"ใครทำอะไรแก" ของขวัญเห็นเพื่อนไม่ขึ้นเรียน ก็เลยลงมาดู "ฉันถามว่าใครทำอะไรแก"
"ไม่มี"
"ไม่มีแล้วแกร้องไห้ทำไม"
"ร้องไห้เฉยๆ ไม่ได้หรือไง"
"การที่คนคนหนึ่งจะร้องไห้ ถ้าไม่ดีใจมาก ก็คือเสียใจ แต่ดูจากสภาพของแกแล้วคงไม่ใช่ดีใจแน่"
"ฉันเลิกกับเขาแล้วนะ"
"เลิก?"
"ใช่"
"ก็ดีแล้วนี่.." ของขวัญก็เลยนั่งลงข้างๆ เพื่อน "ฉันให้ยืมไหล่ซับน้ำตาแล้วกัน แต่ฉันให้ยืมแค่ครั้งเดียวนะ"
"งื้ออออ" หญิงสาวซุกหน้าลงที่ไหล่ของเพื่อนแล้วก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง โชคดีที่เพื่อนคนอื่นเข้าห้องเรียนกันไปหมดแล้ว
เย็นวันเดียวกัน..
"พ่อไปไหนคะแม่" กลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นพ่ออยู่
"ไปตายแล้วมั้ง"
"แม่ก็พูดดีๆ กับพ่อหน่อยสิ"
"นี่แหละดีสุดแล้ว แล้วนี่เมื่อไรจะเรียนจบสักที"
"อีกปีหนึ่งค่ะ"
"แล้วที่แม่บอกให้หางานทำไปด้วย หาได้หรือยัง"
"แค่เรียนก็หนักมากพออยู่แล้วนะแม่"
จ๊ะเอ๋ได้แต่มองตามหลังแม่ที่เดินออกไปทางหลังบ้าน และเธอก็รู้ดีว่าแม่จะแอบไปร้องไห้อีก
"ถ้างั้นจ๊ะไม่เรียนต่อก็ได้นะแม่"
พอลูกสาวพูดขึ้นผู้เป็นแม่ถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่แต่ก็ไม่ได้หันกลับมา
"เหลืออีกแค่ปีเดียวไม่ใช่เหรอ รีบเรียนให้มันจบ อย่าเหลวไหลเหมือนพ่อแกแล้วกัน"
จ๊ะเอ๋รู้ดีว่าแม่แบกรับภาระในบ้านเกือบทั้งหมด รวมทั้งตอนนี้ต้องได้จ่ายค่าเช่าบ้าน เพราะเพิ่งจะย้ายออกมาจากบ้านหลังเดิม
หลายวันต่อมา..ที่มหาวิทยาลัย
"เธอได้ข่าวไหมว่ารามที่เรียนคณะบริหารลาออกแล้ว"
"อะไรนะ" จ๊ะเอ๋ที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ ได้ยินเพื่อนคุยกันก็เลยหันกลับไปถาม "พระรามน่ะเหรอ?"
เพื่อนสองสามคนต่างก็หันมามองหน้ากัน รู้ดีว่าจ๊ะเอ๋เคยคบกับพระราม
"ใช่"
"เขาลาออกทำไม"
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่ได้ยินว่ามีปัญหาครอบครัว"
"?" ..คงไม่ลาออกเพราะอายเพื่อนที่เราตบวันนั้นหรอกนะ กลุ้มใจเรื่องที่บ้านก็หนักหนาพออยู่แล้ว ยังจะมาคิดมากกับเรื่องนี้อีก
อีกหลายวันต่อมา..
"ฉันคงต้องหางานพิเศษทำ"
"ทำไมเหรอ"
"อยากจะช่วยค่าเช่าบ้านแม่ด้วย"
"แล้วพ่อแกล่ะ"
"พ่อหายออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้นยังไม่กลับมาเลย"
"แจ้งความหรือยัง"
"ไม่ต้องแจ้งหรอก" เพราะถ้าพ่อไม่ออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อน..ก็คงจะเรื่องผู้หญิง
หนึ่งปีผ่านไป..
กว่าจ๊ะเอ๋จะเรียนจบมาได้เลือดตาแทบกระเด็น ที่พ่อหายไปในวันนั้น คือไปอยู่กับเมียใหม่ เธอต้องได้ใช้ชีวิตกับแม่ตามลำพัง แต่ถึงแม้ว่าจะทุกข์ยากกว่าตอนที่พ่ออยู่ด้วย จ๊ะเอ๋ก็รู้สึกสบายใจที่ไม่ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกันอีก
"บริษัทที่แม่ทำงานอยู่กำลังเปิดรับสมัครพนักงานใหม่นะลูก" ตั้งแต่เลิกกับพ่อ แม่ก็ได้งานแม่บ้านที่บริษัทนั้น พอได้เงินมาจุนเจือครอบครัวบ้าง
"เขาเปิดรับสมัครแล้วเหรอแม่" จ๊ะเอ๋ยิ้มแบบมีความหวัง เพราะบริษัทนี้สวัสดิการดีมาก แต่การแข่งขันสูง ถ้าแม่ของเธอทำตำแหน่งอื่นก็คงจะเข้าไม่ได้ แต่นี่ทำงานแม่บ้าน แถมยังเป็นแม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องน้ำ ซึ่งไม่ค่อยมีใครอยากจะทำกัน
เย็นวันเดียวกันนั้น..
>>{"แกไปสมัครงานเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"} ได้ยินว่าบริษัทนั้นเปิดรับสมัครพนักงาน จ๊ะเอ๋ก็รีบโทรไปชวนของขวัญ
{"บริษัทนี้เขาคัดคนเข้าทำงานไม่ใช่เหรอ เราเพิ่งเรียนจบกันแล้วเขาจะรับไหม"}
>>{"ไม่ลองก็ไม่รู้ เราอาจจะดวงดีก็ได้นะ"}
{"ก็ได้ ถ้างั้นพรุ่งนี้เช้าเจอกันที่หน้าบริษัทเลยแล้วกัน"}
>>{"ฉันรักแกว่ะ"}
{"อย่าพูดแบบนั้นนะฉันขนลุก"} จริงๆ แล้วของขวัญเป็นคนต่างจังหวัด คิดว่าเรียนจบก็จะกลับบ้าน แต่ถ้าได้งานทำก็คงขอที่บ้านอยู่ต่อ..
วันต่อมา..วันนี้พระนาย และพระรามต้องได้กลับก่อน ส่วนพระลักษณ์ต้องนอนเฝ้าห้องหอให้ครบสามคืน เพราะที่นี่เขาถือกัน"นายต้องดูแลงานช่วยคุณพ่อเข้าใจไหม" นี่คือคำสั่งจากพี่ชาย ตอนที่มาส่งน้องขึ้นรถ ซึ่งตอนนี้รถคันของพ่อได้ออกไปก่อนแล้ว"พูดมากบ่นเป็นตาแก่ไปได้""ขึ้นไปบริหารงานช่วยพ่อได้แล้ว ตำแหน่งหัวหน้าใครก็ทำได้" พระลักษณ์หมายถึงให้น้องชายขึ้นไปประจำการที่ชั้นผู้บริหารได้แล้ว บนนั้นมีหลายตำแหน่งที่รอน้องชายอยู่"ครับคุณพ่อคนที่สอง ผมไปได้หรือยัง""ขับรถดีๆ ล่ะ เมียยิ่งกำลังท้องอยู่"ของขวัญและจ๊ะเอ๋ที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรถ ต่างก็มองหน้ากันและยิ้มดีใจที่พี่และน้องเปิดใจคุยกันได้สักทีพอรถของพระรามวิ่งออกไป พระลักษณ์ก็เลยชวนเธอไปเดินดูทุ่งนา เพราะอีกสองวันก็จะกลับกันแล้วเดินมายังไม่ถึงไหนท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ฝนเริ่มตั้งเค้ามาอีก เพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน"กลับบ้านกันดีกว่าค่ะ""ไปหลบฝนที่กระท่อมน้อยก่อน""ไปหลบทำไมตรงนั้นคะ กลับบ้านเร็วกว่าอีก""ไปเถอะน่า" ชายหนุ่มรีบพาเธอเดินไปที่กระท่อม เกิดมาไม่เคยพบเจอบรรยากาศแบบนี้ ยิ่งกว่าได้ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะอากาศเวลาฝนตก อยู่ในกระท่อมน้อยกับคน
พระที่ลุงบุญกับจ้อยไปรับกำลังทยอยลงจากรถ สายตาคนเป็นเจ้าบ่าว มองทอดออกไป ซึ่งไม่ได้สนใจพระที่กำลังเดินเข้ามาเลย แต่เขามองหาใครบางคน ที่สามารถจะช่วยให้งานแต่งวันนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในขณะนั้นมือเรียวของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ได้ยื่นไปกุมมือของเขาไว้ "ไม่ว่าท่านจะมาหรือไม่มา ยังไงงานแต่งของเราก็...?" สายตาเธอมองออกไปจังหวะที่พระเดินเข้ามาครบแล้ว ก็เห็นว่ามีใครอีกคนที่เดินตามหลังมา "..ท่าน"พระลักษณ์มองตามสายตาของเธอไป ก็เห็นว่าคนที่เขากำลังเฝ้ารอเดินตามเข้ามาด้วย "พ่อ""สวัสดีค่ะ เชิญเข้าไปข้างในก่อนเลยค่ะ" คนที่ยืนรอต้อนรับก็คือแก้วกานดา"สวัสดีครับ วันนี้คุณสวยมากเลย" พระนายอดที่จะชมแม่ของฝ่ายหญิงไม่ได้ เพราะวันนี้นางแต่งตัวสวยจริงๆ"แอ๊ะแอ้ม" เสียงกระไอแอมนี้ดังขึ้น เมื่อกำนันไข่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินคำชมนั้น "อ้าวคุณกำนัน สวัสดีครับ""สวัสดีครับ" ทั้งสองต่างก็กล่าวคำสวัสดีกัน พระนายเดินเข้ามาส่งยิ้มให้กับคู่บ่าวสาว พระลักษณ์และของขวัญยกมือไหว้ โดยสายตาลูกชายไม่ได้ละไปจากแววตาและรอยยิ้มนั้นของพ่อเลย เพราะมันดูจริงใจไม่เหมือนปั้นหน้า"แล้วน้องล่ะ" เข้ามาถึงก็เห็นแต่คู่บ่าวส
"คุยอะไรกันอยู่คะ" พอเก็บของช่วยผู้ใหญ่เสร็จ ของขวัญและจ๊ะเอ๋ก็เดินมานั่งที่แคร่หน้าบ้านเป็นเพื่อนทั้งสอง"เปล่าหรอกครับ" พระลักษณ์ไม่อยากให้เธอไม่สบายใจไปด้วย"ถ้าคุณมีเรื่องอะไรคุยกับฉันได้เลยนะ" ทำไมของขวัญจะไม่รู้ว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ เพราะเธอก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยตลอด"ทุกอย่างมันต้องมีทางแก้สิ" มือหนาเอื้อมไปโอบเอวหญิงสาวให้เข้ามาซบอกตัวเอง"..อืม" พระรามกำลังจะอ้าปาก แต่ถูกจ๊ะเอ๋ปิดปากไว้แล้วลากตัวออกมา "อะไรของเธอเนี่ย""ฉันรู้นะว่านายจะพูดอะไร""แหมรู้ดีนักนะเรา มานั่งอยู่ในหัวใจพี่หรือไงจ๊ะสาวน้อย""ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในนั้นแล้วใครอยู่ล่ะ!""เปล่าครับมันก็เป็นของน้องจ๊ะทั้งสี่ห้องหัวใจนั่นแหละ" เกือบงานเข้าแล้วไหมล่ะดึกๆ ของคืนเดียวกัน"เดี๋ยวแม่ก็จับได้หรอกค่ะ""อีกสองวันก็ถึงงานแต่งแล้ว ท่านไม่ว่าอะไรหรอก" ริมฝีปากหนาพูดในขณะที่ไซร้ซอกคอระหงอยู่ วันนี้พระลักษณ์ลงทุนขอร้องพระราม ให้พาเมียขึ้นไปนอนชั้นบน ส่วนเขาใช้ห้องชั้นล่าง"อื้อ" พอใบหน้าเขาขยับต่ำลงไป หญิงสาวก็เริ่มมีเสียงครางออกมา "ไม่ค่ะ" ของขวัญรู้ดีว่าเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่สะดือแน่"หลายวันแล้วนะไม่ได้กิน""คุณพ
แอด.. แอด.."บอกแล้วไงว่าให้เดินเบาๆ!" พระลักษณ์ กระซิบตะคอกน้องชาย เพราะลงแรงที่ปลายเท้าหนักเกินไป"โทษๆ ที" ถ้าตะคอกเรื่องอื่นมีสวนแน่ แต่เรื่องนี้เข้ากันดียิ่งกว่าปี่กับขลุ่ยทั้งสองย่องเดินมาจนถึงหน้าห้องของสาวๆป๊อก..ป๊อก.. เสียงเคาะส่งสัญญาณเบาๆ เพื่อให้คนด้านในรู้"?" สองสาวกำลังนอนคุยกันอยู่พอดี ไม่ต้องถามก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงใครแกร็ก.. ประตูบานนั้นค่อยๆ ถูกเปิดแง้มออก"พวกคุณขึ้นมาทำไม" คนที่มาเปิดประตูก็คือจ๊ะเอ๋"ก็ไอ้นี่น่ะสิมันเล่นนอนดิ้นไปดิ้นมา ใครจะไปนอนหลับ""เรื่องแค่นี้เองนะ" ว่าแล้วจ๊เอ๋ก็กำลังจะปิดประตูไว้"โอ๊ย" แต่มือของใครไม่รู้แหย่เข้ามาจังหวะที่ประตูกำลังจะปิดสนิท"คุณพระลักษณ์!?" จ๊ะเอ๋ตกใจที่ปิดประตูหนีบมือพระลักษณ์"เป็นอะไรไหมคะ" ของขวัญรีบเข้ามาดู "คุณเล่นบ้าอะไรเนี่ย""คิดถึง นอนไม่หลับ" ถึงแม้ประโยคนี้พระลักษณ์จะพูดออกมาเพียงเบาๆ แต่เพื่อนที่อยู่ร่วมห้องก็ได้ยิน"แหวะ" พระรามอดประชดไม่ได้ เพราะแต่ก่อนว่าให้เขาดีนัก เดี๋ยวนี้เป็นไงล่ะเจอกับตัว..หนักกว่าอีก"เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็ตื่นหรอกค่ะ พวกคุณลงไปนอนได้แล้ว""ขอเปลี่ยนคู่ได้ไหม""ไม่เอาแม่จัดให้แบบนี้แล
ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะพายุฝนกำลังเข้า แต่ไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้คู่รักที่กำลังนัวเนียกันอยู่ในกระท่อมน้อยนั้นได้เลย"คุณพระลักษณ์คะ" หญิงสาวต้องได้รีบเรียกสติเขาไว้ก่อนที่มันจะเตลิด เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะแก่การทำเรื่องที่เขากำลังต้องการในเวลานี้เลย"ไม่มีใครมาเห็นหรอก" เขาพาเธอหลบเข้ามาตรงที่เป็นมุม ซึ่งเป็นผนังมุงด้วยใบจากพอบังสายตาคนได้"ถ้าลุงบุญกับจ้อยมาหลบฝนจะทำยังไงล่ะคะ""ถ้าเลือกให้มาหลบฝนที่นี่กับวิ่งกลับบ้าน คุณคิดว่าทั้งสองจะเลือกอะไร" เพราะระยะทางก็ไม่ได้แตกต่างกันจริงด้วยถ้ามาหลบฝนตรงนี้ก็ทำให้หนาวเปล่าๆ แต่ถ้าวิ่งกลับบ้านยังพอได้ชำระร่างกายแล้วนอนห่มผ้า ..ของขวัญมองไปรอบๆ อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ตอนนี้มืดมากแถมยังมีฝนเลยทำให้มองไม่ค่อยถนัด"สัญญาว่าจะไม่นาน" ถ้ากลับบ้านดีไม่ดีอาจจะไม่ได้เลย แต่อยู่ตรงนี้ทนเจ็บเข่าหน่อยคงพอไหว"อื้อ อ " ทั้งสองไม่ได้ถอดเสื้อผ้า เพราะกางเกงขาสั้นที่เธอสวมใส่อยู่สามารถที่จะส่งผ่านความเป็นชายเข้าไปได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ถนัดเท่าไรแต่ก็ไม่ได้เกินความพยายามของพระลักษณ์"ซี๊ดด" เสียงครางดังออกมาเป็นระยะ ระหว่างความเสียวกับเข่าที่ต้องใช้ค้ำย
ทานข้าวเสร็จของขวัญก็มาช่วยแม่จัดห้อง เพื่อให้เขาใช้นอนในคืนนี้เธอแอบดีใจอยู่ที่ไม่เห็นเขามีท่าทีไม่พอใจ หรือคนที่คิดมากคือเรา? ..อาจเป็นเราเองต่างหากที่ต่อต้านพ่อกับแม่อยู่ในใจ"โอ๊ย" มัวแต่ใจลอยมือก็เลยไปชนถูกเหลี่ยมหัวเตียงเข้า"เป็นอะไรลูก" คนที่รีบถามก็คือแม่..แต่สายตาพระลักษณ์ที่มองมาก็เป็นห่วงไม่ต่างกัน"สงสัยเล็บจะฉีกค่ะ""ทำอะไรไม่เคยจะระวัง แค่ทำความสะอาดห้องยังทำให้ตัวเองเจ็บเลย เดี๋ยวแม่หาที่ตัดเล็บมาให้""ค่ะ" พอแม่เดินออกจากห้องเธอก็มองมาที่เขา อยากดูว่าเขาเป็นห่วงไหม "เจ็บ" เห็นสายตาเขาที่มองมาก็เลยอยากจะอ้อนหน่อย"ก็ตัวเองไม่ระวัง" เขาเป็นผู้ชายแสดงอารมณ์และคำพูดออกมาได้ไม่ค่อยมากของขวัญรู้สึกนอยด์ขึ้นมาในทันทีที่เขาไม่โอ๋"ที่ตัดเล็บมาแล้ว""เดี๋ยวผมตัดให้ครับ" ชายหนุ่มเอื้อมมือไปขอที่ตัดเล็บจากแม่ของเธอ"จัดห้องใกล้จะเสร็จแล้ว งั้นแม่ออกไปดูพ่อก่อนนะ" แก้วกานดาเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันก่อนที่จะแยกห้องนอน"ฉันทำเองค่ะ" พอแม่ออกไปแล้วหญิงสาวก็ยื่นมือไปแย่งที่ตัดเล็บจากเขา แต่พระลักษณ์ไม่ยอมส่งให้ เขายังคว้าตัวเธอเข้ามาใกล้"คุณ!""อย่าทำตัวเองเจ็บอีก" ชายหนุ่