ท่านแม่...” นางยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดมารดาด้วยซ้ำทว่า... เพียงฝันไปหรอกหรือ?“ที่นี่ที่ไหน...” นางพึมพำแผ่วเบา รู้สึกร้าวระบมไปทั่วทั้งตัว เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเสื่อเก่าขาด มีหมอนสีดำสนิทที่คล้ายจะทำขึ้นมาด้วยการเอาเสื้อคลุมเปียกๆ ตัวหนึ่งมาหุ้มฟางรองศีรษะ กลิ่นอับของไม้ผุและฝุ่นทำให้นางแสบจมูกจนแทบทนไม่ไหวดวงตาของนางเลื่อนไปหยุดที่ร่างของชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าครึ่งบนกว่าแปดส่วน[1]ถูกปกปิดด้วยหน้ากากโลหะรูปพยัคฆ์ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมดุสะท้อนแสงไฟสลัวเหมือนตาของสัตว์ร้ายเซียงหรงสะดุ้งเล็กน้อย ความหวาดกลัวไหลย้อนกลับมาบีบรัดหัวใจของนางไว้แน่นเสื้อคลุมที่ใช้ทำเป็นหมอนยังคงเปียกชุ่ม เสื้อผ้าผมเพ้าของคนผู้นี้เองก็ไม่ต่างกัน...สังเกตได้เท่านี้เฉินเซียงหรงก็ห

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 98

    ยามนี้ใบหน้าของนางซีดขาวราวกับไร้โลหิต ริมฝีปากที่เคยอิ่มงามและชุ่มชื้นแตกแห้งและสั่นระริกเพราะความหนาว กระแสลมหนาวเหน็บพัดเส้นผมที่ยาวสยายไร้ระเบียบของนางไปติดแก้ม บดบังทัศนวิสัยส่วนหนึ่ง นางพยายามจะยกมือขึ้นปัดมันออก แต่กลับแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วสักนิดต้องหาที่หลบ...ก่อนที่คนร่างสูงนั่นกับคนพวกนั้นจะตามมาเจอ...ยามนี้มีเพียงความคิดเหล่านี้เท่านั้นวนเวียนในหัวนาง นางพยายามเร่งฝีเท้าทั้งที่ร่างกายบอบช้ำจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำต้องไปต่อ...ต้องรอด...ต้องไม่ตาย...พี่ซู่ซิน...พี่ใหญ่...น้องเล็ก...จะต้อง...กลับไปให้ได้...ฝ่ามือเล็กๆ ของนางกำหมัดแน่น สันกรามของนางขบกันจนปวดแปลบเพื่ออดทนกับความเจ็บปวด ดวงตาคู่หวานที่เคยทอประกายสดใสในยามปกติ บัดนี้เต็มไปด้วยแววหวาดหวั่นผสมความดื้อรั้นไม่ยอมแพ้ แต่ยิ่งเดินเท่าไหร่ ผืนป่าก็ยิ่งมืดลงราวกับว่านางเลือกเส้นทางผิดพลาดราวกับว่า...ป่าแห่งนี้กำลังค่อยๆ กลืนกินนาง...เซียงหรงรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังบีบรัดนางให้แหลกสลาย สองหูได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตัวเองที่หนักหน่วงขึ้นทุกทีนางพยายามกัดฟันเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่ร่างกายก็ไม่อาจฝืนได้อีกต่อไ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 97

    แต่ทุกสิ่งรอบตัวกลับไม่ช่วยให้นางมีหวังต้นไม้สูงใหญ่ที่ล้อมรอบนางดูเหมือนเงาดำมืดที่คอยซุ่มมอง ยามนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นเพียงป่ารกครึ้มที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิตราวกับว่านางเดินพลัดหลงเข้ามาในโลกของภูติผีในเรื่องเล่า มีเพียงเสียงแมลงกลางคืนที่พอจะฟังคุ้นหูและเสียงน้ำไหลเบาๆ จากที่ไกลๆ ที่บอกให้รู้ว่านางยังคงมีชีวิตเซียงหรงก้าวขาเดินโซซัดโซเซ สะดุดล้มไปกับพื้นก็หลายครั้ง แขนเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรอยข่วนจากกิ่งไม้ใบหญ้าพยายามยันตัวลุกขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาที่พร่ามัวลงทุกขณะคอยมองหาที่หลบภัยโดยสัญชาตญาณ แต่ก็พบเพียงความมืดดำว่างเปล่าหรือสัญชาตญาณของสตรีที่เอาแต่เก็บตัวเงียบเชียบในเรือนหลังจะไม่ดีพอ?ไม่ต้องพูดถึงการเดินเท้าในป่ารกครึ้มตอนกลางคืนเช่นนี้ กับแค่การออกนอกจวน นางยังได้ทำนับครั้งได้ด้วยซ้ำ"แต่ข้าจะไม่ตาย...ต้องไม่ตาย..." นางพร่ำบอกตัวเองน้ำเสียงแหบพร่า พยายามเค้นสมองนึกให้ออกว่าสรรพตำราที่เคยอ่านมาทั้งหมดและท่านอาจารย์ผู้ชราทั้งสองของตนเคยกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับป่าและการหาทิศเอาไว้อย่างไรดาว...พวกคนเดินเรือใช้ดาว...“กลางคืนมีดาว...ถูกแล้ว...ดาว...” นางพยายามตั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 96

    กลางดึกอันหนาวเหน็บ เสียงแมลงกลางคืนกรีดร้องผสานเสียงกระแสลมหวีดหวิวผ่านกิ่งไม้สูงฟังแล้วน่าขนลุก เฉินเซียงหรงรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตนเองโชคดีถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดมาเกยริมตลิ่ง ทว่ายามนี้ร่างกายเปียกปอนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้านางจำได้ดี ว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่ตกลงมา มีบุรุษร่างใหญ่ผู้หนึ่งดิ่งตัวตามลงมารวบตัวนางไว้ เดาว่าคงไม่พ้นเป็นคนของพี่ชายรอง หรือไม่ก็เป็นคนของ...อนุหาน?เมื่อนึกถึงเรื่องที่เหตุการณ์ครั้งนี้อาจเป็นแผนการของอนุหาน นางก็ทั้งผิดหวังเสียใจที่ความปรารถนาดีของนางรวมถึงความใจกว้างที่แล้วๆ มา ที่มีต่อ ‘ท่านแม่ทั้งสาม’ และพี่น้องต่างมารดาในจวนรวมถึงคนของพวกเขาทั้งหมดกลายเป็นเรื่องโง่เง่า และยิ่งกว่าเสียใจที่ไม่เชื่อคำเตือนของน้องชายสาม ทั้งยังโกรธตนเองที่ได้แต่รับการปกป้องจากพี่ซู่ซินของนางเช่นนี้ทว่ายามนี้ไม่อาจย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งใดแล้วทั้งนั้น สิ่งที่นางทำได้มีเพียงการพยายามเอาชีวิตรอดกลับไป...กลับไปเพื่อหยุดยั้งคนเหล่านั้น ไม่ให้แตะต้องพี่ชายและน้องชายร่วมครรภ์มารดาของนาง และเผื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือพี่ซู่ซินที่เอาตัวเองเข้าปกป้องนางในเรื่องใดได้บ้างนางจะต้องมีชีวิต

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 95

    เซียงหรงรีบวิ่งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง เมื่อมาถึงลานด้านหน้า กลุ่มบ่าวชายที่เฉินจื้อเฉิงสั่งการกลับมายืนดักหน้าไว้ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“พวกเจ้า...คิดจะทำอะไร!” เซียงหรงตะโกนพลางถอยหลังกรูดคนกลุ่มนั้นหัวเราะเยาะ “ก็แค่ทำให้คุณหนูหลบเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป ยังไงคุณชายรองก็รักใคร่ในตัวท่านมาก ท่านก็สมควรตอบแทนเขาเสียหน่อย”“องครักษ์! ท่านองครักษ์!” เซียงหรงร้องเสียงดังขึ้น อดแปลกใจไม่ได้ที่พวกนางเสียงดังอึกทึกครึกโครมถึงเพียงนี้ กลับไม่มีใครในวัดเยี่ยมหน้าออกมาดูเลยสักนิด“องครักษ์ตระกูลจวิ้นหวัง...พวกเจ้าทำอะไรเขา!”พวกบ่าวรับใช้ต่างหัวเราะครึกครื้น “พวกบ่าวที่ไหนจะทำอะไรยอดฝีมือจากตำหนักจวิ้นหวังท่านนั้นได้...ผู้ที่จัดการกับเขา เดาว่าคงเป็นคนของฟูเหรินกระมัง”ฟูเหรินที่ใด?! เซียงหรงพลันหนังศีรษะชาวาบ “หรือว่า...หมายถึง...อนุหาน...?”“ไม่รู้สิขอรับ สำหรับพวกเราบ่าวรับใช้ ผู้ใดคือฟูเหริน ผู้นั้นก็คือฟูเหริน”เซี

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status